มรรค-ผล-นิพพาน คือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1......
ลำดับขั้นของพระอริยะ:โสดาบันปฏิมรรค-โสดาบันปฏิผล
สกิทาคามิมรรค-สกิทาคามิผล อานาคามิมรรค-อนาคามิผลและสุดท้าย อรหัตตมรรค-อรหัตตผล......

ขั้นตอนของการปฏิบัติ คือ ทาน-ศีล-ภาวนา สำหรับฆราวาส และศีล-สมาธิ-ปัญญา สำหรับนักบวช ......
แต่โดยแท้แล้ว ไม่ว่าฆราวาสหรือนักบวชก็ทำได้ทั้ง 2 แนวทางนี้เช่นเดียวกัน เพียงแต่แยกแยะให้ดูชัดเจนขึ้นเท่านั้น การเริ่มต้นต้องเริ่มต้นที่ศีลก่อนทั้ง2แนวทางนั้น ศีลจะเป็นพื้นฐาน เพื่อพร้อมจักก้าวขึ้นสู่การทำสมาธิ ให้เกิดปัญญารู้แจ้งในสัจธรรมตามความเป็นจริง สู่ความหลุดพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิงต่อไป.....

เมื่อผ่านอรหัตตผล ก็ก้าวเข้าสู่นิพพาน-แดนอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล ยอดบรมสุข ......
ถึงขั้นก่อนจะไปจริงๆจะมีทางแยก 2 ทาง จะถามว่าคุณจะไปทางสายไหน? สายสาวกภูมิ-คือ เข้านิพพานไปเลย ไม่กลับมาเกิดอีก หรือจะไปสายพุทธภูมิ เพื่อกลับมาเกิดอีกสร้างบารมี 30 ทัศต่อไป เพื่อจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ถ้าไปสายพุทธภูมิ ก็ต้องไปอยู่ในแดนพุทธเกษตร หรือสุขาวดี ที่อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ที่แยกไว้เป็นสัดส่วนโดยเฉพาะ สำหรับผู้บำเพ็ญบารมีต่อไป เพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น....
ในแดนนิพพาน-มีพระพุทธเจ้าพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมศาสดา(สมเด็จองค์ปฐม)เป็นประธาน.....
ในแดนพุทธเกษตร-มีพระพุทธเจ้าอมิตาภะ เป็นประธาน โดยมีอัครสาวกขวา-ซ้าย คือ พระอวโลติเกศวร และพระสถามปราบต์......

***อุเบกขาพาลอยลิบถึงนิพพาน***



เนิน นราธร



“สังขารขันธ์”…..จอมยุ่ง “การปรุงแต่ง “…………

ต้นเหตุแห่ง “กองกิเลส”….เปรต-อสูร…………

มีเกิด-ดับ-เปลี่ยนแปรแลเพิ่มพูน…………

จะดับสูญ “ความยึดมั่น”…..ด้วย “ปัญญา”………..

สังเกตการเกิด-ดับสรรพสังขาร………..

“วิปัสสนาญาณ”ด้วยธรรมเอก “อุเบกขา”………

แล้ว “ยิ้มสู้ “ดูเล่ห์…..”เวทนา”………..

“เป็นธรรมดาของมันเช่นนั้นเอง”………..

จะเจ็บ-ปวดรวดร้าวราวกายแยก…………

กระดูกแตกไม่อาทรนั่งนอนเขลง…………

ล้วน”เกิด-ดับ”…..”รูป-นาม”…..ไปตามเพลง………

จะรู้เอง…….หาก”ตามดู”ทุกครู่คราว………….

“อุเบกขา คือ คุณธรรม์อันสูงสุด “………

“วางเฉย”ดุจไม่อาวรณ์ร้อนหรือหนาว………

ปวดหรือเจ็บ-เหน็บชา…..ทุกคราคราว………

“ยิ้มสู้”ราว…..”ธรรมชาติ”….ปราศตัวตน………

เห็น “ไตรลักษณ์ “เพ่งพิศ……”อนิจจัง “………..

ทั้ง “ทุกขัง “……”อนัตตา “…..หาเหตุผล……….

“สรรพสิ่ง”เป็นเช่นนี้…….เหมือนมีมนตร์………..

“ดับตัวตน-ทุกข์ก็ดับ “……ลงลับไป……….

“พระนิพพาน”….อันเรืองรุ่งทีมุ่งมาด……….

แม้นถึงฆาตปรารถนาได้อาศัย…………

“ขอเกิดเพียงชาตินี้”…..ที่เป็นไป……….

ไม่อาลัยในทุกอย่าง……”ละวาง”เอย…………..



………….8 มิถุนายน 2545 นิพพานะ ปัจจโย โหตุ………………………..

Mark is the road to Nibbana with Sila, Smati, Wisdom Punya.
Pol is you are entering or reaching your destination, Nibbana.
Nibbana is your real forever happiness home.