ตุลาคม 2553

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
"สุข"เกิดจากการไม่เบียดเบียน


'สุข'ที่เกิดจากการไม่เบียดเบียน
สร้างกริตเตอร์
| ฟังเพลง | ดารา | เกมส์
มีสติ...ตื่นอยู่ตลอด...มีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน(การทำให้หายไป)...



.........เป็นผู้รู้...ผู้ตื่น...ผู้เบิกบาน(ไร้ทุกข์)




Smiley






***พิจารณาให้ความสุขเกิดอยู่เสมอ เป็นการน้อมความรู้สึกเข้าไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง จะเกิดการเห็นได้ว่าเราเป็นทุกข์เพราะอดีตและอนาคต แต่ความเป็นปัจจุบันเท่านั้นที่เราสัมผัสได้ ....คือความสุข


Free TextEditor



Create Date : 23 ตุลาคม 2553
Last Update : 1 ธันวาคม 2554 10:57:30 น.
Counter : 936 Pageviews.

70 comments
  
การพิจารณาความเป้นตัวเรา ให้เห็นในความเป็นธาตุธรรมชาติ
มันจะอธิบายความจริงให้เราเข้าใจ ว่าความจริงมันเป็นอย่างนั้น แต่ความเป้นตัวเรานั้นมันปรุงแต่งขึ้นมา ถ้าความรู้สึกของเราสัมผัสความจริงนี้ได้ เราจึงจะเข้าใจได้ว่าการรู้มันตามจริงนั้น มันมีความเป็นเหตุผลเกิดในความรู้สึกของเราได้
แต่การเข้าใจว่ามันเป็นตัวเราอยู่นั้น เป็นการหลงการสมมุติของธรรมชาติ


.........การรับรู้ในความจริง จึงทำให้เห็นความเป็นสาระเกิดขึ้น

โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.27.44.107 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:13:42 น.
  
แวะบ้านนี้ทีไรรู้สึกร่มเย็นเป้นสุขมากค่ะ

เป็นเพราะข้อธรรมะดี ๆ ที่ควรนำไปปฎิบัตินั่นเอง

ที่ตัวเองหายไปนานก็เพราะน้ำท่วมละค่ะ
โดย: Ably วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:20:47 น.
  
"ไพรสณฑ์" ไหนค่ะ ต้องขอโทษที่ถามนะค่ะเพราะไม่แน่ใจว่ารู้จักกันหรือเปล่า ขอบคุณนะค่ะสำหรับข้อความที่ส่งมาให้ถูกใจค่ะเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว
โดย: วรรณี IP: 113.53.209.8 วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:12:14:39 น.
  
..........คุณวรรณี คงหมายถึง Fw. mail ใช่ใหมครับ

เป็นการนำเสนอแนวทางธรรมะทั่วไปครับคงไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว

จุดประสงค์เพื่อผู้สนใจธรรมะหรือผู้ที่ต้องการชีวิตที่ดีกว่าจะได้พบทางออก เพราะผมก็เคยไม่เข้าใจมาก่อนจึงปฏิบัติแบบคลำทาง จึงต้องการเขียนประสบการณ์ของตนเองออกมา เพราะลำพังการอธิบายสั้นๆอาจจะทำให้ไม่เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนได้....ซึ่งผมเห็นว่าการสอนธรรมะในปัจจุบันขาดการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง การไม่เข้าใจทำให้ไม่นำแนวทางการสอนของพระพุทธองค์มาปฏิบัติจึงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้

.......นอกจากที่เขียนในหนังสือ(ทางวิเวกฯ)แล้ว ก็สามารถที่จะอ่านในเว็บนี้ก็ได้ ถ้ามีความสนใจในรายละเอียดเพิ่มเติมแต่ค่อนข้างจะย่นย่อรายละเอียดอาจจะไม่เพียงพอ.

การอธิบายแบบย่อทำให้ไม่เกิดความเข้าใจได้ ยกตัวอย่างเช่น

"อย่าเห็นขันธ์ห้าว่าเป็นเราหรือของเรา เพราะมันไม่เที่ยง จึงให้ละวาง"

อธิบายเท่านี้คงไม่เข้าใจ เพราะมันมีรายละเอียดที่เกี่ยวโยงไปถึงความเป็นธรรมชาติของกาย การปรุงแต่งของจิตและกาย การเกิดเป็นอารมณ์ ซึ่งมีอธิบายรายละเอียดในอภิธรรม แต่เท่าที่พบ คนเรียนอภิธรรม ก็ยังไม่เข้าใจอภิธรรมเพราะการเข้าใจธรรมะนั้นมันอยู่คนละมิติกับความรู้สึกธรรมดานั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่เราไม่เข้าใจธรรม เพราะมันต้องมีความศรัทธา คือน้อมความรู้สึกเข้าไปในธรรม เห็นความเป้น"อนิจจัง"หรือความไร้สาระของชีวิตจึงเกิดการแสวงหา จึงจะมีจิตที่ละเอียดอ่อนจึงจะสื่อสารธรรมะให้เกิดทางความรู้สึกได้.

.......มันจึงเป็นสิ่งที่ผมนำเสนอการนำธรรมะของพระพุทธองค์มาอธิบายอย่างศาสตร์ทั่วไปเพื่อผู้ที่เปรียบเหมือน "บัวพ้นน้ำ" จะได้พบทางออก เห็นทางดับทุกข์ ออกไปจากการครอบงำของธรรมชาตินี้ได้.





โดย: ไพรสณฑ์ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 11 ธันวาคม 2553 เวลา:12:04:46 น.
  
สวัสดีค่ะ..คุณไพรสนฑ์...ดิฉันซื้อหนังสือคุณมาอ่านแล้วน่ะค่ะดีมากๆเลยค่ะ...
โดย: มายา IP: 113.53.65.8 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:16:05:37 น.
  
ไม่ทราบว่ายังมีเล่มไหนแนะนำอีกบ้างไหมค่ะ แนวเดียวกันค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ
โดย: มายา IP: 113.53.65.8 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:16:15:57 น.
  
ขอบคุณ คุณมายาที่รายงานให้ทราบ ที่ส่งไปเป็น Fw. mail จุดประสงค์ก็เหมือนที่ตอบคุณวรรณีไปแล้ว



........จุดมุ่งหมายของผมคือต้องการให้ผู้ซื้อหนังสือของผมได้รับผลตามที่ต้องการ จึงเปิดบล็อคเพื่อเป็นศูนย์กลางในการแสวงหาคำตอบ แต่ดูแล้วก็ยังไม่บรรลุเป้าหมายเท่าที่ควร แต่กลับไปโผล่อยู่ที่อื่นที่ไม่ได้ตั้งใจเอาไว้ ก็ลองเข้าไปติดตามในลิ้งค์นี้นะครับ ผู้ซื้อหนังสือผมเขากำลังถามข้อข้องใจต่างๆอยู่

//payakorn.com/webboard_ans.php?q_id=34465


ส่วนหนังสืออื่นคงยังไม่มีอะไรแนะนำนะครับ คือในระดับที่ผมเห็นว่าสมควร......เพราะผมเองก็อ่านมาเยอะก็ทำได้แค่เคลิ้มเท่านั้น จึงต้องเขียนเอง. (อย่างนี้คงชัดเจนนะครับ)

โดย: ไพรสณฑ์ IP: 180.180.5.136 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:18:35:13 น.
  
ขอบคุณ นะคะ ที่ ส่งข้อความดีๆ มาให้อ่าน จิงๆ ก็ ฝึก นั่งสมาธิสวดมนต์ อยู่คะ เบื่อ ทางโลก แล้ว ทางโลกเป็น มายา เป็น กลลวง ทั้งนั้น น่าเบื่อ คะ นั่งสมาธิได้ ระดับหนึ่งแต่ ยังไม่ทะลุโลก คะ ว่างๆก็ ส่งมาให้อ่านอีกนะคะ ที่ sanookguide@yahoo.com
ชอบอ่านคะ ว่าแต่หนังสือพี่ ชื่อหนังสืออะไรคะ จะได้ไปซื้อมาอ่าน บ้าง
โดย: อิงๆ คะ IP: 182.232.19.54 วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:19:51:03 น.
  



การตื่นอยู่เสมอ



อธิบายเพิ่มเติมนะครับ


จุดมุ่งหมายคือฝึกให้ตนเองมีความรู้สึกที่ตื่นอยู่,มีสติ มีความรู้สึกตัวเกิดอยู่ได้ตลอด
ไม่ให้ขาดหายไป ต้องฝึกทีละน้อยเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยก่อน ถ้าเกิดเห็นได้ว่า
ความรู้สึกที่ตื่นอยู่ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี เราก็จะอยากมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่เสมอ

แต่ปัญหาคือเราไม่สามารถที่จะทำได้อยู่ตลอดนั่นเองจึงต้องมีการฝึก....


เมื่อเราตื่นนอน ประมาณตีสี ตีห้า ก่อนจะลุกไปทำกิจธุระอย่างอื่น ให้ปลุกความรู้สึกของตนเองให้ตื่นขึ้น ปลุกกายทุกส่วนให้ตื่นขึ้น เป็นการตื่นทั้งจิตและกาย ให้จำอาการที่เกิดขึ้นว่า จิตตื่น กายตื่นมีอาการอย่างไร เพื่อเราจะนำมาใช้ในขณะเวลาปกติคือต้อง
รักษาอาการนั้นไว้นั่นเอง


หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ให้เราทำความรู้สึกเหมือนกับกำลังจะนั่งสมาธิ มันจะสลัดความรู้สึกต่างๆออกไปจากกายก็จะเป็นอาการที่ตื่นอยู่เช่นกัน คือเป็นอาการเดียวกัน หรือฝึกบ่อยๆอาการอย่างนี้เราสามารถที่จะฝึกได้ แม้ขณะที่กำลังทำงานอยู่


หรือกำหนดจิตให้เป็นสมาธิในขั้นอุปจารสมาธิ กำหนดจิตไว้ที่ลมหายใจหรือกำหนดไว้ในกายให้รักษาอาการที่เกิดขึ้นไว้ คือการทำสมาธิขณะลืมตานั่นเอง มีสมาธิขณะทำงาน กำหนดความรู้สึกไว้ที่อิริยาบถ เหมือนการฝึกสติปัฎฐานสี่นั่นเองแต่เป็นการนำมาใช้จริง


ประเด็นของการฝึกคือให้มีความรู้สึกตัวอยู่เสมอ ไม่ขาดตอน มีอยู่ตลอด
เราจึงต้องมีเทคนิคหลายอย่างมาใช้ร่วม ถ้าฝึกอย่างเดียว มันจะเกิดอาการ
ดื้อ คือเกิดอาการเฝือ เราต้องเปลี่ยนวิธีเพื่อให้มันเกิดต่อเนื่องได้ ถ้าเรา
รักษาอาการตื่นอยู่หรือรู้สึกตัวอยู่ได้ตลอดจึงจะมีความมั่นคงเกิดขึ้น หรือมี
ความตั้งมั่นนั่นเองเหมือนเราฝึกขี่จักรยาน ผลที่เกิดนำไปใช้งานได้คือต้อ
ประคองตัวตั้งมั่นได้ตลอดจนเกิดความชำนาญนั่นเอง


........แต่การปฏิบัติทางความรู้สึก สิ่งที่เป็นอุปสรรคคือ การยึดมั่น ทำให้จิตมีอาการดิ้นรน มันจึง
ไม่อยู่กับที่ ดังนั้นเราต้องฝึกขัดเกลาอาการยึดมั่นต่างๆไปด้วย การยึดมั่นที่เราสัมผัสอยู่เสมอ
คือรสอาหารฝึกการไม่ลิ้มรสอาหารในขณะรับประทานอาหารให้มีสติเกิดอยู่ฝึกบ่อยๆจะเห็นอาการ
ยึดมั่นที่เกิดอยู่ ให้ฝึกการมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอมันจะทำให้เราแยกความรู้สึกออกจากสิ่งที่มา
กระทบได้เราจึงจะเข้าใจที่ท่านบอกว่า เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน ความเป็นตัวตน
หรืออัตตาจึงจะไม่เกิดขึ้นได้การสัมผัสทางความรู้สึกจึงจะเกิดเป็นความเข้าใจว่าสิ่งที่ท่านพูดนั่นมัน
คืออะไร ฯลฯ


ผลที่เกิดขึ้นเราจะเกิดความรู้สึกที่เป็นอิสระ เมื่อเป็นอิสระความทุกข์ก็น้อยลงหรือหมดไปได้



.......มันจึงเป็น “วิธีดับทุกข์”ได้นั่นเอง ถ้าเราตั้งเป้าหมายในการปฏิบัติคือการดับทุกข์เราจึงจะเห็นว่าเรา
ต้องแก้ไขที่ความรู้สึกของเรานั่นเอง คือการตื่นอยู่เสมอ จึงจะเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ได้จริง


จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้



.................................................................................................

โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.85.123 วันที่: 13 ธันวาคม 2553 เวลา:7:31:04 น.
  
อยากทราบว่าหนังสือ ดวงดาว,มนุษย์และเหตุการณ์ทางสังคม หาซื้อได้ที่ไหนครับ
โดย: คนเมืองนรา IP: 182.52.164.77 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:9:33:04 น.
  

เปิดการแสดงชุดใหม่ แล้วคร่าาาาาาาาาา เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

แวะมาทักทายก่อนไปนอนคร่าาาาาาา ง่วงก้ง่วง วายุภัครมนตราก็สนุก เฮ้อ!!!!!!!!!ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:23:01:10 น.
  
ขอบคุณสำหรับ ธรรมะ ดีดี ที่ส่งมาให้

สำหรับเราแล้ว มาเกิดบนโลกนี้เพราะความโง่ของตนเอง
ที่หลงผิดอย่างมหันต์ ตอนนี้กลับตัวกลับใจแล้วเอานะไหนก็เกิดมาแล้ว ขอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกันกับเวลาที่เหลืออยู่ ขอทำความปราถนาที่เคยตั้งใจให้ดีที่สุด

สำหรับเรา สุข และ ทุกข์ เป็นของร่างกายนี้ และของโลกใบนี้เท่านั้น ไม่ใช้ของเราเลย (กว่าจะรู้อืม ก็คลำหามานานเหมือนกัน)

เราไม่เคยดับทุกข์อันใดเลยตั้งแต่เกิดมา แต่เราโง่เองทุกครั้งที่คิดว่า เราได้ดับทุกข์แล้ว แท้ที่จริงทุกข์นั้นเขาดับเองเพราะเหตุ หรือปัจจัยที่ทำให้ทุกข์เกิดนั้นหมดไปแล้วต่างหาก

ดังคำพระว่า ท่านพระอัสสชิได้แสดงธรรมมีใจความย่อ ๆ ว่า "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุและความดับแห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสั่งสอนอย่างนี้"

แต่หลายครั้งจากเล็กจนโต ความโง่ของเรามันมากนัก ทำให้เราหลงเข้าใจผิดคิดว่าทุกข์อันนั้นเป็๋นของเรา อืมกว่าจะรู้ว่าโง่ก็ ทุกข์มากๆ เลยสุดบรรยาย

หว้งว่าคงเป็นอีกแนวทางที่จะทำให้ค้นพบทาง ที่คาดหวังไว้
ขออย่าได้ทิ้งความฝันอันนั้น สักวันต้องสำเร็จ

อยากแนะนำเว๊บ //www.sangthipnipparn.com/
แสงทิพย์นิพพานเพื่อเข้าพระนิพพานได้รวดเร็วทันใจ

สำหรับเราสามารถยืนยัน และการันตี 100 เปอร์เซนต์ว่าทำได้จริง หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะร่วมพิสูจน์ความจริงนี้
โดย: ทิพย์ IP: 87.200.51.124 วันที่: 20 ธันวาคม 2553 เวลา:14:04:24 น.
  

.......หนังสือ

"ดวงดาว,มนุษย์และเหตุการณ์ทางสังคม"

ไม่มีจำหน่ายครับ เพราะเสนอสำนักพิมพ์ไม่มีใคร
กล้าพิมพ์ และผมก็เห้นว่ามันยังต้องมีสถิติ เพื่อการใช้
งานมากกว่านี้หน่อยเลยยังไม่พิมพ์ออกมา.

ถ้าใครต้องการให้แจ้งไปทางอีเมลล์นะครับผมจะส่งเป็น
ไฟล์ไปให้ทางอีเมลล์ ลองศึกษาดู ซึ่งมันมีความสัมพันธ์
กับหนังสือ "ทางวิเวกฯ " ในแง่ของ แนวคิด ทฤษฎี
แต่ว่ามุ่งใช้ประโยชน์ต่างกัน.....


e-mail...นี้


amarasinn@yahoo.co.th

(มี n สองตัวนะครับ)

***ผู้ที่ซื้อหนังสือ ทางวิเวกฯ ขอรับได้นะครับ เป็นการศึกษาในเชิงวิชาการก็ได้ จะเห็นได้ว่า "ทฤษฎีสัมพัทธภาพ"ของ ไอน์สไตน์ มีความสอดคล้องกับ"ทฤษฎีธาตุทั้งสี่ " เป็นอย่างมาก คือมนุษย์มีสถานะที่แท้จริงคือความเป็นพลังงาน ที่เกิดจากการปรุงแต่งของธาตุทั้งสี่ นั่นเอง การรู้ความจริงนี้ทำให้ปล่อยวางการยึดมั่นลงได้
โดย: ไพรสณฑ์ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:15:11:14 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาฝากบ้านสามวันนะคะ มีธุระต้องขึ้นโคราชไปช่วยเพื่อนรุ่นพี่ที่รักกัน มากพาเด็กไปแข่งขันนาฏศิลป์สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมที่อุดรธานีค่ะ และจะนำภาพมาฝากกันนะคะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 23 ธันวาคม 2553 เวลา:8:18:21 น.
  
ดีมากทุกคนเกิดมาอยู่กับธรรมชาติ เราต้องรู้เท่าทันธรรมชาติ ขอบคุณสำหรับความรู้
โดย: นวพล IP: 223.205.59.110 วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:17:53:44 น.
  
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2554

ขอให้ทุกท่าน

ร่ำรวยความสุข....(ทางใจเป็นสิ่งที่ทุกท่านทำเองได้)

ปราศจากทุกข์ทั้งปวง...(ก็เป็นสิ่งที่ทำเองได้เช่นกัน)


.......เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แล้วแต่ใครจะต้องการ..............


โดย: ความสุขฯ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:6:42:37 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายก่อนเข้านอนค่ะ คุณไพรสณฑ์สบายดีนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:0:57:47 น.
  
br/>เชิญไปชม ฟ้อนที่เป็นสัญลักษณ์ ของงานครบรอบเมือง เชียงใหม่๗๐๐ปี เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ ระลึกถึงเสมอนะคะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:11:15:38 น.
  
ข้อคิดเรื่องวิทยาศาสตร์

นักวิทยาศาสตร์ เรียนรู้ทางวัตถุและพลังงานจากการสังเกตปรากฏการณ์ แล้วจินตนาการความเป็นไป แล้วสร้างสมการความสัมพันธ์ในเชิงสูตรทางคณิตศาสตร์ในภายหลัง
นำสูตรคณิตศาสตร์ที่มีต่างๆกัน มาประกอบเข้าด้วยกัน ได้สูตรใหม่ขึ้นมา แล้วจึงตีหมายหมายของมันออกมาว่าจะมีปรากฏการณ์อย่างไร แล้วทำการพิสูจน์สมมติฐานโดยการหาสิ่งแย้ง หากแย้งไม่ได้จะถือว่ามันเป็นความจริงอยู่ในระดับหนึ่ง จนกว่าจะมีทฤษฎีอื่นมาแย้ง จนบัดนี้ปรากฏว่ากลศาสตร์ของนิวตันใช้ได้ในช่วงหนึ่ง แล้วจะไม่จริงต่อไปต้องใช้ทฤษฎีควันตัมและทฤษฎีของไอสไตน์

แต่อย่าลืมว่าการศึกษาแบบนั้นมันก็เป็นเหมือนตาบอดคลำช้าง จับไปตรงไหนก็พบส่วนหนึ่งของช้างทั้งนั้น ไม่สามารถเข้าใจช้างได้

ส่วนเรื่องทางจิตนี้ เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์เข้าใจไม่ได้ อย่างเช่นคนที่ปฏิบัติสมาธิได้นี้ เป็นอาการที่มีความสุข ทางวิทยาศาสตร์ก็จะหาทางอธิบายไปในทางสารเคมี เช่นว่าร่างกายมีการหลั่งสารบางอย่างคล้ายสารเสพติด ซึ่งในปัจจุบันก็มีการทดลองหาสารเคมีบางอย่างฉีดเข้าไปหรือกินเข้าไปแล้วก็ดูว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง
ซึ่งจะเป็นเรื่องต้องพึ่งทางวัตถุไป (หาอ่านได้ตามเว็บ) แล้วก็ควบคุมไม่ได้ ส่วนเรื่องสมาธิเป็นการควบคุมด้วยตัวเอง
โดย: suwit_j IP: 118.173.235.141 วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:15:51:24 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
รีบแวะมาทักทายแล้วก็ต้องรีบไปทำงาน คุณไพรสณฑ์ สบายดีนะคะ ระลึกถึงเสมอๆค่ะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:49:41 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

มาเชิญไปชม ละครเวที กันนะคะ เกศสุริยง....
สร้างกริตเตอร์

มีความสุขมากมายนะคะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:08:01 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดีเช้าวันทำงาน มีความสุขมากมาย ระลึกถึงเสมอค่ะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:29:04 น.
  
images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
ห่างหายไปเสียสองสามวัน มัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานอยู่ค่ะ วันนี้ว่างสิ่งแรกที่ทำคืออัฟblogและนำรูปมาฝากกัน ระลึกถึงและขอบคุณมิตรภาพบนโลกไอทีค่ะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:47:23 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดียามเช้าค่ะคุณไพรสณฑ์ อากาศร้อนใจคนอย่าร้อนนะคะ คิดถึงคร่าาาาาา
โดย: เกศสุริยง วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:9:26:44 น.
  

อนุสาวรีย์วีรชน ปู่ดอก-ปู่ทองแก้ว วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
สร้างกริตเตอร์

แวะมาทักทายยามค่ำๆ วันนี้อยู่พาหุรัดทั้งวัน เพิ่งกลับมาได้สักครู่ใหญ่ กรุงเทพรถติดมากเพราะมีชุมนุมเสื้อแดงและเสื้อเหลือง วันนี้ได้อุปกรณ์ครบแล้วพรุ่งนี้คงยุ่งมากงานงวดเข้ามาแล้ว วันที่๒๓-๒๕ แสดงเวทีกลางและต่อจากนั้นก็แสดงแสงสีเสียงต่อเลย เสร็จจากงานนี้คิวจ่อเลยค่ะ วันที่๑๐เมษา ประกวดรำกลองยาว วันที่๑๓เมษาแสดงพิธีเปิดงานสงกรานต์เมืองอินทร์ ที่อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ว่ากันไป ชีวิตต้องดำเนินต่อไป คุณไพรสณฑ์สบายดีนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:20:39:54 น.
  



สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

"ขอให้ คุณไพรสณฑ์ มีหัวใจที่แข็งแรง
พอที่จะรับทั้งความสุขและความทุกข์ได้...ตลอดไปนะคะ"


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:22:08:09 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำอวยพร และการมาเยี่ยมเยียน

......การมีธรรมะ คือการพัฒนาภพภูมิให้สูงขึ้น คือการมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่นั่นเอง........
โดย: ไพรสณฑ์ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:16:48:59 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
มาส่งคุณไพรสณฑ์ เข้านอนคร่าาาา พรุ่งนี้เริ่มทำงานกันอีกแล้วใช่ไหมคะหลังจากหยุดมาเสียหลายวัน มีความสุขมากมายนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:22:58:20 น.
  
รูปสวย glitter emoticon comment glitter.mthai.com

สวัสดียามเย็นๆ ระลึกถึงเสมอนะคะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 เมษายน 2554 เวลา:18:37:45 น.
  
สวัสดีค่ะท่านไพรสณฑ์
โดย: แครอล IP: 182.53.48.10 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:14:24:36 น.
  
สวัสดีค่ะท่านไพรสณฑ์ หนังสือทางวิเวกดีจังเลยค่ะ

อ่านไม่กี่หน้าก้โดนใจ

ขอบคุณมากค่ะ
โดย: แครอล IP: 182.53.48.10 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:18:17:32 น.
  
//glitter.postjung.com/glitter.php?img=data/2011042619/2hhdeue.gif
โดย: แครอล IP: 182.53.48.10 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:19:40:27 น.
  
สวัสดียามสายค่ะ ท่านไพรสณฑ์
โดย: แครอล IP: 125.25.35.51 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:8:25:14 น.
  


ขอบคุณคุณ แครอลนะครับที่แจ้งให้ทราบ...

ก็อยากแนะนำว่าให้อ่านให้จบนะครับ ว่าผู้เขียนต้องการนำเสนออะไร....

...บทสรุปของการปฏิบัติธรรมคือ เมื่อไม่มีข้อสงสัยอะไรอีกแล้ว ก็ต้องหยุดนะครับ หยุดความรู้สึกตัวเองนั่นเอง ถ้าอ่านจนจบก็คงจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น เพราะถ้าไม่หยุดมันก็คือการดิ้นรนอยู่นั่นเอง เพราะความรู้สึกของเรานั่นเองปรุงแต่งอยู่ เราจะรอให้มันหยุดเองไม่ได้นะครับเราต้องทำให้มันเกิดขึ้น

...ดังที่แสดงไว้ในหน้าแรกๆของบล๊อคนี้ ซึ่งเป็นบทสรุปของเนื้อหาข้างในนั่นเอง คือหยุด และทบทวนตนเองอยู่เสมอที่จะไม่ทำตนให้คนอื่นเดือดร้อน จึงจะเกิดเป็นความสงบภายใน....


โดย: ไพรสณฑ์ IP: 101.108.98.184 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:8:59:18 น.
  
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ

สมัครสมาชิกของบล็อกทำไงคะท่าน
โดย: แครอล IP: 125.25.35.51 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:9:52:29 น.
  


ต้องเป็นสมาชิก BlogGang.com


ต้องสมัครมีบล็อคของตนเองนั่นเอง. แต่ถ้าไม่ต้องการบล็อค ก็เข้าไปอ่านได้ครับ บางบล็อคก็เปิดให้โพสท์แสดงความเห็นได้ โดยไม่ต้องเป็นสมาชิก บางบล็อคก็ไม่เปิดอ่านได้แต่โพสท์ไม่ได้แต่ทุกบล็อคเข้าไปอ่านได้

.....อย่างที่ผมตอบนี่ผมก็ไม่ได้ล็อคอิน โพสท์แบบคนทั่วไป ซึ่งต้องใช้การยืนยันรหัส
โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.53.103 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:10:17:08 น.
  
ขอบคุณค่ะ
โดย: แครอล IP: 125.25.35.51 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:12:14:43 น.
  
รู้สึกว่าต้องเป็นสมาชิกเวปพันทิพย์ด้วยอะค่า

ไม่เอาดีกว่า

คือบางทีอยากใช้ตัวการ์ตูนที่มีอยู่ข้างล่างค่ะ

น่ารักแอ๊บแบ๊วดี

ถ้าท่านไพรสณฑ์ว่าง ขอเชิญอ่านนิยายของแครอลบ้างนะคะ
โดย: แครอล IP: 125.25.35.51 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:12:19:10 น.
  
แครอลอยู่ที่เวปiastroclub.comค่ะ
โดย: แครอล IP: 125.25.35.51 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:12:21:01 น.
  

ได้เข้าไปอ่านแล้วครับ แต่โพสท์ไม่ได้เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก

ความจริงบล็อคแก๊งค์มีหลายกลุ่มนะครับ กวี,เรื่องสั้น,นิยายก็มี ของผมจัดอยู่ในหมวด ข้อคิด-ธรรมะ ซึ่งก็มีหลากหลายนะครับ ตามแต่ว่าแต่ละท่านจะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร

คลิ๊กเข้าไปที่ Bloggang.com จะเห็นหมวดหมู่ของบล๊อคต่างๆที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ ลองเลีอกเข้าไปเลีอกอ่านดูก็ได้ การเข้าไปอ่านเฉยๆไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ บางบล๊อคอาจจะแสดงความเห็นได้ด้วย...และมีการประกวดนล็อคด้วยครับ จะเห็นว่าคนที่เข้ามาโพสท์จะแสดงตำแหน่งที่ได้รับด้วย

เช่นอ.เกศสุริยง, ป้า.ร่มไม้เย็น อยากเข้าไปอ่านก็คลิกที่ชื่อของท่านได้เลย....มันจะลิ๊งค์ไปที่บล็อคของแต่ละท่าน

โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.45.140 วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:7:21:36 น.
  
สวัสดีค่ะ ท่านไพรสณฑ์

แครอลอยากวางภาพเวลาโพสต์บ้างอะค่ะ

เลยอยากเป็นสมาชิก

ตอนนี้นิยายลุงกับป้าไปไกลถึงจันทบุรีค่ะ คนยืมเอาไปอ่านด้วย โทรมาบอกว่า จะไปซื้อที่ทำสวน เลยติดมือเอาไปอ่าน 555+นิยายเรื่องนี้ ฮ็อตจริงๆค่ะ



โดย: แครอล IP: 125.25.61.12 วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:9:53:53 น.
  



เป็นสมาชิกจึงจะโหลดภาพได้ครับ
โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.33.186 วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:15:03:11 น.
  
ขอบคุณค่ะ
โดย: แครอล IP: 101.108.125.203 วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:18:19:00 น.
  
สวัสดียามสายค่ะ ท่านไพรสณฑ์


อ่านทางวิเวกแล้ว ยังไม่จบ ยังไม่รู้จะถามอะไรดี

เพราะอ่านแล้วเข้าใจง่ายค่ะ ภาษงดงามมากๆ
โดย: แครอล IP: 125.25.20.123 วันที่: 29 เมษายน 2554 เวลา:8:26:07 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายยามเช้าวันอังคาร อ่างทองร้อนมากมาย อากาศร้อนแต่ใจอย่าร้อนนะคะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:48:58 น.
  
สวัสดีค่ะ นิทานลุงกับป้า หายไปเลยค่ะท่าน ยืมกัน

แล้วส่งต่อ

เลยส่งหนังสือเล่มอื่นไปให้ท่าน3เล่มค่ะ
โดย: แครอล IP: 101.108.112.87 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:36:44 น.
  


ได้รับแล้วครับขอบคุณมาก
โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.34.230 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:02:07 น.
  
สวัสดีค่ะ ไม่ได้มาทักทายเพราะสุขภาพไม่ค่อยดีเลย
โดย: แครอล IP: 101.108.108.112 วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:14:31 น.
  


แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอนะครับคือการรักษากาย

.......ส่วนการรักษาใจแนะนำให้ปฏิบัติธรรม คือวางความรู้สึกให้มีธรรมะ,มีศีลเป็นอารมณ์(ศีลสังวรณ์) ให้อยู่ในความรู้สึกนั้นเสมอ ให้มีความรู้สึกอยู่ใน "มิติ" นั้นอยู่เสมอ ถ้าเป็นไปได้ให้มีความรู้สึกแบบนั้นอยู่ตลอด
.......การปฏิบัติธรรมคือมีธรรมเกิดขึ้นในใจนั่นเอง มีอยู่ตลอด
โดย: ไพรสณฑ์ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:31:28 น.
  
ขอบคุณค่ะท่านไพรสณฑ์

แต่จะอยู่ยังไงคะกับความทรมานทางกายที่หนักมาก

มีธรรมอยู่ในใจแต่ร่างกายเจ็บปวด เราต้องคิดยังไงคะ

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
โดย: แครอล IP: 182.53.58.130 วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:05:32 น.
  


ความจริงผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันนะครับ ว่าถ้าตนเองอยูในสภาวะอย่างนั้นจะรู้สึกยังไง

เพียงแต่เห็นว่าความรู้สึกที่มีธรรมะนั้นมันจะเป็นความรู้สึกที่นุ่มนวลปล่อยวางการยึดมั่น

ถ้ากายทุเลาอาการเจ็บปวดลงมั่ง ลองปฏิบัติดูนะครับ ลองปฏิญาณว่าจะมีธรรมะอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการคิด การพูด การทำ ก็ให้อยู่ในกรอบของการเป็นผู้มีธรรมะอยู่ตลอด ....แต่ก็ต้องอนุโลมปฏิโลม เมื่อถึงที่สุดเราจะพบว่าเราต้องมีความรู้สึกที่มีธรรมะอยู่เสมอ มันจึงจะพ้นไปจากความเศร้าหมองได้ มีการสำรวมเกิดขึ้น

......................................................................

....การปฏิบัติธรรมคือการเอา "ธรรมะ"มาไว้ในใจเสมอ(เกิดในความรู้สึก) ให้มีธรรมเกิดในใจเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนมีการเป็นอยู่ในธรรมเท่านั้น...คือแนวทางปฏิบัติ

.........................................................................
โดย: ไพรสณฑ์ IP: 101.108.113.252 วันที่: 13 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:06:20 น.
  
ค่ะ ท่านไพรสณฑ์

แครอลจะลองทำดูนะคะ
โดย: แครอล IP: 125.25.53.160 วันที่: 13 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:00:44 น.
  
สวัสดีวันหยุดค่ะท่านไพรสณฑ์

แครอลได้ไปปฎิบัติตามที่ท่านแนะนำ

ก็ได้ในระดับนึงค่ะ

อ่านหนังสือของท่านไปด้วย

แครอลกำลังปลงและวางค่ะ

ร่างกายไม่ใช่ของเรา

ความเจ็บปวดเป็นแค่เราไปปรุงแต่งว่ามันปวด

แครอลจะมารายงานให้ทราบอีกนะคะ

ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ

โดย: แครอล IP: 125.25.28.246 วันที่: 16 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:35:58 น.
  


***วิธีปฏิบัติให้ได้ผลเร็ว คือเราต้องมีความพร้อมที่จะปล่อยวางทุกสิ้งได้ไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากการพ้นทุกข์ได้ แล้วกำหนดเอา ธรรมะเป็นที่พึ่งคือมีธรรมะอยู่ในใจเสมอ มีศีลสังวรณ์...

....เวลาปฏิบัติให้สังเกตุความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันเป็นสื่อที่ทำให้เรามีความรู้สึกที่พ้นไปจากทุกข์เกิดขึ้น เหมือนเราเข้าไปอยู่ในความรู้สึกหนึ่ง(มิติหรือสภาวะหนึ่ง) เราจึงต้องฝึกการมีธรรมะอยู่ในใจบ่อยๆให้เกิดความเคยชิน แรกๆจะทำไม่ได้นานเพราะกายมันต่อต้าน คือกายมันไม่รู้เรื่อง เราต้องฝึกสำรวมกายด้วย เพราะอาการนั้นจะส่งผลทางกายเป้นการสำรวม

...เมื่อทำบ่อยๆ เราจึงจะเห็นอาการปรุงแต่งทางความรู้สึกนั้นเป็นทุกข์ จึงอยากจะมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่เสมอ แต่ปัญหาคือมันอยู่คนละมิติกับที่เป็นอยู่ตามปกติ เราจึงต้องฝึกบ่อยๆให้เกิดเป็นความเคยชิน เอาความรู้จากอภิธรรมมาใช้พิจารณาร่วมด้วย คือกายเป็นการปรุงแต่งกันอยู่ของธาตุทั้งสี่ เป็นการทำงานร่วมกันของขันธ์ห้า เพื่อให้เกิดความรู้สึกละวางจากกาย ที่สุดเราจึงต้องเห็นว่ามันเป็นการทำงานของธรรมชาติอยู่เท่านั้น

.....สิ่งที่เราคิดมันจะส่งผลให้เกิดทางความรู้สึก ถ้าเราคิดว่ามันเป็นตัวเรามันก็จะทำหน้าที่เป็นตัวเรา ถ้าเราคิดว่ามันเป็นการทำงานของธาตุธรรมชาติมันก็จะไม่มีความรู้สึกที่เป็นตัวเราเกิดขึ้น เราก็จะเห็นว่าการสร้างความรู้สึกเป็นการหลงการปรุงแต่งของธรรมชาติ จะเป็นความรู้ที่เป็นเหตุผลเกิดขึ้น แต่ว่าเป็นเหตุผลที่สัมผัสได้ทางจิตหรือความรู้สึกจึงจะเกิดเป็นความเข้าใจ เมื่อเข้าใจจึงจะเกิดนำหนัก มีคุณค่าทางความรู้สึกเกิดขึ้น เหมือนกับที่เราเข้าใจการอธิบายความรู้ต่างๆนั่นเอง เมื่อเข้าใจจึงจะจะเห็นความเป็นเหตุผล



โดย: ไพรสณฑ์ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:35:03 น.
  



ลำกับการปฏิบัติ

มีธรรมะอยู่ในใจเสมอ(มีศีลสังวรณ์)--->การเข้าไปอยู่สภาวะหนึ่งทางความรู้สึก(มิติทางความรู้สึก)--->ส่งผลทางกายเป็นการสำรวม--->เห็นทุกข์ที่เกิดจากการปรุงแต่งทางความรู้สึก--->เห็นการทำงานของธาตุธรรมชาติ--->ทบทวนอยู่เสมอเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่เป็นเหตุผลสมบุรณ์เกิดขึ้นได้(คือตัวเราเป็นการทำงานของธาตุทั้งสี่นั่นเอง)


โดย: ไพรสณฑ์ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:47:27 น.
  
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 18 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:41:41 น.
  
ขอบคุณมากค่ะ บางครั้งแครอลก็ทำได้ค่ะ

พักนี้หลุดบ่อยมาก เพราะโดนรังแก จากเพื่อนร่วมสำนัก

จากคนใช้

จากคนรอบข้าง

ใจเข้มแข็ง

แต่ร่างกายอ่อนแอ

ทำให้ว่อกแว่กค่ะ

จะพยายามทำค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
โดย: แครอล IP: 182.53.55.251 วันที่: 18 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:43:35 น.
  


ผมแนะนำให้มองความรู้สึกของเราเหมือนสวิทช์ไฟ ให้สับสวิชไปสู่โหมด ปิดไฟ คือไม่รู้สึกอะไรต่อสิ่งที่มากระทบ..............อาจจะขัดแย้งต่อความรู้สึกของเรา แต่มันเป็นความจริงทางธรรมชาติ
โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.59.187 วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:34:57 น.
  
โห เก็ทมากค่ะ กับข้อความข้างบน

การสับสวิทต์ไปสู่โหมดปิดไฟ

แครอลน่าจะทำได้นะคะ

ขอบคุณท่านไพรสณฑ์มากค่ะ
โดย: แครอล IP: 125.25.29.209 วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:01:30 น.
  
มีเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมาถามค่ะ

พระจีบสาว

พระโพสต์เพลงรักผิดศีลไหมคะ

พระมีอารมณ์ขี้อิจฉา โทรไปยุแหย่ให้ศิษย์โหราโกรธกัน

พระองค์นี้อาบัติป่าวคะ
โดย: แครอล IP: 125.25.29.209 วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:06:49 น.
  


ผมจะไม่ตอบว่าผิดหรือไม่ผิดนะครับ....

..ในฐานะที่เราเป็นผู้ปฏิบัติธรรมเราต้องมองที่ตัวเราเอง ไม่ไปมองที่คนอื่นเพราะเราแก้ไขคนอื่นไม่ได้ ความเห็นแบบนี้สำคัญมากครับ ถ้าเป็นพระแล้วประพฤติไม่เหมาะสมก็เป็นเรื่องของท่านเองไม่ใช่เรื่องของเรา หรือไม่ใช่พระก็เหมือนกัน เป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา ยกเว้นแต่ว่าเรามีหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.45.171 วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:00:50 น.
  


มีความเห็นว่าเป็นคำถามที่ดีมาก คือดีในแง่ของการอธิบายธรรม คือการที่เราไปมองเห็นความผิดของคนอื่นนั้น เพราะความมีอัตตาอยู่ ถ้าพิจารณาให้กระจ่าง จะเห็นได้ว่าเราเป็นทุกข์เพราะเรื่องของคนอื่น คือเอาเรื่องภายนอกมาทำให้ตนเองเกิดทุกข์

....ความละเอียดอ่อนของจิตจึงจะแยกแยะได้ว่าเราสำคัญผิดในตัวเองนั่นเองการเห็นความจริงนี้จึงจะเห็นความเป็นเหตุผลได้


โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.45.171 วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:31:12 น.
  

การหลุดพ้น อาจจะเป็นคำศัพท์ที่มองดูเกินเอื้อมนะครับ
แต่ถ้าเรามีความสุขจากการปฏิบัติธรรม เราก็จะพ้นไปจากความเศร้าหมอง ซึ่งก็คือการหลุดพ้นนั่นเอง


........มีความสุขจากการมีธรรมะอยู่ในใจ หรือการเป็นอยู่อย่างผู้มีธรรมนั่นเอง
อาจจะง่ายหรือยากขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ปฏิบัติ ว่ายินดีจะสละความต้องการแบบโลกิยะหรือไม่ ถ้ายินดีก็ให้ปฏิบัติธรรมเต็มรูปแบบเลยไม่ต้องลังเล ท่านจะหลุดออกไปจากการปรุงแต่งทางความรู้สึก แต่ที่มันยากเพราะเรามักคิดว่ามันต้องค่อยเป็นค่อยไปมันเลยไปไม่ถึงสักที่เท่านั้น...เพราะเรามักจะมีข้อแม้มีความไม่พร้อมในการเข้าถึงนั่นเอง

ถ้าเห็นว่าปฏิบัติธรรมมานานก็ยังไม่เห็นผล ก็เพราะเหตุนี้
โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.25.170 วันที่: 26 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:40:48 น.
  
ขอบคุณครับ ขออนุญาติศึกษาธรรมะจากท่านเช่นกันครับ อนุโมทนาสาธุครับ
โดย: shadee829 วันที่: 1 มิถุนายน 2554 เวลา:19:24:57 น.
  
สวัสดค่ะท่านไพรสณฑ์

หายไปนานเกี่ยวกับสุขภาพของแครอลเองค่ะ

ขอบคุณที่ชี้แนะและตอบธรรมะจนกระจ่างนะคะ

เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้ดีมากเลยค่ะ
โดย: แครอล IP: 124.122.215.45 วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:18:33:15 น.
  
สวัสดีค่ะท่านไพรณฑ์...กลับมาแล้วค่า หายไปนานเลย

ไม่ค่อยสบายค่ะ
โดย: แครอล IP: 124.122.215.45 วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:18:35:02 น.
  
ที่ไปมองเห็นความผิดของคนอื่นคือเค๊ามาปลุกปั่นจนเวปแตกไปแล้วค่ะ ทะเลาะกันมากมาย แครอลโดนด้วยแต่ไม่ทะเลาะตอบ

เพราะคิดว่าใครจะคิดยังไงกับเราไม่ใช่เรื่องของเราค่ะ

ขอบคุณที่ตอบจนหายข้องใจนะคะ
โดย: แครอล IP: 124.122.215.45 วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:18:38:44 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายยามเย็น สบายดีนะคะคุณไพรสณฑ์
โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:20:41:06 น.
  
สวัสดีวันศุกร์ค่ะท่านไพรสณฑ์

ฝนตกทุกวันเลยนะคะ

มาแอบอ่านธรรมะดีๆค่ะ
โดย: แครอล IP: 192.168.200.8, 14.207.154.130 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:10:10:34 น.
  

พรุ่งนี้ไปใช้สิทธกันนะคะ ขอให้ประเทศไทยจงเจริญ เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

แวะมาส่งคุณไพรสณฑ์ เข้านอนค่ะ ขอให้เช้าพรุ่งนี้เป็นวันที่สดใสนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:26:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไพรสณฑ์
Location :
อำนาจเจริญ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



การปฏิบัติธรรม...
คือการมีสติรู้ความจริงของชีวิต

ชีวิตคือความเป็นธรรมชาตินั่นเอง
การมองชีวิตในมุมกลับจึงเห็นความจริงว่ามันคือการเกิด-ดับของความเป็นธรรมชาตินั่นเองที่เป็นอยู่คือการยึดมั่น...

...การเห็นความจริงนี้จึงเป็นการเห็น"สัจจะธรรม"จึงพบคำตอบเกิดขึ้นว่าพวกเรามาทำธุระอะไรกันอยู่บนโลกใบนี้. แท้จริงมันคือการเกิด-ดับของความเป็นธรรมชาติเท่านั้น...คือความจริงที่จะต้องทำความเข้าใจ เพราะการเข้าใจว่าเป็น "ตัวเรา"มันเป็นการหลงอยู่ในการปรุงแต่งของความเป็นธรรมชาติเท่านั้น.


...การเข้าใจมันตามจริง.... จึงเห็นความเป็นเหตุผลเกิดขึ้น..."ตัวเรา"เป็นเพียงการสมมุติของธรรมชาติเท่านั้น จึง เกิดความวิเวก วังเวง เพราะมันเป็นความจริงนั่นเอง
New Comments