วันนี้นั่งอ่านบทความเกี่ยวกับการวิ่งเพื่อปรับกลยุทธ์
เนื่องจากวิ่งมา 3 วัน เราคิดว่าน้ำหนักมันน่าจะลง แต่กลับไม่ลง (แอบชั่ง เอาตาชั่งไปแอบก็ยังไปเอามาชั่งจนได้) เราก็เลยจิตตก เซิร์ชหาข้อมูลเป็นการใหญ่
ก็พบว่าสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่อย่างเรา น้ำหนักยังไม่ลดลงแน่นอน
ต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็หนึ่งสัปดาห์กว่าจะเริ่มเห็นตัวเลขบนหน้าปัดตาชั่งลดลงไป
แต่จะรู้สึกว่ากระชับขึ้น กระฉับกระเฉงขึ้น เหนื่อยยากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะวิ่งให้ผอมก็ต้องควบคุมการกินด้วย ไม่อย่างนั้น วิ่งไปก็อ้วนเหมือนเดิม
เราอ่านในเว็บหมอชาวบ้าน พบว่าการวิ่งไม่ว่าช้าหรือเร็ว วิ่งระยะทาง 1.6 กิโลเมตร จะสามารถเผาผลาญได้ 100 กิโลแคลอรี่ อาจจะดูไม่มาก แต่ที่บอกว่าเผาผลาญไปนั้นก็เป็นไขมันทั้งสิ้น ถ้าอยากลดน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมหรือ 3,500 กิโลแคลอรี่ ก็ต้องวิ่งให้ได้ 56 กิโลเมตร แต่ถ้าควบคุมการรับประทานอาหารเพิ่มด้วยก็จะยิ่งลดได้เร็วขึ้น แม้จะดูเหมือนลดช้า แต่เป็นการลดปริมาณไขมันจริงๆ ซึ่งจะทำให้ไม่โยโย่ภายหลัง
ถ้าเราวิ่ง 3.2 กิโลเมตรทุกวัน เราก็จะเผาผลาญได้ 200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
กินอาหารไม่เกิน 1,200 กิโลแคลอรี่
ร่างกายเรา ณ ปัจจุบัน ค่า BMR อยู่ที่ประมาณ 1,600 กิโลแคลอรี่
ดังนั้น เราจะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างน้อยประมาณ
(1,600 + 200) - 1,200 = 600 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
ในหนึ่งสัปดาห์สามารถลดได้ประมาณ 4,200 กิโลแคลอรี่ คิดเป็น 0.7 กิโลกรัม
เหมือนจะน้อยนะคะ แต่ในเว็บเขาบอกว่าจริงๆ แล้ว ถ้าเราวิ่ง การเผาผลาญมากกว่า BMR อยู่แล้ว อย่างของเรา จริงอัตราการเผาผลาญมันอยู่ที่ประมาณ 2,200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน (อันนี้รวมวิ่งและกิจกรรมอื่นๆ แล้ว) นั่นหมายความว่าถ้าเราคุมการรับประทาน 1,200 กิโลแคลอรี่ทุกวัน เราก็จะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง
สัปดาห์ละ 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว
แล้วอย่างนี้จะไม่วิ่งได้อย่างไร จริงไม๊คะ