รองพื้นแบบสเปรย์ วิยาการของรองพื้นล่าสุด การรอคอยอันแสนนานของผมจบลงแล้วเพราะ
ว้าวมันมาถึงเมืองไทยแล้ว เห็นในเน็ทก็นานแล้วว่ามันมีรองพื้นแบบสเปรย์
งืมๆ มันต้องดีแน่เลย โดยทฤษฎีแล้ว การลงลองพื้นเป็นสเปรย์ หรือถ้าคิดง่ายๆ ว่าเหมือนการใช้ air brush มันจะเป็นละอองที่ละเอียด ทำให้การลงรองพื้นได้บางและทั่วถึงทุกซอกทุกมุมมากขึ้น
แต่ผมก็ได้ข่าวมาว่ามันจะไม่เข้ามาเมืองไทยเนื่องจากเมืองไทยร้อนชื้น ทำให้การใช้รองพื้น SK-II ตัวนี้ไม่ค่อยเวิร์คเท่าที่ควร ( เท่าที่ลองน่าจะเป็นเรื่องการ set ตัวของรองพื้นหรือเปล่า
พอรู้ว่าวางจำหน่ายแล้ว ผมก็รีบรุดไปที่เคาวน์เตอร์ทันที ก็เจอวัตถุทรงกลมสีแดงอันโต ถามราคาก่อนเลยปรากฎอันละ 4,600 บาท โอ้วแม่เจ้า ค่าตัวเกินเจ้า Lamer อีก ( แต่ตัวนั้นไม่มีเทคโลยีระดับนี้ ) อะมันต้องมีดีม้างแหละ
เมื่อชำแหละชิ้นส่วนอันใหญ่โตออกมา ปรากฎเจอตัวรองพื้นขนาดแค่ 5ml. จ๊ากมันจะพอไหมนั้น ( ถ้าซื้อก็จะได้ Refill ขนาดเท่ากันอีก 1 ชิ้น ทาง BA บอกว่าใช้ได้นาน 2 เดือน ( ก็ยังแพงอยู่นะคิดในใจ )
ในตัวตลับมีถ่านอยู่ 1 ก้อนด้วยคร้าบในการขับเคลื่อนตัวสเปรย์
อ้าถึงเวลาลองเล่นและ วิธีใช้ก็ต้องเปิดปุ่ม on เสียก่อน ( ไฟก็จะสว่างเป็นสีแดง )แล้วกด โดยที่วาง SK-II Air Touch Foundation ห่างจากหน้า 10 ซม. แล้วก็หลับตาเลื่อนมือจากซ้ายไปขวา เลื่อนจากล่างขึ้นบน หรือบนลงล่างใบหน้าตามถนัด
ถ้ามองด้วยตาเปล่านี่เราแทบไม่เห็นรองพื้นออกมา เหมือนการใช้สเปรย์ฉีดเลยครับ
ก็เลยอ้อว่าทำไมมันใช้ได้นานก็มันออกมาซะบางขนาดนั้น
เวลาในการใช้งานที่ควรจะเป็นคือ ควรพ่นเป็นเวลาประมาณ 30 วินาที่ครับ
ผลที่ได้เป็นไง งืมก็เนียนครับ แต่บางมากๆๆๆๆ โดยไม่ต้องทาแป้งหลังจากใช้อีก
ดังนั้นคงไม่เหมาะกับการปกปิต แต่เหมาะสำหรับทำให้ผิวเนียนสวยสมบูรณ์แบบ
หากต้องการให้ปกปิดตามคู่มือแนะนำให้ลงรองพื้นก่อนใช้ SK-II Air Touch Foundation
ง้า แต่ข้อควรระวังอย่างนึงในการใช้คือ หลังจากสเปรย์เสร็จเขาจะใช้เวลา set ตัวประมาณ 1 นาที
ถ้าเผลอจับก่อนก็จะรู้สึกได้ว่าหน้าชื้นๆ
อีกอย่างที่ต้องบอกคือควรใช้ทุกวันนะครับ เพราะถ้าไม่ใช้ทุกวันที่พ่นอาจตัน และต้องบิดปุ่มไปอีกปุ่มที่เป็นรูปหยดน้ำ ซึ่งเวลากดจะมีไฟสีเขียว แล้วรองพื้นก็จะหยดออกมา 1 หยดเพื่อเป็นการเปิดทาง แต่หยดนึงมันกี่บาทละคร้าบท่าน หือๆๆๆ
สรุป แล้วด้วยราคาระดับแพงแถวหน้า แต่ด้วยพื้นผิวของใบหน้าที่ได้รับที่เนียนบางอย่างน่าตะลึง ( แต่อย่าลืมนะว่ามันไม่ปกปิดซักเท่าไหร่ ) ดังนั้นน่าจะเป็น option เสริมระดับ Premium ในการแต่งหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ ก็ลองตัดสินใจดูนะครับสำหรับรองพื้นระดับราคาครึ่งหมื่น ว่าควรจะมีใครครอบครองหรือเปล่า สำหรับผมขอเป็นผู้ทดลองก่อนและกัน 
มาต่อกันภาค 2 นะครับกับ Review SK-II Air Touch Foundation
คราวนี้มีผู้ร่วมอุดมการณ์มาเป็นหนูทดลองด้วยคร้าบผม
สภาพผิวน้องเขาจะมีสิวเม็ดเล็กๆ เห็นแดงๆ อยู่ประปรายช่างเหมาะจะเป็นบททดสอบรองพื้นตัวนี้จริงๆ ว่าใช้แล้วจะเนียนไหม

ลองพ่นไป 2 รอบครับ รอบละ 30 วินาที (ระหว่างนั้นต้องพัก 1 นาทีเพื่อให้รองพื้น set ตัวด้วยนะคร้าบ)

ขอสรุปผลเลยนะคร้าบ
1. เป็นรองพื้นที่ปกปิดได้เล็กน้อย รอยแดงดูจางไปพอสมควรเลยครับ ดังนั้นถ้าอยากให้ปกปิดแนะนำลงรองพื้น หรือคอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดก่อนใช้เจ้าตัวนี้คร้าบ
2. หลังจากเดินเล่นไปซักพักถึงแม้จะหน้ามัน หรือเหงื่อซึมเล็กน้อยหน้าก็ยังเนียนดีไม่มีปัญหาหลุดร่อนครับ แต่อาจจะรู้สึกหนืดนิดๆ ก็ซับหน้า แล้วซับแป้งฝุ่นอัดแข็งครับผม เป็นอันเรียบร้อย (ปกติก็ควรพกนะคร้าบ ระหว่างวันอย่าซับด้วยแป้งผสมรองพื้นอะ มันจะหนา)
3. ชอบที่สุดตรงมันเนียนอะครับ เนียนมากๆ เนียนเหลือเกิน เหมาะมากสำหรับทำให้การแต่งหน้าดู perfect ขึ้น
4. ถ้าใช้อย่าลืมใช้ทุกวันละครับ ง้านจะต้อง clear หัวพ่น หยดลงมาทีเม็ดเบอเริ่ม เสียดายยิ่งนัก
5 สุดท้ายยังไงก็ติดตรงราคามันอยู่ดีแหละครับผม 4,600 บาท เอื้อก
ทิ้งท้ายง่ายๆ ตรงนี้เลยครับว่าชอบมาก แต่แพงจัง
* เป็นรีวิวเก่าตั้งแต่ปี 50 ครับ เอามาลงใหม่เพื่อประกอบการประท้วง เพราะขณะนี้ไม่มีขายในประเทศไทยแย้ว หือๆๆๆ