Group Blog All Blog
|
Kiehls : Powerful Wrinkle and Pore Reducing Cream
POWERFUL WRINKLE AND PORE REDUCING CREAM
ผสานไมโครนูเทรียนท์ ผิวยืดหยุ่นขึ้น 32% ริ้วรอยลดเลือน เนื้อผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
ดูราวกับว่าชีวิตผู้หญิงต้องกังวลกับการดูแลใบหน้าของตนเองมาตลอด สมัยวัยรุ่น ต้องสู้กับสิว รูขุมขนอุดตัน และผิวมันเงา พอย่างเข้าวัยยี่สิบ เมื่อการผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวลดลง ก็เริ่มประจักษ์ถึงผลกระทบของการมีอายุมากขึ้น ปัจจัยคุกคามจากสิ่งแวดล้อมส่งผลให้แก้มตอบลง ริ้วรอยรอบดวงตาเริ่มชัดขึ้น และรูขุมขนดูกว้างขึ้น Kiehls Since 1851 ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเส้นผมแบรนด์เก่าแก่จากนิวยอร์ค และได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลกในคุณภาพมากว่า 160 ปี ขอเสนอวิธีจัดการปัญหา ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอันละเอียดอ่อนของสาวเอเชียโดยเฉพาะ - Powerful Wrinkle and Pore Reducing Cream ขนาด 50 มล. ราคา 2,500 บาท ปัญหาผิวอันดับต้นๆ ของผู้หญิง ได้แก่ ริ้วรอยและรูขุมขนกว้าง นักเคมีของ Kiehls ขอแนะนำ Powerful Wrinkle and Pore Reducing Cream แนวทางใหม่ในการจัดการปัญหาผิวสำคัญๆ เหล่านี้ ด้วยการคืนความยืดหยุ่นอันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการลดเลือนริ้วรอยและรูขุมขน สูตรกระชับรูขุมขนและลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพนี้ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าช่วยให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น 32% และผิวเรียบเนียนขึ้น 26% หลังใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ 3 คนไข้ส่วนใหญ่ของผมเชื่อว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลกับความยืดหยุ่นของผิวจนกว่าจะถึงช่วงบั้นปลายชีวิต นี่เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะคนทั่วไปรู้สึกว่าความยืดหยุ่นเกี่ยวกับผิวที่การหย่อนยานมากๆ เท่านั้น ดร. อดัม กายเยอร์ (Dr. Adam Geyer) แพทย์ผิวหนังที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคีลส์กล่าว การสูญเสียความยืดหยุ่นเริ่มขึ้นในวัย 20 เนื่องมาจากเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินภายในผิวค่อยๆ ลดลงทีละน้อย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ริ้วรอยเริ่มก่อตัวและรูขุมขนขยายกว้างขึ้น การคงความยืดหยุ่นไว้จึงจำเป็นอย่างยิ่งต่อการถนอมผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย นักเคมีของคีลส์เข้าใจดีว่าการลดเลือนริ้วรอยและกระชับรูขุมขนนั้นจำเป็นต้องฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกเพื่อคืนความยืดหยุ่นให้ชั้นผิว Powerful Wrinkle and Pore Reducing Cream ได้รับการพัฒนาขึ้นบนความรู้ความเข้าใจนี้ เพื่อคืนความยืดหยุ่นผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีขึ้น ส่วนผสมของไมโครนูเทรียน (micronutrient) หรือสารอาหารรอง ช่วยให้ครีมสูตรนี้ปฏิบัติการคืนความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและกระชับรูขุมขน พร้อมเติมน้ำหล่อเลี้ยงผิวซึ่งจำเป็นต่อการปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม ผิวมีอายุ มองเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน รูขุมขนกว้าง เนื้อผิวหยาบ และริ้วรอยตื้นๆ มากมาย ผิวอ่อนกว่าวัยหรือผิวที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เนื้อผิวละเอีนดเนียนเรียบขึ้น มองเห็นรูขุมขนได้น้อยลง ผลการทดสอบทางคลินิก + การประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง Powerful Wrinkle and Pore Reducing Cream ผลิตภัณฑ์สูตรล้ำหน้าของคีลส์แสดงให้เห็นในการทดสอบทางคลินิกว่าช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและลดเลือนริ้วรอย หลังใช้ต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ และในเวลาเพียง 4 สัปดาห์ ผลิตภัณฑ์สูตรนี้คืนความยืดหยุ่นของผิวให้ดีขึ้นถึง 32% ช่วยให้ริ้วรอยลดเลือนลง 15% และเนื้อผิวละเอียดขึ้น 26% ด้านล่างนี้เป็นเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์:
เพื่อคืนความยืดหยุ่น จำเป็นต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน การปกป้องและคงประสิทธิภาพการทำงานของเส้นใยยืดหยุ่นคือขั้นตอนแรกสู่ผิวดูอ่อนเยาว์ ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือการเสริมความแข็งแรงของปราการคุ้มกันผิว เจฟฟรีย์ เยเนสกี (Geoffrey Genesky) หัวหน้านักเคมีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของคีลส์กล่าว ท้ายสุดแต่สำคัญไม่แพ้กัน คือการเติมน้ำหล่อเลี้ยงผิวชั้นนอก เพื่อช่วยให้ผิวคงความยืดหยุ่นและเนื้อผิวโดยรวมดูดีขึ้น คีลส์เลือกใช้ทองแดงและแคลเซียมซึ่งทราบกันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ เจฟฟรีย์ เยเนสกี กล่าวเพิ่มเติม เมื่อรวมกับ PCA ซึ่งมีอยู่ในผิวชั้นนอกตามธรรมชาติ โดยเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยเติมความชุ่มชื้นธรรมชาติของผิว ส่วนผสมเหล่ามีส่วนช่วยอย่างมากในสูตรผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยและกระชับรูขุมขนที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดนี้ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวรอบดวงตา นักเคมีของคีลส์ต่อยอดการใช้พลังของ Copper PCA และ Calcium PCA โดยนำการผนึกกำลังที่ทรงประสิทธิภาพนี้มาผสานไว้ใน Powerful Wrinkle Reducing Eye Cream ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อตรงเข้าจัดการปัญหาความร่วงโรยของผิวรอบดวงตาอันบอบบาง ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการทดสอบแล้วว่าลดเลือนริ้วรอยและปรับเนื้อผิวให้เรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ราคา 1,700 บาท ผลการศึกษาทางคลินิกแสดงให้เห็นว่า 10
ในการประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ 9
_____________________________ 9 ผลการสำรวจความพึงพอใจในหญิงกลุ่มตัวอย่าง 55 คน อายุระหว่าง 38-60 ปี หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ 10 ผลการศึกษาทางคลินิก ในหญิงกลุ่มตัวอย่าง 55 คน อายุ 38-60 ปี ความยืดหยุ่น ปราการคุ้มกันผิวที่แข็งแรงขึ้น และความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อจัดการริ้วรอยและปัญหารูขุมขนกว้าง เพื่อปกป้องและคืนความยืดหยุ่นของผิว จำเป็นต้องจัดการปัญหาร่วมกันในสามส่วน ได้แก่:
เพื่อคงความยืดหยุ่นของผิว จำเป็นต้องจัดระเบียบและปกป้องประสิทธิภาพการทำงานของเส้นใยยืดหยุ่น การเปลี่ยนแปลงตามวัย เส้นใยยืดหยุ่น การแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติการทางเอ็นไซม์ อาทิ LOXL1ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ต้องพึ่งพาทองแดง (Copper PCA) มีส่วนทำให้เส้นใยยืดหยุ่นเสียระบบและเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ
ปราการคุ้มกันผิวที่แข็งแรงและทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันปัจจัยคุกคามจากภายนอกซึ่งสามารถก่อความเสียหายต่อความยืดหยุ่นของผิว แคลเซียมมีบทบาทสำคัญต่อการรักษาระดับการทำงานที่สมบูรณ์ของปราการคุ้มกันผิว เมื่อผิวมีอายุมากขึ้น ปริมาณแคลเซียมที่ลดระดับลงมีส่วนทำให้การทำงานของผิวเปลี่ยนตามไปด้วย
นอกจากตาข่ายเส้นใยยืดหยุ่นและปราการคุ้มกันผิวที่แข็งแรงแล้ว ระดับน้ำหล่อเลี้ยงผิวที่เหมาะสมก็เป็นองค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งในการรักษาระดับการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติและคงความสามารถในการกลับคืนรูปของผิวไว้ ผิวที่ได้รับการเติมน้ำหล่อเลี้ยงอย่างเหมาะสมจะยืดหยุ่น มีชีวิตชีวา และอิ่มเอิบ ส่งผลให้เนื้อผิวดีขึ้น ไมโครนูเทรียนท์ จำเป็นต่อผิวดูอ่อนกว่าวัย ไมโครนูเทรียนท์เป็นสารอาหารที่มนุษย์ต้องการเพื่อให้ร่างกายทำงานอย่างสมบูรณ์ ทว่าไม่สามารถสร้างเองได้ ไมโครนูเทรียนท์ประกอบด้วยแร่ธาตุนานาชนิด อาทิ ทองแดงและแคลเซียม วิตามินต่างๆ อาทิ วิตามินเอ วิตามินซี กรดโฟลิค ไนอะซิน และไรโบเฟลวิน (หรือวิตามินบี 2) นักเคมีใช้ทองแดงและแคลเซียมในรูปของ Copper PCA และ Calcium PCA ให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อฟื้นบำรุงสภาพผิวที่ร่วงโรย ไมโครนูเทรียนท์ ความยืดหยุ่น การทำงานของปราการคุ้มกันผิว ที่ผ่านมา การจัดการริ้วรอยและปัญหารูขุมขนกว้างมักมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์และวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน โดยมองข้ามความสำคัญของโมเลกุลอีลาสติน ซึ่งถึงแม้ว่ามีอยู่เพียง 4-5% ของผิวชั้นใน แต่ก็จำเป็นต่อการค้ำจุนโครงสร้างผิว และบรรเทาความร่วงโรยต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามวัย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยตื้นหรือลึก ความหยาบของผิว หรือรูขุมขนบนใบหน้าที่กว้างขึ้น ปริมาณอีลาสตินในผิวเริ่มลดลงตั้งแต่อายุ 20 สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การสูญเสียอีลาสตินในผิวก่อให้เกิดริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น และความสามารถในการกลับคืนรูปเดิมของผิวลดลง ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เห็นได้ชัดที่สุดบริเวณรอบดวงตา (รอยตีนกา) บนหน้าผาก (รอยย่นบนหน้าผาก) และรอบริมฝีปาก (ริ้วรอยจากมุมปากถึงคาง) ในระดับโมเลกุล ส่วนประกอบโครงสร้างเส้นใยอีลาสตินคือโปรตีน ในการคงความสามารถของเส้นใยอีลาสตินไว้เพื่อช่วยให้ผิวกลับคืนรูปเดิมหลังเสียรูปนั้น โปรตีนเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการเชื่อมต่อกันเป็นตาข่าย การเชื่อมต่อตาข่ายทำให้เส้นใยเหล่านี้เหนียวแน่นและยืดหยุ่นขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณสมบัติเชิงกายภาพ เช่น ความกระชับที่เพิ่มขึ้นและริ้วรอยที่ลดลงอีกด้วย แม้ว่าการสร้างอีลาสติน (elastogenesis) เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่เราก็ทราบดีว่าทองแดงและแคลเซียมมีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้ ทองแดง ปฏิบัติการต่อการสังเคราะห์อีลาสตินในสามทาง วิธีแรก ทองแดงปฏิบัติการต่อไฟโบรบลาสท์โดยตรง เพื่อกระตุ้นการผลิต mRNA ซึ่งรับผิดชอบการผลิตอีลาสติน วิธีที่สอง - ทองแดงรวมกับ lysyl oxidase เป็นโค-แฟ็คเตอร์ (co-factor) ที่สำคัญต่อการขัดสานของอีลาสติน วิธีที่สาม ทองแดงเป็นส่วนสำคัญในการปรับปรุงอีลาสติน ซึ่งจำเป็นต่อการคงประสิทธิภาพการทำงานของอีลาสตินภายในผิว ผ่านการเพิ่มการตอบสนองของเอ็นไซม์หลัก (IL-8 และ MMP-1) ที่สำคัญต่อการสมานแผลและการเพิ่มจำนวนเซลล์ นอกจากนี้ ทองแดงยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากความเครียดจากออกซิเดชั่น และปรับปรุงการทำงานของปราการคุ้มกันผิว ทองแดงสำคัญต่อการคงสภาพผิวที่ดูอ่อนเยาว์ ยืดหยุ่น และมีสุขภาพดี การผสานทองแดงลงในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแสดงให้เห็นแล้วว่าประสบผลสำเร็จ ทั้งในแง่การเพิ่มปริมาณอีลาสติน และการผลิตเส้นใยอีลาสตินที่เป็นระเบียบมากขึ้น ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่นขึ้น รูขุมขนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และชุ่มชื่นขึ้น แคลเซียม สำคัญต่อสุขภาพและการเติมน้ำหล่อเลี้ยงปราการคุ้มกันผิวเช่นกัน แคลเซียมทำหน้าที่เสมือนเครื่องควบคุมอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของเรา รวมถึงผิวด้วย ผลการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าแคลเซียมควบคุมการผลัดเซลล์ผ่าน การพัฒนาไปทำหน้าที่เฉพาะ ของเซลล์ ปริมาณแคลเซียมในผิวชั้นนอกที่เพิ่มขึ้นช่วยเร่งการผลัดเซลล์ ด้วยเหตุนี้ การผลัดเซลล์จึงสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้นด้วยแคลเซียมเฉพาะแห่งที่ดูดซึมได้ ส่งผลให้ผิวชุ่มชื่นและดูอิ่มเอิบขึ้น แคลเซียมยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าควบคุมกระบวนการของปราการลิพิด ปริมาณแคลเซียมในผิวชั้นนอกที่สูงขึ้นแสดงให้เห็นว่าช่วยให้การทำงานของปราการมีประสิทธิภาพดีขึ้นและต่อเนื่อง คนไข้สูงวัยหรือผิวแห้งตอบสนองต่อทรีตเม้นต์แคลเซียมเฉพาะแห่งได้ดี แคลเซียมสามารถลดความแห้งของผิวขาดน้ำอย่างเห็นได้ชัด และช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อด้วยว่าแคลเซียมเป็นตัวควบคุมการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพของผิว นอกจากจำเป็นต่อการทำงานหลายๆ อย่างของร่างกายแล้ว แคลเซียมยังช่วยสร้างคอลลาเจนและโปรตีนใน DNA และ RNA ผลการวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการขาดแคลเซียมส่งผลให้ผิวเปราะบาง ราวแผ่นกระดาษ เพราะชั้นค้ำจุนผิวอ่อนแอลงและสูญเสียความหนาแน่น หลังจากอายุ 55 ปีเป็นต้นไป ร่างกายเผชิญกับการสูญเสียแคลเซียมครั้งสำคัญ เนื่องจากดูดซึมและกักเก็บสารอาหารที่จำเป็นนี้ได้น้อยลง อภิธานศัพท์ส่วนผสม
Try Before You Buy! สามารถรับผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองได้ฟรี! ที่ร้านคีลส์ทุกสาขา |
alwaysfluke
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 124 คน [?] FB : flukealwaysfluke Line ID : @alwaysfluke E-mail : fluke@alwaysfluke.com Friends Blog |