เพียงเปิดใจ
วันเสาร์ที่ผ่านมาเพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง Always sunset on the third street เป็นหนังญี่ปุ่น ที่เล่าถึงชุมชนเล็ก ๆ กลุ่มนึง ที่อาศัยอยู่ใกล้กับหอคอยโตเกียว ที่กำลังสร้างอยู่ภายหลังจากสงครามโลกจบลง จริง ๆ แล้ว ได้เห็นหนังเรื่องนี้แต่เกือบปีแล้ว ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นที่โรงหนัง House ตอนนี่ไปดูเรื่อง NANA ได้เป็นใบปิดมา อ่านแล้วน่าสนใจมาก ๆ แค่ชื่อเรื่องก็เรียกความสนใจจากเราได้มากแล้ว "Always" แต่เราก็เลือกที่จะมองข้ามและผ่านเลยไป
Always คือชื่อที่เราเอามาใช้ในโลก Cyber นี้นานเป็นหลายปี แล้วก็เพิ่งรู้เมื่อปีที่แล้วเหมือนกันว่า เลขสมาชิกเราเป็น 5 พันก่า ๆ จากการที่โดนยึดอมยิ้มไปแล้วโทรไปถามว่าทำยังไงถึงจะได้คืน ทางคนจากพันทิพบอกว่าเราเป็นสมาชิกเก่ามากๆ เค้าจะคืนให้โดยไม่ต้องส่งเอกสารอะไรไปพิสูจน์ ก็ดีไป เพราะเราเองก็รู้สึกผูกและพันกับชื่อนี้พอสมควร ถ้าจะให้เปลี่ยนก็ได้แต่คงทำใจลำบากหน่อย เราเห็นหลาย ๆ คนเปลี่ยนชื่อเพราะดวง เพราะคนทัก หรือ เพราะอะไรก็แล้วแต่ อันนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่สำหรับความเชื่อของเราเอง เราว่า ชื่อที่พ่อแม่เป็นคนตั้งให้ เป็นชื่อที่ดีที่สุดและเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตแล้ว ไม่ว่าดวงหรืออะไรจะเลวร้ายแค่ไหน ชื่อที่พ่อและแม่เราตั้ง จะอยู่กับเราไปจนตาย อีกประการหนึ่งเพราะเราเชื่อว่า การตั้งชื่ออะไรสักชื่อ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ โดยเฉพาะการตั้งชื่อให้กับตัวเองเพื่อใช้แทนตัวตนของเราในเรื่องใด ๆ ก็ตามที่ไม่ต้องการชื่อจริง
Always ชื่อไทยว่า "ไฟฝัน ควันรัก" เป็นหนังที่เราประทับใจจากความแก่แดดของตัวเราเองตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยที่ยังเรียน ม 3 โดดเรียนพิเศษไปดูหนังเรื่องนี้ที่มาบุญครอง สมัยที่ยังมีโรงหนังอยู่ข้างล่าง หนังเรื่องนี้กำกับโดย Steven Spielberg ปี 1989 นำแสดงโดย richard Dreyfuss, Holly hunter หนังเกี่ยวกับความรักของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งตายไปจากการขับเครื่องบินดับไฟป่า แล้วกลายเป็นวิญญาณที่ตามดูแฟนสาว ที่เค้ารักเธอมาก ส่วนหญิงสาวก็ทำใจกับการจากไปของเขาดำเนินชีวิตต่อ แล้วก็พยายามเริ่มต้นใหม่กับหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นนักบินฝึกหัด โดยที่วิญญาณก็มีการหึงหวง โดยเฉพาะฉากเต้นรำที่มีเพลง smoke get in your eyes ระหว่างนางเองกับคนรักใหม่ แล้วพระเอกก็ยืนมองน้ำตาไหลเพราะมันเป็นเพลงที่มีความหลังสำหรับเขาและเธอ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้พระเอกได้คุยกับเทวดาแล้วคิดได้ ว่าหน้าที่ของเค้าหมดแล้ว ต้องปล่อยไป แล้วทำให้แฟนสาวมีความสุขด้วยการทำให้ หนุ่มนักบินฝึกหัดดูแลเธอต่อไป ประมาณเป็นแรงบันดาลใจ ให้
ด้วยความแรดตั้งแต่เด็กทั้งที่ยังไม่รู้ว่าไอ้ความรักมันหน้าตาเป็นยังไงแน่ แล้วอะไรที่เราประทับใจ บอกตามตรงว่าจนป่านนี้เรายังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นเหมือนเด็กชายที่หลงความรัก และถึงจะโตขนาดนี้แล้วยังบอกไม่ได้อยู่ดีว่าความรักเป็นยังงัย เพราะเจอกี่ครั้งหน้าตาไม่เคยจะเหมือนเดิม รู้แต่ว่าถ้ามีคนถามเราว่าหนังเรื่องไหนที่ดูแล้วประทับใจที่สุด เราจะตอบดัง ๆ เลยว่า Always ครับ แต่อย่าถามว่าทำไม เพราะผมไม่มีคำตอบให้แน่นอน ปกติผมไม่ใช่คนที่ปลื้มโน้ต อุดม นักแต่คราวนี้ต้องขอยืมคำพูดเค้ามาสักหน่อยว่า "หนังดีคือหนังที่เราชอบ" เรายกสองมือ เห็นด้วยครับ
Always sunset on the third street เป็นหนังที่ดีจริง ๆ อีกเรื่องหนึ่ง แล้วมันก็ก้าวเข้ามาอยู่ ในทำเนียบหนังในดวงใจของเราไปแล้วด้วย เราบอกไม่ได้อีกเหมือนกันว่าดีตรงไหน บทลงตัว นักแสดงดี หรือว่าผู้กำกับเก่ง รู้แต่ว่าเมื่อดูจบ มันอิ่ม... ฉากที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นตอนนี้นักเขียนเอาเรื่องที่เด็กเขียนส่งไปสำนักพิมพ์แล้วได้ลงพิมพ์ แต่ปิดเด็กไว้ แล้วเด็กก็มารู้ว่าเป็นตอนที่ตัวเองแต่งไว้ เด็กคนนั้นถือหนังสือมายืนสะอึกสะอื้น ต่อหน้านักเขียน นักเขียนก็พยายามที่จะเสนออะไรให้หลาย ๆ อย่างเหมือนเป็นการแก้ไข ในสิ่งที่ตัวเองได้ทำผิด เด็กชายปฎิเสธทุกอย่างที่นักเขียนเสนอให้ แล้วพูดว่า "ผมไม่ต้องการอะไรเลย แค่ดีใจที่สิ่งที่ตัวเองเขียนได้ออกมาเป็นเล่ม และมาจากนักเขียนที่ตัวเองชอบ"
เด็กมองโลกได้ใสบริสุทธิ์ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ได้มองว่าได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ รู้แต่ว่ามันเป็นความสุขที่ได้รับมา โดยไม่ได้สนใจถึงที่มาว่าจะเป็นอย่างไร กลับกันเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เรากลับมามองที่ผลประโยชน์ก่อน ว่าเราต้องเสียอะไรไปเราถึงได้ความสุขนั้นมา แล้วค่อยมาหาความสุขจากประโยชน์นั่นอีกที บางทีการมองโลกแบบที่เด็กมองก็ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น
ว่ากันต่อเรื่องเหตุที่ทำให้ไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่รู้มานาน แล้วก็รู้ว่าหนังดี ทุกคนก็บอกหนังดี แต่เรายังเชื่อว่า Always ที่เราประทับใจมามันต้องดีกว่า ยิ่งพักหลังมี dvd ออกมา การเข้าไปที่เวป thaidvd มีคนพูดถึงแต่ Always แต่เป็นอีกหนึ่งอันไม่ใช่อันที่เราประทับใจ ความรู้สึกคล้าย ๆ กับว่ามันจะดีสักแค่ไหนกันเชียว แล้วก็มองข้ามมันไป
แต่พอมีโอกาสได้ดูจบ ความรู้สึกต่าง ๆ มันเปลี่ยน จากอคติที่มีตอนแรก มันหายไปหมด มีแต่ความชื่นชมว่าหนังดี หลังจากนั่นก็ถามตัวเองว่า ทำไมถึงเพิ่งมาอิ่มเอาตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มีโอกาสตั้งมากตั้งมาย
เพียงแค่เราปิดใจตัวเราเองไม่ให้ยอมรับ เราก็พลาดโอกาสที่จะได้ชื่นชมสิ่งที่ดี สิ่งที่สวยงาม และมุมมองใหม่ ถ้าเพียงเราเปิดใจ เปิดรับสิ่งต่าง ๆ เข้ามา แล้วค่อยพิจารณาว่าดีหรือไม่ ชอบหรือไม่
ขอบคุณ Always แรก คือหนังที่ประทับใจจนทุกวันนี้ Always หลัง คือหนังที่สอนใจอีกเรื่องหนึ่ง แล้วต่อไปนี้จะมีอีกกี่ Always กันนะ
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2549 14:55:01 น. |
|
15 comments
|
Counter : 551 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นางฟ้าสอบตก วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:15:43 น. |
|
|
|
โดย: oreocream วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:18:16 น. |
|
|
|
โดย: neppen (neppen ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:02:10 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:07:41 น. |
|
|
|
โดย: jengly วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:47:40 น. |
|
|
|
โดย: Matt (everything on ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:37:37 น. |
|
|
|
โดย: ZAZaSassY วันที่: 7 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:55:01 น. |
|
|
|
โดย: Always วันที่: 7 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:04:12 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 7 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:59:21 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 7 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:24:41 น. |
|
|
|
โดย: Always วันที่: 8 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:03:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ผมนะเหรอ? แค่คนธรรมดา มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง มีคนรัก มีคนเกลียด งี่เง่าบ้าง ตามใจตัวเองบ้าง บางทีก็คลุ้มดีคลุ้มร้าย บ่อยครั้งที่ทำให้คนอื่นผิดหวัง
ตัวอักษรเป็นเพียงสิ่งสะท้อนความคิด และมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ
...ทุกคนมีอดีต แต่ไม่ใช่ทุกคนจะอยู่กับอดีต...
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หนังบางเรื่องก็ทำให้เรายิ้มได้โดยที่เราไม่รู้ตัว
และโดยปราศจากความเข้าใจอะไรลึกซึ้ง
เห็นด้วยค่ะ
บางสิ่งบางอย่างไม่ต้องตา
ทำให้เราผ่านมันไปอย่างง่ายดาย
แต่พอเราให้โอกาสมันแสดงตัว
เราอาจพบว่า สิ่งๆนั้นมันถูกใจซะเหลือเกิน
เคยสงสัยนะคะว่าตัวเองเป็นคนขี้เบื่อ
แต่หนังที่ชอบบางเรื่องก็พูดถึงได้ไม่เคยหยุด
แล้วก็ยังดูซ้ำไปซ้ำมาได้บ่อยๆ
แค่เพียงเปิดใจจริงๆเนาะ