เวลาที่หายไป...กับความรู้สึกหลงรัก
เฮ้อ...ไม่ได้มีความหมายแต่ในทางไม่ดีของการถอนหายใจแต่เพียงอยากเดียว แต่สำหรับเราเป็นการปลดปล่อยความสบายที่อัดอั้นภายใน หลังจากที่ผ่านสัปดาห์หนัก ๆ ของการทำงาน ด้วยการโดยเรียกตัวด่วนไป กทม เพื่อเตรียมข้อมูลประชุม เสนองบ(จริง ๆ แล้วอยู่นี่ก็นำเสนอได้นี่นา) แต่เอาหละ เผื่อบางทีนายอาจจะอยากรู้ว่า ยังมีชีวิตอยู่มั้ย
การได้นั่งทอดอารมณ์ ชนิดปล่อยให้ไหม้เกรียมในเช้าวันเสาร์แบบนี้ จิบกาแฟ พร้อมชมวิวสวย ๆ ของเมือง พร้อมบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ทำให้นึกถึงชีวิตของการทำงานใน กทม ตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา ไม่เคยมีสักเช้าที่จะได้ตื่นขึ้นมาด้วยความไม่เร่งรีบ ทุกอย่างด้วยเร่งแข่งกับเวลา การออกจากบ้านสายไป 15 นาที อาจทำให้เข้างานช้าได้เป็นชั่วโมง ต่างกับการอยู่ที่นี่อย่างสิ้นเชิง ตื่นขึ้นมามีเวลาอ้อยอิ่ง ทำโน้นทำนี่สักพัก ก่อนที่จะอาบน้ำ แต่งตัวไปทำงาน ใช้เวลาเดินทางแค่ 15 นาที ถ้าเทียบกับที่กทม 15 นาทีจากบ้านยังออกไปไม่ถึงถนนใหญ่ด้วยซ้ำ ใช้เวลาอยู่ในรถ อย่างเร็วก็ ชั่วโมง อย่างช้า ก็ ชั่วโมงกว่า ๆ ยิ่งตอนเลิกงาน เสียเวลา สองชั่วโมงหากออกพร้อมกับชาวบ้าน ทุกอย่างวนเหมือนชีวิตในวงเวียน เช้ารีบไปทำงาน เที่ยงรีบแย่งกันกิน เย็นรีบแย่งกันกลับบ้าน วนอยู่อย่างนั้นมาหลายปี จนชินและไม่ได้คิดอะไรมาก
ที่ว่ามาเนี้ยไม่ใช่อะไรหรอกเพียงแต่นึกถึงเวลาที่หายไป ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่อยากทำ ได้อ่านหนังสือหลาย ๆ เล่มที่ซื้อมาดองไว้เป็นเดือนเป็นปี ไม่ได้หมายความว่าอยู่กทมแล้วจะทำไม่ได้นะ เพียงแต่ว่าพอถึงเวลามันมีอะไรอย่างอื่นเข้ามาให้เราทำอยู่ตลอดเวลา ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน สำหรับคนอื่นอาจจะบอกว่าอยู่ กทม ก็ทำได้ ไม่เห็นจะแตกต่างนั่นอาจเป็นเพราะว่าเราแบ่งเวลาหรือไม่ก็ ไม่รู้จักการจัดสรรเวลาก็เป็นได้
แต่ก็เอาเถอะตอนนี้ก็ได้เวลาที่หายไปกลับมาแล้ว แม้นว่าบางที่จะต้องแลกกับความเหงา หรือการที่ต้องอยู่คนเดียว บางทีก็เบื่อ บางทีก็ชอบกับการมีโลกส่วนตัว หลังเลิกงาน นอกจากสั่งข้าวแล้วก็แทบจะไม่ได้พูดกับใคร จนกลัวว่าน้ำลายจะบูดเอาเหมือนกัน จะให้โทรไปคุยกับใครบ่อย ๆ ทุกวันก็ไม่ใช่นิสัย ยังดีที่มีหนังสือ มี internet เป็นเพื่อนแก้เหงา
เวลาที่มีเข้ามาตอนนี้กับมีมากซะจนเกือบจะเหลือ นี่ก็หาเรื่องกับตัวเองว่าจะลงเรียน มศธ แล้วหละ กำลังตัดสินใจว่าจะเรียนอะไรดี ระหว่างเรียนสิ่งที่ตัวเองฝันอยากจะเรียนอยากจะเป็น หรือเรียนเพื่อเสริมความรู้เพื่อเอาไปใช้ในงานดี หาเรื่องจริง ๆ เลยเรา
การได้จิบกาแฟเช้า ๆ ได้ดูวิวเมืองสวย ๆ ได้นั่งคิดเรื่องเรื่อยเปื่อย ได้อ่านหนังสือที่ชอบในวันหยุดสบาย ๆ ได้ทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง รวมทั้งการนั่งคิดถึงชีวิตของใครต่อใคร และใครบางคนที่ป่านนี้ไม่รู้โบยบินไปถึงไหนแล้ว
เราว่า เราหลงรักชีวิตต่างจังหวัดแล้วหละ
คิดถึงไอ้ยุ้ย มันโทรมาหาเมื่อสองสามวันก่อน แล้วถามว่าได้ยินเสียงน้ำตกมั้ย เราก็นึกว่ามันไปเที่ยวน้ำตกที่ไปด้วยกันคราวก่อน ที่ไหนได้มันว่า หลังบ้านมันเอง เพราะมันอยู่นครสวรรค์ ยุ้ยเป็นเพื่อนอีกคนที่พาชีวิตตัวเองออกไปหางานทำที่ต่างจังหวัด เคยถามมันว่าไม่เบื่อเหรอที่ไปทำงานอยู่คนเดียวตามต่างจังหวัด ตอนนี้เราได้คำตอบแล้ว ^__^"
Create Date : 14 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 14 ตุลาคม 2549 11:42:00 น. |
|
4 comments
|
Counter : 530 Pageviews. |
|
|
|
โดย: opleee วันที่: 14 ตุลาคม 2549 เวลา:17:36:20 น. |
|
|
|
โดย: TsuTaYa วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:11:13:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ผมนะเหรอ? แค่คนธรรมดา มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง มีคนรัก มีคนเกลียด งี่เง่าบ้าง ตามใจตัวเองบ้าง บางทีก็คลุ้มดีคลุ้มร้าย บ่อยครั้งที่ทำให้คนอื่นผิดหวัง
ตัวอักษรเป็นเพียงสิ่งสะท้อนความคิด และมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ
...ทุกคนมีอดีต แต่ไม่ใช่ทุกคนจะอยู่กับอดีต...
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|