NIL SATIS NISI OPTIMUM, "nothing but the best is good enough"
เทศกาล tag

................. TAG .................

เอ้าขอบอกพ่อแม่พี่น้อง

ว่ากระผมก็มีคน tag เหมือนกัน

ขอแบบนี้ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยนะครับ

ตอนแรกก็จะไม่มีเรื่องอะไรจะมาเล่าให้ฟัง

เพราะความลับ ขืนบอกก็ไม่ลับ

อีกอย่าง ความลับที่คนหนึ่งไม่รู้ อีกคนหนึ่งอาจจะรู้ก็ได้

ดังนั้นเอาเป็นว่าจะบอกเล่าเรื่องราว ที่เพื่อน ๆ ในโลกไซเบอร์ไม่รู้แล้วกัน


...เรื่องแรก ตามองไม่เห็นสี ...

ครับผม เป็นคนที่ได้ยีนส์เด่นมาเต็ม ๆ

เรื่องตาบอดสีเนี้ยหละ ตอนเด็ก ๆ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเป็น

จนเรียนวิทย์ตอน ม.๑ แล้วมีการดูแผ่นทดสอบตาบอดสี

เคยเห็นมั้ยครับ ที่เป็นจุด ๆ หลาย ๆ สีแล้วมีตัวเลขอยู่ในนั้น

นั่นหละครับ ความจริงถึงได้กระจ่าย

คนอื่นมองเห็นเลขหมด ดช. โต้ง มองไม่เห็นซะงั้น

ตอนแรกก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจริงเหรอ แต่พอลองแล้วลองอีก

เออวะ บอดก็บอด แล้วงัย ช่างมันฉันไม่แคร์เว้ย

พอโตขึ้นมาหน่อยถึงได้รู้ว่ามันเป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวง

ตอน ปวช หนีเรียนไปตีสนุ๊ก ก็เฮฮา ๆ เพื่อนก็บอกว่า

" เอ้า โต้ง ตาเมิงแทงแล้ว "

ผมก็จรดคิว เล็งเหลี่ยม กะเช็ดแดงลงหลุมมุมอย่างสวยงาม

แล้วก็บรรจงปล่อยคิวอย่างนิ่มนวล เป็นไปตามที่คำนวนไว้ครับ

ผมเงยขึ้นมาสบตามกับเพื่อนพร้อมยักคิ้วให้ ประมาณว่า

"งัยกรูแม่นมะ สีมือเว้ย" ทุกคนในโต๊ะเงียบกริบ ตาโต

ผมคิดว่าทุกคนตะลึงงันในความสวยงามของลูกที่เพิ่งตบลงไม่เมื่อกี๊

แล้วเพื่อนคนหนึ่งก็เริ่มยิ้ม พร้อมกับปล่อยก๊ากกก อย่างดัง ขอย้ำครับ

"ไอ้เฮี้ยมโต้ง เมิงเล่นอะไร ไปตบช๊อคทำไม"

ผมก็ อ้าว ที่แทงลงไปนั่นเป็นลูกช๊อคเหรอ นึกว่าลูกแดง

ตั้งแต่นั้นมาเวลาแทงสนุ๊กด้วยกัน เพื่อน ๆ มันจะต้องเดินมาบอกผมว่า

ลูกไหนช๊อคครับ ไม่งั้น กติกาว่า ผมแทงผิด ไม่จ่ายเงิน อิอิ

หลาย ๆ คนยิ่งงงใหญ่ว่าขับรถได้งัย ขอบอกว่าลำบากมากครับ

กว่าจะได้ใบขับขี่มาเนี้ย ผมต้องย้ายทะเบียนบ้านทั้งหมด สี่จังหวัด

เพื่อที่จะทำใบขับขี่ ตั้งแต่ กทม สมุทรปราการ ชลบุรี สุดท้ายไปจบลงที่ยะลาครับ

เรื่องขับรถเนี้ยไม่มีปัญหา หลับตาขับยังถอยจอดได้เลยครับ (แต่ชนหรือเปล่าไม่รู้)

ที่ต้องย้ายหลายจังหวัดเนี้ยเพราะว่า ไปที่ขนส่งยังไม่ทันได้ขับรถเลยครับ

แค่บอกว่ามาสอบใบขับขี่ แล้วเค้าให้ทดสอบตาบอดสี ก็จบแล้วครับ

ไม่ผ่านตั้งแต่ด่านนี้แล้ว มาที่ยะลานี่หละครับถึงได้ผ่าน ที่ผ่านมาเนี้ยก็เพราะว่า

มีน้าที่อยู่ที่โน้นบอกว่าจะคุยให้ แต่พอไปสอบจริงก็ไม่ค่อยได้ช่วยเท่าไหร่

คือตอนไปสอบโชคดีว่ามีหลายคน เค้าเข้าแถวอยู่ก่อนหน้า ก็เลยจำเอาว่า

คนข้างหน้าพูดเลขอะไรไว้บ้าง พอตาเราปุ๊บก้อใส่ใหญ่ จนในสุดท้ายนี่หละครับ

ลืม...ซะงั้น คิดว่าบอกเลขผิด คนสอบเลยไม่ค่อยแน่ใจ

เลยไปยืนชี้จุดสี แดง เหลือ เขียว แบบนี้ก็สบายไปครับ

ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทีสีแบบนี้ผ่าน

แต่พอขับรถจริง ไฟแดง ไฟเหลือง แยกไม่ออกครับ

ถ้าใครมีโอกาสขึ้นรถที่ผมขับก็ระวังหน่อย หรือเตือนหน่อยก็ได้นะครับว่า ไฟแดง หมายถึงจอด



...เรื่องที่สอง...เคยใส่กระโปรงเรียนหนังสือ...

ตอนนั้นเรียนสักอนุบาลหนึ่งได้ครับ

เหตุเกิดที่โรงเรียน พัฒนวิทย์ ตรงซอยร่วมพัฒนา ตรงฝั่งธน

เหตุการณ์แน่ชัดจำไม่ได้ แต่คุ้น ๆ ว่าวันนั้นไปเรียนตามปกติ

แล้วก็มีเหตุที่ ทำให้ระบบขับถ่ายบกพร่อง อึรดกางเกง อิอิ

แหม เหตุการณ์ปกติสำหรับเด็ก ๆ หนะ อย่างคิดมากซิครับ

ไม่ใช่ผมคนเดียวสักหน่อย วันนั้นมีคนอึแตกตั้งสามสี่คนพร้อมกันจำไม่ได้

แต่ ดช. โต้งเป็นคนดวงดีสุดครับ อึแตกเป็นคนสุดท้าย

ตามปกติแล้ว โรงเรียนจะมีกางเกงสำหรับสำหรับเด็กอึแตกสองสามชุดครับ

แต่อย่างที่บอกครับ ผมโดนแจ๊กพ๊อต เป็นคนสุดท้ายของวัน

ไม่มีกางเกงให้เปลี่ยน แต่โชคดีครับ มีกระโปรงเหลือให้ใส่

แหม ก็ดีกว่าเป็น เด็กกระโจ๊เพี่ยว นั่งเรียนหนังสือใช่ป่าวอะ

ก็เลยแบบว่าอาศัยหน้าตาน่ารัก ถึงจะใส่กระโปรงก็เหอะ

แล้วตอนถึงเวลากลับบ้านน้ามารับก็ฮาแตกซิครับ

ผมเดินใส่กระโปรงกลับบ้าน...แหมติดใจจนป่านนี้ ม่ายช่ายละ



...เรื่องที่สามละ...เคยติดคุก...

ไม่ผิดหรอก ผมนี่หละครับติดคุกมาแล้ว โหดมะ

ข้อหาอะไรหนะหรือ.. ข้อหาเป็นเจ้าบ้าน จัดให้มีการเล่นการพนันครับ อิอิ

ตอนนั้นไปโดนจับที่บ้านพัทยาครับ แวะไปหาป๊าที่พัทยาเพื่อเอาใบสูจิบัตร

เพื่อจะไปมอบตัวที่เข้าเรียนที่พระนคร

แต่ดันอยู่ผิดที่ผิดเวลา เค้ามาตั้งวงเล่นไพ่กันที่บ้าน

เราก็เฉยด้วยความคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ (หมายถึงเรื่องในวงไพ่)

ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็วิ่งซื้อบุหรี่ ลิโพ ให้คนที่ตั้งวง หารายได้พิเศษมาเยอะ

พอไปเจออีกทีก็เฉย ๆ แถมห้องที่เค้าเล่นกันเปิดแอร์ด้วย

ก็เลยเข้าไปนอนซะมันเย็นสบายดีนี่นา

แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสีย กระแทกประตู พร้อมกับเสียงตะโกน

คุ้น ๆ หูว่า ตำรวจ ๆ ด้วยความอ่อนด้อยประสบการณ์

เลยทำตัวเหมือนนกกระจอกเทศครับ เคยเห็นมั้ยครับ

เวลาที่มันเกิดเหตุมันจะเอาหัวมุดดิน แล้วคิดว่าไม่มีใครเห็นมัน

เหมือนผมเลยครับ เอาตัวเองไปหลบในระหว่างฟูก

แล้วคิดว่าตำรวจที่บุกเข้ามาจะไม่เห็น แหะ แหะ

ความรู้สึกตอนนั้น แหมตื่นเต้นจนแบบ ระทึกสุด ๆ

ในขณะที่มีบางคนรอดไปได้ด้วยการปีนหน้าต่าง

แต่ส่วนใหญ่ไม่รอดครับ โดนหิ้วไปสังเต พัทยาครับ

เชื่อหรือไม่ ที่เค้าพูดกันเล่น ๆ เวลาเล่นไพ่ว่าถ้าถูกจับ

ขอขังรวม ไพ่หนึ่งสำรับเนี้ย มีจริงนะครับ

เพราะตอนที่ไปอยู่ในตาราง พวกนั้นก็ยังเล่นกันอยู่

ไม่รู้ไปหาไพ่กะเงินมาจากไหน แหมสุดยอด

ตอนสอบปากคำ ตำรวจถามว่าใครเป็นเจ้าบ้าน

ตัวเราเองก็ไม่รู้เรื่อง เลยบอก "ผมเองครับลูกเจ้าของบ้าน"

นั่นหละครับ ทำให้เป็นเจ้าบ้านโดยอัตโนมัติ

แต่ก็มีข้อดีนะครับ เพราะพอป๊ามาประกัน แล้ววันรุ่งขึ้นไปขึ้นศาล

ผู้พิพากษาถามว่า อายุเท่าไหร่ เราเลยบอกว่า 15

ท่านบอกว่า อายุไม่ถึง ลดครึ่งราคา ของค่าปรับปกติ อิอิ

เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้และไม่คิดจะหาอีกแล้วอะ


...เรื่องที่สี่...ปล่อยไก่ที่เมืองนอก...

เมื่อสักสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นมีบุญได้ไปเมืองนอก เมืองนากะเค้า

ภาษาก็เก่งแบบหางอึ่ง จะสั่งข้าวกินทีก็ลำบากแสนเข็ญ

จำได้ว่าเวลาไปกิน แม็ค หรือ เบอร์เกอร์คิง พูดได้ประโยคเดียวครับ

เม ไอ เฮป นำ เบอร์ ... แค่นั้นหละครับก็ได้กินแล้ว

แต่ตอนนั้นดันไปเจอ ฝาหรั่งแสนรู้ ดันมาถามต่อว่า

ดู ยู วอน มิล เราก้องงดิ อะไรวะ อยู่ ๆ ถามว่าจะอยากได้นมป่าว

เราก้อมั่นใจมาก เยส..เต็มปากเต็มคำ อิอิ

เค้าก็จัดอาหารมาให้ครับแต่ไม่เห็นได้นมเลย ได้เป็นตุ๊กตามาแทนหนึ่งตัว

เราก็รออยู่ เลยถามว่า แว มาย มิล เค้าก็บอกว่า นี่งัย แล้วก็ชี้ไปตุ๊กตา

เราก็ไม่ใช่นมนี่หว่า แต่ก็แบบคุยต่อไม่รู้เรื่อง เลยเดินออกมาด้วยความข้องใจ

มีอีกวันหนึ่ง ไปดูหนัง ทั้ง ๆ ที่ภาษาก็ห่วยมากแต่กระแดะ อยากเข้าโรงหนังเมืองนอก

พอเข้าไปปุ๊บ เกิดอาการอยากบุหรี่ แต่ในโรงหนังมันไม่มีที่ให้สูบอะ

ถ้าอยากจะสูบต้องออกไปข้างนอกอย่างเดียว เลยเดินไปที่คนเก็บตั๋วครับ

แล้วถามว่าจะออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกได้ป่าว คนเก็บตั๋วพยักหน้าหงึก ๆ

แล้วบอกว่า "โก อะเฮด" เราก็อ้าวเวรละ มันแปลว่าอะไรวะ

โก = ไป อะเฮด=ข้างหน้า ไปข้างหน้า

ไปไหนวะ ข้างหน้าก้อประตูแล้วอะ จะให้ไปถามใครอีก

สักพักมันก็พูดอีกว่า โก อะเฮด เราก็ฟอร์มแบบรู้เรื่อง โอ เค ๆ

แล้วก็เดินออกไปข้างนอก แหม กลับมาถึงบ้านถามอาว่า

โก อะเฮด แปลว่าอะไร ถึงได้ถึงบางอ้อ... เรื่องนี้แบบอายนะเนี้ย ๆ

ความรู้น้อยความมั่นใจสูงเสมอเลยเรา



เอ้า ...เรื่องสุดท้ายละ แฟนคนแรก...

อันนี้ไม่มีอาราย แค่อยากเล่าว่าแฟนคนแรก

ชื่อจูน ลลิดา สังหวณิชา

เค้าอาจไม่เรียกเราว่าแฟน แต่เราขอเรียกเค้าว่าแฟนหละ

มันเป็นความรักแบบเด็ก ๆ ที่ประทับใจอะเลยอยากแบ่งปัน

เพราะเคยไปดูหนังด้วยกันครั้งเดียว แถมหนังโรแมนติกด้วย

เรื่อง Black Draft ที่เกี่ยวกับไฟไหม้อะ วู้ โมแรนติกโคตร

เกิดขึ้นแบบสั้น ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ประทับใจจนทุกวันนี้

แม้นอยากเจออีกสักครั้ง ก็ไม่มีโอกาสแล้ว

เพราะไม่รู้ว่าหายไปอยู่ไหนแล้ว แค่นี้ดีกว่าเนอะ




ไม่ tag ใครต่อนะครับ
เพราะไม่รู้จะให้ใครต่อดี
อ่านดูขำ ๆ นะคร๊าบบบบพี่น้อง
ขอให้สนุกสนานกับเทศการ แทค ครับ




Create Date : 14 มกราคม 2550
Last Update : 14 มกราคม 2550 23:45:36 น. 10 comments
Counter : 547 Pageviews.

 
555+

อ่านแล้วหัวเราะทุกเรื่อง...ดีใจที่เอา Tag มาฝากที่บล็อกนี้ (ไม่เสียทีที่เคยโหวตให้)...เหอ ๆ
ว่าแต่โควต้ายังเหลือจะรับเพิ่มอีกมั้ยจ้ะ(ถามเหมือนพนง.เซเว่นเลยเนอะ...)
แต่แม่เคยสอนไว้ว่าตักบาตรอย่าถามพระนี่หน่า

เอาไงดี...ไปนอนก่อนแล้วไว้ตัดสินใจวันหลังดีกว่า...หุ หุ


โดย: All bread วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:0:40:42 น.  

 
ลืมไป...ข้อสุดท้ายนี่ลงทั้งชื่อเล่น ชื่อจริง นามสกุลจริง...มันเหมือนประกาศหาคนหายเลยนะเนี่ย...
ขาดก็แต่รูปอย่างเดียวอ่ะ...


โดย: All bread วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:0:44:29 น.  

 
แหมว่าจะย่องเข้ามา TAG หมดเหยื่อไปอีกหนึ่ง

เมื่อเดือนก่อนไปตรวจร่างกาย มีการวัดสายตาแล้วก็อ่านเลขที่เป็นจุด ๆ สี ๆ พยาบาลเปิดไวมาก ๆ อ่านไม่ทัน เลยพลิกไปพลอกมาจนงง ไม่รู้ว่าเขาจะเขี่ยไปพวกตาบอดสีรึป่าว

ภาษาอังกฤษนี่ไม่กระดิกกระเดี่ยเท่าไหร่เหมือนหัน แต่กำลังพยายามอยู่ ติดคุกนี่ไม่เคย แต่ใส่กระโปรงเนี่ยใส่ไปทุกวันเลยคะ อ้อ ยกเว้นวันเรียนพละ

เล่นประกาศชื่อนามสกุลเลย ไม่แน่นะ โลกอาจกลม มาเจอกันบนบล็อกอีกทีก็ได้

ว่าแล้วก็เครียด หาคน TAG ต่อไม่ได้


โดย: ZAZaSassY วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:18:38:38 น.  

 

เข้ามาอ่านหลายรอบแล้วนะคะ คุณโต้ง
ดีแล้วล่ะ ที่นั่งเครื่องไปภูเก็ต ตาบอดสีแล้วยังจะดื้อขับรถรถทางไกลอีก อันตรายนะตะเอง ถึงจะชินก้อเหอะ
ไอ้บิลล่ง บิลเลียด สนุ๊กสเน๊อก การพนันขันต่ออ่ะ เลิกซะนะ ขอให้มันเป็นแค่ อดีตที่เคยผ่านเข้ามา .. ให้มันจากไปเถอะนะ จากไปไกลๆเลย

ปล.เราไม่ชอบอบายมุขทุกชนิดนะ รวมถึงเหม็นบุหรี่ด้วย ก้อเตือนๆกัน เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อน ... แต่ทำไม่ทำ ก้อแล้วแต่เจ้าตัวแล้วล่ะ เราบังคับใครไม่เป็น และไม่คิดจะบังคับใครด้วย

......แค่อยากบอกกล่าวตักเตือนกันเท่านั้นเอง......




โดย: ดาวทะเล วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:9:30:54 น.  

 
หุหุ แอบเข้ามาอ่าน
เรื่องราวน่ารักดีนะครับ


โดย: redistuO วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:10:38:40 น.  

 
หุหุ แอบเข้ามาอ่าน
เรื่องราวน่ารักดีนะครับ


โดย: redistuO วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:10:39:03 น.  

 
เลยหายเงียบไปเลยนะ
ไม่ส่งข่าวบ้างเลย
คนเรา


โดย: ดาวทะเล วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:1:49:38 น.  

 
ชอบเรื่องสอบใบขับขี่มากเลยค่ะ ดูๆแล้ว เหมือนตัวเองตอนไปสอบ แต่เราแค่สายตาสั้นนะ ไม่ได้ใส่แว่น กัวเค้าไม่ให้สอบ วิตกมากไปรึเปล่าไม่รู้ ตอนให้ไปยืน บอกสีแต่ละสีนี่ เพ่งนานมากกก และก็อาศัยคนก่อนๆ เราเหมือนกัน อิอิ


โดย: she will be loved (She will be loved ) วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:19:16:41 น.  

 
แวะมาอ่านความลับน่ะ

มีความสุขมาก ๆ จ๊ะ

หายไปนานเลย.........


โดย: Link_conner55 (Link_conner55 ) วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:0:08:26 น.  

 
อ่านไปยิ้มไปค่ะ...เล่าสนุกมากๆ


โดย: Halimeda Lover วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:19:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Always
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมนะเหรอ?
แค่คนธรรมดา มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง
มีคนรัก มีคนเกลียด
งี่เง่าบ้าง ตามใจตัวเองบ้าง
บางทีก็คลุ้มดีคลุ้มร้าย
บ่อยครั้งที่ทำให้คนอื่นผิดหวัง

ตัวอักษรเป็นเพียงสิ่งสะท้อนความคิด
และมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ
ในช่วงเวลานั้น ๆ

...ทุกคนมีอดีต แต่ไม่ใช่ทุกคนจะอยู่กับอดีต...

Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Always's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.