เป็นแค่เพียงคนของความเหงา มีค่าแค่ตอนที่เหงา เมื่อไม่มีใคร ก็เท่านั้น
<<
สิงหาคม 2549
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
20 สิงหาคม 2549
 
 

คนไม่สำคัญ

คนไม่สำคัญ

หวัดดี ครับ กระผม นายนพ ครับ เพื่อนรักเพื่อนซี้ ของนายกฤษณะ คร้าบผม เราเคยเจอกันแล้วนี่ หลังจากที่ปล่อยให้เพื่อนรักเพื่อนซี้ เป็นพระเอกไปแล้วเรื่องนี้ ยายนักเขียน ก้อเลยส่งบทพระเอกมาให้กระผมบ้าง ส่วนตอนต่อไปของนายนะ นั้น ไปดูกันครั้งหน้านะคร้าบ
ส่วนเรื่องของผมมันมีอยู่ว่า “ไม่ต้องบอกใคร ๆ เค้าก้อรู้แล้วว่านายปิ๊งยัยปออยู่น่ะ เข้าเรื่อง ๆ ยายนักเขียนจะได้มาแต่งเรื่องชั้นต่อเร็ว ๆ” น้าน เสียงนายกฤษณะ ยังอุตส่าห์ ตามมาหลอกหลอนอีก แต่อย่างที่มันบอกล่ะครับ ผมปิ๊ง ปอ แต่สาวเจ้าไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจผมเลย นอกจากมองด้วยหางตาอย่างรำคาญเสียอย่างนั้น แต่สำหรับผม ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
แต่จะว่าไป พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ไอ้กระผมนั้นแม้จะหวังครองดอกฟ้าสักปานใด ดอกฟ้าก็คงไม่โน้มลงมาหาหรอกกระมังครับ ชายไทยผู้มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ไม่หล่อ แต่จน อย่างกระผมการเรียนก็แค่พอเอาตัวรอดไปได้เทอม ๆ หนึ่ง (เฝ้ามองดอกฟ้า วันนี้ไม่กล้าจะมอง เพราะพี่จนต้อยต่ำ ถูกคนงามหยามหมิ่น ว่าศักดิ์ศรีเพียงกา ซ้ำมีค่าเพียงดิน) ครับ คุณ ๆ เดากันไม่ผิดหรอกครับกระผม จริง แล้วผม แอบรัก แอบฝันถึง สาวแอ หวานใจนายกฤษณะ มาตั้งแต่ต้นจนจบ ไอ้ที่ทำตัวเป็นพระรอง ร้องไห้ เป็นผู้ช่วยพระเอกมานานนั้นไซร้ ใจจริงแล้วก้ออยากใกล้ชิดเธอด้วยเหมือนกัน อ่ะ ๆ ท่านผู้อ่านอย่าว่ากระผมหลายใจนะครับ สาวปอนั้น ผมต้องทำทีทำท่าว่าสนใจ มิเช่นนั้น แล้วไอ้นายกฤษณะเพื่อนเลิฟ ได้สงสัยตายล่ะ แต่จะว่าไปแล้ว ปอเองก็น่ารักนะครับ เธอช่างเอาใจ (ทุกคนยกเว้นผม) สังเกตสังกาเป็นที่หนึ่ง อะไรที่ผิดปกติเธอรู้หมด ผมเลยต้องไปตามน้ำนะครับ จีบก็จีบวะนั้น แบบว่าเผื่อฟลุคไงครับผม แต่ว่า ช่วงนี้ผมว่าผมชักจะเจออะไรแปลก ๆ เข้าให้แล้วล่ะสิ
“นพ นพจ๋านพ วันนี้ว่างป่ะ มารับแอ หน่อยสิ วันนี้ไม่มีซ้อมน่ะ แอ อยากกลับบ้านเร็ว” “งั้นผมตามไอ้ณะ ให้นะ ว่าแต่แอ ทำไมไม่โทรเข้าเครื่องไอ้นะล่ะ” ไม่เอาล่ะ แอ อยากให้นพไปส่งนี่” แค่นี้นะ อย่าลืมมารับแอด้วยล่ะ ที่หน้าตึกนะจ้ะ แอ จะรอแล้วกัน อ่ะ ห้ามปฏิเสธ แอรู้น้า ว่าวันนี้นพไม่มีเรียนแล้วน่ะ” พูดเสร็จเธอก็วางไป นี่แหละครับเรื่องแปลก ๆ ของผม วันนี้เพิ่งจะวันพุธเอง แต่อาทิตย์นี้เธอโทรมาสั่งให้ผมไปรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว แฟนเพื่อนนะครับ แฟนเพื่อน แถมกระผมก็กำลังจะขยับมาเป็นแฟนเพื่อนเธอเสียด้วย (เมื่อไรไม่รู้) แล้วผมจะทำยังไงล่ะครับ ไอ้ครั้นจะไม่ไปรับก็ เฮ้อ เอาเป็นว่าคนอ่านห้ามไปฟ้องนายกฤษณะ นะคร้าบ ไปละ ขอตัวไปส่งแฟนผม เอ้ยแฟนเพื่อนก่อนนะครับ

“แอยังไม่อยากกลับบ้าน นพพาแอไปเที่ยวหน่อยสิ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเศร้า สร้อย ทำให้ผมมองเธออย่างงุนงง แต่ก็ตามใจเธอในที่สุด ด้วยร้านบรรยากาศ สุกแสนโรแมนติกเท่าที่ผมจะหาได้
ลมฤดูร้อน พัดเอื่อย ๆ พาละอองน้ำจากน้ำพุขนาดใหญ่ มาปะทะร่างกาย ทำให้เราสองคนดูสดชื่นขึ้น “บรรยากาศดีจังนะ ทำไมแอไม่เคยแวะเลยก็ไม่รู้สิ” ร้านส้มตำริมทะเลสาบในสาวนสาธารณะใจกลางเมือง ห่างจากวิทยาลัยของพวกเราไม่ไกลเท่าใดนัก แถมยังเป็นทีที่เราต้องผ่านมันทุกวันทั้งตอนไปเรียนและตอนกลับบ้าน “จะบอกไว้เลยนะครับแอ ว่าปกติผมก็ไม่เคยมาตอนกลางวันเหมือนกันนะครับที่นี่ พวกผมมากันแต่กลางคืน ร้านนี้แหละครับ มากันที 6-7คน นั่งล้อมวง ก๊ง กันจนดึก สว่างก็เคยมีมาแล้ว” ผมเล่าให้เธอฟัง เธอทำท่าทางไม่เชื่อ แถมตบท้ายด้วยว่า แต่ไม่มีไอ้ณะหรอกนะครับ มันน่ะเด็กอนามัย หลับตั้งแต่ยังไม่ 4 ทุ่มด้วยซ้ำ ครับด้วยความกลัวเพื่อนจะเสียคะแนนนิยม นั่นส่งให้เธอยิ้มเก๋มาเลยทีเดียว “แอ ก็ว่างั้น ณะคงไม่มาที่แบบนี้แน่เลย” เธอพูดอย่างนึกเห็นด้วยกันกับผม “อ่ะส้มตำมาแล้วจ้ะเด็ก ๆ จานนี้ไม่เผ็ดของหนูจ้ะ ส่วนนี่นพ นี่ของเรา พริก 10 เม็ด ป้าตำมาให้โดยเฉพาะ” ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก โชว์สาวทั้งทีนะป้า “ท่าทางนพจะมาที่นี่บ่อยนะ ดูสนิทกันดีจัง” “ป้าแกรักผมมากกว่าลูกแกอีก” อย่าไปบอกใครแล้วกัน “ท่าทาง น่าอร่อยเนอะ แอ ไม่ได้ทานมานานมากแล้วล่ะ ตั้งแต่เป็นแฟนกับเพื่อนนพ นั่นแหละ” ลองชิมดูแล้วกัน อร่อย ไม่อร่อย ก็ห้ามตินะ ไม่งั้น เดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้ไม่รู้ด้วย” ผมลองแซวเธอเล่น ด้วย ฟังดูน้ำเสียงของเธอช่างเศร้า เสียเหลือเกิน อยากเห็นเธอมีความสุขบ้าง ได้ผลเสียด้วย เธอยิ้มนิดนึงแล้ว “อือม ทำไม วันนี้แอ ถึงไม่ให้ นะ ส่งกลับบ้านล่ะ ทำไมถึงให้เรามาแทน ถ้าจำไม่ผิด นะ มันก็ว่างนี่นา” ผมถามเธอในช่วงหนึ่งของการสนทนา นั่นทำให้บรรยากาศ ระหว่างเราดูจืดเจื่อน ไปเสียสนิท “แอ เอ่อ แอ” เธอพูดได้แค่นั้นแล้วก็เอาแต่นิ่งไป “ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดหรอก เอาเป็นว่าเราจะพยายามเข้าใจแล้วกันนะ”ผมบอกพลางยื่นมือไปจับมือเธอกุมไว้ “อะไรที่ไม่เข้าใจกัน ก็เคลียร์ ๆ กันซะ ณะมันอาจจะเจ้ากี้เจ้าการอะไรมากไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะว่ามันรักแอมากนะ” ผมบอกพลางมองใบหน้าที่น้ำตาคลอหน่วยของเธอ “เหมือนที่นพ เจ้ากี้เจ้าการ เป็นพ่อสื่อให้ณะ มาจีบแอ มารักแอ ใช่ไหม” เธอถามพลางพลิกมือมากุมมือของผมไว้ก่อนที่ผมจะทันชักมือออก พร้อม ๆ กับจ้องหน้าผมไว้ ด้วยดวงตาที่คลอไปน้ำตาคู่นั้น ผมต้องหลบสายตาของเธอ เธอรู้ได้อย่างไรกัน เรื่องนี้เป็นความลับที่ผมคิดว่ามันจะตายไปกับกาลเวลาเสียอีก เธอไม่ยอมให้ผมหลบสายตาเธอได้นานนัก มือข้างที่ว่างของเธอ มาจับหน้าผมให้มองสบสายตาเธอ “บอกแอสินพ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นพจีบปอ ทำไมทั้งที่นพก็ชอบแอ อยู่อย่างนี้น่ะ หือม ทำร้ายคนอื่น มันบาปรู้ไหม แล้วผลักแอไปให้ ณะทำไม” เธอถามผม “ก็ปอไม่มีใคร และที่สำคัญ ณะชอบแอด้วย” ทำแบบนี้คนที่มีความสุขคือณะคนเดียว นพคิดว่าปอมีความสุขหรือ ปอน่ะ รู้ทั้งรู้ว่า นพชอบแอ แต่นพก็ยังจะจีบปอ และที่สำคัญ แอไม่ได้รักณะ หรอกนะ ปอต่างหากที่รักณะ ไม่ใช่แอ ซักหน่อย” เธอพูดมายืดยาว ทั้งๆ ที่ ไม่จำเป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะสมองผมมันไม่สั่งการมาตั้งแต่เธอบอกว่าเธอรู้แล้วว่าผมชอบเธอ “เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว นพลองคิดซิ ว่า นพจะยังทำร้าย พวกเราอยู่ไหม ไม่ได้อยู่กับคนที่รัก มันก็เจ็บแล้วนะ แต่ว่า อยู่กับคนที่ไม่รักมันยิ่งเจ็บกว่าอีก แอ ทำแบบนี้หวังว่านพ คงเข้าใจนะ” เธอพูด พร้อม ๆ กับที่ปล่อยมือออกจากตัวผม ความเงียบระหว่างเราทั้ง ๆ ที่มันเพียงเสี้ยวนาที แต่ผมรู้สึกว่ามันนานชั่วกัปชั่วกัลป์ ลองคิดดูสิว่า การที่คนที่เรารักมานานสองนาน วันหนึ่งเขาลุกขึ้นมาบอกเราว่าฉันรู้นะว่าเธอรักฉัน มันให้ความรู้สึกแบบไหน ผมเองไม่ได้รู้สึกต่างจากนั้น ที่สำคัญ เธอไม่ได้บอกว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับผม เธอบอกแต่ว่าเธอไม่ได้รักเพื่อนของผมซึ่งปัจจุบันเป็นแฟนของเธอ

“เอ่อ” เราทำลายความเงียบขึ้นมาพร้อมกัน ผมสบสายตาเธอ “แอ พูดก่อนเถอะ” “กลับกันเถอะ เย็นมากแล้ว” เธอกล่าว “อือ เรากำลังจะถามแอว่า อิ่มหรือยังจะได้กลับบ้านเสียที”
ระหว่างทางนั้น เราเงียบกันไปตลอดทาง จนกระทั่ง ถึงบ้านของแอ
“ขอบใจนะที่มาส่งแอ สัญญาได้ไหม หากเรื่องที่แอพูดไปวันนี้มันไม่ได้มีอะไรสำคัญสำหรับนพเกินเลยไปกว่าความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเรา เราจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” “เอ่อ คือ เอ่อ” “แอแค่ต้องการคำยืนยันว่า สำหรับนพแล้วคนที่สำคัญกับใคร ๆ อย่างแอ แต่ไม่มีความหมายความสำคัญอะไรกับนพเลย หลังจากวันนี้เป็นต้นไป อย่างน้อยแอก็มั่นใจได้ว่า เรายังมีคำว่าเพื่อนเป็นตัวเชื่อมอยู่ “แม้จะแอบหวังเล็ก ๆ ว่านพจะอยากเป็นมากกว่าเพื่อนกับแอนะ” เธอพูดจบแล้วก็หันหลังเดินจากไป สมกับที่เธอเป็นนักพูดจริง ๆ ปิดประตูหนีตายของผมทั้งหมด ผมไม่ได้ตอบอะไรเธอ แต่ คำพูดของเธอ ทำให้ผมคิดมาก ๆ มากเป็นพิเศษ
1. ผมไม่ได้รักยายปอ ผมจึงไม่ควรจีบยายปอ อันนี้รู้อยู่แล้ว แต่เผื่อฟลุคไง
2. แอบอกว่าเธอไม่ได้รักเพื่อนผม งั้นเธอชอบใคร ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไป ผมคือคำตอบในแววตาเธอ
3. ที่สำคัญเธอรู้ว่าผมชอบเธอ ได้ยังไง ช่างเถอะ เอาเป็นว่าตอนนี้เธอรู้แล้ว
4. สำคัญที่สุด อีกอย่างคือ กฤษณะเป็นเพื่อนรักที่มีบุญคุณกับผมมาก ๆ ผมสอบเข้าเรียนที่นี่ได้ก็เพราะมัน ที่เรียนได้แบบนี้ก็เพราะมัน จะให้ผมหักหลังเพื่อน ได้อย่างไร แต่ ทำร้ายคนอีก 2 คนมันก็ผิดเหมือนกัน ผมจะทำอย่างไรดี

“เป็นไรไปฮะนพ ชั้นว่า พักนี้ดูแก เครียดจังวะ สอบก็ไม่มี หรือเรื่องเงินฮะ เอาที่ชั้นไปก่อนก็ได้” นี่ล่ะครับเพื่อนผม น้ำใจมันมี เท่าที่เพื่อนที่ดีที่สุดคนนึงจะให้ได้ แล้วผมจะทำยังไงดีกันล่ะ คนนั้นก็รัก คนนี้ก็รัก กลายเป็นว่าม้านอกสายตาอย่างผมจะเป็นตัวแปรสำคัญระหว่างความรักของคนสองคนหรือครับ ผม ควรทำอย่างไรดีกันล่ะครับท่าน ผุ้อ่าน




 

Create Date : 20 สิงหาคม 2549
0 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2549 15:27:02 น.
Counter : 563 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

alonywoman
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add alonywoman's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com