The Prestige
‘โทสะ’ กับ ‘ภารกิจ’

พล พะยาบ

---

เพราะ “ปมเงื่อน” ที่ อัลเฟรด บอร์เดน ก่อไว้ระหว่างการแสดงมายากลครั้งหนึ่ง

เป็นจุดเริ่มของความขัดแย้งไร้ทางคลี่คลายระหว่างเขากับ โรเบิร์ต แองเจียร์ ผู้สูญเสียภรรยาเนื่องในเหตุการณ์ดังกล่าว

เมื่อไม่อาจอยู่ร่วมกัน อดีตลูกมือในคณะมายากลทั้งสองคนจึงต่างแยกย้ายไปตามทางของตนเอง ต่างคนต่างมุ่งหวังจะก้าวไปเป็นนักมายากลชั้นนำแห่งลอนดอนยุคปลายศตวรรษที่ 19

แองเจียร์ได้วิศวกรชรานาม คัตเตอร์ ที่เคยร่วมงานกันมาก่อน คอยประดิษฐ์คิดค้น “กลไก” ใหม่ๆ ในการแสดง

ขณะที่บอร์เดนมี ฟอลลอน บุรุษลึกลับเป็นผู้ช่วย

แม้จะแยกเส้นทางเดิน แต่เพราะการช่วงชิงความเป็นหนึ่งทำให้คนทั้งสองยังคงเดินทับเส้นทางกันและกันเสมอ และเมื่อสุมด้วยความชิงชังแล้ว สถานการณ์ได้เปลี่ยนเป็นการจ้องทำลายเส้นทางของอีกฝ่าย

ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นเท่าใด ระดับการตอบโต้กันยิ่งหนักหน่วงรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างคิด “กลอุบาย” ให้อีกฝ่ายตกหลุมพราง โดยมี “การย้ายร่าง” เป็น “มายากล” ชุดพิเศษที่ใช้ตัดสินชัยชนะและความเป็นหนึ่ง

“การย้ายร่าง” ที่อย่างไรก็ไม่มีทางได้ร่างสมบูรณ์แบบ ในเมื่อคนหนึ่งเป็นคนพิการขา ขณะที่อีกคนสูญเสียนิ้วมือ




นอกจาก “ปมเงื่อน” ที่บอร์เดนก่อไว้จะเป็นเหตุให้ภรรยาของแองเจียร์เสียชีวิต ทั้งยังเป็นชนวนสงครามระหว่างนักมายากลหนุ่ม 2 คนแล้ว

“ปมเงื่อน” ดังกล่าวยังร้อยรัดแน่นหนาต่อเนื่องจนนำไปสู่การสูญสิ้นอีกหลายชีวิต

คือ “ปมเงื่อน” ที่ “แขวนค้าง” ชีวิตของครอบครัวหนึ่ง และ “จมร่าง” ชีวิตของอีกหนึ่งครอบครัว

อย่างไรก็ตาม แม้ความขัดแย้งในอดีตจะเป็นชนวนให้แองเจียร์กับบอร์เดนห้ำหั่นทำร้ายกัน แต่ในฐานะ “นักมายากล” แล้ว ทั้งสองมีแรงขับที่แตกต่างกัน


หลังจากภรรยาเสียชีวิต แองเจียร์หันหลังให้กับวงการมายากล แต่เพราะคำชักชวนเกลี้ยกล่อมของคัตเตอร์ ทำให้แองเจียร์หวนคืนสู่เวทีโดยรับบทบาทนำแสดง

กระนั้น จุดเริ่มต้นอาจไม่มีความหมายใดๆ ต่อการมุ่งมั่นเดินหน้า ถ้าแองเจียร์ไม่ได้คิดแก้แค้นเอาคืนศัตรูผู้พรากภรรยาไปจากเขา

ความโกรธแค้นคือแรงขับที่พาให้แองเจียร์เลียนแบบการแสดงชุดพิเศษของบอร์เดนจนตนเองต้องพิการ ผลักไสคนที่รักเขา พาตนเองข้ามมหาสมุทรไปยังต่างแดน กระทั่งต้องตกอยู่ในห้วงทรมานครั้งแล้วครั้งเล่า

ขณะที่บอร์เดนนั้นต่างออกไป เขามุ่งมั่นกับการเป็นนักมายากลตั้งแต่แรก เขาหายใจเข้า-ออกเป็นวิธีล่อหลอกให้ผู้ชมตะลึงงัน ริเริ่มการแสดงแปลกใหม่แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง

การได้เห็น ชุง หลิง ซู นักมายากลชาวจีน ที่ยอมเสียสละทั้งชีวิตเพื่อการแสดง ทำให้บอร์เดนเรียนรู้ว่าการจะเป็นนักมายากลผู้ยิ่งใหญ่ได้ต้องแลกด้วยชีวิตเท่านั้น

ไม่แปลกที่บอร์เดนจะถือเอา “ความลับคือชีวิต” เป็นคติประจำตัว

คือชีวิตของนักมายากลผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ชีวิตของบอร์เดนผู้มีภรรยาและลูกน้อย




มีกลหนึ่งซุกซ่อนอยู่ซึ่งบ่งบอกได้ถึงแรงขับอันแตกต่างของแองเจียร์และบอร์เดน

แองเจียร์ ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Angier ต่างจากคำว่า Anger ซึ่งแปลว่า “โทสะ” เพียงแค่มีอักษร I แทรกเข้ามา

บอร์เดน ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Borden ต่างจากคำว่า Burden ซึ่งแปลว่า “ภารกิจ” เพียงแค่เปลี่ยนอักษรจาก U เป็น O

ทั้งแองเจียร์ (Angier) ผู้สุมความโกรธ (Anger) ไว้ในใจ ทำทุกสิ่งโดยเอาตนเอง (I) เป็นใหญ่

กับบอร์เดน (Borden) ผู้ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อการเป็นนักมายากลราวกับเป็นภารกิจ (Burden) จนคนอื่น (U) มีค่าเป็นสูญ (O)

...จึงไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย

เหมือนเช่นการแสดงบนความหลอกลวง หลังสิ้นสุดกลชุดสุดท้าย...ดวงไฟจะจ้องจับไปยังนักมายากลหนึ่งเดียวบนเวทีเสมอ

---

นักมายากลจีนที่ชื่อ Chung Ling Soo
เจ้าของกล “โถปลาทอง” มีตัวตนจริงหรือไม่

คำตอบคือ มี แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว

ข้อเท็จจริงคือมีนักมายากลชื่อ Chung Ling Soo แสดงกล “โถปลาทอง” ที่อังกฤษ แต่เขาไม่ใช่ชาวจีน หากเป็นชาวอเมริกันชื่อ William Ellsworth Robinson(1861-1918)

ดูจากปีเกิดแล้ว เขาควรเป็นชายวัยกลางคน ไม่ใช่วัยชราแบบในหนัง

ไม่เพียงเท่านั้น William Ellsworth Robinson หรือในชื่อ Chung Ling Soo นี้ มีเบื้องหลังว่าเขาสวมรอยเป็นนักมายากลชาวจีนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักมายากลชาวตะวันออกคนแรกที่โด่งดังระดับโลก และเป็นเจ้าของกล “โถปลาทอง” ตัวจริง

ชายชาวจีนผู้นี้มีชื่อว่า Ching Ling Foo

การสวมรอยเริ่มต้นเมื่อครั้ง Ching Ling Foo (1854 - 1922) ไปเปิดการแสดงที่สหรัฐอเมริกาในปี 1898 เขาตั้งเงินรางวัล 1,000 เหรียญ สำหรับผู้ที่สามารถเลียนแบบกล “โถปลาทอง” ของเขาได้ โดยตั้งใจว่าจะไม่จ่ายเงินออกไปจริงๆ

ดังนั้น เมื่อ William Robinson ชายชาวบรู๊คลินที่มีอาชีพแสดงกลสามารถเลียนแบบได้ Ching Ling Foo จึงปฏิเสธที่จะให้รางวัล

William Robinson หาทางเอาคืนด้วยการแปลงโฉมตนเองเป็นนักมายากลนาม Chung Ling Soo และอ้างว่าตนเองเป็นนักมายากลชาวจีนผู้โด่งดัง ทั้งยังเลียนแบบกลเด็ดๆ อื่นๆ ของ Ching Ling Foo ตระเวนแสดงไปทั่วรวมทั้งในอังกฤษ

ส่วนที่คล้ายกับเรื่องราวใน The Prestige คือ Ching Ling Foo กับ Chung Ling Soo เคยประชันโดยเปิดแสดงพร้อมๆ กันในต่างสถานที่ แบบเดียวกับเรื่องราวของแองเจียร์กับบอร์เดน โดยต่างฝ่ายต่างอ้างว่าตนเองเป็นนักมายากลจีนตัวจริง อีกฝ่ายเป็นตัวปลอม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ลอนดอน ฉากหลังของ The Prestige นั่นเอง

William Robinson หรือ Chung Ling Soo เสียชีวิตในปี 1918 ระหว่างแสดงกล “จับกระสุน” !!



ภาพประกอบจาก hk.geocities.com/chinesemagichistory/chinglingfoo
(ล่างซ้าย) โปสเตอร์ของ William Robinson หรือ Chung Ling Soo
(ล่างขวา) Ching Ling Foo กับฮูดินี

---

The Prestige เกี่ยวข้องกับ Last Days
หนังว่าด้วย เคิร์ต โคเบน ของ กัส แวน แซนต์?

ใน Last Days ฉาก long take ที่นักสืบนั่งรถมากับใครคนหนึ่ง บทสนทนาตลอดฉากนี้(ซึ่งคงเป็นการด้นสดของผู้แสดง) เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่าง Ching Ling Foo กับ Chung Ling Soo เรื่อยมาจนถึงการเสียชีวิตด้วยกล “จับกระสุน” ของฝ่ายหลัง

ผู้แสดงเป็นนักสืบและเป็นคนเล่าเรื่องนักมายากลใน Last Days คือ Ricky Jay

เขาคือคนเดียวกับนักมายากลที่แองเจียร์กับบอร์เดนเคยร่วมงานตอนเกิดเหตุโศกนาฏกรรม

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2549 23:33:42 น.		9 comments
Counter : 1197 Pageviews.
Share Tweet