Death Race 2000 หนังชื่อคุ้นๆ นี้คือต้นฉบับหนังรีเมคเรื่อง Death Race (2008) ที่ เจสัน สเตแธม แสดงนำนั่นเอง ออกฉายเมื่อปี 1975

ผลงานสร้างของ โรเจอร์ คอร์แมน ราชาหนังเกรดบี จากโครงเรื่องของเขาซึ่งดัดแปลงจากเรื่องสั้น "The Racer" ของ อิบ เมลเชียร์ (Ib Melchior) แต่เนื่องจากเห็นว่าโทนหนังที่ตัวเองร่างไว้ออกจะซีเรียสเกินไป จึงให้ โรเบิร์ต ธอม และชาร์ลส์ กริฟฟิธ ร่วมกันเขียนบทโดยปรับให้เบาลง ส่วนหน้าที่กำกับฯเป็นของ พอล บาร์เทล

ดารานำที่เป็นจุดขายหนึ่งเดียวคือพระเอกกังฟู เดวิด คาร์ราดีน แต่ถ้าสำหรับผู้ชมยุคหลังก็ต้องพ่วง ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ด้วยอีกคนในบทตัวร้าย (ก่อนที่เขาจะดังเปรี้ยงกับ Rocky ในปีต่อมา)





ฉากหลังเป็นยุคล่มสลายปี 2000 ประธานาธิบดีสหรัฐจัดแข่งรถระดับประเทศเส้นทางข้ามทวีปสุดหฤโหดซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องเสี่ยงอันตรายจากการประลองความเร็วไร้กฎกติกาจนมีผู้เสียชีวิตทุกปี ชัยชนะใช่เพียงลำดับการเข้าเส้นชัยเท่านั้น ผู้แข่งขันยังต้องเก็บแต้มระหว่างทางให้ได้มากที่สุด....ด้วยการชนคนตาย!

เช่น 10 คะแนนสำหรับการชนผู้หญิง วัยรุ่น 40 คะแนน เด็กเล็ก 70 คะแนน ส่วนคนแก่เกิน 75 ปี แต้มสอยดับเท่ากับ 100 คะแนน!

เป็นมหรสพโหดระห่ำที่ถ่ายทอดสดและมีผู้ติดตามชมทั่วประเทศ

ใน Death Race ฉบับรีเมค ชื่อ "แฟรงเกนสไตน์" นักขับใส่หน้ากากมือฉกาจที่ถูกอ้างถึงก็คือตัวละครเอกในหนังต้นฉบับ แฟรงเกนสไตน์ (คาร์ราดีน) เป็นคนที่ถูกรัฐฝึกให้เป็นนักขับรถแข่งโดยเฉพาะ เขาชนะการแข่งขันทุกครั้งจนเปรียบเหมือนฮีโร่ของชาติที่ประธานาธิบดีอุปโลกน์ขึ้นมา แม้จะประสบอุบัติเหตุทุกปีจนสูญเสียอวัยวะทั่วร่างกาย ส่วนเนวิเกเตอร์ที่ร่วมเดินทางก็ไม่เคยมีชีวิตรอดเลยสักครั้ง แต่คราวนี้แฟรงเกนสไตน์ยังกลับมาร่วมแข่งขันโดยได้เนวิเกเตอร์คนใหม่เป็นสาวสวยชื่อ แอนนี่

การแข่งขันใช้เวลา 3 วัน 3 รอบ จากฝั่งตะวันออกไปยังตะวันตก ผู้ร่วมซิ่งนรกมีทั้งหมด 5 คัน นอกจากแฟรงเกนสไตน์แล้ว อีก 4 คัน ประกอบด้วย "แมชีน กัน" โจ (สตอลโลน) ผู้เป็นที่สองมาโดยตลอด จึงเคียดแค้นแฟรงเกนสไตน์อย่างยิ่ง สาวคาวเกิร์ล "คาลามิตี้ เจน" สาวผู้มากับสัญลักษณ์นาซีชื่อ "มาทิลดา" และสุดท้าย "เนโร เดอะ ฮีโร่"

ท่ามกลางศพตายเป็นเบือและการขับเคี่ยวกันของรถแต่ละคัน ผู้เข้าแข่งขันยังต้องเผชิญกับกลุ่มกบฏต่อต้านประธานาธิบดีซึ่งไม่เห็นด้วยกับเกมอันป่าเถื่อน คอยวางกับดักกำจัดพวกเขาอยู่ตลอดเส้นทาง





จุดที่ต้องพูดถึงอย่างแรกคือ หนังอุดมไปด้วยฉากความรุนแรงประเภทขับรถไล่ชนคนบริสุทธิ์ ทับเละคาถนน ต่อด้วยอาการดีใจที่ทำแต้มได้ แม้ภาพที่ถ่ายทอดออกมาจะไม่ชัดเจนถึงขั้นเสียวสยอง รวมถึงโทนหนังถูกปรับให้เบาลงด้วยบุคลิกตัวละครบ้าๆ เว่อร์ๆ กับมุขตลกร้าย แต่เรื่องราวในหนังก็ดูโหดร้ายจนสัมผัสได้ เช่นมีฉากโรงพยาบาลพาคนแก่หลายคนมารอให้รถขยี้บนถนนเนื่องในวัน "ขอลาโลก" ประจำปี (โรเจอร์ อีเบิร์ต นักวิจารณ์คนดังให้หนังเรื่องนี้ "ศูนย์ดาว" โดยโจมตีเรื่องความรุนแรงเป็นหลัก)

อย่างไรก็ตาม โดยไม่ลืมว่านี่คือหนังเกรดบี exploitation ที่ขายทั้งแอ็คชั่น ความรุนแรง เซ็กซ์ จากสภาพที่ออกมาถือว่าหนังไม่ได้รุนแรงเลวร้ายจนเกินรับ หรือถ้าจะมองว่าหนังเอาความรุนแรงมาล้อเลียนอีกทีหนึ่ง เสียดสียุคเสื่อมของสหรัฐ ก็พอจะยกประโยชน์ให้จำเลยได้ยิ่งขึ้น

ส่วนที่ชอบมากๆ คืองานกำกับภาพของ ทัค ฟูจิโมโตะ มือดีที่มีผลงานดังๆ อย่าง Badlands (1973) The Silence of the Lambs (1991) รวมถึงหนังส่วนใหญ่ของ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน เขาทำให้หนังรถแข่งที่มีแต่รถ ถนน คนตาย กลายเป็นหนังที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้

ระหว่างดูเรื่องนี้ผมนึกถึง Rollerball (1975) ของ นอร์แมน เจวิสัน หนังกีฬามหาโหดยุคดิสโทเปียเหมือนกัน ทั้งยังออกฉายในปีเดียวกัน (ภายหลังถูกรีเมคเป็นหนังเจ๊งเละเทะโดย จอห์น แมคเทียร์แนน ในปี 2002) ต่างกันตรงที่ Rollerball เป็นหนังฮอลลีวู้ดทุนสูง ส่วน Death Race 2000 เป็นหนังเกรดบีทุนสร้างแค่ 3 แสนเหรียญ ถ้าวัดเอาความสนุก Death Race 2000 กินขาด แถมองค์ประกอบแบบล้ำๆ แต่ทำมือ ก็มีส่วนที่ทำให้หนังติดทำเนียบหนังคัลต์น่าจดจำอีกเรื่องหนึ่ง

Create Date : 14 ตุลาคม 2551
Last Update : 14 ตุลาคม 2551 5:51:30 น.		9 comments
Counter : 3731 Pageviews.
Share Tweet