●....หยิบหนังเก่ามาดูซ้ำอีกแล้ว...Stand by Me และ Local Hero ชอบมากโดยเฉพาะเรื่องหลัง ได้ดูอีกครั้งก็ยิ่งรู้สึกว่า มาร์ค นอพฟ์เลอร์ ทำดนตรีประกอบได้วิเศษจริงๆ นอกจากหนังเก่าและแสบสนิทฯแล้ว หนังที่เปิดดูที่บ้านมีแค่ Sisters in Law หนังสารคดีสัญชาติอังกฤษ-แคเมอรูน กับ Do You Remember Dolly Bell? ของ อีมีร์ คูสตูริซา ที่เขียนลงมติชนทั้ง 2 เรื่อง สงสัยถ้าไม่ได้ทำงานคงไม่ได้เปิดหนังดูแน่ๆ
●....นี่ยังดีที่ได้ดูทีวีบ้าง ชอบ Showreal Asia ทางช่อง National Geographic สารคดีว่าด้วยเรื่องราวของประเทศในเอเชีย (เคยมีตอนที่เกี่ยวกับไทย 3 ตอน Crime Scene Bangkok, Beetles Battle: Kwang Bang และ Body Snatchers of Bangkok) เดือนก่อนได้ดูเกี่ยวกับหนังฮ่องกงยุค 60-70 ตั้งแต่เริ่มแรก ช่วงรับอิทธิพลหนังซามูไรจากญี่ปุ่น จนถึงช่วงซบเซา ส่วนเดือนนี้เปิดเจอตอน Stuntmen of Bollywood เกี่ยวกับวงการสตันท์แมนของหนังอินเดีย ฉายครั้งแรกตั้งแต่ปี 2005
●....เดือนนี้มีศิลปินรุ่นใหญ่ปล่อยงานใหม่ออกมา 2 ราย บรู๊ซ สปริงสทีน (Bruce Springsteen ) กับอัลบั้ม Magic และ มาร์ค นอพฟ์เลอร์ (Mark Knopfler) กับ Kill to Get Crimson
●....หลังจากทำอัลบั้ม The Rising (2002) ปลุกใจอเมริกันชนหลังเหตุการณ์ 9/11 ต่อด้วยงานอะคูสติกลำดับที่ 3 Devils & Dust (2005) ว่าด้วยสงครามอิรัก เดอะ บอสส์ แห่งนิวเจอร์ซีย์กลับมาคึกคักอีกครั้งกับอัลบั้ม Magic ฟังแล้วนึกถึงงานยุคแรกๆ โดยได้ E Street Band กลับมาแบ๊กอัพให้อีกครั้ง
●....ยังไม่ได้ดูรายละเอียดของเนื้อหา แต่น่าจะไม่ได้พูดถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษหรือเป็นคอนเซ็ปต์อัลบั้มแบบ The Rising
●....ให้ฟังแทร็คที่ 4 Your Own Worst Enemy ครับ
●....สำหรับ มาร์ค นอพฟ์เลอร์ นับตั้งแต่เขาสลัดความเป็น Dire Straits ได้ในอัลบั้ม Sailing to Philadelphia (2000) มาถึง Kill to Get Crimson ก็แทบไม่แตกต่างจากงานก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีตาร์ใสกิ๊ง เมโลดี้สวยๆ เนื้อหาซึ่งเหมือนฟังเรื่องเล่าผ่านบทเพลง เหมาะสำหรับแฟนขาประจำที่รับรองว่าไม่ผิดหวัง
●....ซิงเกิ้ลแรกคือแทร็คแรก True Love Will Never Fade แต่เอาแทร็คสุดท้าย In the Sky มาฝาก
ชอบดูหนังและฟังเพลงเหมือนกันค่ะ..
ขอบคุณที่ทำblogดีๆมาให้อ่านกันนะค่ะ