Transformers การแปลงร่างของ'เพนตากอน'



Transformers
การแปลงร่างของ‘เพนตากอน’

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 8 กรกฎาคม 2550


*ประมาณ 20 ปีที่แล้ว มีช่วงหนึ่งที่หุ่นยนต์ของเล่นซึ่งสามารถพับแขนพับขากลายเป็นรถประเภทต่างๆ ฮิตระเบิดในหมู่เด็กนักเรียนบ้านเรา ผู้เขียนเองก็ซื้อสะสมไว้หลายตัว ทั้งแบบที่แปลงร่างเป็นรถบรรทุก รถสปอร์ต ไปจนถึงเครื่องบิน

ผ่านมาหลายปีจนแทบจะลืมไปหมดแล้ว เมื่อหนังฟอร์มมหึมาเรื่อง Transformers ผ่านตา หุ่นยนต์แปลงร่างในอดีตจึงกลับคืนมาให้รำลึกนึกถึงอีกครั้ง

จำได้ว่าไม่นานหลังจากหุ่นยนต์แปลงร่างเป็นรถครองใจเด็กไทย รูปแบบของหุ่นของเล่นได้พัฒนาให้ซับซ้อนและแปลกพิสดารมากขึ้น ทั้งแปลงเป็นยานอวกาศขนาดใหญ่ ยานรบ หรือเรือดำน้ำ โดยมีการ์ตูนเรื่องดัง The Super Dimension Fortress Macross หรือ “มาครอสส์” และเรื่องที่เป็นตอนต่อมาชื่อ The Super Dimension Century Orguss เป็นต้นแบบสำคัญ

ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าหุ่นยนต์แปลงร่างเป็นรถที่เคยเล่นตอนเด็กอยู่ในคอลเล็กชั่น Transformers ของบริษัททาคาระของญี่ปุ่นและบริษัทฮาสโปรของสหรัฐ อันเป็นจุดเริ่มต้นของหนังซึ่งกำลังฉายในบ้านเราหรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะเป็นของยี่ห้อใด เป็นต้นฉบับหรือของเลียนแบบ ความพิเศษของของเล่นประเภทนี้คือการผสมผสานของเล่นสามัญประจำเด็กผู้ชาย 2 อย่าง คือรถและหุ่นยนต์ให้กลายเป็นชิ้นเดียวกัน ช่วยขยับขยายจินตนาการอันน่าประทับใจให้แก่เด็กๆ กระทั่งต่อยอดสายพันธุ์ Transformers ให้ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน ทั้งที่เป็นหนังสือการ์ตูน การ์ตูนชุดทางโทรทัศน์ วิดีโอเกม และล่าสุดคือหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์โดยผู้กำกับฯไฮ-คอนเซ็ปต์อย่าง ไมเคิล เบย์

Transformers คือเรื่องราวว่าด้วยสงครามระหว่างหุ่นยนต์แปลงร่างฝ่ายดีที่เรียกว่า ออโต้บ็อต กับ ดีเซฟติคอน หุ่นยนต์ฝ่ายชั่วร้าย หลังจากไซเบอร์ตรอนซึ่งเป็นดาวบ้านเกิดพังพินาศแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างออกตามหา “ออลสปาร์ค” ต้นกำเนิดชีวิตของพวกมัน ฝ่ายหนึ่งตามหาเพื่อกุมความได้เปรียบในการยึดครองจักรวาล ขณะที่อีกฝ่ายต้องคอยขัดขวางแผนการชั่วร้าย

ในที่สุดพวกมันได้รู้ว่าจุดหมายที่ค้นหาอยู่บนโลกมนุษย์ และแผนที่ที่จะนำไปสู่ออลสปาร์คอยู่ที่เด็กหนุ่มชื่อ แซม วิทวิคกี้

*แน่นอนว่าหุ่นยนต์ยักษ์หลากหลายรูปแบบคือจุดขายสำคัญ โดยมีดีกรีความมันสะใจในฉากสู้รบและฉากตะลุมบอนกลางเมือง แต่ภาพรวมของหนังไม่น่าประทับใจนัก โดยเฉพาะเมื่อหนังแบ่งเวลาพอสมควรไปกับฉากตัวละครมนุษย์ที่คอยพ่นบทสนทนาน่าเบื่อเนิ่นนานจนน่ารำคาญ อุดมไปด้วยมุขตลกฝืดเฝือล้นเกิน กระทั่งเมื่อถึงฉากลักษณะนี้ทีไรอยากเรียกหาหุ่นยนต์ให้ออกมาเขี่ยมนุษย์พวกนี้ให้พ้นไปเสียที

ตัวละครน่ารำคาญ เช่น พ่อแม่ของแซมในฉากออโต้บ็อตซ่อนแอบ เจ้าหน้าที่หน่วยเซ็กเตอร์เซเว่นจอมเพี้ยน และแฮกเกอร์อ้วนดำที่เอาแต่เอะอะโวยวาย หากตัดตัวละครตัวนี้ทิ้งไปก็ไม่มีผลกับหนัง แม้ว่าฉากและตัวละครเหล่านี้ผู้สร้างตั้งใจใส่มาเพื่อแบ่งคั่นความมันและความตื่นตาตื่นใจ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นตัวขัดจังหวะ-ทำลายอารมณ์อย่างน่าเสียดาย

ในเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งของหนัง ถ้าเอาเวลาไม่น้อยที่เสียไปกับฉากและตัวละครดังกล่าวมาเพิ่มให้กับตัวละครอื่น เช่น หุ่นยนต์ฝ่ายออโต้บ็อตนอกเหนือจากอ็อพติมุส ไพรม์ และบัมเบิลบี หรือกลุ่มทหารจากตะวันออกกลางซึ่งแม้แต่คนที่เด่นที่สุดก็ไม่มีอะไรให้จับต้องได้มากนัก เพื่อให้ตัวละครมนุษย์และหุ่นยนต์มี “ชีวิต” ให้สัมผัสได้มากขึ้น หนังที่สร้างจากการ์ตูนจะได้ไม่เบาและบางเหมือนแผ่นกระดาษ ภาพรวมของหนังก็น่าจะลงตัวกว่าที่เป็นอยู่

เห็นได้ว่าข้อติติงของผู้เขียนไม่ได้แตะไปที่พล็อตหรือความเพ้อเจ้อของเรื่องราวแม้แต่น้อย

ในหนัง Transformers นอกจากแซมและมิเคล่า เด็กหนุ่ม-สาวซึ่งเป็นตัวเดินเรื่องแล้ว ตัวละครมนุษย์ที่มีบทบาทสำคัญอีกคนหนึ่งคือ รัฐมนตรีกลาโหม จอห์น เคลเลอร์ ซึ่งรับบทโดย จอน วอยต์ เป็นตัวละครที่โดดเด่นเสียจนไม่ต้องมีฉากประชุมเคร่งเครียดของคณะผู้บริหารประเทศอย่างที่เคยเห็นในหนังหายนะเรื่องอื่นๆ และเด่นจนไม่จำเป็นต้องมีบทประธานาธิบดี โดยรัฐมนตรีกลาโหมคนนี้จะคอยกำกับสั่งการทุกอย่างตั้งแต่ต้น แม้แต่ในฉากแถลงการณ์ช่วงท้ายของเรื่องราวก็ยังเป็นหน้าที่ของเขา

ขณะเดียวกัน เมื่อบทเด่นตกอยู่กับรัฐมนตรีกลาโหม ที่ทำการกระทรวงอย่างอาคารเพนตากอนจึงกลายเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของหนังไปด้วย

จากข้อมูลการถ่ายทำระบุว่า Transformers คือหนังเรื่องแรกนับจากเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 ที่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำภายในและโดยรอบอาคารเพนตากอน รวมทั้งในฐานทัพอากาศฮอลโลแมนในนิวเม็กซิโก โดยได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก รวมไปถึงเครื่องบินรบหลายรุ่นจากกองทัพสหรัฐ นอกจากนี้ บรรดานักบินและทหารกว่า 300 นาย ยังได้เข้าฉากเป็นตัวประกอบให้กับหนัง

เอียน ไบรซ์ หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างถึงกับกล่าวว่า “เราคงสร้างหนังเรื่องนี้ไม่ได้ถ้าไร้การโอบอุ้มจากกลาโหมและกองทัพ เราภูมิใจที่จะบอกว่าบททหารเกือบทั้งหมดรวมทั้งตัวประกอบ แสดงโดยทหารและอดีตเจ้าหน้าที่ทางการทหาร”

หากขยับขึ้นไปมองรายชื่อผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารแล้วอาจไม่แปลกใจเท่าใดนักที่ Transformers ได้รับการอุ้มชูเป็นพิเศษจากกองทัพ เพราะหนึ่งในนั้นคือ สตีเว่น สปิลเบิร์ก ผู้เคยทำให้กองทัพปลาบปลื้มจากหนังเรื่อง Saving Private Ryan จนต้องจัดพิธีมอบรางวัลบริการสาธารณะดีเด่นอันเป็นเกียรติยศระดับสูงสุดสำหรับพลเรือนให้แก่สปิลเบิร์กในวันทหารผ่านศึกปี 1999 (ร่วมกับ ทอม แฮงค์)

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าผู้สร้างจะอิ่มเอมกับความร่วมมือของกองทัพเพียงฝ่ายเดียว เว็บไซต์ทางการของกองทัพอากาศสหรัฐได้ลงรายงานเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้(เขียนโดยจ่าอากาศเอกแลร์รี่ เอ.ซิมมอนส์) ด้วยช่วงเวลาที่เหมาะเจาะคล้องจองอย่างยิ่ง เพราะเป็นหนึ่งวันก่อนกำหนดฉายจริงวันที่ 4 กรกฎาคม 2007 ทั้งในรายละเอียดของความร่วมมือกันระหว่างผู้สร้างกับกองทัพ และแง่มุมความรู้สึกของทีมงานและเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งล้วนเป็นไปในทางชื่นชมยินดีและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ในหน้าเดียวกันนี้ยังมีคลิปวิดีโอพร้อมภาพเบื้องหลังการถ่ายทำในฐานทัพอากาศฮอลโลแมนให้ดาวน์โหลดอีกด้วย


ในรายงานระบุว่า เมื่อหนังถ่ายทำเสร็จสิ้น นักแสดงและทีมงานได้รับเชิญให้เข้าเยี่ยมชมและร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11 ณ อนุสรณ์สถานสำหรับทหารโดยเฉพาะ ขณะที่ผู้สร้างได้เชิญตัวแทนทหารจากทุกเหล่าทัพให้ร่วมชม Transformers รอบพิเศษก่อนใครๆ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ที่น่าสนใจคือเสียงตอบรับของทหารที่พูดไปในทางเดียวกันว่าหนังนำเสนอภาพชีวิตในกองทัพได้อย่างสมจริง โดยพันจ่าอากาศเอกนายหนึ่งถึงกับกล่าวว่า หนังทำให้คนภายนอกเข้าใจถึงภาระหน้าที่ของทหารที่คอยปกป้องประชาชนดียิ่งขึ้น ทั้งยังคิดว่านี่คือเครื่องมืออย่างดีในการเชิญชวนให้คนมาสมัครเป็นทหาร

เห็นอารมณ์ชื่นมื่นระหว่างผู้สร้างหนังกับกองทัพโดยเด้งรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยอย่างนี้แล้ว ทำให้รู้ว่าเหตุที่ตัวละครรัฐมนตรีกลาโหมมีบทบาทมากเป็นพิเศษนั้นมีที่มาที่ไป และช่วยให้เข้าใจได้ว่าเหตุที่หนังต้องเกี่ยวโยงกับหน่วยรบของสหรัฐในประเทศกาตาร์ก็เพื่อให้ทหารหาญจากตะวันออกกลางได้มีโอกาสเป็นฮีโร่ในตอนท้าย

หนังอย่าง Transformers จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวของหุ่นยนต์แปลงร่าง “ออโต้บ็อต” และ “ดีเซฟติคอน” เท่านั้น

แต่ยังเป็นการแปลงร่างของ “เพนตากอน” ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “ป๊อป คัลเจอร์” ได้อย่างกลมกลืน



Create Date : 14 กรกฎาคม 2550
Last Update : 14 กรกฎาคม 2550 17:05:53 น. 12 comments
Counter : 1029 Pageviews.

 
อยากไปดู มากๆ อยากกลับไป เก็บความทรงจำในวัยเด็ก


โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:21:20 น.  

 
เป็นแง่มุม Transformers ที่แตกต่างดีครับ
หนังเรื่องนี้จริงๆมีแง่มุมการเมืองเยอะเหมือนกัน

ผมชอบฉากที่ ปธน. โผล่ออกมาเพื่อขอขนมกินอะ
รู้สึกว่าไร้ประโยชน์เหมือนบุชดี - -*


โดย: nanoguy วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:58:35 น.  

 
คนคนนั้นอาจจะเป็นบีก็ได้ค่ะ บีจบสาธิตเกษตร บ้านอยู่เกษตร เรียน ป ตรีเกษตร แล้วค่อยไปต่อ ปโทจุฬา

ถ้าบีเห็นหน้าคุณ บีคงคุ้นหน้าคุณเหมือนกัน ส่งข่าวบอกด้วยนะคะ

เราคงรู้จักกันน่ะ
บี ku 50 ค่ะ


โดย: rendezvous (be-oct4 ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:59:51 น.  

 
เพิ่งเห็นเรตที่พี่ให้ Borat
ผมกลับรู้สึกชอบที่เรื่องนี้นำเสนอแบบนี้นะ
คือไม่ได้สนับสนุนการเหยียดเชื้อเหยียดชาติหรือตลกหยาบสถุลอะไร
แต่พอมันนำเสนอแบบนี้แล้ว มันเอาตัวละครเหนือจริงอย่าง Borat ไปเทียบกับอเมริกันชนที่นิสัยแทบไม่ต่างกันได้เห็นภาพดีอะ


โดย: nanoguy วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:31:10 น.  

 
เย้ๆๆ
ดีใจมากๆเลยค่ะ

บีนั่นแหละ
นั่นแหละบี

แสดงว่าหน้าบีไม่แก่นิ

อิอิ


โดย: rendezvous (be-oct4 ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:07:53 น.  

 
ดูได้หนุกๆค่ะ
แต่ชอบทุกฉากที่เกี่ยวกับทหาร


โดย: renton_renton วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:09:46 น.  

 


โดย: 2 IP: 203.150.112.102 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:05:36 น.  

 
กองทัพได้หน้า ผู้สร้างได้เงิน win-win



โดย: G IP: 203.113.76.9 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:13:28 น.  

 
พอมันเข้าเมือง ผมก็เบื่อจนอยากกลับบ้านแล้วครับ 555


โดย: merveillesxx วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:21:28 น.  

 
โอย เมื่อไหร่จะได้ดูกะเขาเนี่ย


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:28:48 น.  

 
บีมาเยี่ยมอ่ะ
ไปไหนหรือเปล่านี่

กลับมาๆๆๆ


โดย: rendezvous (be-oct4 ) วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:42:02 น.  

 
หนังน่าจะให้อะไรมากกว่านี้


โดย: alexander IP: 202.41.187.247 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:23:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.