Twentynine Palms บ่วงแร้วอารมณ์ระทึก
Twentynine Palms บ่วงแร้วอารมณ์ระทึก
พล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 12 มิถุนายน 2548
ภาพจากหนังเรื่องนี้ที่เห็นตามสื่อจนคุ้นตา คือภาพมุมสูง 90 องศา หนุ่ม-สาวนอนเปลือยกายกอดก่ายกันอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ มือของฝ่ายหญิงเกาะกุมอยู่บนหว่างขาของฝ่ายชาย ดึงดูดความสนใจผู้พบเห็นได้ชะงัด พร้อมเกิดคำถามว่า Twentynine Palms เป็นหนังเกี่ยวกับอะไร...ใช่หนังโป๊อีโรติคหรือเปล่า
คำตอบหลังผ่าน 120 นาทีของการชมไปแล้วคือ ไม่ โดยสิ้นเชิง
อันที่จริง Twentynine Palms เป็นหนังเขย่าขวัญสั่นประสาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องอดทนชมไปจนกระทั่ง 10 นาทีสุดท้าย จึงจะได้ลิ้มรสอารมณ์นั้น
ระหว่างที่ชมตั้งแต่หนังเปิดเรื่องจนถึงนาทีระทึก ชุดการรับรู้ที่หนังมอบให้คืออาการสงสัยสับสนต่อพฤติกรรมของตัวละครและเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นฉับพลันชนิดฉากต่อฉาก ทั้งหวั่นวิตกว่าเหตุการณ์ที่ว่าจะอุบัติขึ้นวินาทีใด
จนเรียกได้ว่า Twentynine Palms เป็นหนังที่ เล่น กับอารมณ์ของผู้ชม ราวกับบ่วงแร้วหลอกล่อร้อยรัดใจเราจนดิ้นไม่หลุด
หนังเปิดเรื่องด้วย เดวิด ช่างภาพหนุ่มกำลังขับรถมุ่งไปอุทยานแห่งชาติโจชัว ทรี ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นทะเลทราย เพื่อหาโลเคชั่นถ่ายภาพ มี คาเทีย แฟนสาวนอนอยู่บนเบาะหลัง การสนทนาทำให้รู้ว่าทั้งสองพูดคนละภาษา เดวิดพูดภาษาอังกฤษ ส่วนคาเทียพูดแต่ภาษาฝรั่งเศส
พวกเขาจอดแวะข้างทาง ยืนมองขบวนรถไฟแล่นกึงกังผ่านหน้า ดูหมู่กังหันสีขาวหมุนใบมีเทือกเขาวางทอดอยู่เบื้องหลัง พลางกล่าวชื่นชมความงดงามของมัน จู่ๆ คาเทียเดินแยกออกมา ถกกระโปรงนั่งลงปัสสาวะบนพื้นทราย
จากนั้น ในโรงแรมชื่อ ทเวนตี้ไนน์ ปาล์มส์ ทั้งสองว่ายน้ำในสระตามลำพัง มีเสียงร่างกายกระทบน้ำดังเบาๆ พลันเดวิดย่องเข้าด้านหลังคาเทีย เขาและเธอกอดจูบกันแนบแน่น ต่อด้วยการร่วมรักอย่างรุนแรง...เสียงร่างกายกระทบน้ำดังขึ้น..ดังขึ้น ประสานกับเสียงร้องของคนทั้งสอง
ถัดมาในร้านอาหาร เดวิดและคาเทียนั่งคุยหยอกล้อกัน แต่เพียงชั่วพริบตาที่เดวิดเหลือบมองผู้หญิงที่เดินผ่าน คาเทียฉุนเฉียว ทุบโต๊ะเสียงดัง ตัวสั่นเทา ไล่ให้เดวิดตามผู้หญิงคนนั้นไป
ฉากต่อมา ทั้งสองนอนหลับอยู่ในห้องพัก เหตุการณ์สงบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นี่คือ 20 นาทีแรกของหนังที่เต็มไปด้วยพฤติการณ์แปลกประหลาดและจบลงเหนือการคาดคิด ภายใต้กิจพื้นฐานของมนุษย์อย่างครบถ้วน ทั้งกิน-ขับถ่าย-ร่วมเพศ-นอน
หลังจากนั้น หนังก็วนเวียนอยู่พฤติการณ์เหล่านี้ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน พวกเขาขับรถตระเวนไปในทะเลทราย จอดแวะข้างทาง พูดคุย-ทะเลาะกัน ลงเอยด้วยฉากเซ็กซ์เผ็ดร้อน เป็นเช่นนี้ผ่านวัน ผ่านคืน เหมือนไม่มีจุดหมายปลายทาง
และแน่นอน...สำหรับผู้ชมที่เฝ้ามองตัวละคร 2 ตัวนี้ ความอึดอัดคับข้องจะค่อยๆ คืบคลานเข้าครอบครองจิตใจ
ใครที่ทนไม่ได้คงหยุดดูเสียกลางคัน ส่วนพวกที่ชอบความท้าทายหรืออยากรู้จุดหมายของหนัง ก็จะทนดูไปจนกระทั่งเจอช่วงเวลาเขย่าขวัญในตอนท้าย
นั่นหมายถึง บ่วงแร้ว ที่หลอกล่อเราทำงานเสร็จสมบูรณ์
อันที่จริง อาการระวังระแวงต่อเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ในทุกๆ ฉากของหนัง ก็นับได้ว่าเป็นการกระตุกขวัญผู้ชมอยู่กลายๆ หนักบ้างเบาบ้างสลับกันไป แต่ซีเควนซ์สุดท้ายถือว่าหนักหน่วงรุนแรงชนิดกระชากอารมณ์จนแหว่งวิ่นเบาโหวง มึนชาต่อภาพที่เห็นจนติดค้างอยู่นานหลายเวลา
หนังที่มีตัวละครหลักแค่ 2 ตัว ไม่มีเรื่องราว ไม่มีดนตรีประกอบ ทำได้เช่นนี้นับว่าไม่ธรรมดา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องค้นหาก็คือ นอกจากการเล่นกับอารมณ์ของผู้ชมแล้ว ผู้กำกับฯชาวฝรั่งเศส บรูโน ดูมองต์ มีสารอะไรบ้างที่ต้องการสื่อ
เมื่อไล่เรียงดูจากเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องทั้งหมดแล้ว มี 2 ฉากที่สามารถนำมาเชื่อมโยงถึงกันได้ นั่นคือ ฉากที่เดวิดให้คาเทียขับรถฮัมเมอร์ เอช 2 สีแดงของเขา ซึ่งเป็นรถโฟร์วีลคันใหญ่ แต่คาเทียขับไปเฉี่ยวกับพุ่มไม้จนด้านข้างของรถเป็นรอย
เดวิดลงมานั่งมองรอยถลอกอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะที่คาเทียนั่งหัวเราะอยู่บนรถ
อีกฉากหนึ่ง ทั้งสองกินไอศครีมอยู่ในร้านริมถนน มีทหารนั่งกินอาหารอยู่กับผู้หญิงอีกมุมหนึ่ง เดวิดถามคาเทียว่าถ้าเขาตัดผมสั้นแบบทหารคนนั้นจะเป็นอย่างไร คาเทียหัวเราะ บอกว่าถ้าทำจริงเธอจะทิ้งเขา แต่ทิ้งท้ายคำพูดว่า ทหารผมสั้นดูหล่อดี เดวิดนิ่งอึ้ง ทำหน้าบอกบุญไม่รับ บอกคาเทียว่าพูดอะไรไม่เข้าใจ
นี่คือครั้งเดียวในหนังที่เดวิดปฏิเสธคำพูดต่างภาษาของคาเทีย
ความเป็น แมน คือสิ่งที่เชื่อม 2 ฉากนี้เข้าด้วยกัน แมน ในที่นี้ไม่ใช่แค่เป็นผู้ชาย แต่เป็นภาพลักษณ์แบบผู้ชายๆ ที่เดวิด(น่าจะ)คิดว่าตนเองมีน้อยจนเป็นปมด้อย
เห็นได้ว่าเดวิดเลือกซื้อรถโฟร์วีลขนาดใหญ่ เป็นรถที่มีภาพลักษณ์แบบผู้ชายอยู่ทุกกระเบียด ซ้ำยังเป็นยี่ห้อรถที่ใช้ในกิจการทหาร แต่รถคันนี้กลับถูกคาเทียทำให้มีรอยตำหนิ
ฉากกินไอศครีมก็เช่นกัน คาเทียชมทหาร แต่กลับบอกเดวิดว่าถ้าตัดผมแบบทหาร เธอจะทิ้งเขา ในความคิดของคนมีปมด้อย คำพูดนี้อาจทำให้คิดไปได้ว่าตนเองไม่ แมน พอ เดวิดจึงหัวเสียอีกครั้ง
ทั้ง 2 เหตุการณ์ นอกจากคำพูดและการกระทำจะทำลายความมั่นใจของเดวิดแล้ว คาเทียยังหัวเราะเยาะเดวิดด้วย สิ่งที่เดวิดพอจะตอบโต้ได้ก็คือการมีเซ็กซ์ร้อนแรงหลังจากทั้ง 2 เหตุการณ์ รวมทั้งครั้งอื่นๆ ด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการแสดงออกโดยตรงถึงความเป็น แมน ของตนเอง
นี่คือกว่า 100 นาทีที่หนังปูทางไว้ กระทั่งถึงซีเควนซ์ระทึกช่วงท้าย เมื่อความมั่นใจอันน้อยนิดของเดวิดถูกทำลายลง เขาถูกกระทำบางอย่างจนหมดสิ้นความเป็น แมน ต่อหน้าต่อตาคาเทีย
ความอับอายขายหน้า ความชิงชังสะสมจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ จึงก่อเกิดปฏิกิริยาตอบสนองที่ร้ายและรุนแรงเกิดคาดคิด
Twentynine Palms อาจไม่ใช่หนังดี ซ้ำยังห่างไกลสุดขั้วกับคำว่าน่าประทับใจ แต่เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จในการลากจูงอารมณ์คนดู ซ้ำยังฉุดกระชากแบบไม่ปรานี
ใครต้องการเรื่องท้าทายก็ลองหามาดูกัน
Create Date : 19 พฤษภาคม 2549 |
|
6 comments |
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 2:31:04 น. |
Counter : 8426 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: benz IP: 119.42.86.97 25 มีนาคม 2552 21:10:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: ole IP: 202.139.223.18 26 มีนาคม 2552 9:15:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: RRP IP: 183.89.120.35 6 สิงหาคม 2553 20:52:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: นรส IP: 117.47.19.87 14 กันยายน 2553 19:47:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: preecha420 IP: 49.49.113.150 8 พฤศจิกายน 2554 18:56:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]
|
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................
พญาอินทรี
ศราทร @ wordpress
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชอบหนังที่เล่นกับอารมณ์คนดู