Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

ขออนุญาตบ่นกับภาพที่เห็นจนชินตา กับ 'สายรัดข้อมือสีเหลือง'

มีเรื่องที่น่าสะกิดใจเกี่ยวกับสายรัดข้อมือ "เรารักพระเจ้าอยู่หัว" ที่วางขายพร้อมกันทั้งตามดิวตี้ฟรี เคาน์เตอร์ธนาคาร มาจนกระทั่งร้านสะดวกซื้อ ... ครั้นเราจะไปว่ากันตามตรงก็ไม่ได้ เพราะพาดพิงผู้เกี่ยวข้องกับมิตรสหาย ที่พบเจอกันทางเน็ต ทั้งคบหาพูดคุยกันอยู่ และขาดการติดต่อกันไปแล้ว

อย่างสมาชิกท่านหนึ่ง เธอรับหน้าที่เป็นพนักงานขายในดิวตี้ฟรีเจ้าภาพ ก็อาศัยจำหน่ายสายรัดข้อมือแก่ลูกค้าโดยตรง หรืออย่างเพื่อนอีกคน ที่มีเพื่อนรุ่นพี่เป็นเจ้าของโรงงานรับทำสายรัดข้อมือตัวนี่แหละ ที่ในช่วงเปิดจำหน่ายซิมเปิ้ลครั้งแรก 1 ล้านชิ้น ก็อาศัยตั้งกระทู้ในห้องๆ นึงจนมือเป็นระวิง ...

เอาเป็นว่า ... ไม่ได้หาเรื่องก็แล้วกัน เพียงแต่อยากจะบอกกันในอีกแง่มุมหนึ่งเท่านั้นแหละ

ถ้าผู้อ่านท่านใดซื้อสายรัดข้อมือแล้ว ทั้งที่สวมที่ข้อมือหรือไม่ก็ตาม จะว่าเป็นความสุขทางใจของผู้ซื้อ จะถือเป็นความศรัทธาก็ว่ากันไป แต่ถ้าใครที่ยังไม่ได้ซื้อ แล้วกำลังคิดว่าจะหาซื้อมาสวมรัดข้อมือตามผู้อื่น ขอถามก่อนว่า

"คิดดีแล้วหรือที่จะซื้อ?"

คนที่ทำงานมีเงินเดือน เงินแค่ร้อยกว่าบาทอาจจะไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ เมื่อเทียบเท่ากับอาหาร 4-5 มื้อ หรือนำเงินไปซื้อความสุข เข้าห้างช็อปปิ้งหรือดื่มเหล้าตามผับบาร์ยังมากกว่านั้นหลายเท่านัก แต่สำหรับคนทั่วไปที่มีรายได้น้อย หรือคนที่ต้องใช้เงินจากพ่อแม่ไปวันๆ ถ้าในวันนี้ค่าครองชีพยังสูงอยู่ จะแน่ใจได้หรือว่า ซื้อไปแล้วจะไม่เกิดอาการ "เข้าเนื้อ" อย่างจัง

และที่น่าเป็นห่วงตรงที่กระแสการโปรโมตทางโทรทัศน์ จะเกิดการกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อมากขนาดไหน ยิ่งนำสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ทางจิตใจอย่าง "ในหลวง" เป็นจุดขายด้วยแล้ว ถือว่ายากที่จะลังเล ... จะกลายเป็นการกระตุ้น "ความอยาก" ให้กับคนที่ยังไม่มี จนแห่แหนกันไปซื้อด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่มีเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไม่ทำอะไรให้กับท่าน"

คล้ายๆ กับวัยรุ่นแถวสยามมั้ยครับ ... พอวัยรุ่นคนไหนมีมือถือรุ่นใหม่ๆ แล้วนำมาอวด วัยรุ่นคนอื่นๆ ที่เห็นก็เกิดความอยาก จนนึกที่จะซื้อขึ้นมาบ้าง ไม่มีเดี๋ยวจะหาว่าไม่ตามกระแส ถึงได้เห็นทุกวันนี้ อะไรๆ ในสยามที่เป็นกระแส วัยรุ่นแถวนั้นมักจะเดินตามหรือเลียนแบบเหมือนกันหมด ยกเว้น จุดยืนของชีวิต!!!

สายรัดข้อมือสีเหลืองๆ ในวันนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดี มากกว่าจิตใจของประชาชนไปแล้วหรือ? ในช่วงที่บ้านเมืองขาดความปรองดรอง อันเนื่องมาจากแต่ละฝ่ายต่างก็เห็นแก่ตัว ไม่รู้ว่าสายรัดข้อมือเป็นการชดเชยด้านจิตวิทยาให้มีความรู้สึกไว้อวดกับใครๆ ได้ว่า "เราก็รักในหลวง" หรือเปล่า?

คนที่ไม่ทำอะไรให้เห็นในสายตาคนทั่วไป จะกลายเป็นว่า "เราไม่ได้ทำอะไรให้ในหลวงเลยเหรอ?" แล้วหรืออย่างไรกัน...

ผมไม่คิดจะซื้อสายรัดข้อมือสีเหลืองๆ ที่ขายเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองเลย และไม่คิดจะซื้อด้วย ใส่เดี๋ยวเดียวพอคนเบื่อๆ เข้าก็กลายเป็นของที่วางทิ้งเอาไว้โดยลำพัง เหมือนดอกมะลิวันแม่กับดอกป็อปปี้วันทหารผ่านศึก ที่ติดเสื้อเพียงวันสองวันแล้วถัดมากลายเป็น "ของที่ถูกลืม" นำไปกองกับอะไรก็ไม่รู้ ให้กลับไปค้นหาเดี๋ยวก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าใครเอาไปทิ้งที่ไหนซะแล้ว

ทุกวันนี้อาศัยสติกเกอร์ฟรีของกรมราชองครักษ์ ที่ได้รับมาจากงานชุมนุม ขออนุญาตที่บ้านติดกระจกรถไปเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าสติกเกอร์สวยๆ คำว่า "เรารักในหลวง" แบบนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ขายได้ เห็นพ่อค้าแม่ค้าตามแผงลอย หรือรถเข็นต่างมีสติกเกอร์นี้จำหน่ายแผ่นละ 10-20 บาท และมีทีท่าว่าจะขายดีพอๆ กับสายรัดข้อมือนี้ด้วย

ผมถือว่าการให้ความร่วมมือในสิ่งที่เป็นไปได้ โดยที่เราไม่เดือดร้อนกับตัวเอง น่าจะเป็นการแสดงออกที่เพียงพอแล้ว

การจุดเทียนชัยถวายพระพร ที่สื่อให้เห็นถึงความสามัคคี และหล่อหลอมน้ำใจเป็นหนึ่งเดียวของประชาชน ที่โอกาสเช่นนี้นานทีปีละหนึ่งครั้งจะได้พบเห็นทั่วโลก เป็นภาพที่ถือว่าลึกซึ้ง และน่าประทับใจกว่านี้

ใกล้วันที่จะเป็นมหามงคลแล้ว ถ้าอยากจะตามรอยพระบาทอย่างเข้าถึงจิตใจ การน้อมรับกระแสพระราชดำรัส ด้วยการอุทิศตนเพื่อส่วนรวม หรือการใช้ชีวิตตามแบบฉบับเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ควรแนะนำ

หลักการหนึ่งของเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นให้เกิดความสันโดษ หลายคนคิดว่าต้องเก็บตัวอยู่เงียบๆ โดยไม่เข้าหาใคร แต่จริงๆ คำว่าสันโดด ไม่ได้แปลว่าเลิกคบค้ากับใคร หากเพียงแต่ในเมื่อเราพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ได้แล้ว ก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกับคนที่ยังเดือดร้อนกันอยู่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ให้เจริญก้าวหน้าเมื่อมีความพร้อม อย่างยั่งยืน โดยไม่ทำร้ายสังคมหรือเบียดเบียนผู้อื่น

ทุกคนมีความสามารถแค่ไหน หากพอใจในสิ่งที่ตนมี พอใจในสิ่งที่ตนได้ ยอมรับขอบเขตความสามารถของตน ไม่ทำร้ายทำลายผู้อื่นเพื่อให้ได้มาตามความอยากหรือกิเลส เมื่อนั้นก็จะมีคุณธรรมตามแบบฉบับของตนเอง ประเทศชาติก็จะสงบร่มเย็น เจริญ ไม่มีการเบียดเบียนให้เดือดร้อน ไม่มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เพราะทุกคนพอเพียงในฐานะของตน มีสติรู้ว่าตนมีความสามารถแค่ไหนก็จะพอใจเท่านั้น

ไว้ว่างๆ จะมาพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงกันแบบเต็มๆ ให้ผู้อ่านทุกท่านได้ศึกษาเป็นวิทยาทาน และนำไปใช้กันถ้วนหน้า เพื่อเป็นการน้อมรับกระแสพระราชดำรัส ให้พวกเราได้รู้จักถึงแก่นแท้ของการถวายเป็นพระราชกุศล

มากกว่าแห่แหนกันไปซื้อสายรัดข้อมืออะไรนั่น เห่อกันเป็นกระแส ที่กลายเป็นการบูชาทางวัตถุไปแล้ว

ป.ล.พูดถึงงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่รัฐบาลไทยจัดขึ้นที่อิมแพค เมืองทองธานี รูปแบบงานน่ะพอยอมรับ แต่จุดประสงค์ในใจที่แท้จริง ถ้าพูดว่าเป็นการเอาหน้าเอาตาของรัฐบาล ...

เมื่อเหลือบไปเห็นสปอนเซอร์ของงานนี้ ที่ทางผู้จัดงานเปิดโอกาสมากเกินไป แถมสถานที่จัดงานที่แปลกใจว่า ทำไมถึงต้องไปจัดไกลถึงอิมแพคโน่น ... ถิ่นของตระกูลกาญจนพาสน์

รับรองว่าถ้าได้พูดออกไป สงสัยผมคงโดนด่าแหงๆ

แต่ถ้ารัฐบาลจริงใจที่จะทำจริงๆ ขอเสนอเลยว่า ก่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ และจัดการแสดงผลงานแบบไม่ซ้ำรูปแบบให้ประชาชนได้ชมกันได้ทุกโอกาสตลอดไป ไม่ดีกว่าเหรอ ที่จะต้องหว่านเงินหลายร้อยล้านเพื่อจัดงานเฉลิมฉลองเพียงแค่สี่ซ้าห้าวัน แล้วก็จบงาน ...

ผมเสียดายครับ !!!




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2549
3 comments
Last Update : 30 พฤษภาคม 2549 18:14:04 น.
Counter : 1443 Pageviews.

 

วันนี้พึ่งจะฟังเพลงนี้มา
ไม่ได้ฟังนานมากแล้ว
เนื้อพลงมีอยู่ ท่อนหนึ่งร้องว่า
"ทางที่ดี หากมีวิธี ก็ควรต้องโรยผักชี ให้ดีไว้ก่อน เค้าจึงจะยอมรับ.."

มิน่า ช่วงนี้ผักชีขายดีจัง

 

โดย: merf1970 30 พฤษภาคม 2549 19:30:12 น.  

 

คุณคิดว่าคุณคิดถูกต้องแล้วหรือ..การที่คนเรามีสิ่งคอยยึดเหนียวยึดถือและอยากจะแสดงออกก็เป็นความคิดของแต่ละบุคคล ไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือยและไม่ใช่ค่านิยมเหมือนอย่างมือถือที่คุณกล่าวอ้าง มือถือมันยังมีตกรุ่นหรือล้าสมัย แต่สิ่งยึดเหนียวจิตใจแล้วผมว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่ แล้วผมก็อยากแสดงออกด้วยและมันก็สมแล้วไม่ใช่หรือที่เกิดมาใต้ร่มโพธิ์ร่มไทรที่ยิ่งใหญ่ ผมว่าการแสดงออกอย่างนี้มันน้อยไปด้วยซ้ำ กรุณาอย่าเอาสิ่งที่อยู่สูงมาพูดในกรณีเป็นตัวเงิน มันไม่สมควร

 

โดย: ดำปืน IP: 203.144.252.236 31 พฤษภาคม 2549 11:33:38 น.  

 

แต่ผมเห็นด้วยนะ กับสายรัดข้อมือ โดยมากดูแล้วคนที่ซื้อใส่ก็ชนชั้นกลางเกือบทั้งนั้น จัดงานก็เห็นด้วยจัดที่อิมแพ็ค ที่จอดรถมาก สถานที่กว้างใหญ่พอ ถึงรัฐบาลจะเอาหน้าก็ช่างเขา แต่ทำให้ผมได้รู้อะไรเกี่ยวกับในหลวงมากขึ้น ผมพอใจมาก

 

โดย: ทรงชัย จันทร์ทับ IP: 161.246.1.32 2 มิถุนายน 2549 17:48:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Aloha007
Location :
สมุทรสาคร Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นับตัวเลข








Friends' blogs
[Add Aloha007's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.