Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
ผลจากการถูกฟ้องร้องข้อหา 'หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ' ไม่ใช่แค่คุณสนธิคนเดียวที่จำต้องถูกดำเนินคดี แต่ ...



*** บทความที่เขียนขึ้นในวันนี้ ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะฟ้องร้องกรุณาดูเจตนาในสาระสำคัญของเนื้อหาด้วย ***

ยังจำกันได้ไม่ลืมสำหรับเรื่องของความประมาทเลินเล่อจากทางหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ในการตีพิมพ์ข้อความปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งทางคมชัดลึกออกมายอมรับว่าเป็นการทำงานของหัวหน้าข่าวหน้า 1 ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้แรงกดดันจากเงื่อนไขเวลา จนเกิดความประมาทเลินเล่อ ผิดพลาด และข้อความดังกล่าวเป็นเนื้อหาโดยสรุปจริง แต่มีข้อความบางประโยคที่หายไป ไม่ครบถ้วน ทำให้ความหมายเปลี่ยนแปลงจนผู้อ่านนำไปตีความอย่างผิดๆ เป็นเรื่องเป็นราวกันอย่างกว้างขวาง

เราเชื่อว่า คนไทยทุกคนย่อมรู้ถึงธรรมเนียมปฏิบัติเป็นอย่างดี ในการถวายความเคารพสถาบันกษัตริย์ เรารู้ว่าอะไรควรไม่ควรเวลาเราพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่การที่มีกลุ่มคนบางกลุ่ม นำความผิดพลาดในเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการโจมตีฝ่ายตรงข้ามที่ขับไล่รัฐบาล และพยายามที่จะโยงเรื่องความขัดแย้งระหว่างตัวนายกรัฐมนตรี กับผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร กลายมาเป็นความขัดแย้งระหว่างแกนนำกลุ่มพันธมิตร กับประชาชนที่อ้างตนว่าเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

กว่าร้อยคดีของแกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยที่ถูกฟ้องร้องทั้งจากนักการเมืองฝ่ายพรรคไทยรักไทย แกนนำคาราวานคนจน กลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ข้าราชการที่รับใช้รัฐบาล รวมไปจนถึงกลุ่มชาวบ้านบางคนที่อ้างตนและใช้ชื่อ 'กลุ่มคนรักในหลวง' ที่จัดตั้งขึ้นมาอย่างหลวมๆ เพื่อการดำเนินคดีโดยเฉพาะ

ถ้านับย้อนไปในช่วงปลายปีที่แล้ว ในช่วงที่จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ของนายสนธิ ได้เกิดกระแสการฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหา 'หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ' กับนายสนธิมากมายหลายคคี โดยเฉพาะเริ่มจากการที่นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มอบหมายให้นายธนา เบญจาธิกุล ทนายความเป็นผู้ฟ้องร้อง (ปัจจุบันเป็นผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา) ต่อมาก็มีผู้ที่ฟ้องร้องนายสนธิขึ้นมาเรื่อยๆ ที่เด่นชัดที่สุดคือนายตำรวจจากทางภาคอีสานนามว่า 'พล.ต.ต.สถาพร ดวงแก้ว' และกองบัญชาการตำรวจภาค 3 และ 4 ในแถบภาคอีสาน รวมแล้วนับสิบคดี

ถึงแม้ว่าศาลจะไม่รับฟ้องโดยให้เหตุผลถึงข้อกล่าวหาว่า นายสนธิหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นไม่มีมูล แต่ทางตำรวจภูธรภาค 3 และ 4 ก็ยังไม่ลดละ จนกระทั่งหลังวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสนธิและคณะถูกถอนฟ้องทุกคดี ... ถ้าไม่ใช่เพราะพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานหรือ? ผมจะไม่สรุปแก่นสารจากพระราชดำรัสของในหลวง เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ยากแก่การตีความ แต่ผมขออนุญาตอัญเชิญพระราชดำรัสบางส่วนที่ท่านทรงตรัสไว้เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา

"... ที่เขาด่าเราอย่างหนักๆ ฝรั่งเขาบอกว่า ในเมืองไทย พระมหากษัตริย์ถูกด่าเข้าคุก ที่จริงควรจะเข้าคุก แต่ว่า เพราะฝรั่งบอกอย่างนั้นก็ไม่ให้เข้า ไม่มีใครกล้าเอาคนที่ด่าพระมหากษัตริย์เข้าคุก เพราะพระมหากษัตริย์เดือดร้อน เพราะเขาหาว่าพระมหากษัตริย์เป็นคนที่ไม่ดี อย่างน้อยๆ ที่สุดก็เป็นคนที่จั๊กจี้ ใครมาว่าสักนิดก็บอกให้เข้าคุก ที่จริงพระมหากษัตริย์ไม่เคยบอกให้เข้าคุก ...

... ตั้งแต่สมัยรัชกาลก่อนๆ เป็นกบฏก็ยังไม่จับใส่คุก ไม่ลงโทษ รัชกาลที่ 6 ท่านไม่ลงโทษ ไม่ได้ลงโทษผู้ที่เป็นกบฏ มากระทั่งถึงต่อมารัชกาลที่ 9 เนี่ย ใครเป็นกบฏ ซึ่งก็ไม่เคยมีแท้ๆ ที่จริงก็ทำแบบเดียวไม่ให้เข้าคุก ให้ปล่อย หรือถ้าเข้าคุกแล้วก็มักให้ปล่อย ถ้าไม่เข้าคุกก็ไม่ฟ้อง เพราะว่าเดือดร้อน ผู้ที่ถูกด่าเป็นคนที่เดือดร้อน คนที่ละเมิดพระมหากษัตริย์ นี่แล้วก็ถูกทำโทษ ไม่ใช่คนนั้นที่เดือดร้อน แต่พระมหากษัตริย์เดือดร้อน ไอ้นี่ก็แปลก คราวนี้นักกฎหมายก็ชอบให้ฟ้องให้จับเข้าคุก อันนี้นักกฎหมายสอนนายกฯ บอกว่าต้องฟ้อง ต้องลงโทษ นี่ขอสอนนายกฯ ว่า ใครบอกว่าให้ลงโทษ อย่าลงโทษเขา ลงโทษไม่ดี ลงท้ายไม่ใช่นายกฯ เดือดร้อน แต่พระมหากษัตริย์เดือดร้อน ...

... หรืออยากให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อนก็ไม่รู้นะ เขาทำผิดเขาด่าพระมหากษัตริย์เพื่อที่จะให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อน แล้วเดือดร้อนจริงๆ เพราะว่าใครมาด่าเรา ก็ไม่ชอบ แต่ว่าถ้านายกฯ เกิดให้ลงโทษแย่เลย แล้วนักกฎหมายต่างๆ ก็จะให้ลงโทษคนที่ด่าพระมหากษัตริย์ ทำไปทำมาเลยต้องเอาวะ เขาด่านายกฯ ถ้าด่านายกฯ นายกฯ เดือดร้อนไหม ไม่ควรจะเดือดร้อน แต่ถ้าด่านายกฯ พระมหากษัตริย์ก็ไม่เดือดร้อน เพราะว่าเป็นเรื่องของนายกฯ แต่ถ้าเขาด่าพระมหากษัตริย์ นายกฯ เดือดร้อน เพราะว่าต้องเป็นคนจัดการ เรื่องมันยุ่งอย่างนี้ ..."


ในวันนี้ฝ่ายโจทย์ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่กลับกลายเป็นฝ่ายชาวบ้านที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี และผู้ที่ทำงานรับใช้นายกรัฐมนตรีเป็นโจทย์แทน ซึ่งก็ยอมรับว่าความผิดพลาดในการตีพิมพ์ข้อความ ที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งสองฝ่าย จะทำให้นายสนธิต้องเดือดร้อนไปด้วย จากการที่พาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ระหว่างการปราศรัย ในตอนนี้ทางคมชัดลึกก็แสดงความรับผิดชอบไปแล้ว ถึงขนาดบรรณาธิการต้องยอมตกงาน ต้องสูญเสียรายได้นับสิบล้านบาทเพราะการหยุดตีพิมพ์และจัดจำหน่าย และล่าสุดยังขอพระราชทานอภัยโทษในความผิดพลาดดังกล่าว

พ่อแม่ทุกคนต่างปลูกฝังให้มีความเคารพรักในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สืบทอดจนถึงลูกหลาน และผมมีความเชื่อว่า คุณสนธิยังเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่แพ้คนไทยอีกหลายสิบล้านคน ในฐานะบุคคลที่อาศัยในผืนแผ่นดินไทย เป็นพสกนิกรคนหนึ่ง การกล่าวอ้างพระมหากษัตริย์บนเวทีปราศัยที่คุณสนธิกระทำอยู่บ่อยๆ เจตนามิได้โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ หากแต่ผู้ที่ถูกโจมตีจากการชุมนุมประท้วงเป็นหลักอยู่นั้น จะใช่ใครอื่นนอกจาก "นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร" และรัฐบาล ที่มีผลสาระสำคัญมาจากการบริหารประเทศที่ขาดความชอบธรรม ดังที่หลายคนได้ปรากฏเด่นชัด

การสร้างค่านิยม 'รักในหลวง' โดยการให้ประชาชนจากกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มคาราวานคนจน กลุ่มชาวบ้านและสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ข้าราชการ และคนที่รับใช้พรรคการเมือง แห่กันฟ้องร้องคุณสนธิในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไม่ต่างอะไรกับค่านิยม 'รักชาติยิ่งชีพ' ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามมองสถานการณ์ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างดูหมิ่นแคลน อันเนื่องมาจากการที่ให้บรรดาพรรคพวกที่มียศตำรวจด้วยกันทำงานแทนที่ระบบทหารซึ่งมีอยู่เดิม จนกลายเป็นปัญหาขัดแย้งจนเกิดปัญหาความวุ่นวาย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบอกว่าเป็นฝีมือของบรรดา "โจรกระจอก" ปัญหาที่มีอยู่ย่อมไม่รู้จบ และสร้างความไม่พอใจให้กับคนบางกลุ่มจนถึงทุกวันนี้ แม้จะมีกลยุทธสร้างความสามัคคีในชาติ แต่หลายคนยังลืมที่จะ 'เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา' จนยุทธศาสตร์ที่ว่ากันว่ามาถูกทาง ยังควานหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ไม่เจอ

การสร้างค่านิยม 'เรารักในหลวง' นี้ ... รัฐบาลกำลังจะใช้เป็น 'อุดมการณ์' ในการยัดเยียดให้เราเพื่อปกครองเรา ให้มีความยอมรับในความชอบธรรม ไม่แพ้ค่านิยม 'รักษาประชาธิปไตย เราไปเลือกตั้ง' เมื่อก่อนหน้านี้ หรือจะเป็น 'รักชาติยิ่งชีพ' หรือ 'รักกันไวเถิด... เราเกิดร่วมแดนไทย' ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งค่านิยมนี้จำเป็นที่จะต้องมีแง่คิดกันอย่างสลับซับซ้อน ไม่ใช่เป็นเพียงการปลุกกระแสออกสื่อ ให้ประชาชนเสียงส่วนใหญ่รู้สึก 'พึงพอใจ' ในความภูมิใจที่มีส่วนร่วมในกระแสเหล่านั้น

ค่านิยม 'รักในหลวง' กำลังจะกลายเป็นยุทธศาสตร์อีกอย่างหนึ่ง ที่ฝ่ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ นำไปเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง ด้วยการดูหมิ่นดูแคลนว่า กลุ่มผู้ชุมนุม (รวมทั้งตัวผมด้วย) เป็นตัวการบ่อนทำลายชาติ เป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหาบ้านเมืองตามมามากมาย เศรษฐกิจเสียหาย และคงหนีไม่พ้น 'ทำให้ในหลวงเดือดร้อน' ปัญหาทั้งหมดไม่ใช่ว่าใครบางคนจะปลุกปั่นให้วุ่นวาย หากแต่ประชาชนที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน ล้วนแล้วแต่มองว่า 'พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร' แสดงให้เห็นชัดว่า หมดความชอบธรรม วลีที่เด่นชัดที่สุดว่า 'ขายชาติ โกงแผ่นดิน' คงไม่ต้องบรรยายว่า เหตุใดประชาชนร่วมหลายล้านคนถึงต้องออกจากบ้าน มานั่งกลางดินกินกลางทราย แทนที่จะนั่งดูละครปนข่าวในช่องฟรีทีวี และแสดงความเห็นกันบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่กับบ้านเฉยๆ ...

ผมไม่รู้ว่า เจตนาที่แท้จริงที่ปากบอกว่า 'ทำไปเพื่อปกป้องพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะพสกนิกรคนหนึ่ง' ในใจของคนที่เอ่ยประโยคเหล่านั้น จะมองถึงพระเจ้าอยู่หัวจริงๆ อย่างชอบธรรม หรือจ้องที่จะทำลายชื่อเสียงในฐานะแกนนำของกลุ่มพันธมิตร อย่าง 'สนธิ ลิ้มทองกุล' เพียงเพราะไม่ชอบหน้าที่วิจารณ์โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ บุคคลอันเป็นที่รักของชาวบ้านเหล่านั้นหรือไม่ ...? เพราะเห็นหน้าคาดตาผู้ฟ้องร้องแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นคุณปลอดประสบ บรรดา ส.ส.ไทยรักไทย คุณฉลาด วรฉัตร ที่ล้วนแล้วแต่เป็นโจทก์เก่าคุณสนธิ หรือเป็นฝ่ายคาราวานคนจน ชาวบ้านที่เกณฑ์กันจัดตั้งกลุ่ม 'คนรักในหลวง' ในแต่ละพื้นที่อย่างหลวมๆ เพื่อชุมนุมประท้วงในการกดดันให้ดำเนินคดีนี้โดยเฉพาะ

ซึ่งเราก็ยอมรับว่า คุณสนธิเป็นฝ่ายที่เมื่อมองผ่านๆ แล้วราวกับว่าผิดจริง ในฐานะที่มักจะอ้างถึงพระเจ้าอยู่หัวเพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ บางอย่างที่ลุกลามมายังสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างกรณีจัดซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าที่ใช้สำหรับบินส่วนตัว หรือกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งเป็นประธานในพิธีทำบุญประเทศ ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) อย่างไม่ชอบมาพากลซึ่งคำสั่งที่มีผลย้อนหลัง ซึ่งถ้าหากคุณสนธิพูดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจริง ประชาชนที่ฟังกำารปราศรัยของคุณสนธิคงต้องรู้สึกระคายเคือง จนกระทั่งต้องออกมาจัดการกับคุณสนธิไปเอง ซึ่งผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรทุกคนต่างเข้าใจในเหตุผลของคุณสนธิ โดยไม่มีใครท้วงติงตรงนั้น

แต่กับการฟ้องร้องของบรรดากลุ่มคนเหล่านี้ เจตนาที่แท้จริงจากการ 'จับผิด' ฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ไตร่ตรองถึงความน่าจะเป็นไว้ก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบเห็นมาจากชาวบ้านที่ไม่เคยไปฟังการปราศรัย แต่ถูกโน้มน้าวใจจากกระแสแบบ 'ปากต่อปาก' และคนที่พบเห็นข้อความในหนังสือพิมพ์คมชัดลึกแล้วเกิดอาการ 'ตื่นตูม' นึกว่าสารที่พบเห็นเป็นจริง จนนำไปสู่การปิดล้อมที่ทำการหนังสือพิมพ์ด้วยกิริยาอันป่าเถื่อน โดยอ้างถึงความจงรักภักดีแบบผิดหูผิดตา และอีกส่วนหนึ่งแห่ไปฟ้องร้องกับทางตำรวจดำเนินคดีกับคุณสนธิ ...

สุดท้าย คนที่เดือดร้อนไม่ใช่เพียงแค่คุณสนธิ หรือผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรฯ แต่กลายเป็น 'พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว' ที่นามของท่านถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อต่อสู้เพื่อลดความชอบธรรม ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

แม้การที่ทางตำรวจออกมาพูดว่า การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของคุณสนธินั้นมีมูลความจริง แต่ปัญหาที่แท้จริงนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องความผิดลาดในการตีพิมพ์ข่าว ที่เกิดขึ้นจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ซึ่งมีคนบางกลุ่มถูกนำไปเป็นเครื่องมือให้เรื่องราวยืดเยื้อ ซึ่งพยานหลักฐานเป็นเพียงแค่ข้อความที่ตีพิมพ์ แต่ปัญหาอยู่ที่คำปราศรัยของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล บนเวทีพันธมิตรในค่ำคืนวันนั้น ที่มีความพยายามของบุคคลบางกลุ่ม กระทำการตัดต่อโดยการดูดเสียง ให้กลายเป็นคำพูดตามข้อความที่ตีพิมพ์ผิดพลาดจริงๆ แล้วเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกใจอยู่เหมือนกันว่า คำพูดที่ตัดต่ออย่างบิดเบือนเหล่านั้นกลายเป็นวัตถุพยานที่ตำรวจรับไฟพิจารณา?

เราเชื่อว่า ศาลยุติธรรมคงมีกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นธรรมในคดีนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศาลคงจะให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายที่ถูกกล่าวหาอย่างคุณสนธิ แต่ถ้าสมมติว่า วันใดวันหนึ่งคุณสนธิถูกทางศาลสั่งฟ้องในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจริง เรื่องพลิกล็อคที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นสงครามย่อยๆ ที่อาจจะกลับมายิ่งใหญ่และร้ายแรง จากความไม่พอใจของคนอีกกลุ่มหนึ่งได้ ... ในเมื่อแกนนำที่เสมือนได้รับความมอบหมายจากประชาชนในกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นหลัก ที่ครองกลุ่มมวลชนไว้อย่างเหนียวแน่นและมากขึ้นนั้นขาดหายไป

จริงอยู่ที่กลุ่มเสียงส่วนใหญ่ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะรู้สึกพอใจถ้าหากว่าคุณสนธิได้รับการลงโทษจริง แต่ประชาชนโดยเฉพาะคนที่ไปฟังการปราศรัย และไม่เชื่อว่าคุณสนธิพูดปราศรัยบนเวทีเช่นนั้น จะรู้สึกว่าศาลไม่เป็นธรรมกับพวกเขา ที่ผ่านมาพวกเขาเป็นเพียง 'พลังเงียบ' ที่ต่อสู้ด้วยปัญญา มากกว่าจุดกระแสโฆษณาชวนเชื่ออย่างการติดสติกเกอร์โจมตีแกนนำกลุ่มพันธมิตรอย่างคุณสนธิ คุณจำลอง ดังจะเห็นได้จากกระแสการลงคะแนนเสียงในช่อง 'ไม่ลงคะแนน' ที่ถือเป็นการสั่งสอน 'พ.ต.ท.ทักษิณ' ว่าประชาชนอีกส่วนหนึ่งก็ไม่ชอบให้อำนาจเสียงส่วนใหญ่ กดขี่ข่มเหงในความรู้สึกของพวกเขา

และปัญหาความวุ่นวายถ้าหากเกิดเรื่องพลิกล็อกในตัวคุณสนธิเช่นนี้ ต่อให้พรรคไทยรักไทยใช้คำว่า 'สมานฉันท์' ออกมาอธิบายกับชาวบ้านอย่างไรก็ไม่มีทางเชื่อ เผลอๆ คนบางคนพรรคไทยรักไทยก็ตราหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมเหล่านั้นว่าเป็นพวก 'คนจรจัด' ไม่แพ้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมากล่าวหาฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า 'โจรกระจอก' ...

'ถาโถมโหมดั่งประเทศไทย' คงจะไม่ใช่แค่ภาคใต้ที่ไม่เอาทักษิณ แต่ยิ่งจะคับแค้นทุกหย่อมหญ้า หากเราต้องแพ้สงครามเพราะคนบางกลุ่ม ใช้การแปลง 'สถาบันพระมหากษัตริย์' เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรม ตั้งแต่เกราะกำบัง จนกระทั่งอาวุธทำลายล้างโจมตีฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นคนไทยที่ต่างก็ 'รักในหลวง' ด้วยกันเอง ...

ขอความกรุณาสะกิดคนที่รู้จักกัน ให้ถอนแจ้งความที่ฟ้องร้องคุณสนธิเถอะครับ ... เพราะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้คุณสนธิเป็นหลักแล้ว แต่ยังสร้างความลำบากพระทัยให้กับในหลวงด้วย ... ที่ต้องเห็นสังคมกลับต้องแตกแยกกันอย่างรุนแรง ... เพียงแค่ความรู้สึก 'ระคายเบื้องพระยุคลบาท' จากคำกล่าวอ้างของคนบางกลุ่มเท่านั้นเอง

*** หมายเหตุ : เนื่องจากเรื่องที่เขียนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงขอสงวนสิทธิ์ไม่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นใดๆ ในเว็บล็อกตอนนี้ แต่สามารถท้วงติงได้ทางอีเมล์และหลังไมค์ครับ ***


Create Date : 19 เมษายน 2549
Last Update : 28 เมษายน 2549 16:48:48 น. 0 comments
Counter : 539 Pageviews.

Aloha007
Location :
สมุทรสาคร Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นับตัวเลข








Friends' blogs
[Add Aloha007's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.