|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ได้เวลาถอดเฝือกแล้วจ้า
พอดีได้อ่านเจอบทความนี้นะคะ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ไม่มาก็น้อย เกี่ยวกับการปฎิบัติตน หลังจากถอดเฝือกแล้วค่ะ ^^ ขอขอบคุณที่มาจาก //www.uniserv.buu.ac.th/forum2/post.asp?method=TopicQuote&TOPIC_ID=1351&FORUM_ID=10
ด้วยนะคะ ^^ ---------------------------------------------------------------------------- ก่อนตัดเฝือกคุณหมอจะใช้ดินสอขีดเป็นแนวยาว 2 ข้าง ของเฝือกที่จะตัด แล้วใช้เครื่องตัดเฝือกไฟฟ้า ซึ่งมีลักษณะเป็นใบเลื่อยกดลงตรงรอยที่ขีดไว้ลึก จนถึงที่ว่างใต้เฝือกแสดงว่าพ้นความหนาของเฝือกแล้ว และเริ่มกดเป็นช่วงๆตลอดแนวเฝือกที่ต้องการตัด เวลาตัดจะมีเสียงดังและมีการหมุนไป-กลับของใบเลื่อย ใบเลื่อยนี้จะตัดเฉพาะส่วนที่แข็ง และจะไม่ตัดส่วนที่นุ่ม
ดังนั้นเมื่อตัดเฝือกแล้ว จะใช้เครื่องถ่างเฝือกถ่างเฝือก ให้แยกออกจากกันแล้วใช้กรรไกรตัดสำลีให้ขาดออกจากกันอีกครั้งหนึ่ง หลังถอดเฝือกระยะแรก ต้องปฏิบัติตนดังนี้ 1. ล้างฟอกผิวหนังบริเวณนั้นด้วยสบู่และน้ำอย่างเบาๆ เพราะผิวหนังบริเวณนี้ยังมีสภาพอ่อนแอ ไม่เช็ดถูอย่างรุนแรงเพราะผิวหนังอาจได้รับอันตราย และกระดูกที่ติดแล้วยังไม่แข็งแรงพออาจหักออกจากกันได้อีก การขจัดคราบเหงื่อไคลให้ง่ายขึ้นควรใช้น้ำมันมะกอก หรือโลชั่นลูบบริเวณผิวหนัง ทิ้งไว้สักครู่แล้วเช็ดตามด้วยน้ำอุ่น กับสบู่อีกครั้งเช็ดให้แห้ง อาจทาน้ำมันหรือโลชั่นอีกครั้ง เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้น การทำผิวหนังให้สะอาด อาจใช้เวลานานหลายวัน ไม่ใช้วิธีดึงลอกผิวหนังที่แตกออก ควรปล่อยให้หลุดร่วงไปเองเพราะอาจเกิดแผลถลอกได้ง่าย ไม่ควรนวดผิวหนังบริเวณที่ถอดเฝือก เพราะอาจทำให้กระดูกที่เริ่มติดหลุดออกจากกัน
2. การใช้งานอวัยวะที่ถอดเฝือกออกแล้ว ควรปฏิบัติดังนี้ 2.1 พันอวัยวะส่วนที่เคยอยู่ในเฝือกด้วยผ้าพันแผลชนิดยืด ให้ตลอดความยาวที่เคยอยู่ในเฝือกก่อนเริ่มใช้งาน เป็นการพยุงแขนขาเวลาเคลื่อนไหว ช่วยป้องกันการบวม ม่พันแน่นจนเกินไปและเวลานอนให้เอาผ้าพันแผลชนิดยืดออก 2.2 ให้เริ่มเคลื่อนไหวข้อที่ถอดเฝือกทันทีเท่าที่จะทำได้ โดยขยับข้อนั้นอย่างสม่ำเสมอ เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กลับคืนสภาพเดิมโดยเร็ว 2.3 ไม่ใช้งานหรือลงน้ำหนักบริเวณอวัยวะ ส่วนที่เพิ่งถอดเฝือกใหม่ๆอย่างเต็มที่ จนกว่ากล้ามเนื้อจะแข็งแรงดังเดิมหรือจนกว่าคุณหมออนุญาต 2.4 ถ้ามีอาการบวมหลังเคลื่อนไหว หรือผิวหนังบริเวณมือหรือเท้ามีสีคล้ำหลังจากเดิน หรือนั่งห้อยแขนขา ควรยกแขนขาให้สูงกว่าระดับลำตัว โดยวางแขนขาบนหมอนและขยับข้อบริเวณใกล้เคียงเสมอ หากยังไม่ดีขึ้นควรไปพบคุณหมอ 2.5 ไม่ห้อยแขนขาที่ออกจากเฝือกใหม่ๆเวลานั่ง ให้ยกแขนสูงโดยวางพาดบนหมอนหรือบนโต๊ะ หรือยกขาวางระดับเดียวกับเก้าอี้ 2.6 บริหารข้อที่ยึดติดแบบต้านแรงเคลื่อนไหว ให้เหมือนเดิม เช่น การดึง การดัน หรือถ่วงน้ำหนัก และค่อยๆเคลื่อนไหวมากขึ้นจนปกติ ในครั้งแรกๆอาจมีอาการปวดได้ ควรใช้ความร้อนประคบบริเวณข้อที่ยึดก่อน จะทำให้ความปวดน้อยลง 2.7 สังเกตภาวะแทรกซ้อนหลังจากถอดเฝือก และควรรายงานให้คุณหมอหรือคุณพยาบาลทราบ หากพบว่ามีสีของผิวหนังคล้ำมากขึ้น ผิวหนังบริเวณที่เข้าเฝือกจะมีลักษณะแห้งตกสะเก็ดเป็นลาย มีเยื่อสีเหลืองปนสีน้ำตาลบางๆปกคลุมอยู่ เกิดจากผิวหนังชั้นนอกที่ลอกรวมกับไขมัน และสิ่งสกปรกอื่นๆ กล้ามเนื้อที่อยู่ในเฝือกลีบอ่อนแรง เนื่องจากไม่ได้ใช้งานกล้ามเนื้อหรือใช้งานน้อยลง ข้อบริเวณที่เคยเข้าเฝือกจะฝืดแข็ง งอหรือเหยียดไม่ได้เต็มที่ ขณะงอหรือเหยียดจะเจ็บปวด เนื่องจากข้อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน อาการปวดที่เกิดจากกล้ามเนื้อขาดความตึงตัว ลีบเล็ก ทำให้มีการคั่งของเลือดโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนขาและเท้า มีกระดูกหักซ้ำเนื่องจากการใช้งานอวัยวะ ที่เพิ่งออกจากเฝือกใหม่ๆเร็วเกินไป หรือใช้งานอย่างเต็มที่ก่อนที่คุณหมออนุญาต แรงกดเนื่องจากการเข้าเฝือกปูน (Cast pressure) ต่อผิวหนังและปุ่มกระดูกต่างๆ ทำให้เกิดแผลกดทับ ซึ่งผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด ต่อมาจะไม่รู้สึกเจ็บ เกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อในที่สุด
นอกจากนี้อาจเกิดแรงกดต่อเส้นประสาท โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เข้าเฝือกขาชนิดยาว ผู้ป่วยจะมีอาการชาหรือไม่สามารถใช้งานอวัยวะส่วนนั้นได้ งอนิ้วหัวแม่เท้าไม่ได้ อาการนี้จะเกิดชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ การติดเชื้อหรือการเน่าตายของเนื้อเยื่อ หรือมีอาการปวดแสบปวดร้อน มีกลิ่นเหม็นบริเวณที่เข้าเฝือก มีสิ่งคัดหลั่งไหลซึมออกมา เฝือกตรงบริเวณที่มีการติดเชื้อ จะอุ่นกว่าที่อื่นและผู้ป่วยมีไข้
Create Date : 27 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 29 สิงหาคม 2553 18:02:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3386 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์
|
|
|
|
|
|
|