" การเป็นผู้ให้ ย่อมสุขใจ กว่าการเป็นผู้รับ "
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
17 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
ประวัติ ฟุตบอลโลก

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม นะคะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก fifafantasia.com ค่ะ


เป็นที่ทราบกันดีว่าทุก ๆ 4 ปี มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่และมีผู้ให้ความสนใจทั่วโลกอย่าง "ฟุตบอลโลก" (world cup) จะแวะเวียนมาบรรจบ ให้เพื่อน ๆ ได้ร่วมลุ้นร่วมเชียร์ทีมที่ชื่นชอบ โดย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (F.I.F.A.) จะทำการคัดเลือกประเทศที่มีศักยภาพผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ "ฟุตบอลโลก" ซึ่งคราวนี้ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2010 (พ.ศ.2553) ก็เป็นหน้าที่ของประเทศแอฟฟริกาใต้ที่รับเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน โดย ฟุตบอลโลก 2010 จะเริ่มทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กรกฎาคมนี้

ฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลโลกฟีฟ่า (FIFA World Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ โดย ฟุตบอลโลก เริ่มครั้งแรกในปี ค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) สำหรับผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ครั้งแรกคือ จูลส์ ริเมท์ (Jules Rimet) เป็นชาวฝรั่งเศส โดยได้เสนอในที่ประชุมของประเทศสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เมื่อปี ค.ศ.1902 (พ.ศ.2445) แต่กว่าจะลงตัวและเริ่มจัดขึ้นจริง ๆ คือปี ค.ศ.1930 ซึ่งประเทศที่ได้เกียรติเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก ครั้งแรกได้แก่ ประเทศอุรุกวัย โดยมีประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 13 ชาติ และประเทศอุรุกวัยก็คว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะประเทศอาร์เจนตินาไป 4-2 ประตู ทั้งนี้ เพื่อเป็นเกียรติแด่ จูลส์ ริเมท์ ถ้วยรางวัลชนะเลิศจึงใช้ชื่อ "ถ้วยจูลส์ ริเมท์"







จากนั้นก็มีการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ต่อเนื่องมาทุก 4 ปี โดยครั้งที่ 2 จัดขึ้นในปี ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477) ที่ประเทศอิตาลี ผลปรากฏว่าทีมเจ้าภาพก็คว้าแชมป์โลกไปครองได้อีก ด้วยการเอาชนะประเทศเชโกสโลวาเกีย ส่วนครั้งที่ 3 จัดขึ้นในปี ค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ประเทศอิตาลียังยอดเยี่ยมคว้าแชมป์โลกไปครองได้อีกสมัย แต่หลังจากฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 การแข่งขันต้องหยุดชะงักไป 12 ปี (ค.ศ.1942, 1946) เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มาเริ่มแข่งขันครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ.1950 (พ.ศ.2493) โดยประเทศบราซิลรับเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางความขัดแย้งของหลาย ๆ ชาติ เนื่องจากควันหลงจากสงครามโลกนั่นเอง

ต่อมาในปี ค.ศ.1970 (พ.ศ.2513) ประเทศบราซิลได้คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 จึงได้สิทธิ์ครอบครอง ถ้วยจูลส์ ริเมท์ (ซึ่งภายหลังได้ถูกขโมยไป) ทางสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติจึงได้จัดทำถ้วยรางวัลขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า "ถ้วยฟีฟ่า" ทำด้วยทองคำ มีความสูง 36 เซนติเมตร มูลค่าประมาณ 4 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ในปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.2524) ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 12 ทางสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติได้ปรับเปลี่ยนจำนวนทีมเข้าแข่งขันจากเดิม 16 ทีม เป็น 24 ทีม และในปี ค.ศ.1998 (พ.ศ.2541) ต่อมาก็เพิ่มจาก 24 ทีมเป็น 32 ทีม เนื่องจากฟุตบอลเริ่มได้รับความนิยมไปแพร่หลายทั่วโลก แต่ละประเทศมีการพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาก จึงน่าจะมีทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมากขึ้นตามไปด้วย จนได้ชื่อว่าเป็นการแข่งขันกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก




สำหรับการคัดสรร ตัวมาสคอร์ท (Mascot) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ฟุตบอลโลก (World Cup Mascot) ในการแข่งขันแต่ละครั้ง ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 19 หรือ ฟุตบอลโลก 2010 ตัวนำโชคอย่างเป็นทางการคือ ซากูมี (Zakumi) ซึ่งเป็นมนุษย์ครึ่งเสือดาว ผมสีเขียว ชื่อของเขามีที่มาจาก "ZA" ซึ่งเป็นรหัสประเทศของประเทศแอฟริกาใต้ "kumi" ซึ่งมีความหมายว่า "สิบ" เป็นจำนวนภาษาที่หลากหลายในแอฟริกา สีของตัวนำโชคนี้บ่งบอกถึงชุดที่ทีมเจ้าภาพใช้ทำการแข่งขัน คือ สีขาว และ สีดำ โดยคำขวัญประจำการของ ซากูมี คือ Zakumi's game is Fair Play

รวม เพลงบอลโลก 2010

เพลง Wavin’ Flag เพลง Wavin’ Flag เป็นเพลงแรกที่เราได้ยินในการโปรโมทการแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพ 2010 หรือ ฟุตบอลโลก 2010 ในครั้งนี้ ผ่านโฆษณาของผู้สนับสนุนหลักอย่างน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งแต่งโดย K’Naan ศิลปินผิวสี ลูกครึ่งแคนาดา-โซมาเลีย และร้องเพลงนี้เองด้วย ซึ่งตอนหลังก็มีเวอร์ชั่นที่ได้นักร้องชื่อดังมาร่วมร้องด้วยอีกเพียบทั้ง วิล ไอ แอม จาก วงแบล็ค อายส์ พี และศิลปินจากชาติต่าง ๆ ที่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งนี้ รวมถึง Tattoo Colour จากประเทศไทยของเราก็เช่นกัน










เพลง Oh Africa

เพลง Oh Africa ร้องโดยศิลปิน Akon ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ตามมาติด ๆ จากน้ำอัดลมยี่ห้อคู่แข่ง ซึ่งคุ้นตาชาวไทยเราจากโฆษณาเช่นกัน อีกทั้งยังมีศิลปินไทยไปร่วมร้องและแสดงในมิวสิควิดีโอเพลงนี้ด้วย นั่นก็คือ สาวซานิ จากบ้าน AF6 นั่นเอง จับตาดูในมิวสิควิดีโอเพลงนี้ให้ดีนะคะ



เพลง Waka Waka (Time For Africa)
Waka Waka เพลงของนักร้องสาว ชากีร่า (Shakira) เพลงล่าสุดที่กำลังฮิตติดหูแฟนบอลอยู่ในขณะนี้ กับท่าเต้นท้องถิ่นน่ารักปนเซ็กซี่ ทำให้เหล่าแฟนบอลจดจำได้ง่าย และคึกคักสะใจแฟนบอล แถมยังเป็นเพลงที่เปลี่ยนบรรยากาศจากเสียงของหนุ่มๆ มาเป็นนักร้องสาวเซ็กซี่แทนด้วย





เพลง โอ๊ โอ่ โอ โอ๊ โอ่

โอ่ โอ โอ๊ โอ่ คือเพลงที่นำเอาเพลง Wavin’ Flag มาทำใหม่ในเวอร์ชั่น ภาษาไทย และได้ศิลปินไทยอย่างวง Tattoo Colour เป็นผู้ถ่ายทอดเพลงนี้ประกอบโฆษณาน้ำอัดลมอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีท่อนที่ศิลปินต้นฉบับอย่าง K’Naan ร่วมร้องอีกด้วย


















-







Create Date : 17 มิถุนายน 2553
Last Update : 17 มิถุนายน 2553 0:42:51 น. 0 comments
Counter : 1188 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




การเป็นผู้ให้ ย่อมสุขใจกว่าการเป็นผู้รับ : )
Friends' blogs
[Add อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.