puddingbu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




สวัสดีค่า ตอนนี้อยู่ไทยตลอดแล้ว ^^


แอลจี้ ชอบของน่ารัก โลลิ เห่อของใหม่ ทุกสิ่งอย่าง ชอบเที่ยว ชอบกิน ><

* รูปในบล๊อคนี้ ถ้าเป็นรูปที่มีแอลในรูป เอาไปใช้ได้ ตามที่แอลใช้จริงนะคะ ห้ามมั่วผลิตภัณฑ์นะ ถ้าใส่ credit ให้ด้วยก็ขอบคุณค่ะ ^^


คนธรรมดา ที่ชอบทดลอง อะไรออกใหม่ และแบ่งปัน
ติดต่อ สอบถาม พูดคุยกันได้ ค่อนข้างเฟรนลี่และขี้อาย ^^
AlgaeTales@hotmail.com

Line: @circlelens




Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
16 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add puddingbu's blog to your web]
Links
 

 
[ส่วนตัว] เกาะกระแสข่าวบิ๊กอาย หุ หุ

เมื่อเช้าอ่านหนังสือพิมพ์ ก็คิดว่า
1. น.พ. คนนี้อีกแล้ว เมื่อสามปีที่แล้วก็เคยออกมาเตือน มีอยู่คนเดียวนี่แหละ

2. ดอกจันไว้ 500ดอกเลยนะ จริงๆ มันอยู่ที่การรักษาความสะอาด ไม่เกี่ยวกับกับ เลนส์ใส หรือ ว่า บิ๊กอายหรอก

3. เลนส์ร้านแว่นหลายยี่ห้อเกิน 50% ก็
3.1 ไม่ได้ขอ อ.ย. (หนักเลยอันนี้)
3.2 อยู่ระหว่างการอนุญาตนำเข้า (เช่นเดียวกับคอนแทคเลนส์บิ๊กอาย ร้านตลาดนัด) ทำไมไม่ไปจับล่ะ ???

4. ขยายความเรื่องอยู่ระหว่างการขออนุญาตนำเข้า หมายความว่า อ.ย. รับเรื่องแล้วว่ามีมาตฐาน แต่ ดึงเวลาไม่ให้นำเข้า เชื่อว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์นั่นแหละ

5. พูดถึงยูเนี่ยนมอลล์ มีร้านคอนแทค เยอะกว่า 3 ร้านนะ โดยเฉพาะร้านที่ ตกแต่งเหมือนเป็นร้านแว่น ขายแว่นด้วย ทำไมรอด 555+

6. แต่ก่อนตั้งนานแล้ว ก็เห็นขายตามข้างถนนเต็มเลย จะจะ ก็ไม่จับ พอมีข่าวขึ้นมา โหเร็วมาก แล้วก็ต้อง พานักข่าวไปด้วยนะ สร้างผลงาน

7. ถ้าจะจับทำไมไม่จับผู้นำเข้า

8. ที่พูดก็ไม่ได้ประโยชน์ ไม่ได้เสียประโยชน์อะไร เพราะยี่ห้อพวกนั้นก็ไม่เกี่ยวกับเรา แค่สงสารว่า เนี่ยแหละน้าประเทศไทย ยี่ห้อพวกนั้นมันก็ผ่านมาตฐานแล้วจริงๆ ก็แค่เรื่องของเจ้าบิ๊กๆในร้านแว่นที่เสียผลประโยชน์ กีดกันยี่ห้ออื่น มีเส้นสายใน อ.ย. ให้ไม่ยอมออกใบอนุญาตนำเข้าให้สักที ดึงเรื่องให้ช้าๆ จะได้ไม่มียี่ห้ออื่นมาขายแข่ง ก็แค่หาเรื่องเล่นงาน ก็เท่านั้นเอง

9. ข่าวลงว่าหวิดบอด ยังไม่เห็นบอดจริงๆจังๆ สักทีนะ แล้ว ไอ้ที่ว่าบอดๆ เนี่ย ใส่ยี่ห้ออะไร ใส่เลนส์ร้านแว่นแล้ว มันจะไม่บอดใช่ไหม ก็ไม่ใช่

11. จากข่าว ก็ใส่กันตั้งสามเดือนแล้ว เพิ่งจะติดเชื้อ หมายความได้อย่างเดียว ไม่ใช่คอนแทคเลนส์มันไม่ดี แต่เป็นเพราะ ความสกปรก คำเดียว


10. บิ๊กอายโดนโจมตี ก็ต้องเข้าใจว่า ลูกค้าร้านแว่น กับ ร้านแผงลอย มันก็คนละกลุ่มกัน ทั้งอายุ และ วุฒิภาวะ การระมัดระวัง การดูแลรักษาคอนแทคเลนส์มันก็ต่างกัน

สรุป ก็จริงที่ เลนส์สี หรือ บิ๊กอาย มันเคืองง่ายกว่าเลนส์ใส
แต่ มันก็ไม่ใช่เพราะ เลนส์มันเถื่อน
แต่ มันเป็นเพราะ *** ผู้ใส่ ไม่รักษาความสะอาด*** ไม่ทำตามข้อควรปฏิบัติของการใส่คอนแทคเลนส์ เช่น
- ห้ามใส่นอน
- ห้ามใส่ว่ายน้ำ
- ห้ามใส่เกินระยะเวลาที่กำหนด คือประมาณไม่เกิน 8 ชม.ต่อวัน
- ต้องถอด แช่ทุกวัน ด้วยน้ำยาแช่โดยเฉพาะนะ ไม่ใช่น้ำเกลือ solution
- ไม่อยู่ในที่มีควัน ธูป เทียนเพราะจะระคายเคืองตา
- ไม่จ้องหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ เพราะ จะตาแห้ง
- ไม่อยู่ในที่อากาศ หนาว อากาศแห้ง เพราะตาจะแห้ง
- ใส่คอนแทคเลนส์ที่ curve(ค่าความโค้ง) และ DIA (เส้นผ่านศูนย์กลาง)เหมาะสมกับดวงตา จำไว้ว่าไม่มีคอนแทคเลนส์ยี่ห้อใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

สาเหตุที่บิ๊กอาย มีโอกาส ระคายเคืองง่ายกว่า เลนส์ใส หรือ เลนส์เล็ก
- O2 ผ่านได้น้อยกว่า เพราะเลนส์มันปกคลุมตาดำและตาขาวมากกว่า เลนส์ขนาดเล็กกว่า
- เลนส์สีเยอะ O2 ผ่านได้น้อยกว่า เลนส์สีน้อย(เลนส์ใส) เพราะสีไปปกคลุมรูพรุนของเลนส์มากกว่า (แต่ปัจจุบัน เลนส์สีก็มีการพัฒนา ใช้เทคนิคการกระจายสีแบบ Dot เมทริก ทำให้ O2 ผ่านเข้าไปได้ดีเหมือนกับเลนส์ใส)
- เลนส์สี อาจมีความนูนของเม็ดสีขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้เกิดการระคายเคืองได้มากกว่าเลนส์ใส หรือ เลนส์ที่ลงสีบางๆ
- เลนส์แพง เพราะมีการเช็ก QC ที่ดีกว่า มี Defect ข้อผิดพลาดจากการตัดขอบเลนส์ การลงสีเลนส์ น้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลย จะเลนส์ ร้านแว่น เลนส์ตลาดนัด มีสิทธิเจอ เลนส์สีไม่เข้ากัน เลนส์สายตาไม่ตรง เลนส์ฉีกตั้งแต่อยู่ในแพคเกจ ได้เหมือนกัน แต่การเช็ก QC (การคัดคุณภาพ) ทำให้ลูกค้าพบข้อผิดพลาดมากน้อยต่างกัน

การใส่คอนแทคเลนส์แล้ว เคือง หรือ มึน เกิดจากอะไรได้บ้าง

เอาเรื่องใส่คอนแทคเลนส์แล้วมึนก่อน
- จากคู่มือการใส่คอนแทคเลนส์ จริงๆแล้วการใส่คอนแ
ทคเลนส์ต้องมีขั้นตอนการใใส่ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะใส่เลยได้นะ
ต้องมีการ ทำการปรับสายตา เพราะคอนแทคเลนส์อยู่ใกล้ตามากกว่าแว่นด้วย ทำให้ภาพมันจะชัดกว่า อาจจะต้องทำการลดค่าสายตาลง -0.25 หรือ
-0.50 เพื่อความสบายตา ในการมองเห็น ทัศนวิสัย

โดยเฉพาะคนที่มีค่ากำลังสายตามากๆ มันมึนง่าย

การใส่คอนแทคเลนส์มันต้อง
วันแรก ให้ใส่ไม่เกิน 1 ชม.
วันที่ 2 ให้เพิ่มเป็น 2 ชม.
จนประมาณ สัปดาห์นึง ถึงจะใส่ได้ 8 ชม.ต่อวัน

- การมึน อีกอย่างนึง คือการเปลี่ยนจากถอดแว่นปุ๊บ แล้วหยิบคอนแทคเลนส์มาใส่ปั๊บ มันทำให้มึน ภาพมันจะทำให้ปวดหัว จากการที่ร่างกายยังปรับสายตาไม่ได้

- ที่ถูกต้องคือ ถอดแว่น หรือ ถอดคอนแทคเลนส์คู่เก่า อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ก่อนหยิบคอนแทคเลนส์คู่ใหม่มาใส่

- คิดดู เวลาคุณไปวัดสายตาที่ร้านแว่น เค้ายังบอกให้คุณถอดคอนแทคเลนส์สักครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะทำการวัดสายตา ไม่งั้นค่าสายตาที่ออกมา มันจะเพี้ยน

กรณี ใส่แล้ว เคือง น้ำตาไหลพราก ตาแดง

เอาเคืองก่อน เกิดจาก
- เลนส์ ฉีก ขาด เปื่อย ทั้งอย่างเห็นได้ชัด ว่าเลนส์มีฉีก หรือ แบบแทบไม่เห็น ว่าเลนส์มันมีรอยอยู่ (ต้องใช้กล้องสัก 6 ล้านพิกเซลถ่าย มาโคร แล้วขยายดู)

- เลนส์มี ตุ่ม จากฟองอากาศในเลนส์พวก แซนวิซ เทคโนโลยี หรือ จาก เม็ดสีของคอนแทคเลนส์ มันไม่สม่ำเสมอ แล้วนูนขึ้นมา มันก็เคืองน่ะสิ

- ฝุ่น ผงอายแชโดว์ มาสคาร่า ควัน ขนตาหลุดเข้าไป ขนแมว เส้นผม บลาๆๆ วิธีแก้ก็ถอดคอนแทคเลนส์ออกมาล้าง

- เลนส์เสื่อม จากการหมดอายุการใช้งาน เช่นแกะออกมาจาก บริสเตอร์ หรือ ขวด เกินอายุการใช้งานของเลนส์

- เลนส์เสื่อมจากการใช้งานหนักเกินไป เช่น การร้องไห้ก็ทำให้เลนส์เสื่อมเร็ว คราบโปรตีน จะเกาะเลนส์ไวมาก

- เลนส์เสื่อมจากการที่เลนส์ แห้งเกินไป แบบว่าอยู่ในห้องแอร์ บ้าง อากาศหนาวแห้งบ้าง ใส่นานชั่วโมงต่อวันบ้าง

- เลนส์เมื่อแห้งสนิท มันจะแตกลายงา (มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น) แต่จะใส่ไม่สบาย

- ความสกปรก ที่มองไม่เห็น จากการไม่ล้างมือ หรือ ไปอยู่ในสถานที่อโคจร เที่ยวกลางคืน ควันบุหรี่ ควันธูป ลมพัดเอาผงฝุ่นเข้ามา

- การไว้เล็บยาว เล็บไปเกี่ยวคอนแทคเลนส์ให้ขาด

- ถอดคอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี ถอด/ใส่ แรงไป ตาช้ำ

- กินเหล้า ภูมิแพ้ ตั้งครรภ์ ขึ้นเครื่องบิน มีความกดอากาศต่ำ ทำให้ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ เนื่องจากอาจทำให้ตาแดง ระคายเคือง ความดันในลูกตาเปลี่ยน ใส่ไม่สบายเหมือนเคย

สรุป ก่อนที่จะลงความเห็นว่าคอนแทคเลนส์ไม่ดี คุณได้ปฏิบัติตามข้อควรทำอย่างดีแล้วหรือยัง ?

แล้วขออีกอย่าง ไอ้ร้านที่ชอบเอาคำพูดคนอื่นไปพูดแล้วดัดแปลงให้ดูดีกว่า น่ะ ขอเถอะ คิดเองเป็นบ้างไหม ก๊อปจนได้ดีเลยนะ จนคนเค้าคิดว่ามีความรู้ ก็แค่จำขี้ปากเราไปพูด แต่พูดให้มันยาวๆดูน่าเชื่อถือ แค่นั้นเอง


จากข่าว >>>

ข่าวที่ 1
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์ (16/02/2011)

"บิ๊กอาย" ทำพิษ พบแผลที่กระจกตาดำ เผยแบคทีเรียร้ายกินทะลุได้ภายใน 2 วัน แถมเข้าสู่กระแสเลือดได้ หมอชี้รักษาไม่ทันอาจทำให้ตาบอดหรือควักลูกตาทิ้ง พบเหยื่อหญิง-ชาย 4 รายเข้ารักษาที่ร.พ.พระนั่งเกล้าหลังตาบวม สอบถามพบซื้อคอนแท็กต์เลนส์แบบบิ๊กอายมาใส่ ทั้งสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตและตลาดนัดสะพานพุทธ


วันที่ 15 ก.พ. น.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการตรวจ ผู้ป่วยด้านตาพบว่าในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการตาบวม เป็นสีแดงก่ำ ปวด และมีขี้ตาเป็นสีเขียวออกมาตลอดเวลา ถึง 4 ราย เป็นเพศชายและหญิง ทุกรายเป็นวัยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และอายุน้อยสุด 14 ปี เมื่อส่องกล้องพบว่ามีรอยขาวขุ่นอยู่ในตาดำ เป็นลักษณะของการเกิดแผลที่กระจกตาดำ ผู้ป่วยทั้ง 4 รายต้องเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน ผลจากการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาสาเหตุ พบว่า ตาติดเชื้อแบคทีเรียสูโดโมแนส แอรูจิโนซ่า ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่สามารถกินทะลุกระจกตาดำภายใน 2 วัน หากรักษาไม่ทันอาจส่งผลให้ตาบอด หรือต้องควักลูกตาออก เพื่อไม่ให้ลามไปยังอวัยวะอื่น เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เข้าสู่กระแสเลือดได้ ในการรักษาตาติดเชื้อสูโดโมแนสฯ ต้องใช้เวลานานและต้องให้ยาฆ่าเชื้อชนิดแรงทั้งแบบยาฉีดและยาหยอดตา

"จากการสอบถามผู้ป่วยทั้ง 4 ราย สาเหตุที่ทำให้ตาติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ น่าจะเกิดจากการใส่คอนเท็กต์เลนส์บิ๊กอาย เนื่องจากผู้ป่วยทุกรายมีประวัติใส่บิ๊กอายทั้งสิ้น โดยซื้อจากแผงลอยวางขายทั่วไปตามตลาดนัด สะพานพุทธ หรือย่านขายของวัยุร่น สั่งซื้อจากอินเตอร์เน็ต หรือซื้อจากเพื่อนที่เป็นนายหน้าขายตรงด้วยการมีแค็ตตาล็อกแบบของบิ๊กอายให้เลือกเป็นชนิดใส่รายปี ในราคาคู่ละ 300 บาท ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมใส่อย่างมากในกลุ่มพนักงานบริษัทหรือคนวัยทำงาน รวมทั้งนักเรียน นักศึกษาทั้งหญิงและชายสวมใส่ตั้งแต่เรียนอยู่ในชั้นระดับมัธยมต้น" น.พ. ฐาปนวงศ์ กล่าว

น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบิ๊กอาย จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข การผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย ต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คงต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าได้รับการอนุญาตจากอย.หรือไม่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบเข้าไปตรวจสอบ และจับกุมผู้ที่กระทำความผิด เพราะจำนวนผู้เข้ารับการรักษาที่มีลักษณะตาอักเสบจากการ ใส่บิ๊กอายเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ควรที่จะออกกฎระเบียบมาคุมเข้มในเรื่องของการใส่บิ๊กอาย ทั้งนี้ หากเป็นบิ๊กอายที่ได้รับอนุญาตจากอย. ผู้ที่จะนำมาสวมใส่ควรที่จะรักษาความสะอาดให้ดี จะช่วยป้องกันตาติดเชื้อได้

น.ส.ณัฐ พร อุ่นธรรม อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้ป่วยตาติดเชื้อจนเกิดแผลที่กระจกตาดำ กล่าวว่า ใส่บิ๊กอายเนื่องจากเป็นคนสายตาสั้น เมื่อใส่แว่นจะรู้สึกเกะกะ และยอมรับว่า อยากสวย บวกกับเห็นเพื่อนใส่มานาน 2-3 ปี จึงตัดสินใจสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตแบบรายปี คู่ละ 300 บาท ซึ่งตนจะบอกระยะสายตาที่สั้น เลือกแบบแล้วเพื่อนจะเป็นคนสั่งซื้อให้พร้อมจัดส่งถึงบ้าน เมื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นคู่ที่ 2 ได้ราว 2-3 เดือน เริ่มมีอาการโดยเกิดการระคายเคืองตา จึงถอดบิ๊กอายออกและนอนหลับตามปกติ เมื่อตื่นขึ้นมาตาแดงคิดว่าไม่เป็นไร เพราะเคยเป็นมาก่อน ทำให้ใส่บิ๊กอายกลับเข้าไปใหม่ แต่ทันทีที่เจอกับแสงแดดปรากฏว่า ตาสู้แสงไม่ได้ แสบตาและน้ำตาไหล ตาแดงก่ำมาก พบแพทย์เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อก็ไม่หาย

ด.ญ.รัก (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้ป่วยตาติดเชื้อจนเกิดแผลที่กระจกตาดำ บอกว่า ซื้อบิ๊กอายจากร้านแผงลอยย่านสะพานพุทธ ใช้ได้ 3-4 เดือนเริ่มเกิดอาการแสบตา และตาแดงมาก รู้สึกเหมือนมีอะไรขาวๆ อยู่ในตาตลอดเวลาเจ็บมาก



ข่าวที่ 2 จาก //www.ryt9.com/s/nnd/1089844
จากการเข้าตรวจค้นร้านดอลลี่อายส์ ร้านเรนโบว์ชอป และร้านแอททอยส์ บริเวณชั้น 2 และ 3 ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถยึดบิ๊กอายส์ได้กว่า 10,000 คู่ พร้อมทั้งควบคุมตัว นายนนท์ เล็กสมบูรณ์ อายุ 25 ปี และ น.ส.ศุภภรณ์ เจริญรัตนวงศ์ อายุ 35 ปี ผู้ค้าโดยแจ้งข้อหานำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท

พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทาง ปคบ.ได้รับการร้องเรียนว่ามีวัยรุ่นที่ใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น หรือ “บิ๊กอาย” แล้วติดเชื้อในดวงตา ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายราย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบร้านขายภายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งห้างมาบุญครอง เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เดอะมอลล์บางกะปิ ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ และที่ห้างสรรพสินค้ายูเนี่ยนมอลล์

ทั้งนี้ สำหรับ “บิ๊กอายส์” จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข การผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย ต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตนำเข้ามาจำหน่าย แต่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2553 ทาง อย.ได้ยกเลิกใบอนุญาต และให้ขอใบอนุญาตใหม่ โดยมีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่ได้รับใบอนุญาต ส่วนบริษัทอื่นๆ อยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งในระหว่างนี้กลับมีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายจึงเกิดปัญหาขึ้น

“ขอฝากไปยังวัยรุ่นที่จะใส่คอนแทคเลนส์ แบบบิ๊กอายส์ ว่า ควรซื้อหาจากร้านที่มีใบอนุญาตและมีความน่าเชื่อถือเท่านั้น อย่าไปซื้อในตลาดนัด หรือตามร้านแบกะดินเพราะอาจเกิดอันตรายถึงขั้นทำให้ติดเชื้อและตาบอดได้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายคอนแทคเลนส์ประเภทนี้ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเข้มงวดต่อไป” ผกก.4 บก.ปคบ.กล่าว

ด้าน นายนนท์ ให้การว่า เป็นเพียงลูกจ้างของร้านดอลลี่อายส์ ทำงานมาได้ปีกว่าๆ โดยได้รับเงินเดือน 15,000 บาท ส่วนสินค้ารับมาจากบริษัทที่นำเข้ามาอีกทอดหนึ่ง โดยซื้อมาคู่ละ 100 บาท นำมาจำหน่ายในราคา 150 บาท สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นหญิงสาววัยรุ่น ทั้งกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และคนทำงาน ที่ผ่านมาลูกค้าที่ซื้อ “บิ๊กอายส์” ไปใส่ก็ไม่เคยมาต่อว่าหรือร้องเรียนว่าปวดตาหรือมีปัญหาใดๆ เนื่องจากตนได้แนะนำวิธีการใส่และการทำความสะอาดอย่างละเอียด ส่วนเรื่องใบอนุญาตนั้นตนไม่ทราบเพราะเป็นแค่ลูกจ้างเท่านั้น






Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2554 23:19:56 น. 7 comments
Counter : 2207 Pageviews.

 
คุณเยี่ยมเอาไป เต็ม 100 เลยค่ะ


โดย: นนท์นี่ IP: 110.168.19.104 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:22:31 น.  

 
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้คะซึ่งจริงๆเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าหากใส่ต้องรักษาความสะอาด และมีเลนส์บิ๊กอายบางยี่ห้อที่ผ่าน อย.แล้วแต่เมื่อมีข่าวออกมา ทาง ปคบ.ก็พูดเหมารวมไม่อธิบายว่าสาเหตุเกิดจากการใส่ผิดวิธี ไม่ดูแล แต่กลับใส่ไฟจนบิ๊กอายดูเป็นที่น่ารังเกียจไปเลย พูดจิงๆนะหากจะจับหรือไม่ให้ขายทำไม่ไม่ไปจับตั้งแต่ตอนนำเข้า คุณให้เค้าผ่านทางแต่พอมาขายเป็นข่าวจะมาจับพ่อค้าแม่ขายรายเล็กๆทำเหมือนพวกเค้าขายของผิดกฏหมายมากมาย บิ๊กอายนะคะไม่ใช่ยาบ้า ไม่งั้นรัฐก็ยอมชดใช้ค่าเสียหายที่ลงทุนไปให้ร้านค้าซิค่ะเนื่องจากพวกเค้ารู้เท่าไม่ถึงการจึงนำมาขายเพราะอห็นว่าผ่าน อย.ตอนนำเข้าได้ น่าสงสารจะตาย......เราเองก็ใส่มาหลายปีแล้วไม่เคยมีปัญหาเลยคะ


โดย: เห็นด้วย IP: 206.53.152.31 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:52:50 น.  

 
ทำไม4คนนี้ถึงเข้าโรงพยาบาลเดียวกันในวันเดียวกัน และพร้อมกัน แลัวสะพานพุทเค้าขายกันคู่ละ ไม่เกิน200 แต่อันนี้ลงไว้ว่าซื้อคู่ละ 300 บาท ควรจะถามคนไข้ทั้ง4คนก่อนนะว่า ซื้อที่ไหนแน่ ราคาเท่าไหร่ หรือว่า คนไข้ 4 คนนั้นไม่ีมีตัวตน
ส่วนคนที่ใส่ ก็ไม่เคยรักษาความสะอาด เน้นแต่ซื้อถูกๆ แล้วมาโทษร้านค้า แล้วคนซื้อเวลาซื้อก็เน้นของถูกๆ ไม่ได้คุณภาพ
แต่พอมีปัญหาที่เกินจากตัวเองก็จะโทษร้านค้า มาเหมาทุกร้าน

ร้านที่ไหนไม่ว่าขึ้นห้างหรือตลาดนัดมันก็รับมาจากที่เดียวกันทั้งนั้นแหละ ไม่เกี่ยวที่ว่าตลาดนัดไม่ดี ห้างไม่ดีก็มีเหมือนกัน
อยากให้ทุกคนลองใช้วิจารณญานในการเสพข่าว มันทำให้หลายคนเดือดร้อนมากๆ


โดย: kk IP: 192.168.1.22, 58.11.94.186 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:14:13 น.  

 
ผมก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ อยากให้เอาไปช่วยกระจายข่าว ทำประชาวิจารณ์การประโคมข่าวลักษณะนี้เหมือนกับเอื้อผลประโยชน์ของนายแพทย์คนนี้เลย สาเหตุที่ระบุก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราก็ตามส่วนใหญ่มาจากภายนอก ถึงแม้เลนส์บิ๊กอายจะมีโอกาสติดเชื้อง่ายกว่าก็ตาม แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นกับคนใช้นั่นแหล่ะ ไม่ว่าจะบิ๊ก หรือไม่บิ๊ก ใสหรือไม่ใสก็ตาม แต่นายแพทย์คนนี้ก็ระบุอยู่นั่นแหล่ะเพราะบิ๊กอาย เพราะบิ๊กอายที่ไม่ได้รับ อย. ได้อย.แล้วไง ไอ้ที่มี อย. มีตัวเลข อย. ผมใส่เคืองผมทิ้งก็เคยมาแล้ว ไอ้ที่ไม่มี อย. บางยี่ห้อยังนิ่มและใส่สบายกว่าก็มี เหมือนกับนายแพทย์คนนี้มีส่วนได้ส่วนเสียที่บิ๊กอายมันขายอยู่ทุกวันนี้เลยครับ ทุกคนรู้สึกเหมือนผมมะ ผมก็ใช้บิ๊กอายมาตั้งแต่ขายคู่ละ พันกว่าจนตอนนี้ ก็ 2 ปีกว่าละ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ถ้าเลนส์มันไม่ดีมันก็ต้องเคืองตั้งแต่แรกแล้วสิ ดันมาบอกว่าใส่มาสักพักแล้วค่อยเป็น ตลกว่ะ


โดย: บ้าบอ IP: 58.10.68.232 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:17:12 น.  

 
เราเองก็เป็นคนนึงที่ใส่บิ๊กอายเนื่องจากเราสายตาสั้นแระอีกอย่างมันก็สวยจิงยอมรับคะ เมื่อก่อนเราก็ใส่แบบพวกเลนส์ใสพอมีบิ๊กอายก็หันมาใส่บิ๊กอายแทนและก็ใส่มา3-4ปีแล้วไม่เคยนเป็นไรเลยด้วย ตอนนี้กระแสข่าวทำให้คนที่ใส่บิ๊กอายดูน่าเกลียดน่าอายยังไงไม่รู้เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมนะ ทั้งกับคนขายและคนใส่เอง.....เราว่าควรจะประกาศไปเลยหากใครใส่ให้ดูแลยังไงหรือยี่ห้อไรบ้างที่ขายได้เพื่อความสบายใจของคนขายและคนใส่เชื่อว่าคนขายบางคนเค้าก็รับมาจากร้านขายส่งใหญ่ๆแหล่ะแค่มากระจายตามตนลาดเล็กๆแต่กลายเป็นพวกเค้าผิด สุดท้ายของมันก็มาจากที่เดียวกัน


โดย: จิงจิง IP: 206.53.152.3 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:20:15 น.  

 
เราเป็นคนหนึ่งค่ะที่เคยใส่คอนแทรคเลนส์ เนื่องจากตัวเองสายตามสั้นขั้นโคม่า ถ้าไม่ใส่ก็ไม่ต่างกับตาบอดสักเท่าไร

เมื่อก่อนซื้อคอนแทรคเลนส์ร้านแว่นตา ตั้งแต่คู่หนึ่งเกือบ300 จนเหลือ คู่ละ 199 ล่าสุดมีโปรที่อยุธยาคู่ละ 99 เมื่อ 3ปีที่แล้ว

เคยมีประสบการณ์ ตาหวิดบอด ช่วงปลายปี50-ต้นปี51 เนื่องจากใส่คอนแทรคเลนส์ (ขอย้ำว่าคอนแทรคเลนส์นะคะ) ซึ่งเป็นเลนส์สายตาปรกติ ไม่มีสีสันใดๆทั้งสิ้น

อาการคือ วันแรก มีการระคายเคืองที่ตา วันที่สอง ตาเริ่มจะสู้แสงไม่ไม่ได้ และปวดตามาก จนลืมไม่ขึ้น มีขี้ตาสีเขียวตลอดเวลา จนกระทั่งวันที่ 3 เราทนไม่ไหวและเห็นว่าอาการดังกล่าวไม่หายสักที จึงไปหาหมอ พบว่ามีบาดแผลที่กระจกตาดำ และเกิดการติดเชื้อ ซึ่งเป็นอาการเดียวกับที่ อิน้องที่เป็นข่าวมันเป็นนั้นแหละค่ะ

และจากประสบการณ์(ที่เคยเป็นมาก่อน) เท่าที่เห็นบาดแผล (ที่มันเอามาลง) เชื่อว่าไม่ใช่การติดเชื้อเพียงแค่ 1-2วันเท่านั้น แต่น่าจะเกิดการติดเชื้อมาเป็นอาทิตย์มากกว่า

เพราะตัวดิฉัน นับจากวันที่รู้ตัวว่ามีความผิดปรกติ จนกระทั่งเข้ารับการรักษา เป็นเวลา 3 วัน บาดแผลที่เป็นนั้นเล็กมาก จนแทบจะมองไม่เห็นรอยเสียด้วยซ้ำ (หากไม่สังเกตุ)

ส่วนสาเหตุที่เป็น มีปัจจัยหลายๆอย่าง และที่หมอสรุปไว้ตอนนั้นคือเศษฝุ่น บาดตาค่ะ เพราะว่าฝุ่นเข้าตาแล้วเราขยี้ตา . . . (แล้วมันเกี่ยวกับเลนส์ตรงไหน)

อีกอย่างเราเห็นด้วยเรื่องความไม่โปรงใส ตั้งแ่ต่การที่ออกมากวาดจับ โดยที่ . . .ไม่มีการสุ่มตรวจ . . . ความปลอดภัยเสียก่อน และที่สำคัญ คือไม่มีการประกาศรายชื่อคอนแทรคเลนส์ที่ไม่ผ่านมาตรฐานและเป็นอันตราย แต่บุกจับแบบกวาดยกแผงไปเลย ซึ่งผิดปรกติวิสัยเป็นอย่างมาก

หนำซ้ำรายชื่อของคอนแทรคเลนส์ที่ผ่านอย.ที่ได้ระบุว่าได้มาตรฐานซึ่งมีอยู่รายเดียวเท่านั้น ก็ไม่ประกาศ

และที่สำคัญที่สุด กลับมองข้ามความปลอดภัยของคอนแทรคเลนส์ชนิดไม่มีสี ซึ่งวางขายอยู่ตามร้านแว่นทั้งหลาย ซึ่ง ดิฉันคนหนึ่งที่ผ่านคอนแทรคเลนส์มาครบทุกยื่ห้อที่มีวางขายในร้านแว่นแล้ว คอนเฟิร์มได้เลยว่า . . .ห่วย. . . จรีิงๆค่ะ

ถ้าไม่อ่อนจนย้วย ตั้งทรงยาก หลุดง่าย ก็แข็งโป๊กจนเจ็บตา ทรมานสุดๆ หาความพอดีไม่ได้ หรือไม่ก็เจอหมดอายุก่อนกำหนด (ทั้งที่ซื้อแบบรายเดือน แต่ใส่้ได้1อาทิตย์ก็เน่า)

และคิดว่าเรื่องคุณภาพของเลนส์ร้านแว่น กับบิ๊กอายส์ ลูกค้าที่เคยสัมผัสย่อมรู้ความแตกต่างแน่นอนค่ะ เพราะลูกค้าที่เคยมาซื้อ ก็บ่นเรื่องบิ๊กอายส์ร้านแว่นที่มันแข็งโป๊ก อยู่บ่อยๆ

แต่แปลกนะคะ ที่ อย.ข้ามขั้นไปเยอะจน งงเลยค่ะ งานนี้เรียกได้ว่า สร้างกระแส สร้างภาพ แต่ผู้บริโภค เขารู้กันดีว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังเยอะค่ะ เพราะขั้นตอนการทำงานของอย.เองนั่นแหละค่ะ ที่ ดิสเครดิตหน่วยงานตัวเอง . .



โดย: keng IP: 124.120.71.125 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:35:49 น.  

 
ผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์ต้องมีวินัยในการใช้และรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด ส่วนผู้จำหน่ายก็ควรแนะนำและหมั่นย้ำให้ลูกค้าปฏิบัติตามวิธีการใช้อย่างเคร่งครัดด้วยเช่นเดียวกัน
และขอฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการด้วยนะว่าถ้าจะออกกฏควบคุมการใช้คอนแทคเลนส์ในนักเรียนนะช่วยห้ามเด็กนักเรียนใส่ตลอด24ชั่วโมงเลยจะได้มั้ย มันก็แค่ห้ามใส่ในโรงเรียน แล้วเวลาที่เหลือล่ะ? ถ้าห้ามไม่ได้ตลอด24ชั่วโมงก็น่าจะ บรรจุเรื่องที่ว่าด้วยการดูแลรักษาความสะอาดในการใช้คอนแทคเลนส์ลงในหลักสูตรก็จะยิ่งดี หรืออย่างน้อยมอบหมายให้โรงเรียนต่างๆให้ความรู้กับนักเรียนในเรื่องการใช้งานจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ไม่ใช่ออกมา ห้ามๆๆ คิดแก้ปัญหากันแบบนี้เฮ้อ ประเทศไทย


โดย: putarxxxxxcm IP: 223.206.12.224 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:37:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.