We Choose PriusThe-Eco Exclusive Trip to Kirimaya เพื่อทดสอบสมรรถนะของรถ และร่วมทำกิจกรรมกับทางโตโยต้า ที่สำคัญสุดคือเพื่อพิสูจน์อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ต่ำมากให้เห็นจะๆด้วยตัวเองค่ะ
เราก็เหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่อะนะ ไม่ค่อยสันทัดเรื่องเทคโนโลยีของรถมากเท่าไหร่ ข้อมูลที่ได้รับรู้มาก่อนหน้าที่จะได้มาทดลองขับ Prius คือเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด มีจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมัน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษ ส่วนสมรรถนะอย่างอื่นไม่รู้เลย จะได้รู้จักมากขึ้นก็จากไปทริปครั้งนี้แหละค่ะ
เช้าวันที่ 25 นัดรวมตัวกันที่โชว์รูม TOYOTA BUZZ เกษตร-นวมินทร์
เราไปถึงประมาณ7.45น. คนก็เริ่มเยอะแบบที่เห็นนี้แล้วค่ะ
มีการบรีฟก่อนออกเดินทางเกี่ยวกับการใช้งานของรถ เส้นทางการขับขี่ และกติกาเล็กๆน้อยๆของทริปนี้
รถคันของเรานอกจากมีเราและสามีแล้ว ยังมีน้องกอฟท์ Bizzare ร่วมเดินทางไปด้วยค่ะ
ทริปนี้นี้มีดาราและเซเลบร่วมเดินทางไปด้วยกันหลายท่านนะคะ
และแน่นอน หนึ่งในนั้นก็มีคุณป๊อป อารียา พรีเซ็นเตอร์ของ Prius ค่ะ ตัวจริงน่ารักและติดดินมากมาย
คุณจอย รินลนี ก็มาร่วมทริปนี้ด้วยค่ะ เธอร่วมสนุกกับเกมส์ขับรถให้ประหยัดน้ำมันที่สุดด้วยนะคะ
เธอมาเล่าในงานดินเนอร์ตอนมื้อค่ำว่าขับช้ามาก 60-80กม./ชม. จนทีมงานต้องโทรหาว่าให้เร่งขึ้นอีกนิดเพราะอยู่คันรั้งท้ายสุด 55555+
หลังจากบรีฟเสร็จเีรียบร้อยก็ลงไปที่ขบวนรถที่จอดรอเราอยู่ เพื่อเอาสัมภาระขึ้นรถกันค่ะ
เราได้รถ New Prius 2012 หมายเลข 09 สีฟ้า True Blue Mica Metallic รุ่น Standard ค่ะ
ไปกัน2วันหนึ่งคืน เอาของไปไม่เยอะ แค่กระเป๋าใบใหญ่2ใบ กับกระเป๋าเครื่องสำอาง1ใบ แลปท้อปอีก1แค่นั้น
เนื้อที่เก็บของหลังรถกว้างดี วางของได้สบายๆ มีพื้นที่แบบเหลือๆเลยค่ะ
ก่อนออกเดินทาง แชะรูปคู่กันอีกซักรูป
รูปหมู่ก่อนออกเดินทางค่ะ มีผู้ร่วมทริปนี้ทั้งหมด 40กว่าคัน ทั้งจากลูกค้าของโตโยต้าที่ใช้ Prius อยู่แล้ว และลูกค้าที่ซื้อ voucher จากงานไทยเที่ยวไทย รวมทั้งสื่อและเซเลบด้วย
ปล่อยขบวนรถ เริ่มออกเดินทางแล้วค่า
ทริปนี้ไม่ได้ขับตามกันไปเป็นขบวนนะคะ แค่แจ้งทุกคันว่าให้ใช้เส้นทางไหน จุดหมายแรกคือโรงไฟฟ้าเขื่อนลำตะคอง แล้วไปเจอกันที่นั่นเลย ฟรีสไตล์มากๆ
ปล.ทำท่าขับไปงั้นค่ะ คนขับจริงๆคือสามี เพราะเรานอนไปแค่2ชั่วโมง คงขับไม่ไหวจริงๆ เป็นห่วงสวัสดิภาพของผู้โดยสาร
โหมดการขับขี่ของพรีอุส มีให้เลือก3โหมด แล้วแต่จุดประสงค์การใช้งานค่ะ
1. PWR Mode ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างทันใจ แน่นอนการขับขี่โหมดนี้ก็จะสิ้นเปลืองพลังงานมากสุด
2. ECO Mode ระบบจะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าและกำลังจากเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงความประหยัดเป็นหลัก
3. EV Mode ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ให้การขับขี่ที่เงียบสนิท เหมาะกับการเดินทางด้วยความเร็วต่ำ อย่างรถติดในเมืองค่ะ
ข้อมูลจากที่โตโยต้าให้มา เค้าบอกว่า ถ้าเราวิ่งด้วยความเร็วต่ำประมาณ 30กม./ชม. จะใช้เชื้อเพลิงประมาณ 47 กม./ลิตร
ถ้าวิ่งด้วยความเร็วปกติ(ประมาณ 80-100กม./ชม.) จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 26 กม./ลิตร
เพื่อทดสอบว่าจะประหยัดน้ำมันได้แค่ไหน เราใช้โหมด ECO ขับจากกรุงเทพ-เขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 224 กม.
ก็ขับได้อย่างลื่นไหลดีนะคะ กำลังเครื่องดีใช้ได้ แต่อาจจะรู้สึกหนืดหน่อยตอนเร่งแซง หรือช่วงที่เป็นทางขึ้นเขา แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เร่งแซงได้ แค่อาจจะรู้สึกไม่ปรู๊ดปร๊าดทันใจเท่านั้นเอง
มีจราจรติดขัดบ้างช่วงต้นๆการเดินทางแถวรังสิตเพราะรถเยอะ ก็ใช้ความเร็วต่ำ แต่พ้นจากนี้แล้วถนนโล่งก็วิ่งฉลุยค่ะ
ถึงแล้วจุดหมายแรก โรงไฟฟ้าเขื่อนลำตะคอง เข้าไปเยี่ยมชมเขื่อนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำกันค่ะ
สามีของเราใช้โหมด
ECO ขับมาก็จริง แต่ขับเร็วมาก แบบไม่ขอเข้าชิงรางวัลขับรถประหยัดน้ำมันที่สุด มาถึงที่นี่คันแรกๆเลย อิอิ
เข้าไปเยี่ยมชมการทำงานของเขื่อนแล้วเราก็ออกเดินทางไปรับประทานมื้อกลางวันกันที่ร้านระเบียงน้ำ ในตัวเมืองปากช่อง
พออิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปยังจุดต่อไปคือปั๊มปตท.บนถนนธนะรัชต์ เป็นเช็คพอยท์ตรวจวัดว่าแต่ละคันใช้น้ำมันไปทั้งหมดกี่ลิตร
จริงๆก็ทำใจแล้วนะว่าเราขับกันแบบไม่ยั้ง ถนนโล่งๆก็ 100-130 เลยล่ะ
คิดว่าถึงจะใช้โหมด ECO ยังไงก็ต้องกินน้ำมันแน่ๆ (เพราะเราเคยใช้ TOYOTA Wish มาก่อน บอดี้กับเครื่องยนต์พอๆกันกับพรีอุสนี่ล่ะ แต่คันนั้นซดน้ำมันดุมาก ประมาณ10กม./ลิตร ถ้าขับเร็วมากๆก็ไม่ถึง 10กม.ค่ะ)
พอเติมน้ำมันเข้าไปเท่านั้น เฮ้ย!!! แบบไม่อยากเชื่ออะ ใช้น้ำมันแค่เกือบๆ 10ลิตร เราวิ่งได้ถึงเขาใหญ่เลยหรอ (ระยะทางประมาณ 224 กม.) เสียค่าน้ำมันไปแค่ 357 บาท
สุดยอดค่ะ สามีถึงขั้นยกนิ้วโป้ง ยอมรับเลยว่ามันประหยัดจริงๆ
เพราะเค้าเป็นคนขับเอง เค้ารู้ว่ากดคันเร่งแบบไม่ยั้งเท้าเลยตอนถนนโล่งๆ
ผลเฉลี่ยจากทีมงานเค้าสรุปให้เราเป็นแบบนี้ค่ะ
จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ที่พักที่ คีรีมายา ค่ะ
เพราะรถที่เราได้มาขับในครั้งนี้เป็นรุ่นสแตนดาร์ด จะมีออฟชั่นบางจุดที่จะต่างจากรุ่น Top Option Grade เราเลยได้เอารถรุ่น Top ออกไปทดลองขับกันค่ะ
จุดเด่นอย่างแรกของ Prius คือเป็น Smart Key ไม่ต้องควักกุญแจมากดปุ่มเปิดรถให้ยุ่งยาก แค่เดินเข้าไปใกล้ตัวรถให้ได้ระยะ ก็สามารถเปิดประตูรถได้อย่างง่ายดาย
สำหรับรุ่น Top Option จะพิเศษตรงมีปุ่ม AC กดเพื่อเปิดแอร์ไว้ก่อนที่เราจะเข้ารถ ในกรณีที่จอดรถไว้กลางแจ้งในรถมันจะร้อนระอุ ตรงนี้จะไม่เปลืองน้ำมันด้วยนะคะ เพราะจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไฮบริด
ชอบตรงหลังคา moon Roof นี้มาก เพราะจะเปิดออกรับลมและระบายอากาศได้ หรือเปิดแค่กระจกแก้ว ให้แค่แสงผ่านเข้ามาสวยๆ
ด้านหลัง moon Roof ที่เห็น คือแผงโซล่าเซลล์นะคะ เค้าจะเก็บพลังงานตรงนี้มาใช้กับระบบระบายอากาศภายในตัวรถขณะจอดกลางแดด
โผล่หัวออกมารับลมทางช่อง Moon Roof เก๋ดีเนอะ อิอิ
พื้นที่ด้านท้ายรถกว้างมากค่ะ ถ้าต้องการใช้พื้นที่เพิ่มก็สามารถพับเบาะได้อีก
ด้านหลังจะมีแผงบางๆดึงออกมาเอาไว้บังสายตาตอนเวลาเราเก็บของไว้ท้ายรถได้ด้วย
มาดูในรถกันบ้าง
ฟีลในรถตอนเปิด Moon Roof ชอบมาก เหมาะกับตอนออกต่างจังหวัดจริงๆ
คอนโซลหน้ารถจะอำนวยความสะดวกให้กับคนขับมากค่ะ
จอมอนิเตอร์จะแสดงการทำงานของเครื่องเสียง ระบบเนวิเกเตอร์ และกล้องถอยหลัง
จอดิสเพลย์ด้านบนแสดงข้อมูลการขับขี่แสดงค่าทุกการทำงานขณะขับขี่ด้วยระบบแสดงผลอัจฉริยะ แสดงโหมดการทำงานของระบบไฮบริดในช่วงการขับขี่แบบใช้ความเร็วต่ำ การใช้เชื้อเพลิงในการขับขี่ความเร็วปกติ
มีเทคโนโลยี Head-Up Display เป็นจอแสดงผลมาตรวัดความเร็วรถยิงขึ้นแสดงให้เห็นบนกระจกตำแหน่งหน้าคนขับด้วย แต่เราลืมถ่ายรูปมา เลยไปเอารูปจากเวปมาให้ดูแทนนะคะ
แต่ถ้าใครรู้สึกว่ามันรบกวนสายตาตอนขับก็สามารถกดปุ่ม HUD เพื่อปิดได้ค่ะ
ปุ่มกดเพื่อสั่งงานระบบแอร์และเครื่องเสียงจะอยู่บนพวงมาลัยเลย สะดวกไม่ต้องละสายตาตอนขับรถ
แค่แตะไปที่ปุ่มเบาๆ(ไม่ต่องกด) หน้าดิสเพลย์จะขึ้นแสดงผลให้ทันที
ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ ไม่ต้องเสียบกุญแจ แค่กดปุ่ม Power สีฟ้านี้เบาๆ
เกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ เปลี่ยนเกียร์ก็แค่ผลักขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา เบาๆ
หลังจากเปลี่ยนเกียร์แล้ว คันเกียร์จะคืนกลับมาอยู่ตำแหน่งเซ็นเตอร์แบบอัตโนมัติ
เบาะปรับไฟฟ้า เครืองเสียงลำโพง JBL
ลองใช้ระบบ NAVI นำทางดูค่ะ
ระบบ NAVI ตัวนี้จะเซ็ทมาเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่คือ ถ้ารถวิ่งอยู่ รถจะไม่สามารถกดปุ่มค้นหาได้ค่ะ ต้องจอดรถนิ่งสนิทเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ดูๆแล้วก็ใช้ไม่ยากนะคะ ระบบเค้าค่อนข้างละเอียดดี
เราลองค้นหาจากบริเวณนี้ดูว่าใกล้กับที่ไหนบ้าง
หน้าจอแสดงผลที่ค้นเจอค่ะ
ลองกดเลือกไปที่ตำแหน่งสถานที่ที่ค้นเจอดู ดาวเทียมจะคำนวนและแสดงผลว่าตอนนี้เราอยู่จุดนี้
และเริ่มนำทางค่ะ
เรากับ gadget ทั้งหลายไม่ค่อยถูกกัน เลยยกหน้าที่ทดลองการเชื่อมต่อ
Bluetooth เข้ากับตัวรถให้น้องกอฟท์ไป ฮ่าๆๆๆ
เจอแล้ว ลองเปิดเพลงจากไฟล์ที่อยู่ในโทรศัพท์ฟังค่ะ
ที่เชื่อมต่อจากโทรศัพท์ มันซิงค์ไปได้ทั้งหมด กดโทรหากันก็ได้ ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แค่กดสั่งงานจากหน้าจอค่ะ
เรื่องการทำงานของระบบไฮบริดและสเปคอื่นๆของ Prius เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
ตอนกลางคืนมี dinner มินิคอนเสิรต ตู่ ภพธรณ์
พร้อมประกาศผลผู้ชนะการขับขี่Priusได้ประหยัดน้ำมันที่สุด
คนที่ชนะที่1 สามารถขับได้ระยะทาง 29.05 กม./ลิตร เก่งมากๆ
สายๆวันรุ่งขึ้น เช็คเอาท์ ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก
พร้อมตั้งขบวนออกเดินทางไปมอบแผงโซล่าเซลล์ให้กับโรงเรียนบ้านโป่งกะสัง
ถึงแล้วค่ะ
ผู้บริหารของโตโยต้า กับพี่ป๊อป เป็นตัวแทนมอบแผงโซล่าเซลล์ให้กับครูใหญ่โรงเรียนบ้านโป่งกะสังค่ะ
จบทริปนี้ไปด้วยความสนุกสนานและประทับใจ ขอบคุณทีมงานทุกท่านด้วยนะคะ
ติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆของ Prius ได้ที่หน้าแฟนเพจค่ะ