Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2559
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 ตุลาคม 2559
 
All Blogs
 

นิตยสารสกุลไทยฉบับสุดท้าย “จารึกไว้ในใจนิรันดร์”












31 ตุลาคม 2559







วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2559 นี้เป็นวันสำคัญที่วงการวรรณกรรมจะต้องบันทึกไว้ว่า นิตยสารที่พิมพ์จำหน่ายจนมีอายุต่อเนื่องยืนยาวถึง 62 ปี นามว่า “สกุลไทย” จำต้องอำลาจากแผงหนังสือไป ด้วยสาเหตุตามที่บรรณาธิการของนิตยสารสกุลไทยได้แจ้งล่วงหน้าไว้แล้ว

วันนี้ผมจึงไปตามหาซื้อนิตยสารสกุลไทยเล่มสุดท้าย ฉบับที่ ๓๒๓๗ นี้มาอ่าน โดยปกติแล้วผมเห็นชื่อนิตยสารสกุลไทยมาตั้งแต่เด็ก ในสมัยที่ยังต้องวิ่งไปที่แผงหนังสือทุกสัปดาห์เพื่อหาซื้อหนังสือการ์ตูน ผมจำได้ว่าเห็นชื่อนิตยสารสกุลไทยนี้ตลอด ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผมจำได้นั้นก็เพราะหน้าปกมักจะลงภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ อยู่เป็นประจำ ทำให้ผมแอบคิดไปเองว่านิตยสารนี้ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระองค์ท่าน หรือเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ฯ แน่ๆ

จนกระทั่งเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมานี้ ผมเริ่มสนใจทางด้านวรรณกรรมขึ้นมา ทำให้ผมได้รู้จักกับนิตยสารสกุลไทยมากขึ้นกว่าเดิม คือผมรู้ว่า .. นอกจากได้อ่านนวนิยายเรื่องต่างๆ ที่ลงเป็นตอนๆ แล้ว ผมยังได้ความรู้มากมายจากการอ่านนิตยสารสกุลไทยแล้ว จนกล้าบอกว่านิตยสารสกุลไทยทำให้ผมเป็นคนที่รอบรู้มากขึ้น ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ซื้อต่อเนื่องทุกฉบับ แต่ผมก็ได้ตามอ่านนิตยสารสกุลไทยเล่มที่พลาดซื้อจากในห้องสมุดเสมอ จนกระทั่งในวันนี้ผมเกิดแก่กล้าวิชาขึ้นมา ผมจึงได้ลงเรื่องสั้นในนิตยสารสกุลไทยถึง 2 เรื่อง ถือว่าเป็นเวทีแห่งแรกของผมในวงการวรรณกรรมเลย

ผมเคยได้ฟังนักวิชาการทางวรรณกรรมกล่าวไว้ว่า “วัฒนธรรมการอ่านนวนิยายเป็นตอนๆ ที่ลงจากนิตยสารนั้น เป็นการอ่านในรูปแบบหนึ่งที่มีความสำคัญต่องานวรรณกรรม คือว่าผู้อ่านต้องคอยติดตามอ่านตอนต่อไปจากนิตยสารในฉบับหน้า ซึ่งในระหว่างที่ผู้อ่านรอคอยตอนใหม่ๆ นี้เอง ทำให้นวนิยายเรื่องนั้นๆ ติดอยู่ในหัวของผู้อ่านตลอด  ถ้าหากนวนิยายเรื่องนั้นลงเป็นตอนๆ ทั้งปีกว่าจะจบ ก็แสดงว่านวนิยายเรื่องนั้นอยู่ในหัวของผู้อ่านตลอดทั้งปีด้วยเช่นกัน สาเหตุนี้เองที่ทำให้ผู้อ่านรักนวนิยายเกือบทุกเรื่องที่ลงเป็นตอนๆ ในนิตยสาร รวมทั้งรักพระเอกและนางเอกในนวนิยายเรื่องนั้นเป็นอย่างมากด้วย เพราะว่าผูกพันกันเหมือนเป็นเครือญาติใกล้ชิดที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอด”

น่าเสียดายว่าเมื่อนิตยสารสกุลไทยปิดตัวลง จะทำให้การอ่านในรูปแบบที่ต้องรอคอยแบบนี้ค่อยๆ สูญหายตามไปด้วย ผมจำได้ว่าได้เคยอ่านบทความในนิตยสารสกุลไทยฉบับเมื่อไม่นานมานี้ ที่พูดถึงการปิดตัวของนิตยสารสกุลไทยในครั้งนี้ว่า “น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญแก่วงการวรรณกรรมเลย งบประมาณเพื่อประชาสัมพันธ์ในหน่วยงานของรัฐต่างๆ ปีละหลายล้านบาท เช่นงบประมาณเพื่อลงโฆษณาของกระทรวงศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยว กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานอื่นๆ ถ้านำงบประมาณในส่วนนี้มาลงในนิตยสารทางวรรณกรรมที่ดีๆ อย่างเช่นนิตยสารสกุลไทยนี้ ก็อาจจะทำให้ตัวนิตยสารเองอยู่ได้ และยังสามารถจัดพิมพ์จำหน่ายอยู่คู่สังคมไทยได้ต่อไป”

แต่เมื่อนิตยสารสกุลไทยต้องปิดตัวลงจริงๆ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ จดจำและรำลึกถึงเรื่องราวดีๆ ที่นิตยสารสกุลไทยมอบให้แก่เรา รวมทั้งไปหาซื้อนิตยสารสกุลไทยฉบับสุดท้ายที่วางแผงในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 นี้มาอ่าน ในเล่มมีเรื่องราวที่บันทึกความทรงจำต่างๆ ไว้มากมาย

น่าเสียดายที่ทุกวันนี้นิตยสารที่ดีๆ ต้องทยอยปิดตัวลงไป ถ้าน้อยสุดผมก็หวังว่าวัฒนธรรมการอ่านนวนิยายเรื่องยาวยังจะคงอยู่คู่กับสังคมไทยไปตลอดนะครับ



นิตยสารสกุลไทยฉบับสุดท้ายนี้ จัดทำภาคพิเศษในเล่มถวายเป็นราชสักการะสดุดี ในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในความทรงจำกว่า 50 หน้า









นิตยสารสกุลไทยฉบับสุดท้าย ฉบับที่๓๒๓๗ นี้ยังขายในคาราเดิมคือ 55 บาท แต่พิเศษเพิ่มความหนาเป็น 220 หน้า พิมพ์สี่สีกว่าครึ่งเล่ม

ปกเดิมที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก แต่สุดท้ายทำเป็นปกซ้อนปกแทน




โฆษณาในเล่มเกือบทั้งหมดเป็นการถวายความไว้อาลัยแก่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช



บทบรรณาธิการและสารบัญ







เนื้อหาในเล่มยังเปี่ยมด้วยคุณภาพเช่นเดิม













นิตยสารสกุลไทยเล่มสุดท้าย ฉบับที่ ๓๒๓๗ วางแผงวันนี้ 31 ตุลาคม 2559 อย่าลืมไปหาซื้อกันนะครับ






ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือครับ




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2559
16 comments
Last Update : 31 ตุลาคม 2559 15:52:50 น.
Counter : 2894 Pageviews.

 

ผมไม่ใช่แฟนของ สกุลไทย ยังเสียดายเลยครับ

เคยเห็นคู่เคียงมากับ สตรีสาร และ ศรีสัปดาห์ ขวัญเรือน กุลสตรี

เช่นเดียวกับเพชรแกมพลอย ที่เป็นเด็กรุ่นหลัง

ผมภาวนาว่า อย่าให้ ต่วยตูน ต้องกล่าวคำอำลาเลยครับ

เอาไว้เป็นอนุสรณ์ถึง เฮียต่วย สักฉบับหนึ่งเถิด.

 

โดย: เจียวต้าย 31 ตุลาคม 2559 19:42:38 น.  

 

นิตยสารทยอยอำลาแผงก็รู้สึกใจหายค่ะ คนยุคหลังๆ อาจจะไม่ค่อยสนใจอ่านนิตยสารที่เป็นเล่มๆ แล้ว

แต่เชื่อว่าและหวังว่านิตยสารจะกลับมาบูมอีกครั้งนะคะ

ยังคงหวังอย่างนั้น

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog

 

โดย: comicclubs 31 ตุลาคม 2559 22:13:36 น.  

 

ยังแอบเสียดายอยู่เหมือนกันนะครับ ผมเคยอ่านนิยายในเล่มนี้ ติดงอมแงมเลยครับ

+Book Blog

 

โดย: The Kop Civil 1 พฤศจิกายน 2559 6:11:07 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


ไม่รู้ทำไมอ่านนิยายจีนมีความสุขกว่าอ่านนิยายฝรั่งทิดกล่อง

 

โดย: หอมกร 1 พฤศจิกายน 2559 7:39:53 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog

แอบใจหายนะคะ ที่จะต้องปิดตัวลง แสดงให้เห็นว่าคนอ่านหนังสือน้อยลงเพราะมีมือถือหรือเปล่า ทิศทางในอนาคตรุ่นน้องซีไม่รู้จะเป็นยังไง มี้เก๋เองสนับสนุนน้องซีมากๆเรื่องการอ่าน ที่บ้านมีห้องสมุดเล็กๆ ไว้ให้น้องซี หาหนังสือมาใส่ให้ตลอดเลยค่ะ

 

โดย: kae+aoe 1 พฤศจิกายน 2559 10:19:40 น.  

 

ปล. ซีไม่ยอมทำตามคำโบราณบอกว่าจะเก็บฟันไว้ดูตอนโต ใส่กล่องใว้อย่างดีค่ะ

 

โดย: kae+aoe 1 พฤศจิกายน 2559 10:20:24 น.  

 

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วใจหายนะคะ สกุลไทยอยู่คู่กับไทยมานานจริงๆ แม้ว่าเราจะไม่อ่านนิตยสาร เราก็รู้จักสกุลไทย เคยคิดว่าจะส่งบทกลอนไปลงเพื่อหาค่าขนมเหมือนกัน แต่เพราะเราไม่เคยซื้อนิตยสารเลยไม่รู้ว่าเขาต้องส่งกันช่องทางไหนเพื่อจะได้มีโอกาสให้บ.ก.รับพิจารณา จนถึงวันนี้เลยยังไม่เคยส่งผลงานไปที่ไหนเลย

พระบรมฉายาลักษณ์ที่ถูกนำขึ้นปกไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ งามมากจริงๆ

อ่านแล้วเราก็เห็นด้วยนะ ถ้าอ่านเป็นตอนๆ ลงกันเป็นปี คงผูกพันกับตัวละครน่าดู เราไม่มีความอดทนขนาดนั้นเลย ขอให้ลงพิมพ์ให้จบก่อนด้วยถึงจะซื้อ ถ้าจะค่อยๆทยอยออกมาปีละเล่ม ไม่คิดจะซื้อเลยกลัวค้างคา เลิกแปลทั้งๆที่เรื่องราวยังไม่จบ

โหวต Book Blog ค่ะ


****************************

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องนำบทกลอนไปขายนะคะ อยากขายอยู่ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องนำไปเสนอที่ไหนยังไง คงได้แค่ แต่งให้เพื่อนๆได้อ่านกันแค่นั้นเอง

 

โดย: เรียวรุ้ง 1 พฤศจิกายน 2559 10:38:31 น.  

 

พี่อ่านสกุลไทยมาตั้งแต่เล่มแรก รวมทั้งสตรีสาร
ศรีสัปดาห์ ขวัญเรือน แล้วก็อ่านเล่มแรกของ
นิตยสารต่อๆมาทุกเล่ม มาหยุดหมดเมื่อ 15 ปีที่แล้ว
เพราะสุขภาพตาใกล้บอด เพิ่งกลับมาปกติแบบพอ
ไหวเมื่อสัก 7 ปีมานี้ แต่ไม่ได้กลับไปอ่านอีก ที่
สะสมไว้ก็บริจาคให้ห้องสมุดไปหลายแห่ง มีหลาย
ครั้งในชีวิตที่บอกตัวเองว่าเลิกสะสมทุกอย่างได้แล้ว

ขอบคุณที่แวะไปอ่านบล็อกและโหวตให้นะคะ
บางที่พี่ก็บอกหมวดไว้ แต่ก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องโหวต
ตามนั้น แล้วแต่ใจคนโหวตด้วยค่ะ อะไรก็ดีหมด อิอิ
สำหรับพี่มักจะโหวตตามๆที่คนต้นๆโหวตมา เพื่อ
ไม่ให้เสียงแตก

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
moresaw Funniest Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 1 พฤศจิกายน 2559 10:50:52 น.  

 

ไม่ค่อยได้อ่านสกุลไทยค่ะ

แต่เล่มนี้คงเป็นประวัติศาสตร์หลายอย่าง น่าเก็บเหมือนกัน

เดี๋ยวลองไปหาดูค่ะ เผื่อยังพอมี


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

*** ดูแล้วเหมือน จขบ. พยายามจะบันทึกภาพของกรุงเทพฯ ให้เยอะมากที่สุด เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำแน่ๆ เลยครับ --

ตั้งใจไว้แบบนั้นล่ะค่ะ ไม่รู้จะเดินถ่ายรูปแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ตอนนี้ทำได้ ก็อยากทำให้มากที่สุดล่ะค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 1 พฤศจิกายน 2559 15:38:34 น.  

 

ใจหาย..เหมือนกันครับ ผมเคยอ่านบ่อย เมื่อก่อนนะครับ

ผมอ่านควบคู่ไปกับ ฟ้าเมืองไทย...แต่ทั้งสองก็ต่างแนวกัน

ฟ้าเมืองไทยจากลาไปก่อน..

สกุลไทย อยู่ยาวนาน.. ผมเพิ่งรู้จากคุณกล่องเองว่า นักร้อง
หญิงที่ผมชื่นชอบเธอ เป็นคนทำอยู่ในระยะหลังมานี้

ยังคิดเลยครับ ว่าหนังสือประเภทใดที่จะอยู่ยืนนาน เฉพาะที่
เป็นเล่ม แล้วขาย..

คนทำหนังสือ มีหลายกลุ่มเปลี่ยนแนว ลงทุนจ่ายค่าเขียน
จากค่าโฆษณา... โดยทำหนังสือแจกตามป้ายรถเมล์

หรือว่า.... คนทำหนังสือ จะเปลี่ยนแนว..คล้ายกับเฟชทำ
คือ คนเข้ามาร่วมมือ เป็นแนวร่วม ลงเรื่องที่น่าสนใจ..การ
ท่องเที่ยว เรื่องที่น่ารู้ แต่ "กระชับ" คนคลิ๊กเข้าไปดูเยอะ

ส่วนเจ้าของเวฟ ได้ลงโฆษณา และเก็บค่าโฆษณา..รวย
ไม่รู้เรื่อง

ผมว่าน่าจะเป็นทำนองนี้ครับคุณกล่อง ส่วนอีบุ๊ค..ผมไม่แน่ใจ
ครับ

งั้นโหวตให้คุณกล่อง
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 2 พฤศจิกายน 2559 14:04:53 น.  

 

ใจหายเหมือนกันค่ะ สั่งไว้แล้วคงใกล้ได้แล้ว

 

โดย: sawkitty 2 พฤศจิกายน 2559 18:03:15 น.  

 

สวัสดีครับพี่อาคุงกล่อง

โหวต Book blog ครับ

ปีนี้เป็นปีที่นิตยสารทยอยปิดตัวมากเป็นประวัติการณ์
รู้สึกใจหายครับ
หลายฉบับผมเคยอ่านผ่านตา
สกุลไทยนี่ก็ใช่ครับ

ตอนนี้เวลาเดินผ่านแผงหนังสือ
รู้สึกเลยว่านิตยสารเหลือให้อ่านน้อยมาก

คนอ่านหันไปหาการอ่านแบบออนไลน์กันหมดนะครับ
โฆษณาก็ลงในออนไลน์ คุ้มค่ากว่าการลงในนิตยสาร

อนาคตอันใกล้ผมว่าหนังสือพิมพ์ก็เหนื่อยครับ


ปล. ส่วนเรื่องที่ดินวัดนั้น
ผมไม่ค่อยได้ตามข่าวเลยครับ
ก็น่าเห็นใจทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ และพระที่ต้องการปฏิบัติในที่สัปปายะ

ต่างคนต่างมีเหตุผลนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 2 พฤศจิกายน 2559 22:35:46 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่อาคุง


 

โดย: กะว่าก๋า 3 พฤศจิกายน 2559 6:09:57 น.  

 

เคยเห็นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตามห้องสมุดโรงเรียนค่ะ
แต่ไม่ค่อยได้เลือกหยิบมาอ่าน
เพราะตอนเป็นเด็กชอบอ่านนิตยสารวัยรุ่น อิอิ
แต่พอมาตอนนี้รู้ว่าปิดตัวก็ใจหายเหมือนกันนะคะ
เพราะคุ้นเคยกันมานาน
เข้าห้องสมุดที่ไหนเป็นต้องเห็น

 

โดย: ผีเสื้อยิปซี 3 พฤศจิกายน 2559 8:45:11 น.  

 

เห็นน้องซีเค้ามีความสุขในสิ่งที่ทำก็ดีใจค่ะ

 

โดย: kae+aoe 3 พฤศจิกายน 2559 8:47:01 น.  

 

ตอนสกุลไทยประกาศว่าจะปิด - - เราก็ยังเฉยๆ แม้ว่าตัวเองจะตั้งเป้าเก็บ "นิตยสารฉบับสุดท้าย" ไว้ด้วยก็ตาม คิดเอาว่า ถ้ามันจะเป็นของเรา เราก็ต้องหาซื้อได้ โดยไม่ต้องจอง
แต่พอมีเหตุ อยากได้ขึ้นมาจนได้ และแล้ว ก็ได้มาด้วย ^_^

 

โดย: นัทธ์ 3 พฤศจิกายน 2559 10:10:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.