Group Blog
 
<<
เมษายน 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 เมษายน 2559
 
All Blogs
 
เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง





23 เมษายน 2559











หนังสือเล่มนี้เกี่ยวข้องกับการวิ่ง ทั้งที่เป็นการวิ่งออกกำลังกายและการวิ่งแข่งมาราธอน ผมเชื่อว่าท่านที่เป็นนักวิ่งคงจะรู้จักหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างดี “เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง” เป็นงานเขียนเชิงความเรียงของนักเขียนดังของญี่ปุ่นที่มีนามว่า ฮารูกิ มูราคามิ เล่มนี้แปลมาจากภาษาญี่ปุ่นที่มีชื่อเรื่องเป็นภาษาอังกฤษว่า “ WHAT I TALK ABOUT WHEN I TALK ABOUT RUNNING” ใช่แล้วครับ ... หนังสือเล่มนี้เป็นแรงบันดาลใจของนักเขียนที่เป็นนักวิ่งทั้งหลาย

“เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง” เป็นการนำเรื่องราวเกี่ยวกับการวิ่งของมูราคามิที่บันทึกไว้ตลอดชีวิตการวิ่งของเขามานำเสนอให้ผู้อ่านได้คิดตาม มูราคามิใช้เวลาเขียนหนังสือเล่มนี้ 2 ปี ตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2005 จนถึงฤดูใบไม้ร่วงปี 2006 โดยเอารายละเอียดจากประสบการณ์การวิ่งในอดีตมาผนวกรวมกับการวิ่งในปัจจุบัน (ในช่วง 2 ปีที่เขียน) จึงถือได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกการย่ำเท้าวิ่งของมูราคามิ ที่เขาบอกไว้เสมอว่า “การวิ่งคือแกนหลักของชีวิต” ดังนั้นรายละเอียดในเล่มจึงเป็นประสบการณ์การวิ่งที่ผู้อ่านสามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง

มูราคามิบอกว่า ถ้าจะลงแข่งขันวิ่งมาราธอนจะต้องมีการฝึกซ้อมให้เพียงพอ คือต้องวิ่งสะสมกิโลฯ ทุกวันจนกระทั่งถึงวันแข่งจริง ซึ่งตัวมูราคามิเองได้ลงแข่งขันวิ่งมาราธอนทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 รายการ ตลอดระยะเวลา 23 ปีต่อเนื่องมาตลอด ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า ในวันใดที่ฝนไม่ตกและอากาศเป็นใจไม่เลวร้ายจนเกินไปนักเขียนรันนิ่งผู้นี้จะต้องออกวิ่งเพื่อฝึกซ้อมเสมอ ถามว่าทำไมเขาต้องวิ่งด้วย? ถ้าให้ตอบก็คงเป็นเพราะว่าตัวมูราคามิเป็นนักเขียน อาชีพของนักเขียนจำเป็นต้องนั่งอยู่กับที่ตลอด ถ้าไม่ขยับตัวเสียบ้างปัญหาเรื่องสุขภาพอาจจะตามมาได้ ดังนั้นการตัดสินใจที่จะออกกำลังกายด้วยวิธีการวิ่งนั้นเป็นการช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้

 


“ ... การวิ่งมีประโยชน์หลายสถาน ข้อแรก ไม่ต้องการเพื่อนร่วมทีม ไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ ไม่ต้องไปสนามเฉพาะเจาะจงเพื่อไปออกกำลังกาย ตราบเท่าที่มีรองเท้าวิ่งสบายเท้าและมีถนนทอดยาวไกล เราพอจะวิ่งได้สุดหัวใจปรารถนา เทนนิสไม่เป็นเช่นนั้น เราต้องไปสนามเทนนิสและต้องมีเพื่อนเล่นด้วยกัน การว่ายน้ำทำคนเดียวได้แต่ก็ยังต้องไปสระน้ำ...”
(หน้า 44)

 


ผมเชื่อว่านักเขียนหลาย ๆ ท่านมีความคิดเช่นเดียวกับมูราคามิ ที่ยึดเอาการวิ่งเป็นการออกกำลังกายประจำตัว อย่างในเมืองไทยเรามีนักเขียนหลายท่านที่บอกว่าตัวเองวิ่งควบคู่กับการเขียนไปโดยตลอด ตัวอย่างเช่น คามิน คมนีย์ เขียนหนังสือชื่อ “เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์” เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการวิ่งเช่นกัน (ผมยังไม่ได้อ่านเล่มนี้เลยครับ) นอกจากนั้นก็ยังมีนักเขียนอีกหลายท่านเขียนหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการวิ่งออกมาเหมือนกัน ดังนั้นผมอาจจะสรุปเอาเองว่า อาชีพนักเขียนควรจะมีการวิ่งเป็นการออกกำลังกายประจำตัว หรืออาจจะเป็นเพราะนักเขียนไส้แห้งจึงเล่นกีฬาอย่างอื่นลำบาก การวิ่งลงทุนถูกที่สุดก็เป็นได้

สำหรับเนื้อหาในหนังสือ “เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง” นี้เป็นประสบการณ์การวิ่งของมูราคามิที่อาจะกล่าวได้ว่าเล่มนี้เป็นหนังสือสารคดีที่ดีเล่มหนึ่ง เพราะนอกจากจะให้ประสบการณ์ในเรื่องการวิ่งแล้ว ยังให้ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งด้วย จากประสบการณ์การวิ่งของมูราคามิเองเขาได้ศึกษาจนได้ข้อสรุปมาเป็นข้อมูลสำคัญให้แก่ผู้อ่านแล้ว แต่ในเนื้อเรื่องมูราคามิบอกไว้ว่า ไม่ได้หวังว่าใครที่มาอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะอยากวิ่งกันทุกคน

 


“ .... เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผมตัดสินใจว่าจะรายงานเรื่องราวตามสัตย์จริง เรื่องที่ผมคิด สิ่งที่ผมรู้สึกระหว่างก้าววิ่ง ด้วยวิธีการบรรยายของผมเอง ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นหนทางเดียวที่จะเริ่มต้นได้ ผมลงมือเขียนหนังสือเล่มนี้ทีละตอนสองตอน เริ่มต้นในฤดูร้อนปี 2015 เขียนเสร็จสิ้นในฤดูใบไม้ร่วงปี 2006 หากไม่นับเรื่องราวที่หยิบยืมมาจากงานเขียนอื่นของผม เนื้อหาทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้บันทึกความคิดความรู้สึกที่เกิดขึ้นตามจริง เรื่องหนึ่งที่ผมสังเกตเห็น การเขียนโดยสัตย์จริงในเรื่องการวิ่งกับการเขียนโดยสัตย์จริงในเรื่องราวชีวิตของตัวเองแทบจะกลายเป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้นผมเชื่อว่าจะอ่านเป็นหนังสือบันทึกความทรงจำผ่านการวิ่งก็ย่อมทำได้”
(จากบทนำ หน้า11)

 


ในฐานะที่ตัวผมเป็นคนที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่งและตัวผมก็ตั้งใจในการเขียนหนังสืออยู่ด้วย ผมอ่านเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้แล้วก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกหลาย ๆ อย่างตามที่มูราคามิเล่าให้ฟังผ่านการก้าวเท้าวิ่ง ผมคิดว่าได้ประโยชน์หลายประการจากวิธีการคิดของมูราคามิด้วย ซึ่งสิ่งที่มูราคามิพยายามจะบอกอยู่ตลอดที่นอกเหนือจากการวิ่งก็คือการใช้ชีวิต เป็นการใช้ชีวิตของผู้ที่เป็นนักคิดนักเขียน ซึ่งเป็นตัวอย่างอันดีสำหรับผู้ที่จะเดินไปในเส้นทางแบบนี้ เส้นทางแบบเดียวกันกับมูราคามิแต่เป็นเส้นทางของตัวเราเอง หนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ไกด์บุ๊คส์ที่นำทางชีวิตไปตลอดจนสุดก็จริง แต่เล่มนี้อาจจะเป็นคัมภีร์บทปฐมเฉพาะกาลสำหรับผู้ที่จะใช้ชีวิตแบบวิ่งไปเขียนไปก็เป็นได้

ทุกครั้งที่อ่านหนังสือแล้วได้ประโยชน์หรือได้แง่คิดอะไรที่ดีจากหนังสือเล่มนั้น เราควรจะต้องขอบคุณผู้เขียนที่ทำให้เราได้รับสิ่งที่ดีงามนั้น แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่เราได้จากการอ่านหนังสือนั้น จริง ๆ แล้วผู้เขียนไม่ได้เป็นผู้ยัดเยียดสิ่งนั้นเข้าสู่สมองของเราหรอก แต่เป็นสมองของเราเองที่กำลังหาโอชาความรู้เข้าเติมเต็มในรอยหยักของความคิดมากกว่า เราจึงควรขอบคุณตัวเราเองด้วยที่เลือกวิธีหาความรู้ด้วยการอ่านหนังสือ

 


ท้ายสุดนี้ผมอยากจะบอกผู้ที่มีใจรักการวิ่งว่า “ลุกขึ้นมาได้แล้ว ทุกคนเลย ออกไปวิ่งทุกเช้าเพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง” (หน้า 10) วิ่งให้ร่างกายร้อนจนสุดขีดแล้วสมองจะได้ปลอดโปร่ง หลังจากนั้นท่านจะคิดอะไรที่ดี ๆ ได้ตลอดวัน ส่วนท่านใดที่รักการอ่านและอยากจะหาหนังสือ “เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง” เล่มนี้มาอ่านก็ลองหาดูได้นะครับ สำหรับหนังสือเล่มที่อยู่ในมือของผมนี้ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 เดือนเมษายน 2555 โดยสำนักพิมพ์กำมะหยี่ หนังสือขนาดเหมาะมือแบบหยิบจับง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยความหนา 195 หน้า มีสำนวนดีอ่านได้สบายรวดเดียวจบ ราคาปก 250 บาท (ปกแข็ง) ลองไปเดินหาดูตามร้านหนังสือนะครับ


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้ ขอให้ท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ





Create Date : 23 เมษายน 2559
Last Update : 23 เมษายน 2559 0:07:11 น. 23 comments
Counter : 1471 Pageviews.

 
เข้าทาง นักวิ่งเช่นคุณกล่องเลยนะครับ

ตอนนี้ผมเป็นอดีตนักวิ่งเสียแล้วครับ เปล่าวิ่งราวนะครับ 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 23 เมษายน 2559 เวลา:12:44:30 น.  

 
การวิ่งขอแค่มีรองเท้าวิ่งแค่คู่เดียวก็เริ่มได้แล้ว ไม่ต้องมีเพื่อนด้วย จะว่าไปเดี๋ยวนี้เค้าฮิตใส่เครื่องมือวัดการวิ่งแล้วโพสใส่เฟสบุ๊คเหมือนกัน แต่วิ่งเฉยๆ มันธรรมดาครับ ต้อง 4 คูณ สร้อยครับ (อย่าไปทำนะ)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 เมษายน 2559 เวลา:18:41:33 น.  

 
มาแล้วค่ะ ...

เรื่องนี้ยังไม่มีเลยค่ะแต่ว่าได้อ่านรีวิวมาสักพักและเพื่อนนักวิ่งอีกคนก็แนะนำ
มาเหมือนกันค่ะคุณกล่อง น่าอ่านเลยล่ะค่ะ

ส่วนตัวแล้วมองว่าการวิ่งนี่เหมือนกับการที่เราได้
อยู่กับตัวเองในบรรยากาศแห่งการเปลี่ยนแปลงร่างกาย
จากนิ่งไปวิ่ง แล้วมันจะมีบางสิ่งบางอย่างขับเคลื่อนไปไม่ว่า
เล็ก น้อย ใหญ่ กว้าง เรารับรู้ได้ ยิ่งคนเขียนงาน
เราว่าเอาตรงนี้ไปขยายหรือว่าเขียนออกมาได้เยอะแยะมากมาย
เลยจริงๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:15:22:40 น.  

 
สาววิ่งน้อยค่ะ ถ้าคนวิ่งบ่อยๆ คงชอบแนวนี้


โดย: sawkitty วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:17:35:54 น.  

 
เดี๋ยวนี้เค้าหันมาวิ่งออกกำลังกาย วิ่งมาราธอนกันเยอะเลย คงเพราะเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องมีอุปกรณ์ใด ๆ นอกจากรองเท้ามังคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
Kisshoneyz Literature Blog ดู Blog
อุ้มสี Food Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Parenting Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:18:50:50 น.  

 
วิ่งไม่ไหวแล้วค่า ขอเปลี่ยนเป็นการเดินละกันเนาะ
ปล.รู้ทั้งรู้ว่าการออกกำลังนี่เป็นสิ่งที่ดี อยากมีสุขภาพดีก็ต้องทำเองเนาะ ไม่มีซื้อขายซะด้วยสิ

ปล.พี่ก็เพิ่งทำข้าวผัดผักกาดดองไปครั้งแรกค่ะ อ่านเจอในหนังสือก็เลยลองทำดู ก็ไม่น่าเกลียดนะอร่อยใช้ได้เลยค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:19:25:07 น.  

 
บางทีการวิ่งก็ทำให้เราคิดเรื่อง ต่าง ๆ ได้เหมือนกันค่ะ
+



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:21:20:21 น.  

 
เป็นเล่มของมูราคามิที่ยังไม่ได้อ่านค่ะ

แต่กีฬาวิ่งเป็นกีฬาที่เราไม่ชอบเลยยยยยย เหนือ่ย เจ็บเข่า ฮือๆ

ชอบว่ายน้ำ โยคะ ปั่นจักรยานค่ะ

วันนี้โหวตเต็มแล้ว พรุ่งนี้มาโหวตให้นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:21:56:27 น.  

 
น่าอ่านมากครับ




โดย: The Kop Civil วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:22:12:56 น.  

 
แค่อ่านรีวิวก็ยังนึกอยากวิ่งขึ้นมาเลยค่ะ
กดไลค์กับโหวตให้คุณกล่องค่า
ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่แวะไปชมพระสาทิสลักษณ์พระราชินีและโหวตให้
ที่จริงก็ไม่ค่อยทราบหรอกว่าราคารูปของศิลปินระดับนี้จะสูงขนาดไหน
แต่เดาว่าคงจะไม่น้อยแน่ ๆ


โดย: haiku วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:22:47:19 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


ฟังทิดกล่องเล่าก็ไม่ต้องอ่านไปอีก 1 เล่มนะ



โดย: หอมกร วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:22:56:41 น.  

 
มาโหวตนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
กาปอมซ่า Art Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 เมษายน 2559 เวลา:7:37:10 น.  

 
น่าอ่านมากกกกกกกกกกกกกกจ๊ะน้อง


โดย: อุ้มสี วันที่: 25 เมษายน 2559 เวลา:8:15:58 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยือนและให้ความเห็น

พวกเราไปอบรมที่หัวหิน วันละ 2 ชม. คือถูกอบรมคณิตศาสตร์
ประกันภัย คือที่มา ของเบี้ยประกัน ว่าตัวเลขมาจากไป

ที่มาส่วนใหญ่คือ การเสี่ยงภัย ของบ้านเรือน แต่ละโซน บ้าน
แต่ละหลังสร้างด้วยอะไร..

ถ้าเกี่ยวกับคน มาจาก การเสี่ยงภัยระหว่างอายุ แต่ละอายุ
คำนวนเป็น % รวม คชจ. ดอกเบี้ย เงินที่ต้องคืน..

ภาษี.. จะใช้สถิติของปี คศ.ไหน เป็นหลักในการคำนวณ
และต้องได้รับความเห็นชอบ จาก กระทรวงพาณิชย์ด้วย

คือพวกผมถูกอบรม... ไม่ได้สัมนาเลย.. ปกติพวกเรา
ไปแลกเปลี่ยนความเห็น แต่ละกลุ่มเรียกว่าสีมนา หาข้อสรุป
อันนั้นพวกเราชอบ แหะ ๆ สัมนาแฝงท่องเที่ยว..

เป็นบล๊อกที่ผมชอบ บรรยากาศที่ไม่จำเจ..

แต่วันนี้ผมอัพอีกแล้ว ชุด ผมไม่มีทางเลือก นี่ครับ
แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี แม้อีกฝ่ายจะเครียด แต่ผมไม่..

เขาพยายามต้อนผม... แต่เจอมวยหลัก..ผลเป็นเช่นไร
ต้องติดตามเองครับ 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 25 เมษายน 2559 เวลา:12:29:28 น.  

 
หนังสือน่าอ่านค่ะน้ากล่อง


โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 25 เมษายน 2559 เวลา:12:58:07 น.  

 
เราซื้อเล่มนี้มาแล้ว และกำลังอ่านอยู่เช่นกันค่ะ
ส่วน "เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์" อ่านไป 2 รอบแล้ว
เป็นแรงบันดาลชั้นดีทั้งในเรื่องการวิ่งและการฝึกเป็น "นักเขียน" เลยด้วย


โดย: นัทธ์ วันที่: 25 เมษายน 2559 เวลา:17:40:09 น.  

 
ในบรรดาการออกกำลังกายทั้่งหมด เกดชอบวิ่งที่สุดเลยค่ะ แต่พักหลังวิ่งไม่ไหว ใช้เดินเร็วๆแทน แฮ่ะๆๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ รู้สึกสนใจหนังสือเล่มนี้จังเลย อยากรู้ว่าเขาเขียนเรื่อง "การวิ่งคือแกนหลักของชีวิต" ไว้ว่ายังไง

โหวตให้ book blog ค่ะ
(ทำไมก๊อปปี้โหวตมาแปะไม่ได้?)

******************************
ปล อาหารแม็กซิกันหน้าตาประหลาดจริงๆค่ะ บางอย่างก็รสชาติประหลาดด้วย 555+ แต่หลายอย่างอร่อยค่ะ


โดย: Raizin Heart วันที่: 26 เมษายน 2559 เวลา:16:54:01 น.  

 
ไม่เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการวิ่งเลยค่ะ แต่เคยดูภาพยนตร์ รัก 7 ปี ดี 7 หน จากเรื่องนั้นทำให้รู้ว่าการวิ่งไม่เป็นใช่เป็นเพียงแค่การออกกำลังกายอย่างเดียว


โดย: Sab Zab' วันที่: 26 เมษายน 2559 เวลา:16:57:09 น.  

 
สวัวดีค่ะอาคุงกล่อง

การวิ่ง ก็เป็นการออกกำลังกายที่ดี

ดีต่อขาเราด้วยนะค่ะ..อิอิ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 26 เมษายน 2559 เวลา:18:07:37 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 27 เมษายน 2559 เวลา:0:52:35 น.  

 
การวิ่งของเรากลับต้องการเพื่อนร่วมการวิ่งแฮะ ส่วนว่ายน้ำคนเดียวสบายๆ ค่ะ


โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ วันที่: 27 เมษายน 2559 เวลา:7:49:17 น.  

 
เป็นหนังสือที่น่าสนใจมากๆอย่างยิ่ง กับผู้ที่ชอบออกกำลังกายด้วยการวิ่ง
การวิ่ง ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมใดๆจริงด้วย นอกจากรองเท้าที่เหมาะสม
ขอบคุณมากคะที่แนะนำหนังสือดีๆมีสาระวันนี้

อาคุงกล่อง Book Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 27 เมษายน 2559 เวลา:8:56:52 น.  

 
การวิ่งคงจะเป็นกีฬาอย่างเดียวที่เราทำได้ดีที่สุดแล้วละค่ะ

ตอนเด็ก ๆ เวลาแข่งกีฬาก็ลงแข่งแต่กรีฑานี่ล่ะค่ะ


แต่พอโตมากลับแทบไม่เคยได้วิ่งเลย

มีอยู่พักนึงเคยวิ่งเพราะหวังลดความอ้วน

เล่นเอาหอบแฮ่กไปเหมือนกันค่ะ


โหวตเป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: แม่โอ๋เรนเจอร์ วันที่: 30 เมษายน 2559 เวลา:20:28:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.