บุคคลแห่งยุคสมัยในโลกของความหมายทางวรรณกรรม
12 กุมภาพันธ์ 2561
ผมมีโอกาสไปอบรมที่สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ การเขียน Content สู่การสร้างสรรค์อำนาจของวรรณกรรม เมื่อวันที่ 27-28 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ผมจึงขอจับประเด็นสำคัญที่ได้รับจากการอบรมในครั้งนี้มาเขียนนำเสนอให้ท่านที่สนใจ เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านด้วย
(รายละเอียดจากการอบรมในครั้งนี้ ผมจดเป็นบันทึกช่วยจำย่อ (จดเลคเชอร์) แล้วจึงนำมาเรียบเรียงใหม่ ดังนั้นถ้ามีรายละเอียดประการใดที่ผิดพลาด หรือคาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ผมก็ต้องขออภัยมา ณโอกาสนี้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ)
สำหรับในหัวข้อนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า บุคคลแห่งยุคสมัย กับวิถีชีวิตอันที่มาแห่งแก่นสารด้านเนื้อหาสาระในโครงสร้างใหม่ ณ โลกความหมายทางวรรณกรรมของวันนี้ บรรยายโดย นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บรรณาธิการบริหารสื่อออนไลน์ THE STANDARD
-เว็บไซต์ THE STANDARD คือสื่อออนไลน์ที่นำเสนอคอนเทนต์สำคัญของยุคสมัยนี้ โดยใช้แนวคิดของการดำรงอยู่ของสังคม Stand up for The People เป็นหลัก
-ตัวคุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์หรือชื่อเล่นว่า เคน จริงๆ แล้วจบการศึกษามาทางเภสัชกรรม แตหันมาสนใจการเล่าเรื่องโดยอยากที่จะเปิดโลกทัศน์ของตัวเอง หลังเรียนจบจึงไปฝึกงานที่นิตยสาร a day อยู่กับบรรณาธิการ ทรงกลด บางยี่ขัน ทำให้หลงรักในงานวรรรกรรม และหลงใหลในอาชีพนักคิดนักเขียน
-หลังจากที่คุณเคนออกจากนิตยสาร a day แล้ว (หลังจากมีข่าวปัญหาเรื่องผู้ถือหุ้น) ก็ไปทำงานอยู่ที่ Post ได้ทำเว็บไซต์สื่ออนไลน์ที่ชื่อ The MOMENTUM ก่อนที่จะออกมาทำหน้าเป็นบรรณธิการบริหารที่ สื่อออนไลน์ THE STANDARD
-สื่อออนไลน์ THE STANDARD ปัจจุบันเป็นของคุณวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และคุณวินิจ เลิศรัตนชัย
-ตัวคุณเคนมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน แต่ไม่มีทักษะในการสร้างตัวละครและสร้างพล็อตเรื่อง จึงทำงานด้านคอนเทนต์ในเชิง Non-Fiction มากกว่า คือเขียนข่าว เขียนบทความ เขียนสารคดีเป็นหลัก
-สิ่งที่สังเกตได้จากวรรณกรรมไทยครือ การสร้างตัวละครของเรามันไม่หนักแน่นเหมือนของฝรั่งเขา ฝรั่งเขาสร้างตัวละครที่มีบุคคลิกชัดเจน ทำให้ผู้อ่านทั่วโลกจดจำได้ อย่างเช่น แฮรี่ พ็อตเตอร์ , รหัสลับดาวินซี ฯลฯ
-ตัวละครในนิยายของต่างประเทศมักจะมีความลุ่มลึกกว่าตัวละครของไทย ฝรั่งสร้างตัวละครโดยมีปูมหลัง มีแบ็คกราวน์ มีที่มาที่ไป ตัวละครของเขาจึงดูมีมิติมากกว่า
-อธิบายถึงคำว่า ไทยแลนด์ 4.0 นั้นคือ มีแนวคิดโมเดลการแบ่งการวิวัฒนาการทางสังคมโลก ออกเป็น 4 ยุคคือ
1. ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เป็นนยุคแรกที่เริ่มมีการคิดเครื่องจักรไอน้ำขึ้นมา
2. ยุคที่มนุษย์สามารถผลิดไฟฟ้าขึ้นมาใช้ได้ ทอมัส แอวาเอดิสันคิดประดิษฐ์หลอดไฟขึ้นเป็นครั้งแรก
3. ยุคที่เป็นระบบอัตโนมัติโดยเครื่องจักรกล คือเริ่มใช้เครื่องจักรกลแทนแรงงานมนุษย์มากขึ้น
4. ยุคที่มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อทุกคนบนโลกนี้
-ประเทศไทยพยายามจะเป็น ไทยแลนด์ 4.0 คือต้องการเข้าสู่ยุคที่ 4. ที่มีระบบอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อทั้งหมด แต่ปัจจุบันประเทศไทยยังอยู่ในยุคที่ 3 เอง
-ยุคที่ 4 เป็นยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ควบคุมเกือบจะทุกอย่างบนโลกนี้ เช่น เฟสบุ๊คก็คือปัญญาประดิษฐ์ชนิดหนึ่ง เราจะเห็นว่าเฟสบุ๊คจะดึงฟีดเจอร์ขึ้นมาให้เราดูแต่เฉพาะเรื่องที่เราชอบ เรื่องที่เราสนใจเท่านั้น โดยโพสในลักษณะใดที่เราเข้าไปดูบ่อย หรือไปกดไลท์ให้บ่อย ปัญญาประดิษฐ์จะสรุปว่าเราชื่นชอบในลักษณะนั้น ดังนั้นฟีดเจอร์ของโพสในเรื่องที่เราชอบจึงขึ้นมาให้เราเห็นเสมอ (ต้องลองสังเกตดูว่าในเฟสบุ๊คของคุณเป็นอย่างนี้ไหม?)
-ปัจจุบันข้อมูลในโลกทั้งหมด ประมาณแค่ 2% เองที่ถูกเก็บอยู่ในฮาร์ดก๊อปปี้ (วัตถุอื่นๆ ที่มนุษย์สามารถจับต้องได้) ส่วนอีก 98% ถูกเก็บไว้ในอากาศ หรือในคราวน์ (ในเมฆ) หรือในอินเตอร์เน็ตนั้นเอง โลกปัจจุบันจึงก้าวล้ำไปไกลมาก
-จะเห็นว่าในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ที่มูลค่ามากที่สุดในโลกจะเป็นบริษัททางด้านไอทีเป็นหลัก เช่น แอปเปิ้ล , ไมโครซอฟ , กูเกิ้ล , อะเมซอน , เฟสบุ๊ค ซึ่งตากจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่บริษัทยักษ์ใหญ่ยังเป็นบริษัทด้านพลังงาน (น้ำมัน) เช่น เอ็กซอน หรือปิโตรเลียมต่างๆ จะเห็นได้ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก
-ปัจจุบันนี้บริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ อะเมซอน
-อีกไม่นานคำว่า ไอที และ นวตกรรม จะไม่ถูกแยกออกจากกันแล้ว จะทั้งสองคำนี้จะผสมผสานกันไป โดยอาจกล่าวได้ว่าต่อไปภายภาคหน้า โลกจะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเป็นหลัก
-จะเห็นว่ารุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาในปัจจุบัน (คนที่ทรงอิทธิพลในโลก) ล้วนแต่เป็นคนที่มีต้นทุนต่ำมาก คือไม่ต้องมีโรงงาน ไม่ต้องมีหน้าร้าน แต่คนรุ่นใหม่ก็เติบโตมีทรัพย์สินจนร่ำรวยได้ จนสามารครองโลกได้ เช่น มาร์ค แซททันเบิร์ก เจ้าของเฟสบุ๊ค , เจ้าของกูเกิ้ล ฯลฯ ซึ่งแตกต่างจากคนรุ่นเก่ามากที่กว่าจะเติบโตขึ้นได้ต้องใช้ทั้งต้นทุนมหาศาล และแรงกายและแรงกำลังจำนวนมาก
-พูดถึงวรณกรรมของไทย ถ้าอยากจะให้เป็นสากลและแข่งขันกับเขาได้ เนื้อเรื่องหรือคอนเทนต์ต้องล้ำไปข้างหน้าให้มาก คิดต้องคิดในเชิงก้าวหน้าให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะส่วนใหญ่วรรณกรรมไทยจะซ้ำซาก ซ้ำรูปแบบเดิมเกือบตลอด
-ถ้าถามว่าแล้วคอนเทนต์ปัจจุบันที่ดีๆ เป็นสากลคืออะไร? ขอยกตัวอย่างให้ดูว่า ใน Netflix มีซีรีส์วิทยาศาสตร์เป็นหนังสั้นจบในตอน หนังพวกนี้มีคอนเทนต์ที่ดีมาก หนังสั้นพวกนี้มีเนื้อหาที่ทันสมัยเข้ากับยุคออนไลน์ ขอยกตัวอย่างตอนหนึ่ง ที่ในเรื่องนางเอกตายแล้ว แต่ตัวพระเอกยังเก็บสื่อโซเซียลมิเดียของนางเอกไว้ แล้วเอาพวกเฟสบุ๊ค ทวิเตอร์ อินตราแกรม ฯลฯ ของนางเอกมาประมวลผลสร้างเป็นตัวนางเอกที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ สามารถพูดคุยโต้ตอบกับพระเอกได้ ทำให้พระเอกหายคิดถึงนางเอกได้
-อีกหน่อยคำว่า ไซไฟ อาจจะดูล้าสมัยไปแล้วก็ได้ เพราะไซไฟเป็นเรื่องแต่ง เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ที่ใช้จินตนาการ แต่ในกาลข้างหน้าอาจจะมีนิยายที่เขียนโดยใช้เรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เป็นเรื่องราวซึ่งทันสมัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง จนทำให้รูปแบบของวรรณกรรมเปลี่ยนหน้าตาไปอีกก็ได้
-คนที่ชื่อ ELON MUSK เป็นคนโลกยกย่องว่าเป็นแฮนรี่ฟอร์ดแห่งรถยนต์รุ่นใหม่ เป็นคนที่ค้นคิดรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถสปอร์ตคันแรกของโลก(เทสต้า) วิ่งได้ตลอดโดยชาร์ทไฟแค่ครั้งเดียว เขาก่อตั้งบริษัทด้านอวกาศขึ้นมา โดยเป็นเอกชนรายแรกที่สามารถส่งจรวดขึ้นไปในอวกาศได้ เพราะเชื่อว่าในอนาคตมนุษย์จะต้องไปอาศัยอยู่บนดาวอังคาร ล่าสุดเขากำลังค้นคิดระบบการเดินทางผ่านท่อสูญญากาศ เป็นรถไฟวิ่งไปตามท่อสูญญากาศยาวๆ ที่สร้างขึ้น โดยมีความเร็วเท่ากับเคื่องบิน คาดว่าจะเป็นการคมนาคมขนส่งสำหรับอนาคต คนๆ นี้เป็นต้นแบบจริงๆ ของไอรอนแมน ในภาพยนตร์
-จะเห็นว่าคนที่ทำได้แบบ ELON MUSK นั้น ต้องเป็นคนที่ไม่หยุดคิดไม่หยุดฝัน ต้องเป็นคนที่มีจินตนาการมาก ต้องเป็นคนที่ทำอะไรอย่างจริงจัง โดยถ้ารู้ว่าสิ่งที่กำลังทำนั้นเป็นประโยชน์แก่ชาวโลกก็ต้องทำ ถึงแม้ว่าผลลัพธ์มันจะล้มหเหลวก็ต้องทำต่อไป
-อยากเห็นวรรณกรรมไทยมีมิติมากขึ้น ทั้งมิติของพล็อตและตัวละคร การสร้างตัวละครต้องสร้างให้ล้ำลึก ต้องคิดสร้างตัวละครตั้งแต่เกิด รู้ที่มาที่ไปความเป็นไปของตัวละครทั้งหมด แต่ไม่ต้องเล่าออกมาในเรื่องทั้งหมดก็ได้ ให้ตัวละครมันเป็นผู้เล่าเรื่องของมันเอง
-ปีที่แล้ว 2560 เป็นปีที่ออนไลน์โลกขึ้นมาก โตในทุกเซคชั่น ทุกคนเริ่มหันมาหาออนไลน์กันเกือบหมดแล้ว
-การเป็นนักเขียนเราต้องหาตัวเองให้เจอ ต้องรู้ว่าตัวเองมีจุดเด่นอะไรแล้วไปทำงานในจุดนั้น ต้องรู้ให้ได้ว่าคนอ่านเขาคือใคร? เขาสนใจอะไร? เขาชอบแบบไหน? หาคอนเทนต์ให้ตรงกับคนอ่านมากที่สุด
-นักเขียนต้องเข้าใจโลกของหุ่นยนต์ด้วย ต้องเข้าใจปัญญาประดิษฐ์ด้วย ถึงจะตามโลกและตามคนอื่นเขาทัน อย่างเช่น เราต้องรู้ว่าในทวิเตอร์มันไม่ชอบให้เราเขียนอะไรยาวๆ ดังนั้นถ้าจะเขียนอะไรยาวๆ ให้ไปเขียนในเฟสบุ๊ค แต่ในทวิเตอร์ให้เขียนประเด็นสั้นๆ แต่โพสให้ถี่ๆ ยิงมาเป็นชุดๆ ให้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยเน้นความเร็วและความถี่เป็นหลัก , อย่างในเฟสบุ๊คมันต้องการให้คนอยู่ในเฟสบุ๊คนานๆ มันไม่ชอบให้ใครโพสลิงค์ เพราะถ้าเป็นลิงค์คนอ่านจะคลิกแล้วออกไปจากเฟสบุ๊ค ดังนั้นในเฟสบุ๊คเราโพสเป็นรูปที่มีข้อความ เป็นภาพโฆษณาก็ได้ หรือแชร์เรื่องราวมาจากแหล่งอื่น ฯลฯ
-สำหรับ Content เรื่องประเด็นความลึกก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น เราจะรีวิวครัวซอง เราก็นำเสนอประวัติของครัวซองว่าเกิดขึ้นอย่างไร? ในสมัยไหน? เล่าวิธีการทำครัวซอง , สอนวิธีการกินครัวซอง ก่อนที่จะเข้าประเด็นหลักเล่าถึงครัวซองของร้านที่เราต้องการจะรีวิว ในกรณีแบบนี้คือเน้นในเรื่องข้อมูลเชิงลึกเป็นหลัก
-มีคนถามว่าปัจจุบันนี้ยังจำเป็นต้องมีโดเมนเนมอยู่ไหม? หรือยังต้องมีเว็บไซต์อยู่ไหม? คุณเคนให้ความเห็นว่ายังควรจะต้องมีอยู่ เพราะเปรียบเหมือนเรามีร้านของตัวเอง เราเอาสินค้าไปโฆษณาขายผ่านเฟสบุ๊ค เฟสบุ๊คเหมือนห้างสรรพสินค้า ที่มีพื้นที่ให้วางสินค้า มีคนมาเดินเลือกซื้อสินค้า แต่ถ้าเราไม่มีหน้าร้านของตัวเอง เราจะผลิดสินค้าได้อย่างไร? เราจะเอาสินค้าอะไรไปขาย? ดังนั้นยังควรมีเว็บไซต์เป็นหน้าร้านของตัวเองด้วย
-จากสถิติเห็นว่า ในเฟสบุ๊คคนไทยไม่ชอบอ่านอะไรที่ยาวมากนัก แต่เฟสบุ๊คยังเป็นช่องทางหลักสำหรับคนไทยอยู่ ในเฟสผู้หญิงเล่นมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงกับเฟสบุ๊คเป็นอะไรที่ประสานกันได้อย่างมีเอกลักษณ์ลงตัวพอดี (ผู้หญิงโพสรูปตัวเองในเฟสบุ๊คมากกว่าผู้ชาย)
-สำหรับคุณเคน ปัจจุบันอ่านงานวรรรกรรมของไทยน้อยลง แต่อ่านข่าวสารเรื่องราวต่างๆ มากขึ้นแทน คุณเคนยังคงติดตามแวดวงวรรรกรรมไทยอยู่ รู้ว่าปัจจุบันวรรรกรมที่ขายดีเป็นเรื่องแนววาย และนิยายที่กำลังจะสร้างเป็นละคร นอกจากนี้ยังมองว่าวรรรกรรมไทยยังซ้ำๆ ในรูปแบบเดิมอยู่
-สำหรับวรรณกรรม คุณเคนมีความคิดเห็นว่าเรื่องพล็อตสำคัญที่สุด ปัจจุบันเราไปให้ความสำคัญกับความหมายและการตีความมากเกินไป คุณเคนคิดว่าเรื่องที่ดีต้องพล็อตดี เรื่องที่ดีต้องมีความสนุกมาก่อน คืออยากได้เรื่องอะไรก็ได้ที่ชัดเจน ขอให้สนุกจะซ่อนอะไรก็ซ่อนได้ แต่ขอให้อ่านแล้วสนุกไปกับเรื่องก็พอ
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2561 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2561 10:01:20 น. |
|
19 comments
|
Counter : 930 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณSai Eeuu, คุณLikLi Sympathy, คุณtoor36, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณkae+aoe, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณหอมกร, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณTui Laksi, คุณhaiku, คุณชมพร |
โดย: Sai Eeuu วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:12:18:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:15:09:40 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:22:43:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:15:53:17 น. |
|
|
|
โดย: newyorknurse วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:3:38:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:6:59:02 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:12:32:53 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:14:13:09 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:23:07:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:23:17:00 น. |
|
|
|
โดย: ชมพร วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:17:44:24 น. |
|
|
|
|
|
อ่านบันทึกของคุณอาคงกล่องแล้ว ให้คิดถึง เวลาอ่านสาระอะไรในหนังสือค่ะ ถึงแม้จะดูหนักไปนิด แต่ก็เต็มไปด้วยสาระมากมายค่ะ
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ อาคุงกล่อง เรียบร้อยแล้วนะคะ
คุณเหลือ อีก 4 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ