Group Blog
 
 
มกราคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 มกราคม 2559
 
All Blogs
 
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย

27 มกราคม 2559






หนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้เป็นนวนิยายของนักเขียนสตรีผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่ช่วงเวลาหนึ่งเธอที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งเรื่องรัก ในนามปากกา สุวรรณี สุคนธา นวนิยายเรื่อง “สายบ่หยุดเสน่ห์หาย” นี้ถือเป็นนวนิยายเรื่องแรกของเธอที่แต่งขึ้นในราวปี 2508 ในยุคที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของนวนิยายแนวพาฝัน ที่เริ่มมีนวนิยายรักออกมาสู้ตลาดมากมาย

ผมอ่าน “สายบ่หยุดเสน่ห์หาย” แล้วมีความรู้สึกเหมือนอ่านนวนิยายแปลเลย เพราะผมคิดว่าวิธีการเขียนการแต่งคล้ายกับเรื่องของต่างประเทศมาก วิธีการเล่าเรื่องที่กระโดดไปกระโดดมาเหมือนสไตล์การเขียนของฝรั่ง วิธีเล่าถึงตัวละครต่าง ๆ ก็ดูเหมือนจะพยายามหลบซ่อนให้ผู้อ่านเดาไม่ออกในตอนแรก อย่างเช่นการขึ้นต้นที่ตัวละครจะถูกเรียกว่า “เขา” หรือ “เธอ” โดยตลอด จนทำให้ผู้อ่านต้องพยายามคิดเอาเองตลอดว่า “เขา” หรือ “เธอ” นี้หมายถึงตัวละครตัวไหน ซึ่งสไตล์การเขียนในลักษณะนี้อาจะออกเป็นเชิงวรรณกรรม แต่เชื่อว่านักอ่านหลาย ๆ ท่านอาจจะไม่ชอบ เพราะว่าคงแปลกใหม่ในช่วงเวลานั้น อีกทั้งนักเขียนคนอื่น ๆ ไม่ใช้วิธีการเขียนในสไตล์นี้เลย นักเขียนส่วนใหญ่จะเขียนโดยการเล่าเรื่องไปตามลำดับเวลามากกว่า

ส่วนเนื้อเรื่องนั้นเป็นการเล่าถึงความรักของหนุ่มใหญ่กับสาวน้อย ที่กว่าตัวละครเอกฝ่ายชายจะมาพบและรักนางเอกได้ก็ในตอนปลายสุดของเรื่องแล้วจบเลย พล็อตหลักเป็นเรื่องของความรักที่แตกต่างกันทั้งในด้านอายุและสภานะทางสังคม ตัวละครพระเอกดีเลิศเลอดุจเจ้าชาย หน้าตาหล่อร่ำรวยมีการศึกษาดี เกิดในครอบครัวที่มีกิน แต่ตัวละครนางเอกนั้นเปรียบเสมือนนางฟ้าผิดสวรรค์ เพราะว่าเธอสวยมาก สวยมากชนิดที่ตัวละครตัวอื่น ๆ ทุกตัวยอมรับว่าเธอมีรูปร่างและหน้าตาที่สวยมาก แต่นางเอกเกิดในครอบครัวที่ยากจนชนิดไม่มีบ้านจะอยู่ เธอจึงเป็นคนมีการศึกษาต่ำจึงจำเป็นต้องไปทำงานที่สุจริตแต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป (โดยเฉพาะพระเอก) คือมีอาชีพเป็นนางแบบเปลือยสำหรับให้นักศึกษาศิลปะวาดภาพนู้ด พระเอกกับนางเอกไม่เข้าใจกันตลอด โดยกว่าจะรู้ว่ารักก็ในตอนจบท้ายสุดของเรื่องเลย จึงเป็นนิยายรักแบบเบา ๆ ทีมีอุปสรรคแค่เรื่องความแตกต่างทางอายุ (ตอนต้นเรื่องพระเอก 22 นางเอก 8 ขวบ) และความไม่เข้าใจกันเท่านั้น



“ นี่หรือหญิงคนที่เคยเข้ามาอยู่ในความนึกคิดของเขา เคยนึกดูหมิ่นหล่อนนัก ค่าที่หล่อนไม่รู้จักความอายอย่างหญิงอื่น คนนี้หรือคือคนที่นั่งจ้องดูเขาอย่างเงียบ ๆ นี้หรือคือเจ้าของร่างเปลือยในรูปที่เขาใคร่จะได้เป็นเจ้าของ โอ้หล่อนดูช่างบริสุทธิ์เกินกว่าเขาจะคิดไปถึง ดูนัยน์ตาหล่อนสิ ดูหน้าอันอ่อนหวานแสนซื่อ และยิ้มราวกับดอกบัว ทำไมต้องเป็นหล่อน ทำไม ทำไมจึงไม่ใช่คนอื่น ...”
(หน้า 437)





มีนักวิชาการทางภาษาท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า

“นักเขียนมีหน้าที่บันทึกเรื่องราวทางสังคมในช่วงเวลานั้น ๆ ด้วย”

ซึ่งเรื่อง “สายบ่หยุดเสน่ห์หาย” นี้ได้ทำหน้าที่บันทึกเรื่องราวทางสังคมในช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี ผมอ่านเรื่องนี้แล้วผมได้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ผมอ่านแล้วได้รู้ว่าในปี 2508 นั้นแถวบางซ่อนยังเป็นชนบทที่ห่างไกลความเจริญมาก , ที่ริมคลองประปาเป็นแถวบางซื่อเป็นทุ่งโล่งสำหรับปลูกผักและดอกไม้เป็นแนวยาวขนานไปกับคลอง , ถนนเพชรบุรีเคยมีวงเวียนน้ำพุซึ่งผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่ามี (อยู่ตรงไหนหว่า?) , ส่วนถนนเพชรบุรีตัดใหม่นั้นสร้างขนานไปกับทางรถไฟซึ่งแถวนั้นยังมีที่โล่งอีกจำนวนมากสำหรับปลูกอาคารสำนักงาน (น่าจะเป็นแถวอาร์ซีเอในปัจจุบันนี้) , การเดินทางจากฝั่งบ้านเพไปเกาะเสม็ดต้องไปด้วยเรือเป็ดลำเล็ก ๆ ฯลฯ ซึ่งภาพในปัจจุบันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดแล้ว แต่เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วผมจึงทราบนายละเอียดพวกนี้ นอกจากนั้นสภาพสังคมในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างไร? คนกินอะไรกัน? คนดูหนังหรือเที่ยวอย่างไร? ในเรื่องนี้ทำให้เรามองเห็นภาพผู้คนเหล่านั้นได้

นอกจากนั้น ในเรื่องอาชีพของนางเอกที่เป็นนางแบบเปลือยสำหรับวาดภาพนู้ดน่าจะเป็นสิ่งที่สังคมยังไม่เคยรู้มาก่อน(ในสมัยนั้น) แต่ว่าตัวผู้เขียน (สุวรรณี สุคนธา) เรียนจบด้านศิลปะมาจึงสามารถเล่าโดยให้รายละเอียดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีตัวละคร 2-3 ตัวในเรื่องที่เรียนเกี่ยวกับศิลปะด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวคนเขียนแต่ไกลตัวคนอ่านมาก จึงน่าจะเป็นความแปลกใหม่ในสมัยนั้นด้วย รวมทั้งวิธีการคิดและการใช้ชีวิตของตัวละครในเรื่องที่กลายมาเป็นวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในสังคมที่เราพบเห็นได้ในทุกวันนี้

เรื่องนี้จึงเหมาะสำหรับท่านที่อยากจะอ่านเรื่องรักแบบเบา ๆ แต่มากไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องต่าง ๆ หรือท่านใดอยากเห็นสภาพบ้านเมืองในเวลานั้นก็หาเรื่องนี้มาอ่านได้ ถือว่าเป็นนวนิยายที่บรรยายฉากได้อย่างชัดเจนจนผู้อ่านสามารถเห็นภาพตามได้ สำหรับนวนิยายเรื่อง “สายบ่หยุดเสน่ห์หาย” เล่มที่อยู่ในมือผมนี้เป็นฉบับของสำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร ของบูรพาสาส์น (1991) ฉบับพิมพ์เดือนกุมภาพันธ์ 2540 ด้วยความหนา 569 หน้า ราคาปก 160 บาท (เย็บกี่ไสกาวปกอ่อน) เล่มนี้ผมซื้อจากบูทบูรพาสาสน์ ในงานหนังสือเมื่อ 2 ปีก่อน เห็นว่ามีฉบับล่าสุดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Free From วางขายอยู่ตามร้านหนังสือ ท่านที่สนใจก็ลองหาดูนะครับ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ




Create Date : 27 มกราคม 2559
Last Update : 27 มกราคม 2559 10:23:54 น. 21 comments
Counter : 2570 Pageviews.

 
ชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องเลยครับเท่าที่ทราบมาชื่อเรื่องนี้คุณประมูลอุณหธูปนักเขียนนามอุโฆษเป็นผู้ตั้งชื่อเรื่องให้ครับ


โดย: สามปอยหลวง วันที่: 27 มกราคม 2559 เวลา:11:55:25 น.  

 
โห...คุณสุวรรณีเปิดตัวปี 2508 สุดยอด..พวกเรายัง
ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรกับเขาเลย 555

เรื่อง หุ่น สำหรับนักศึกษา... ผมเคยทราบมาก่อน
น้าเขาเรียนทางด้านนี้.... ได้เล่าให้ผมฟัง และให้ผม
ฝึกวาดภาพเหมือน แสงเข้าทางซ้าย ทางขวาจะเป็น
แบบไหน... ตอนนั้นผมสอบเข้าเพาะช่าง...

ฝันครับจะได้วาดจากคนจริง ๆ มิได้หยาบนะครับ
แหะ ๆ คงจะประหม่าน่าดู..

สุดท้าย สอบข้อเขียน สอบวาดผ่านหมด ได้ที่ดีด้วย
แต่ตกสัมภาษณ์ เลยได้ทำงานเอกชน.. ไม่ได้เป็นครู
555 ความฝันเมื่อก่อนเป็นเช่นนั้นจริง ๆ นะคุณกล่อง

ที่บล๊อกผม บังเอิญผมถ่ายภาพไปเรื่อย ๆ มาคัดภาพ
ที่ดูมีชีวิต สื่อออกได้ชัดเจน.. มาสะดุดตา รูปบั้นท้าย
หญิงเวียนตาม เรียกวา ต รูด..เบ่อเริ่ม

ผิดกับคนเวียตนามทั่วไป ที่รูปร่างดี ผอมไม่มีไขมัน
เลยนึกถึงคุณกล่อง

ยังคิดเลยว่า ถ้าคุณกล่องเดินเคียงข้างเธอ แล้วเกิด
ล้ม คุณกล่องแบนแน่ 555

วันหลังผมจะลง ภาพหญิงเวียตนามทั่วไป ที่รูปร่าง
สวย หน้าใส มาให้ดู... เพียงแต่ผมไม่ค่อยกล้าถ่าย
ภาพพวกเขานะครับ... ใบหน้าเขาไม่ค่อยยิ้มแบบ
คนไทย... ถ้าเป็นคนไทย ผมมักจะขอเขาถ่าย
เธอจะรีบโพสต์ท่าให้เลย..

เขียนยาวไปแล้ว งั้นโหวตให้คุณกล่องก่อน

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 27 มกราคม 2559 เวลา:18:07:42 น.  

 
เม้นท์แบบนี้ที่บล็อก
เป็นเอกลักษณ์เลยนะครับ
ไม่มีใครเม้นท์ได้ นอกจากพี่อาคุงครับ 555

เมื่อก่อนเม้นท์ยาวกกว่านี้อีกด้วย 555





นิยายเรื่องนี้ยังไม่เคยอ่านเลยครับพี่
ผมอ่านแค่เรื่องน้ำพุเรื่องเดียวที่เป็นผลงานของท่านครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มกราคม 2559 เวลา:22:49:20 น.  

 
เพราะวิธีการเขียนที่แตกต่างไม่เหมือนคนอื่น มันจะมีผลลัพท์ 2 แบบ ไม่ดังเปรี้ยง ก็ดับไปเลย ตอนนี้น่าจะหายากแล้วมั้งครับ เก่าขนาดนี้ แต่ถ้าตามพวกร้านมือสอง อาจจะยังพอหาได้

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 มกราคม 2559 เวลา:23:55:28 น.  

 
สวัสดีค่า คุณกล่อง ^^
งานคุณสุวรรณี จริงๆ แล้วของนุ่นมีทองประกายแสดอยู่
น้ำพุด้วย เล่มปกเก่าและปกใหม่ของดอกหญ้า
แต่เรื่องนี้ไม่มี

เพื่อนบอกว่าาอยากอ่านงานที่พล็อตเก๋ แปลก เขียนแบบไม่เหมือนใครต้องอ่านงานคุณสุวรรณี

อ่านที่คุณกล่องรีวิวก็คงจะจริง
สมัยก่อนอาชีพนางแบบเปลือยนี่น่าจะไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผย
แต่มีจริงๆ นานแล้วด้วย

เรื่องแบบเปิดมาพระเอก 22 นางเอก 8 เลย โอยยย
ห่างกันเยอะมากเนาะ เป็นเรื่องเบาๆ ด้วย น่าอ่านค่ะ

ชอบชื่อเรื่องมากค่ะ สายบ่หยุดเสน่ห์หาย
เก๋มาก จำแม่นเลยทีนี้
เอาไว้จะหามาอ่านบ้างค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า
รออ่านเรื่องที่คุณกล่องบอกจะรีวิว
แต่อาทิตย์นี้ไม่อยู่เอาไว้ค่อยกลับมาติดตามนะคะ



โดย: lovereason วันที่: 28 มกราคม 2559 เวลา:0:35:55 น.  

 
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
เข้ามาลงชื่อไว้ก่อนค่ะ


โดย: Opey วันที่: 28 มกราคม 2559 เวลา:2:45:35 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่อาคุง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มกราคม 2559 เวลา:6:41:51 น.  

 
แวะมาโหวตหนังสือให้น้องกล่อง
และกดไลต์ให้น้องกล่อง
รีวิวได้แจ่มมากน้อง


โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มกราคม 2559 เวลา:8:32:39 น.  

 


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มกราคม 2559 เวลา:13:52:55 น.  

 
ศิลปินทางด้านจิตรกรรมมักบรรยายอะไรได้เห็นภาพชัดเจน ผมเชื่อว่าคุณสุวรรณีก็คงเป็นเช่นนั้น
ชักสนใจแล้วครับ ที่คุณกล่องบอกว่าอ่านแล้วเห็นภาพกรุงเทพ ในปี 2508
ผมเคยอ่านแต่เรื่องเขาชื่อกรานต์ ตอนอยู่ประถมปลาย เป็นเพราะยังเด็ก รู้สึกว่าอ่านยาก บางช่วงบางตอนไม่เข้าใจ

โหวต book blog ครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 28 มกราคม 2559 เวลา:19:24:20 น.  

 
สวัสดีครับพี่อาคุงกล่อง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2559 เวลา:6:39:41 น.  

 
งานชุดนี้ผมเขียนไว้หลายสิบตอนเลยครับพี่อาคุง
สองสามปีมานี้ผมเขียนบทกวีทุกวัน
เขียนจบไปทีละเล่มๆเลยครับพี่

ตอนนี้ก็ค่อยๆทยอยลงให้อ่านกันทุกวันไปเรื่อยๆครับ



คนไม่เหลือดี แสดงว่าน่าจะเรียเก่งนะครับพี่
ได้ A ทุกตัว 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2559 เวลา:17:50:27 น.  

 
ชอบชื่อเรื่องจังค่ะ


โดย: kunaom วันที่: 29 มกราคม 2559 เวลา:18:14:54 น.  

 
ขอบคุณในความปรารถนาดีครับคุณกล่อง ผมไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเล่มในช่วงหลังๆ มีปัญหาเรื่องสายตา เกรงว่าจะอ่านไม่ได้อย่างที่หวัง ขอบคุณอีกครั้งครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 29 มกราคม 2559 เวลา:21:12:57 น.  

 
หนังสือนิยายเก่าที่ร้านหนังสือมือสองที่ผมไปอุดหนุนประจำ
มีนิยายเก่าๆด้วยครับ
อ่านแล้วได้รู้สภาพความเป็นไปของสังคมช่วงยุคสมัยหนีึ่ง


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 29 มกราคม 2559 เวลา:22:01:41 น.  

 
โดย : อาคุงกล่อง วันที่: 29 มกราคม 2559 เวลา: 22:00:32 น.
คิดถึง ใจตรงกัน ต่างคนต่างคอมเม้น
แวะมาทักทายอย่างเดียว ก็ขอบคุณมากแล้วครับ อาคุงกล่อง


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 29 มกราคม 2559 เวลา:22:05:47 น.  

 
มาอ่านที่นี้แล้วเลยไม่อยากซื้ออ่านค่ะ เพราะที่เขียนเล่ามาจนถึงตอนจบ
พระเอกและนางเอกลงเอยด้วยดีฮ่าๆ


โดย: Opey วันที่: 30 มกราคม 2559 เวลา:0:59:12 น.  

 
สมัยยังชอบเช่านิยายมาอ่าน ไม่รู้เป็นไงไม่เคยเลือกหยิบของคุณสุวรรณีเลย
ไม่รู้ตอนนี้ร้านเช่าหนังสือยังพอมีมั้ย มีโอกาสจะตามเก็บงานเขียนคุณสุวรรณีมาอ่านสักหน่อยค่ะ
เอ่อ..ซื้อซะก็หมดเรื่องเนาะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: ALDI วันที่: 30 มกราคม 2559 เวลา:4:24:54 น.  

 
ม่ใช่เกมค่ะเป็นคำศัพย์ภาษาอังกฤษง่ายๆ


โดย: ป้าเก๋า (ชมพร ) วันที่: 30 มกราคม 2559 เวลา:9:36:33 น.  

 
เข้ามาปักหมุดไว้ก่อนครับ


โดย: ไอเอิร์ธ วันที่: 30 มกราคม 2559 เวลา:23:26:08 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
แวะมาส่งกำลังใจย้อนหลังนะ





โดย: หอมกร วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:23:08:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.