The journey of a thousand miles begins with one step

<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 เมษายน 2551
 

Hinlay Curry House ร้านอาหารแขกแต่สไตล์ฝรั่งจ้ะ

คราวนี้เป็นเรื่องราวของอาหารแขกค่ะ ร้านนี้เราได้ชื่อครั้งแรกมาจากหนังสือ Compass เป็นวารสารแจกฟรีของเมืองเชียงใหม่ ถ้าใครมาเที่ยวลองหยิบๆ ดูได้นะคะ ตามร้านกาแฟ หรือร้านอาหารหลายๆ แห่งมักมีบริการค่ะ เราน่ะเป็นคนชอบทานอาหารอินเดีย หรืออาหารแขกแท้ๆ มาตั้งแต่มีบุญไปอยู่อังกฤษหลายปี พอกลับมาเชียงใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาอาหารอินเดียราคาไม่ไฮโซนักทานเลยทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยว จนไปเจอร้านชื่อ Royal India ทานได้ไม่กี่ครั้งร้านปิดหนีไปซะอีก เลยไม่ได้สัมผัสกับอาหารอินเดียเลย ก้อเลยต้องเสาะหาที่กินกันใหม่



อย่างที่บอกว่าได้ชื่อนี้มาจากหนังสือ compass แต่เค้าไม่ได้บอกพิกัดอย่างละเอียดเอาไว้ พิกัดที่ได้มาคืออยู่บนถนนหน้าวัดเกตุ เอาละสิ หน้าวัดเกตุอยู่ตรงไหนเนี่ย ตอนไปเสาะหาครั้งแรกไม่เจอค่ะ ด้วยไปผิดถนน ขับรถไปบนนถนนที่ผ่านร้านรวงริมน้ำปิงจนถึงหน้าวัดเกตุแล้ว ก้อยังไม่เจอ ก้อมันไม่ใช่ย่านที่คุ้นเคยนิ จนกระทั่งเมื่อได้ไปร้าน Kitchen Hush น่ะแหละถึงได้รู้ว่ามันมีถนนชื่อ "ถนนหน้าวัดเกตุ" ไม่ใช่แค่อยู่ตรงหน้าวัดเกตุ ถ้าไปถึงถนนได้ไม่หลงหรอก เพราะจะมีป้ายสีเหลืองชี้ทางไปตลอดจนถึงร้านเลย



ย่านหน้าวัดเกตุเป็นบริเวณที่อยู่ของคนค่อนข้างมีฐานะดีนะ ซอยดูร่มรื่นบ้านหลังโตๆ ทั้งนั้นเลย ร้าน Hinlay เป็นร้านหนึ่งที่อยู่ในบริเวณบ้านหลังใหญ่ที่มีสวนกว้างขวางมากๆ ร้านเป็นเหมือนศาลาริมสวนเล็กๆ บรรยากาศแบบ open air เปิดโล่ง มีเพียงแค่ห้าโต๊ะเท่านั้น จัดตกแต่งเก๋ๆ สบายๆ ตามสไตล์ร้านน้อยในสวน พอดีเราไปทานอาหารเย็นกัน อากาศเลยไม่ร้อนอบอ้าวนัก



นั่งมองเมนูที่อยู่บนกระดาน อ้ะ รายการอาหารชื่อคุ้นๆ เหมือนที่เคยกินทั้งนั้นเลย ตั้งแต่แทบไม่เผ็ดเลยอย่าง masala จนถึงจัดจ้านแบบ vindaloo แต่ใน compass ระบุว่าอาหารแนะนำของร้านนี้คือแกงฮังเลแบบพม่าแท้ๆ อาหารร้านนี้ราคาตามน้ำหนักมีสองขนาดคือ 100g และ 200g เราเลยสั่งมาสามอย่าง แต่ร้านนี้ไม่มี Nan หรือขนมปังอบโอ่งแบบอินเดีย มีแต่ข้าวขาวหรือข้าวเหลือง (pilaf rice) หอมเครื่องเทศ กับโรตี (แบบแช่แข็งที่ขายทั่วไป) เราเลยสั่งไปสามอย่าง แบบจานเล็ก กลัวกินไม่หมด แต่ว่าจริงๆ แล้วเผื่อจะกินอย่างอื่นอีกไง



จริงแล้วจะดูว่าเป็นอาหารแขกแท้หรือเป็นอาหารแขกแบบมุสลิมหรือเปล่าแค่ดูเมนูก้อรู้แล้วว่าร้านนี้ไม่ใช่ทั้งสองแบบ ถ้าเป็นแขกอินเดียแท้ต้องไม่มีเนื้อวัว ถ้าเป็นอิสลามแท้ต้องไม่มีเนื้อหมู ร้านนี้มีทั้งสองเมนูเลย แหะๆๆ แค่นี้ก้อรู้แล้วว่าไม่ใช่แขกแต้ๆ แต่ว่าอาจจะเข้าท่าก็ได้นิ ต้องลองสักหน่อย อุปกรณ์การกินพร้อมแล้วจ้า



มาแล้วๆ แกงสามถ้วยน้อยๆ แหมก้อมันขนาด 100g นิ ถ้วยมันเลยจุ๋มจิ๋มน่าเอ็นดู สำหรับแกงสามอย่างที่เราสั่งไปก้อมี chicken tikka masala, mutton (imported) curry และ lentil dahl curry มาดูหน้าตาของแกงแต่ละอย่างละกัน



ถ้วยแรก chicken tikka masala เนื้ออกไก่ชิ้นโตๆ ปรุงในน้ำแกงมะเขือเทศกับกะทิเข้มข้น จานนี้รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ รสชาติใกล้เคียงกับ chicken tikka masala แบบที่เคยกินในอังกฤษ (ที่ไม่ได้เสริฟในร้านอาหารแขกนะ) ทานกับข้าวเหลืองอร่อยดี



ถ้วยที่สอง mutton curry เป็นเนื้อแกะ imported เข้ามา ไม่มีกลิ่นเหม็นสาปแม้แต่น้อย หอมกลิ่นเครื่องเทศ แต่ว่าออกเค็มไปนิด ต้องทานกับข้าวหรือโรตีสถานเดียว ว่าแต่เนื้อแกะ 100g กับเนื้อไก่ 100g นีมันดูแตกต่างกันเนอะ



และแกงถั่วเลนทิล ที่สั่งจานนี้มาเพราะว่าเคยทานสมัยเรียน เจ้าของบ้านชาวศรีลังกามักทำติดบ้านเสมอและเป็นอาหารที่ต้องกินทุกวัน เลยรู้สึกอยากกินขึ้นมาตะหงิดๆ รสชาติไม่ควรเรียกแกงเล้ย เพราะหาความเผ็ดไม่เจอ แต่หอมมันและข้นมากๆ จืดๆ ทานกับแกงแกะกำลังดีเหมือนกัน



ทานคู่กับข้าวเหลือง น่าจะเป็นข้าวที่หุงเหมือนข้าวหมกไก่ ใส่ขมิ้นเหลืองสวยเชียว หอมกลิ่นกานพลู ใบกระวานและอบเชยอ่อนๆ นุ่มกำลังกินและไม่แฉะ



เราลองสั่งโรตีมากิน หน้าตามันเหมือนโรตีแช่แข็งที่ขายตามห้างเลย แค่เอามาอุ่นแล้วเสริฟ ก้อรสชาติแบบโรตีทั่วไปนั่นแหละ



พอเอามาทานกับแกงแกะแล้ว มันก้อเข้ากันดี แต่ยังเค็มเกินไปสำหรับเรา แต่เพื่อนร่วมโต๊ะไม่เห็นว่าอะไร ซดน้ำแกงใหญ่ บอกว่าอร่อยเข้มข้นดี อืมมมม...นี่ถ้าได้นานสักแผ่นนะ สุดยอด

และแล้วก้อเป็นอย่างที่คาดไว้ ว่าแกงสามอย่างนะมันไม่พอกินสำหรับเราหรอก เลยต้องสั่งเพิ่มอีกสองถ้วยเล็กๆ คือแกง Mutton Rogan Josh และ Hinlay beef มาถึงนี่ไม่ชิมแกงฮังเลได้ไง ใช่ป่ะ



ถ้วยนี้คือ mutton rogan josh ดูเผินๆ แทนไม่แตกต่างกับ mutton curry เลย แต่น้ำแกงจะเหลืองกว่า กลิ่นเครื่องเทศฉุนกว่านิดนึง และไม่มีความเผ็ดอีกแล้ว เนื้อแกะไม่เหม็นสาบเช่นกัน แต่ยังคงความเค็มได้สม่ำเสมอเลย เพื่อนร่วมโต๊ะ ยังคงเอร็ดอร่อยอยู่ค่ะ



และอีกถ้วยคือ แกงฮังเลเนื้อ อร่อยแปลกดีค่ะ เพื่อนร่วมโต๊ะบอกว่าแบบพม่าแท้ๆ เค้าจะไม่ใส่มะขามเปียกกับน้ำตาล น้ำแกงจึงเค็มๆ หอมๆ ต่างจากแกงฮังเลที่เราคุ้นเคยซึ่งจะออกเปรี้ยวๆ หวานๆ ถ้วยนี้เป็นแกงฮังเลที่อร่อยมากๆ เลย เราเป็นคนไม่ค่อยกินหวาอยู่แล้วด้วย เรียกว่าอร่อยที่สุดในบรรดาแกงทั้งหลายที่สั่งมาเลยล่ะ



บ่นว่าเค็มๆ กินไปบ่นไป แพล็บเดียวหมดแล้วจ้า อร่อยไม่อร่อยดูผลงานแล้วกัน น้ำแกงยังไม่เหลือเลย ก้อแหมคนมันอยากกินอาหารอินเดียมาตั้งนานแล้วนิ แก้ขัดไปก่อนแล้วค่อยไปเสาะหา authentic indain curry แบบแท้ๆ กินคู่กับนานต่อละกัน

เอาเป็นว่าแกงร้านนี้รสชาติปานกลางค่ะ สำหรับคนอยากลองอะไรแปลกๆ ก็แนะนำละกัน เพราะว่าไม่แขกจ๋าเกินไป หรือเผ็ดมากๆ นั่งๆ อยู่มีฝรั่งเข้ามาสั่ง เค้าถามพนักงานเสริฟว่าเผ็ดไหม เราน่ะอยากตอบแทนเลยว่า สั่งไปเถอะ ไม่เผ็ดสักอย่างเลย

ค่าเสียหายสำหรับมื้อนี้ แกงห้าถ้วย ข้าวหนึ่งจาน โรตีหนึ่งแผ่น น้ำดำสองขวด ไม่ถึงห้าร้อยบาทค่ะ ราคาโอเคสำหรับอาหารขนาดนี้ แต่จะมีซ้ำมั้ย คงต้องคิดดูอีกทีล่ะ เพราะแกงบางอย่างใช้ได้สำหรับเราพอแก้ขัดค่ะ


Create Date : 21 เมษายน 2551
Last Update : 3 มกราคม 2552 17:08:26 น. 6 comments
Counter : 3224 Pageviews.  
 
 
 
 

หวัดดีค่า!! ร้านนี้จานชามน่ารัก เพราะถ้าจำไม่ผิดจะเจ้าของเดียวกะร้านชะเลียงแหละ หน้าตาอาหารก็น่ากิน ต้องไปลองสักครั้งแน่ๆ ว่าแต่ คุณ AjN_O หาร้านรอยัล อินเดีย (ที่เปิดใหม่) เจอหรือยังค้า?
 
 

โดย: นิดา IP: 117.47.121.128 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:22:45:53 น.  

 
 
 
ร้านน่านั่งนะค่ะ อาหารก็น่ากินจังค่ะ
 
 

โดย: whitelady วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:23:45:39 น.  

 
 
 
ว้าว คุณนิดาแวะเข้ามาด้วย ร้านนี้เค้าน่ารักค่ะ
(แต่อาหารเหมือนเค้าเตรียมไว้แล้วเอามาอุ่นเสริฟมากกว่าทำตรงนั้นน่ะ)

ร้าน royal india เป็นเป้าหมายต่อไปค่ะ แต่ยังหาเหยื่อร่วมทางไม่ได้ เลยต้องรอไปก่อน แต่ไม่พลาดแน่ๆค่ะ
 
 

โดย: AjN_O วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:10:22:35 น.  

 
 
 
แล้วจะตามลายแทงไปครับ....ผมมาเยือนถิ่นคุณแล้วนะครับ
 
 

โดย: Trit-on-tour IP: 203.144.187.18 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:20:15:19 น.  

 
 
 
ร้าน Royal India ร้านใหม่เค้าย้ายไปอยู่แถวโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยมาได้ปีกว่าแล้วค่ะ รู้จักกับคุณRavi เจ้าของร้านเพราะที่โรงแรมมักจะสั่งวัตถุดิบและอาหารอินเดียจากเค้าบ่อยๆ อาหารเป็นรสชาดแบบอินเดียแท้ๆ เจ้าของร้านเค้ามาจากนิวเดลีย์ ขอแนะนำ Grill Basket ที่เนื้อแพะ (น่าจะทอดนะ) อร่อยมากเนื้อนิ่มและร่อนรสชาดกลมกล่อม โรตีย่างในโอ่งมาใหม่ๆ แป้งเหนียวนุ่มอร่อยสุดๆ และยัง Garlic Nan ที่หอมกระเทียมก็อร่อยมากโดยเฉพาะตอนเค้าเอามาเสิร์ฟใหม่ๆ ต้องไปลองให้ได้นะคะ
 
 

โดย: Mam Holiday Inn Chiangmai IP: 119.42.77.165 วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:18:56:38 น.  

 
 
 
พอดีแหม่มไม่ได้เป็นสมาชิกค่ะ แต่ก็ชอบกินชอบเที่ยวเหมือนกัน ติดต่อแหม่มได้ที่เบอร์ 053-275300 ต่อ Chef Office ได้ค่ะ
 
 

โดย: Mam Holiday Inn Chiangmai IP: 119.42.77.165 วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:19:01:11 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

AjN_O
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ
ถ้าคุณเข้ามาที่นี้ แปลว่าคุณชอบกินและเที่ยวเหมือนกับเรา
ข้อความต่างๆ ที่อยู่บน blog เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ
ไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทในเชิงการค้า ส่วนภาพถ่ายก็มาจากฝีมือของเราเอง สวยมั่งไม่สวยมั่ง ชื่นชมกันได้ตามสะดวกนะคะ
[Add AjN_O's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com