Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
บทที่ 7 ความเป็นผู้นำ

ลักษณะของความเป็นผู้นำ
การนำ (Leading) คือ กระบวนการที่ทำให้คนเกิดการกระตือรือร้น ทุ่มเทความรู้ความสามารถของตัวเองให้กับงานอย่างเต็มที่
ผู้นำ (Leader) คือ บุคคลที่สามารถใช้อำนาจกระตุ้นคนอื่นให้ทำงาน
ความเป็นผู้นำ (Lesdership) คือ ความสามารถที่มีอิทธิพลต่อคนอื่น ซึ่งจะทำให้งานบรรลุเป้าหมาย

ประเภทของผู้นำ
• ผู้นำที่คุณภาพต่ำสุด คือ ผู้นำที่ทุกคนเกลียด
• ผู้นำที่ดีขึ้นมาบ้าง คือ ผู้นำที่ทุกคนกลัว
• ผู้นำที่ดีมาก คือ ผู้นำที่ทุกคนรัก
• ผู้นำที่เก่งที่สุด คือ ผู้นำที่ทุกคนทำตาม โดยไม่ต้องบอก

ความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership)
• ชอบท้าทาย ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ริเริ่มให้เกิดความคิดใหม่ๆ
• มีความกระตือรือร้น ส่งเสริมให้คนมุ่งมั่นขยันทำงาน
• ช่วยเหลือ ส่งเสริมบุคคลอื่นให้ใช้ความรู้ความสามารถ ความพยายาม ทุ่มเท ให้กับงานอย่างเต็มที่
• ทำตัวเป็นตัวอย่าง แสดงให้เห็นถึงวิธีการทำงานอย่างถูกต้อง ให้คนอื่นเห็นเป็นต้นแบบ แล้วอยากทำตาม
• ประสบความสำเร็จ ส่งเสริมให้คนมีกำลังใจ

ความแตกต่างระหว่างผู้นำ กับผู้บริหาร
• ผู้บริหาร คือผู้ที่ทำงานให้สำเร็จ โดยอาศัยความร่วมมือของคนอื่น ไม่คำนึงว่าความสำเร็จนั้น คนจะพอใจหรือไม่
• ผู้นำ คือผู้ที่ทำงานให้สำเร็จด้วยความเต็มใจของผู้ปฏิบัติงาน โดยใช้วิธีการจูงใจ และคุณสมบัติที่มีอยู่ในตัวของผู้นำ

อำนาจของผู้นำ
1. อำนาจที่เกิดจากตำแหน่ง (Position Power) เป็นอำนาจของผู้บริหารได้มาพร้อมตำแหน่งและหน้าที่ เช่น ผู้บริหารย่อมมีอำนาจในการสั่งการให้ลูกน้องนำไปปฏิบัติ
• อำนาจถูกต้องตามกฏหมาย “คุณต้องทำตามที่ฉันสั่ง เพราะฉันเป็นหัวหน้าคุณ”
• อำนาจในการให้รางวัล “หากคุณทำตามที่ฉันสั่ง คุณก็จะได้เพิ่มเงินเดือน โบนัส เลื่อนตำแหน่ง”
• อำนาจในการลงโทษ “หากคุณไม่ทำตามที่ฉันสั่ง คุณจะถูกลงโทษ (ว่ากล่าวตัดเตือน พักงาน ไล่ออก ย้าย ลดเงินเดือน งดโบนัส)”

2. อำนาจที่เกิดจากส่วนตัว (Person Power) เป็นอำนาจของผู้นำ เรียกว่า “อิทธิพล”
• อำนาจเกิดจากความเชี่ยวชาญ “คุณต้องทำตามที่ฉันสั่ง เพราะฉันมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้”
• อำนาจอ้างอิง “ คุณต้องทำตามที่ฉันขอให้ทำ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับฉัน”

แนวทางความเป็นผู้นำ
เป็นแนวการศึกษาที่จะทำให้เข้าใจว่า ทำไมบ้างคนจึงเป็นผู้นำได้และบางคนเป็นไม่ได้
• ความเป็นผู้นำที่ถือตามลักษณะ
• ความเป็นผู้นำที่ถือตามพฤติกรรม
• ความเป็นผู้นำที่ถือตามแนวสถานการณ์
• ความเป็นผู้นำที่ถือตามแนวพื้นฐานการใช้อิทธิพล

1.ผู้นำตามคุณลักษณะ (Trait Approach)
ผู้ นำ มีบุคลิกลักษณะ ความสามารถที่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ (ทางกายภาพรูปร่างหน้าตา ความคิดสติปัญญา วิสัยทัศน์ ความสามารถเหนือคนอื่น ความประพฤติดี มนุษยสัมพันธ์ที่ดี

คุณสมบัติ และลักษณะของผู้นำที่เด่นชัดมากกว่าคนปกติ คือ
• มีความซื่อสัตย์ มีความสามารถจูงใจ การมองไปข้างหน้า เชื่อมั่นในตัวเอง และมีความฉลาดรอบรู้

ผู้ นำตามคุณลักษณะ ความเชื่อสมัยก่อน “ผู้นำเกิดขึ้นโดยกำเนิด สร้างขึ้นในภายหลังไม่ได้ ต้องมีคุณลักษณะเด่นอยู่ในตัวแตกต่างไปจากคนอื่น” เช่น
 ลักษณะทางร่างกาย (สูงใหญ่ มีพละกำลัง)
 ลักษณะทางบุคลิกภาพ (มีความคิดริเริ่ม)
 ทักษะ และความสามารถ (ฉลาด มีความรู้)
 ปัจจัยทางสังคม (ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การเข้าสังคม)

คุณลักษณะผู้นำที่ทำให้การบริหารงานประสบความสำเร็จ
• มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สุขุมเยือกเย็น
• มีวิสัยทัศน์ กว้างไกล
• สามารถบริหารความขัดแย้งได้ดี
• กล้าตัดสินใจ รวดเร็ว ถูกต้อง
• ติดต่อสื่อสารได้ดี
• รอบรู้ในงานที่รับผิดชอบ
• มีความขยันขันแข็ง มานะ อดทน
• เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์
• สามารถทำงานเป็นทีมได้ดี
• วินิจฉัยปัญหา คาดการณ์เหตุการณ์ได้ดี
• มีมนุษยสัมพันธ์ ทักษะทางสังคม
• ทำงานในสภาวะกดดัน ตึงเครียดได้ดี
• มีทัศนคติที่ดีต่อองค์การ
• วางแผนและประสานแผนได้ดี
• มีสัมพันธภาพที่ดีกับองค์กรอื่น
• รู้จักใช้ข้อมูล สารสนเทศให้เกิดประโยชน์

2.ผู้นำตามพฤติกรรม (Behavioral Theories)
ศึกษาในเรื่อง ผู้นำที่ดี และประสบความสำเร็จ เน้นที่การกระทำ มักมีพฤติกรรมแตกต่างไปจากผู้นำที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างไร

ผู้นำตามพฤติกรรม (มหาวิทยาลัยไอโอวา)
ผู้นำแบบใดที่ก่อให้เกิดความสำเร็จมากที่สุด
• ผู้นำแบบเผด็จการ : ชอบสั่งการใช้อำนาจกดขี่ ยึดถือตัวเองเป็นศูนย์กลาง การบังคับบัญชาสั่งการจากข้างบนลงล่าง ตัดสินใจแต่ผู้เดียว กำหนดวิธีทำงานเอง แต่มีผลการปฏิบัติงานสูง
• ผู้นำแบบประชาธิปไตย : ยึดถือความคิดกลุ่มเหนือความคิดตนเอง แบ่งงาน มอบหมายงานเป็นระบบ ให้คำแนะนำ สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ร่วมงาน ใช้กฎเกณฑ์สร้างสรรค์งาน ทุกคนในกลุ่มมีส่วนร่วม ทำให้เกิดคุณภาพในงาน และความพอใจในการทำงานดี
• ผู้นำแบบเสรี : ไม่ยึดกฏเกณฑ์ตายตัว ปรับเปลี่ยนได้ตามที่ผู้ร่วมงานเสนอ ปล่อยผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่ไปเรื่อยๆ ไม่มีความคิดสร้างสรรค์งานใหม่ ไม่มีการประเมินผลงาน ให้อิสระเสรีเต็มที่ในการจัดหาเครื่องมือ วิธีการทำงาน แต่ขาดความเป็นผู้นำ ผลปฏิบัติงานต่ำ

ผู้นำตามพฤติกรรม (มหาวิทยาลัยโอไฮโอ)
• การคิดถึงคนอื่น : เน้นตัวผู้ปฏิบัติงาน มุ่งสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ความสำคัญต่อความคิดเห็นและความรู้สึกของคนอื่น ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการทำงาน
• การริเริ่ม : เน้นงาน เพื่อประสิทธิภาพและความสำเร็จของงาน จะออกคำสั่ง วางแผน กำหนดวิธีการทำงาน กำหนดเวลาในการทำงาน เพื่อ กระตุ้นให้ผู้ใต้ บังคับบัญชาปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย

ผู้นำตามพฤติกรรมแบบ Leadership Grid
9,9 การบริหารแบบทีม : ผลงานสูง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
5,5 การบริหารแบบสายกลาง : งานสำเร็จปานกลาง และรักษาระดับขวัญและความพอใจในการทำงาน
9,1 การบริหารแบบเน้นงาน : มุ่งงานให้สำเร็จแต่พนักงานมีขวัญและกำลังใจต่ำ
1,9 การบริหารแบบสโมสร : มุ่งคนมากกว่างาน สนใจแต่ความต้องการของคน พนักงานมีขวัญกำลังใจสูง บรรยากาศทำงานดี แต่ผลงานต่ำ
1,1 การบริหารด้อยคุณภาพ : ผลงานต่ำสุด พนักงานไม่มีขวัญและกำลังใจ

3.ผู้นำตามแนวสถานการณ์ (Continggency Approach)
• ผู้นำ เกิดจากสถานการณ์บางอย่าง ผลักดันให้บุคคลต้องแสดงบทบาทผู้นำ ไม่จำเป็นต้องมีลักษณะเฉพาะที่ตายตัว แต่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเลือกใช้วิธีการ หรือแสดงออกที่เหมาะสมสอดคล้องแต่ละสถานการณ์ ทฤษฏีนี้ยอมรับความสัมพันธ์ของผู้นำและกลุ่ม ผู้นำต้องครองใจปวงชน

4.ความเป็นผู้นำที่ถือตามแนวพื้นฐานการใช้อิทธิพล
ผู้นำที่มีบารมี
 มีความเชื่อมั่นในตัวเอง
 มีวิสัยทัศน์ เป้าหมาย อุดมการณ์ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
 มีความสามารถที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ เข้าใจความต้องการของผู้อื่น ใช้เป็นอำนาจจูงใจให้ผู้อื่นคล้อยตาม
 ทำทุกอย่างเพื่อนำไปสู่วิสัยทัศน์ กล้าเสี่ยง กล้าเสียสละ
 มีพฤติกรรมที่ผิดจากคนธรรมดา ชอบความท้าทาย
 แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง
 รู้สถานการณ์แวดล้อม ประเมินสิ่งต่างๆได้ถูกต้อง

ผู้นำที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
• Transactional Leader ผู้นำที่เปลี่ยนแปลงคนอื่นโดยโดยอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำ กับผู้ตาม
• Transformational Leader ผู้นำที่เปลี่ยนแปลงค่านิยม ความเชื่อ และความต้องการของผู้ตามให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น

Transactional Leader อาศัยความสัมพันธ์
• ให้ผลตอบแทนตามสถานการณ์ ตามผลงานที่ทำ ให้ผลตอบแทนสูงสำหรับคนที่มีผลงานดี ให้การยกย่อง และยอมรับผู้ที่ทำสำเร็จ
• ใช้การบริหารตามข้อยกเว้น เช่น ทางบวก คือดูผลงานจริงแตกต่างจากมาตรฐานเท่าไร ทางลบ คือเข้าไปแทรกแซงเฉพาะคนที่ทำงานได้ผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน
• ให้เสรีภาพ เน้นการมอบหมายความรับผิดชอบ และการตัดสินใจ ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการเอง

Transformational Leader เปลี่ยนแปลงค่านิยม ความเชื่อ
• มีบารมี หมายถึงมีความดีอยู่ในตัวของผู้นำ เช่น วิสัยทัศน์ ความสำนึก น่าเชื่อถือ เสมอต้นเสมอปลาย
• มีแรงบันดาลใจ โน้มน้าวให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความกระตือรือร้น ทะเยอทะยาน ทุ่มเทให้กับงาน
• การกระตุ้นให้คิด วิธีที่ใช้ในการทำงาน การจูงใจ การแก้ปัญหา
• ให้ความเอาใจใส่ เห็นความสำคัญของทุกคน ให้เกียรติ ดูแล มีเทคนิคในการสอนงาน ฟังความเห็นอย่างสนใจ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ

ปัจจัยในการสร้างความเป็นผู้นำ
1.ภูมิหลังและประสบการณ์ (Background and Experience) พื้นฐานครอบครัวและประสบการณ์เดิมที่ผ่านมาในช่วงชีวิต
2.สติ ปัญญาและคุณภาพสมอง (Intellectual and mental quality) มีทักษะทางภาษา การติดต่อสื่อสาร / การมีเหตุผล /ความจำ/ความรอบรู้
3.คุณลักษณะทางร่างกาย (Physical attributes) ผู้นำที่ร่างกายแข็งแรง จะมีจิตใจที่ดี
4.บุคลิกภาพและความสนใจ (Personality and Interests) ความสนใจ กระตือรือร้นและความเต็มใจในการปฏิบัติงาน
5.ความเชื่อมั่นในตัวเอง (Self-Confidence) ผู้นำต้องสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจในตัวเอง



Create Date : 13 สิงหาคม 2553
Last Update : 13 สิงหาคม 2553 14:27:16 น. 0 comments
Counter : 12821 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Benjawan_B
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 93 คน [?]




วิทยากร, ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRM & HRD), การบริหารความเสี่ยงองค์กร, การจัดการมาตรฐานแรงงาน, กฎหมายแรงงาน,เขียนหนังสือและบทความ
New Comments
Friends' blogs
[Add Benjawan_B's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.