Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
บทที่ 9 การออกแบบงานและบริหารความเครียด

การออกแบบงาน
• เป้าหมายสำคัญของการออกแบบงาน คือ การสร้างให้เกิดความสมดุลระหว่างผลของงาน และความพอใจของคนทำงาน หรือเป็นการจูงใจด้วยงาน ให้คนทำงานอย่างมีความสุข สะดวกสบาย และทำงานด้วยความภาคภูมิใจ

ความพอใจในการทำงาน (Job satisfaction)
• ลักษณะงานที่ทำ : ความรับผิดชอบ ความรู้สึกภาคภูมิใจ
• ค่าจ้างหรือระบบค่าตอบแทน : สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของผู้ปฏิบัติงาน ยุติธรรม เท่าเทียมกัน
• สภาพการทำงาน : มีผลกระทบต่อความต้องการและความสำเร็จในการทำงาน
• นโยบายและฝ่ายบริหาร : สะท้อนให้ให้เห็นถึงความสำเร็จ ความรับผิดชอบ และบทบาทของผู้ปฏิบัติงาน
• ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา
• ความก้าวหน้าในงาน : ตำแหน่งงาน การพัฒนา ความชำนาญ

ความพอใจในที่ทำงาน (Happy Workplace)
• หมายถึงกระบวนการพัฒนาคนในองค์การอย่างมีเป้าหมาย ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์การ เพื่อให้องค์การมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และจะนำไปสู่การพัฒนาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดนเน้นการจัดการ “คน” เป็นหลัก

ความพอใจในที่ทำงาน (Happy Workplace)
• โครงสร้างองค์การ (structure)
• อำนาจการบังคับบัญชา (authority)
• บทบาทของที่ปรึกษา (roles of staff)
• การอกแบบงาน (job design)
• กลุ่มทำงาน (work group)
• ค่าตอบแทน (compensation)
• การอบรม (training)

ความพอใจในที่ทำงาน (Happy Workplace)

• Happy Body (สุขภาพดี) มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและจิตใจ
• Happy Heart (น้ำใจงาม) มีน้ำใจเอื้ออาทรต่อกันและกัน
• Happy Soul (ทางสงบ) มีความศรัทธาในศาสนาและมีศีลธรรมในการ ดำเนินชีวิต
• Happy Relax (ผ่อนคลาย) รู้จักผ่อนคลายต่อสิ่งต่างๆในการดำเนินชีวิต
• Happy Brain (หาความรู้) การศึกษาหาความรู้ พัฒนาตนเองตลอดเวลา
• Happy Money (ปลอดหนี้) มีเงินรู้จักเก็บ รู้จักใช้ ไม่เป็นหนี้

การออกแบบงาน
• หมายถึง กระบวนการสร้างงาน โดยการจัดสรรงานแต่ละงานไปให้กับคนแต่ละคน หรือแต่ละกลุ่ม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความพอใจในการทำงาน และให้ผลการปฏิบัติงานสูงขึ้น

เหตุผลในการออกแบบงาน
เป็นการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของงาน (Job content)
• เพื่อรวมกิจกรรมต่างๆเข้าเป็นกลุ่มอย่างเป็นระเบียบ
• เพื่อให้งานนั้นจูงใจให้คนทำงานให้ดีขึ้น

4 วิธีในการออกแบบงาน
1. การทำให้งานง่าย (job simplification)
ผลดี : เป็นลักษณะงานที่แน่นอน และชัดเจน ไม่ต้องใช้ทักษะมาก เพราะเป็นลักษณะงานที่ทำซ้ำๆกันทุกวัน แน่นอน ชัดเจน สามารถฝึกได้ ควบคุมง่าย สามารถหาคนอื่นมาทำแทนได้
ผลเสีย : พนักงานเกิดความเบื่อหน่าย ไม่มีความสุขในการทำงาน ไม่ตั้งใจทำงาน ผลการปฏิบัติงานต่ำ เกิดการหมุนเวียนแรงงานสูง
2. การหมุนเวียน (job rotation) : มอบหมายให้พนักงานทำงานตามระยะเวลาที่กำหนด แล้วสับเปลี่ยนให้คนอื่มาทำงานแทน
• ผลดี : ทำให้ทุกคนมีประสบการณ์การทำงานได้หลายอย่าง มีความรู้กว้าง เข้าใจงานหลายงาน เป็นการเพิ่มคุณค่า กระตือรือร้นในการเรียนรู้งานใหม่ ไม่เกิดการเบื่อหน่าย
• ผลเสีย : ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญน้อย บางคนไม่ชอบที่จะไปเริ่มต้นเรียนรู้งานใหม่ คิดว่าเป็นงานช่วยชั่วคราวจึงทำไม่จริงจัง เกิดปัญหาเรื่องความจงรักภักดีต่อองค์การ
การหมุนเวียนงานควรมีการฝึกอบรมข้ามสายงานก่อนเพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้และเข้าใจในงานใหม่ เช่น ผู้บริหารในธนาคาร
3. การขยายงาน (job enlargement) : การเพิ่มความหลากหลายของงานมารวมอยู่ในงานเดียวกัน เป็นการเพิ่มปริมาณของงาน มากกว่าเพิ่มความเชี่ยวชาญ
• ผลเสีย : ไม่ท้าทาย และไม่สามารถจูงใจในการทำงาน
4 วิธีในการออกแบบงาน
• การเพิ่มงาน (job enrichment) เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน เพิ่มภาระงาน ความรับผิดชอบของงาน โดยอาจรวมงานของผู้ใต้บังคับบัญชา มาไว้ในงานเดียวกัน เป็นลักษณะงานที่ทำตั้งแต่ต้นจนงานเสร็จ (วางแผน จัดองค์การ การนำ การควบคุม)
• การเพิ่มงาน จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการออกแบบงานที่ดีที่สุด

Job Characteristics Model : Richard Hackman & Greg Oldham
• ลักษณะงานที่เป็นแกน (Core job characteristics)
• ความหลากหลายของทักษะ
• ความเป็นอันเดียวกันของงาน เริ่มตั้งแต่ต้นจนจบ
• ความสำคัญของงาน ที่มีผลกระทบต่อชีวิตคน
• ความเป็นอิสระในการปฏิบัติงาน กำหนดแผนงานและเลือกวิธีในการทำงาน
• ข้อมูลสะท้อนกลับ
• สภาพทางจิตวิทยาที่สำคัญ (Critical) : ถ้าประสบการณ์จากการทำงานนั้นมีความหมาย จะก่อให้เกิดความรับผิดชอบและทำให้ได้รับความรู้จากผลที่เกิดจากงาน
• ผลที่เกิดจากการทำงาน (outcome) : งานที่เกิดการจูงใจ จะมีความพอใจในงาน เกิดประสิทธิผลของงานสูง

แนวคิดในการปรับปรุงลักษณะงาน (Job Characteristic)
• ลักษณะของหน่วยงาน มีสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นมากน้อยเพียงใด?
• การรวมงานเข้าด้วยกันเพื่อให้คนเดียวทำ เหมาะสมเพียงใด?
• การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งภายใน และภายนอก ก่อให้เกิดผลในทางบวกเพียงใด?
• การเปิดโอกาสให้มีข้อมูลสะท้อนกลับ จะส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้และเรียนรู้วิธีการทำงานอย่างไร?
• การรวมงานในแนวดิ่ง จะส่งผลให้การวางแผน รวมทั้งการควบคุมงานเป็นงานเดียวกัน อย่างไร?
ผลที่เกิดจากการออกแบบงาน
• ผู้ปฏิบัติสามารถใช้ดุลยพินิจเต็มที่ภายในขอบเขตงานที่ทำ เพราะไม่มีการควบคุม
• ผู้ปฏิบัติงานมีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับงานของตนเอง
• ทำให้ผู้ปฏิบัติมีความรับผิดชอบในผลงานของตัวเองได้
• ง่ายต่อการตรวจสอบ เพราะคนเดียวทำงานทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ
• ได้รู้ว่าผลงานที่ออกไปนั้นตรงตามเป้าหมาย จากข้อมูลสะท้อนกลับ

การออกแบบงานที่เหมาะสม
• อาจจะเสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบงานสูงตามเทคโนโลยี อุปกรณ์ที่ใช้ และการไหลเวียนของงาน
• การเพิ่มงาน จะต้องเพิ่มค่าจ้างให้กับผู้ปฏิบัติงานด้วย จึงจะคุ้มกับผลงานที่ได้เพิ่มขึ้น
• สหภาพแรงงานมีความเห็น หรือปัญหาเกี่ยวกับสิทธิต่างๆที่ผู้ปฏิบัติจะต้องได้รับหรือไม่
• ผู้ปฏิบัติงานที่มีความต้องการความเจริญก้าวหน้าในงาน ต้องการความเจริญเติบโต เหมาะสมกับการที่ต้องเพิ่มงานหรือไม่

• การออกแบบงานที่ทำให้ง่าย (Job simplification) ไม่ต้องใช้แรงงานคน
• แต่การออกแบบงานแบบเพิ่มงาน (Job enrichment) ยังคงต้องใช้คน

การกำหนดการทำงาน (Work Schedule)
การกำหนดการทำงาน เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพของการทำงาน สถานที่ทำงานจะต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการในการปฏิบัติงานด้วย

การกำหนดการทำงาน (Work Schedule)
1.การลดวันทำงานในสัปดาห์ (Compress cal Workweek) หมายถึงการลดวันทำงานใน 1 สัปดาห์ แต่ชั่วโมงการทำงานรวม เท่าเดิม
• 1 สัปดาห์ = 6 วันทำการ (48 ชั่วโมง)
• 1 วันทำการ = 8 ชั่วโมง
• ถ้าพนักงานหยุด 3 วัน ต้องทำงานวันละกี่ชั่วโมง?
2.เวลาทำงานยืดหยุ่น (Flexible Working Hour) หมายถึงกำหนดเวลาทำงานในแต่ละวันให้ยึดหยุ่นกัน (flextime) แต่เวลาทำงานแต่ละวันเท่าเดิม (8 ชั่วโมง)
การลดวันทำงานในสัปดาห์
ผลดีสำหรับพนักงาน
 มีวัดหยุดพักผ่อนมากขึ้น
 ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ผลเสีย
 ครอบครัวจะต้องปรับวันหยุดให้ตรงกัน
3.การแบ่งงาน (Job sharing) หมายถึง เฉลี่ยงานด้วยการแบ่งเวลาคนละครึ่งของวัน (สัปดาห์,เดือน) ให้กับคนที่ว่างทำ โดยเฉพาะบุคคลที่เก่ง เชี่ยวชาญ มีความสามารถตามที่องค์การต้องการ และไม่สามารถทำงานได้เต็มเวลา
Work sharing : (แบ่งกันทำ) ใช้สำหรับเมื่อมีงานน้อยลง ไม่ต้องการให้คนบางคนออกจากงาน แต่ต้องทำงานโดยชั่วโมงทำงานลดลง ทำให้ค่าจ้างน้อยลงด้วย
การกำหนดการทำงาน (Work Schedule)
4. ทำงานที่บ้าน (Work at Home)
ผลดี
 ทำงานได้มาก ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
 ลดสิ่งรบกวนจากสถานที่ทำงาน ที่ทำให้งานชะงัก
 มีอิสระ เป็นตัวของตัวเอง
 มีเวลาเป็นของตัวเอง
การกำหนดการทำงาน (Work Schedule)
5. งานนอกเวลา (Part-time Work) เป็นงานชั่วคราว หมายถึงงานที่มีชั่วโมงการทำงานน้อยกว่ามาตรฐาน (48 ชั่วโมง/สัปดาห์) และไม่ถือว่าเป็น “พนักงาน”


การกำหนดการทำงาน (Work Schedule)
ผลเสีย
 ผู้รับงานขาดความผูกพันต่อองค์การ
 ผลงานอาจไม่เป็นไปตามกำหนด ควบคุมยาก
 เกิดการขัดแย้งมาก เพราะการปฏิบัติจะแตกต่างกับพนักงานประจำ
 ได้รับค่าจ้างต่ำ ไม่มีสวัสดิการ ประกันสังคม และวันหยุด
 องค์การสามารถเอาเปรียบ ด้วยการจ่ายค่าจ้างต่ำ จากการจ้างคนที่มีความจำเป็นต้องทำงาน

ความเครียดในการทำงาน
• Stress หมายถึงสถานการณ์ของความกดดันที่คนได้รับจากความต้องการของร่างกาย หรือทางจิตใจ
• เช่น เครียดเพราะไม่มีโอกาสได้รับความก้าวหน้าในการทำงาน เครียดเพราะไม่รู้ว่าควรตัดสินใจอย่างไร

 การรับรู้ (Perception) : พบเห็นสิ่งเดียวกัน แต่การรับรู้ไม่เหมือนกัน
 ประสบการณ์ในอดีต (past experience) : ทางด้านลบ/บวก
 การสนับสนุนทางสังคม (Social support) : การอยู่ร่วมกันในที่ทำงานเกิดความเชื่อมั่น หรืออาจเกิดความวิตกกังวล
 การแตกต่างของคน (Individual difference) : การปรับตัวสูง หรือต่ำ ประสาทอ่อน ทัศนคติ

สาเหตุของความเครียด
• ปริมาณงานที่ทำ
• สภาพการทำงาน
• บทบาทในการปฏิบัติงาน
• การเลื่อนตำแหน่ง โดนย้าย
• ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไม่ดี
• ความรุนแรง การถูกคุกคามทางเพศ
• เคลื่อนไหวเร็ว
• ขาดความอดทน ใจร้อน รีบเร่ง
• ทำหลายอย่างพร้อมกัน
• รู้สึกไม่สบายถ้าไม่มีอะไรทำ
• เร่งรัดงานให้เสร็จ
• อาการเหมือนคนเป็นโรคประสาท
• ชอบการแข่งขัน
• ชิวิตครอบครัว (การเสียชีวิตของคนที่รัก การหย่าร้าง อกหัก การประพฤติตัวไม่เหมาะสมของคนในครอบครัว)
• เรื่องเศรษฐกิจ

ผลกระทบจากความเครียด
• ผลทางร่างกาย : เกิดโรคความดันโลหิตสูง กระเพาะ ลำไส้แปรปรวน
• ผลทางอารมณ์ : โกรธ วิตกกังวล อาการทางประสาท
• ผลทางพฤติกรรม : ขาดงาน มาสาย ดื่มสุรา ติดยา
อาการของความเครียดที่มากเกินไป
• เปลี่ยนแปลงนิสัยการกิน
• หงุดหงิดและขาดสมาธิ
• เก็บกดละอาการทางประสาท
• นอนไม่หลับ
• โกรธง่าย ฉุนเฉียว
• เกิดโรคกระเพาะ


อาการหมดเชื้อที่เกิดจากงาน (Job Burnout)
• เหมือนคนไม่มีความรู้สึก ไร้วิญญาณ
• บุคลิกภาพผิดไปจากเดิม การปฏิบัติต่อคนเสมือนวัตถุ เช่น เรียกชื่อ “ไอ้ด้วน” แทนคนที่ขาหัก อาชีพที่เสี่ยงต่อ Job Burnout ได้แก่ นักสังคมสงเคราะห์ หมอ พยาบาล ตำรวจ ครู ฯลฯ
• ความรู้สึกตัวมีน้อย

การบริหารความเครียด
• หมายถึง การจัดทำโครงการเพื่อลดความเครียด โดยการช่วยให้ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานเข้าใจถึงสาเหตุของความเครียด และใช้เทคนิคเผชิญกับความเครียดเพื่อลดผลกระทบในทางลบของความเครียด

วิธีบริหารความเครียดขององค์การ
โครงการบริหารความเครียดเพื่อขจัดและปรับเปลี่ยนสาเหตุของความเครียด
• ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน
• ออกแบบงานเพื่อลดความเครียด
• ปรับเปลี่ยนปริมาณ และวันเวลาที่ทำงานให้เหมาะสม
• ปรับปรุงโครงสร้างองค์การใหม่
• เปลี่ยนแปลงกำหนดการทำงานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
• บริหารโดยยึดวัตถุประสงค์
• บริหารงานโดยให้ทุกคนมีส่วนร่วม
• จัดอบรมและสัมมนา วิเคราะห์บทบาทในที่ทำงาน

โครงการบริหารความเครียดเพื่อให้คนรับรู้ และมี ประสบการณ์เกี่ยวกับความเครียด

• การสร้างทีมงาน
• การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
• จัดให้มีที่ปรึกษา ด้านการพัฒนาอาชีพ วางแผนอาชีพ
• จัดอบรมเรื่องการบริหารเวลา
• จัดสัมมนาเรื่อง Job Burnout
• จัดอบรมเทคนิคการพักผ่อนและลดความเครียด
• จัดให้มีการบริหารสุขภาพ ดูแลสุขภาพ

วิธีบริหารความเครียดของคน
วิธีเผชิญความเครียดในที่ทำงาน
• รู้จักจุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง
• คิดก่อนทำ รู้จักคาดการณ์ล่วงหน้า
• จงเปิดเผยตัวเอง เอาใจใส่ต่อทุกคน
• จงทำเพื่อคนอื่นบ้าง
• รู้จักวิธีลดความเครียด
• สร้างความสมดุลระหว่างงาน กับการผักผ่อน

วิธีบริหารความเครียดของคน
แนวทางการบริหารความเครียด
• วางแผนล่วงหน้า บริหารเวลา
• ดูแลตัวเอง โดยออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ
• สร้างทัศนคติในทางบวก มองโลกในแง่ดี
• ทำในสิ่งที่สนุกสนาน ร่าเริง
• เรียนรู้เทคนิคการพักผ่อนเมื่อกำลังเผชิญกับความเครียด เช่น หาที่นั่งสบายๆ หลับตา กำหนดลมหายใจ ปล่อยวาง ฯลฯ





Create Date : 27 มีนาคม 2553
Last Update : 13 สิงหาคม 2553 14:46:46 น. 2 comments
Counter : 10160 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:16:27:37 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน ติวเลขออนไลน์


โดย: swkt (tewtor ) วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:23:40:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Benjawan_B
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 93 คน [?]




วิทยากร, ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRM & HRD), การบริหารความเสี่ยงองค์กร, การจัดการมาตรฐานแรงงาน, กฎหมายแรงงาน,เขียนหนังสือและบทความ
New Comments
Friends' blogs
[Add Benjawan_B's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.