|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตที่ต้องนั่งรถไฟไปทำงานในญี่ปุ่น
ไม่ได้อับบล็อกนานมาก ถึงขนาดลืมวิธีอับรูปไปเลยอ่ะ แต่ช่างเถอะเดี๋ยวก็คงรื้อเอาขี้เลื่อยในหัวออกไปได้เองล่ะน่า
เข้าเดือนที่สี่แล้วที่เข้าไปทำงานที่เดียวต่อเนื่องกันเป็นเวลานานอย่างนี้
ทำงานแบบต้องโหนรถไฟแทนรถเมล์เนี่ยมีข้อดีคือรถไฟมาตรงเวลาไม่ค่อยเบี้ยว แต่ถ้าเบี้ยว..เอ่อ...หมายถึงเกิดผิดพลาดมีอุบัติเหตุไรขึ้นมาเล็กน้อยเนี่ย เสียหายมากกว่ารถเมล์อีกนะ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้พาหนะอย่างอื่นได้เลย นอกจากยืนรถให้เหตุการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
เหตุการณ์ไม่ปกติที่ทำให้รถไฟหยุดเดินที่เกิดขึ้นประจำมีสาเหตุไม่กี่อย่าง ①人身事故 อุบัติเหตุที่มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ②อุบัติเหตุที่เกิดจากสัญญาณไฟจราจรเสีย ซึ่งอย่างหลังเนี่ยมักเกิดในวันที่ฝนตก...คล้ายๆบ้านเราไหม ฝนตกรถติด...ที่นี่ก็คล้ายๆกัน ฝนตกสัญญาณไฟขัดข้อง
คนญี่ปุ่นหลายๆคนที่ไปทำงานที่เมืองไทยมักบ่นว่าไม่อยากกลับไปทำงานที่ญี่ปุ่นเลย ดิฉานเข้าใจความรู้สึกค่ะ
อยู่ที่ญี่ปุ่นไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการใหญ่ขนาดไหน ก็ยากนักที่จะมีรถรับส่งของบริษัท หรือไปทำงานด้วยรถยนต์ส่วนตัว (อันนี้พูดถึงคนทำงานในโตเกียวนะ) เพราะไหนจะเปลืองน้ำมัน หาที่จอดรถยาก ค่าทางด่วนแพง บลาๆๆๆๆ
ไม่เหมือนเวลาอยู่เมืองไทย มีรถรับส่ง บางคนมีคนขับรถอีกตะหาก ไม่ต้องมายืนโหนรถไฟ ยิ่งเวลาเร่งด่วนนะ อย่าให้เซด ปลากระป๋องจริงๆ ขยับตัวก็ไม่ได้ โดนหนีบจากคนรอบข้างค่ะ ยิ่งชาวปิ๊กมี่(ส่วนสูง 155cm มาตรฐานสาวไทย) แล้วยิ่งแย่ค่ะ บางทีกระเป๋าถือเนี่ยไม่ได้ถือเองหรอกค่ะ แต่ก็ดีไม่ต้องถือเองให้หนัก คนรอบข้างช่วยหนีบกระเป๋าให้
อีกอย่างที่น่ารำคาญคือ พวกที่ชอบอ่านหนังสือพิมพ์ทั้งๆ ที่รถมันก็แน่นซะขนาดนั้น กางหนังสือพิมพ์บนหัวอิฉานเลยค่ะ อันนี้คงต้องโทษตัวเองที่เกิดมาไม่สูง เลยกลายเป็นเหมือนขาตั้งหนังสือพิมพ์ให้พี่แกอ่านได้อย่างสบายใจ จะเดินหนีไปที่อื่นก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้จะหนีไปทางไหน ก็มันแน่นซะขนาดนี้
ยิ่งเวลาฤดูที่ไข้หวัดระบาดนะคะ ต้องระวังมากๆ คนที่นี่เขาจะใส่หน้ากากกันเมื่อเป็นหวัด ต้องขอบคุณที่เขาใส่นะคะ เพราะพวกที่ไม่ใส่เนี่ย เวลาไอ จามในรถไฟที่ที่คับแคบ ปิดมิดชิด เป็นระยะเวลานานๆ เนี่ย คนอื่นๆ มีโอกาสติดโรคได้ง่ายมาก ยิ่งเวลารถไฟแน่นมากๆ ด้วยแล้ว
ทำให้ดิฉันต้องเปลี่ยนพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันของตัวเอง โดยเพิ่มการล้างมือ และกลั้วคอด้วยน้ำยาบ้วนปากทุกครั้งที่กลับมาบ้าน ดูเหมือนเป็นคนอนามัยจัดอ่ะนะ แต่ถ้าไม่ทำ เราก็จะติดหวัดชาวบ้านมาอยู่เรื่อยๆ
ฉันต้องยืนนิ่งๆ ท่าเดิมบนรถไฟ วันละเกือบชั่วโมงโดยไม่ได้ขยับเขยื่อนตัว เพื่อไปทำงาน แถมต้องวิ่งจากรถไฟคันหนึ่งเพื่อไปให้ทันต่อรถไฟอีกคันหนึ่ง เพราะถ้าไปไม่ทันก็ต้องรอไปอีกสิบกว่านาที มันทรมานเหมือนกันนะ ยิ่งหน้าหนาวแล้วต้องมายืนรอรถไฟท่ามกลางความหนาวเหน็บหลายๆ นาที
โชคยังดีที่ดิฉันยังไม่เคยโดนพวกโรคจิตล้วงจับของสงวนในรถไฟ เหมือนที่เคยได้ยินน้องๆคนไทยเขาพูดกัน อันนี้คงต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้มีความเซ็กซี่มากนัก แต่ดิฉันก็เคยเห็นเหตุการณ์ที่เหมือนกับคนญี่ปุ่นกำลังถูกลวนลามบนรถไฟกับตาตัวเองอยู่ครั้งนึง แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรสาวคนนั้นได้มากนัก เพราะเขายังไม่พยายามจะช่วยตัวเองให้รอดออกมาจากสถานการณ์นั้นเลยอ่ะ แล้วก็ไม่แน่ใจด้วย แต่อีตาลุงแก่นั้น ยืนประกบติดก้นสาวคนนั้นแบบแนบชิดในรถไฟที่ไม่ได้แน่นมากขนาดนั้นเนี่ย...โอ้ย แค่นึกก็จะอ้วกแล้ว....
บ่นๆๆๆๆๆๆ
ที่บ่นมาเนี่ยแค่อยากจะบอกว่า....ถ้าเพียงแต่ฉันได้นั่งรถไฟไปทำงาน ฉันคงจะมีความสุขมากกว่านี้......
Create Date : 18 มีนาคม 2550 |
Last Update : 18 มีนาคม 2550 13:55:31 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1884 Pageviews. |
|
|
|
โดย: tanoy~ตะนอย วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:14:35:36 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:16:39:46 น. |
|
|
|
โดย: Capulet J. วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:18:38:18 น. |
|
|
|
โดย: tistoo วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:23:38:44 น. |
|
|
|
โดย: iamname (iamname ) วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:4:33:50 น. |
|
|
|
โดย: LilyAi วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:8:47:43 น. |
|
|
|
โดย: Kana Jan (Kana Jan ) วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:22:43:33 น. |
|
|
|
โดย: Kana Jan (Kana Jan ) วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:20:57:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|