Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
ชีวิตที่ต้องนั่งรถไฟไปทำงานในญี่ปุ่น

ไม่ได้อับบล็อกนานมาก ถึงขนาดลืมวิธีอับรูปไปเลยอ่ะ
แต่ช่างเถอะเดี๋ยวก็คงรื้อเอาขี้เลื่อยในหัวออกไปได้เองล่ะน่า

เข้าเดือนที่สี่แล้วที่เข้าไปทำงานที่เดียวต่อเนื่องกันเป็นเวลานานอย่างนี้

ทำงานแบบต้องโหนรถไฟแทนรถเมล์เนี่ยมีข้อดีคือรถไฟมาตรงเวลาไม่ค่อยเบี้ยว แต่ถ้าเบี้ยว..เอ่อ...หมายถึงเกิดผิดพลาดมีอุบัติเหตุไรขึ้นมาเล็กน้อยเนี่ย เสียหายมากกว่ารถเมล์อีกนะ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้พาหนะอย่างอื่นได้เลย นอกจากยืนรถให้เหตุการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

เหตุการณ์ไม่ปกติที่ทำให้รถไฟหยุดเดินที่เกิดขึ้นประจำมีสาเหตุไม่กี่อย่าง ①人身事故 อุบัติเหตุที่มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ②อุบัติเหตุที่เกิดจากสัญญาณไฟจราจรเสีย ซึ่งอย่างหลังเนี่ยมักเกิดในวันที่ฝนตก...คล้ายๆบ้านเราไหม ฝนตกรถติด...ที่นี่ก็คล้ายๆกัน ฝนตกสัญญาณไฟขัดข้อง

คนญี่ปุ่นหลายๆคนที่ไปทำงานที่เมืองไทยมักบ่นว่าไม่อยากกลับไปทำงานที่ญี่ปุ่นเลย ดิฉานเข้าใจความรู้สึกค่ะ

อยู่ที่ญี่ปุ่นไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการใหญ่ขนาดไหน ก็ยากนักที่จะมีรถรับส่งของบริษัท หรือไปทำงานด้วยรถยนต์ส่วนตัว (อันนี้พูดถึงคนทำงานในโตเกียวนะ) เพราะไหนจะเปลืองน้ำมัน หาที่จอดรถยาก ค่าทางด่วนแพง บลาๆๆๆๆ

ไม่เหมือนเวลาอยู่เมืองไทย มีรถรับส่ง บางคนมีคนขับรถอีกตะหาก ไม่ต้องมายืนโหนรถไฟ ยิ่งเวลาเร่งด่วนนะ อย่าให้เซด ปลากระป๋องจริงๆ ขยับตัวก็ไม่ได้ โดนหนีบจากคนรอบข้างค่ะ ยิ่งชาวปิ๊กมี่(ส่วนสูง 155cm มาตรฐานสาวไทย) แล้วยิ่งแย่ค่ะ บางทีกระเป๋าถือเนี่ยไม่ได้ถือเองหรอกค่ะ แต่ก็ดีไม่ต้องถือเองให้หนัก คนรอบข้างช่วยหนีบกระเป๋าให้

อีกอย่างที่น่ารำคาญคือ พวกที่ชอบอ่านหนังสือพิมพ์ทั้งๆ ที่รถมันก็แน่นซะขนาดนั้น กางหนังสือพิมพ์บนหัวอิฉานเลยค่ะ อันนี้คงต้องโทษตัวเองที่เกิดมาไม่สูง เลยกลายเป็นเหมือนขาตั้งหนังสือพิมพ์ให้พี่แกอ่านได้อย่างสบายใจ จะเดินหนีไปที่อื่นก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้จะหนีไปทางไหน ก็มันแน่นซะขนาดนี้

ยิ่งเวลาฤดูที่ไข้หวัดระบาดนะคะ ต้องระวังมากๆ คนที่นี่เขาจะใส่หน้ากากกันเมื่อเป็นหวัด ต้องขอบคุณที่เขาใส่นะคะ เพราะพวกที่ไม่ใส่เนี่ย เวลาไอ จามในรถไฟที่ที่คับแคบ ปิดมิดชิด เป็นระยะเวลานานๆ เนี่ย คนอื่นๆ มีโอกาสติดโรคได้ง่ายมาก ยิ่งเวลารถไฟแน่นมากๆ ด้วยแล้ว

ทำให้ดิฉันต้องเปลี่ยนพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันของตัวเอง โดยเพิ่มการล้างมือ และกลั้วคอด้วยน้ำยาบ้วนปากทุกครั้งที่กลับมาบ้าน ดูเหมือนเป็นคนอนามัยจัดอ่ะนะ แต่ถ้าไม่ทำ เราก็จะติดหวัดชาวบ้านมาอยู่เรื่อยๆ

ฉันต้องยืนนิ่งๆ ท่าเดิมบนรถไฟ วันละเกือบชั่วโมงโดยไม่ได้ขยับเขยื่อนตัว เพื่อไปทำงาน แถมต้องวิ่งจากรถไฟคันหนึ่งเพื่อไปให้ทันต่อรถไฟอีกคันหนึ่ง เพราะถ้าไปไม่ทันก็ต้องรอไปอีกสิบกว่านาที มันทรมานเหมือนกันนะ ยิ่งหน้าหนาวแล้วต้องมายืนรอรถไฟท่ามกลางความหนาวเหน็บหลายๆ นาที

โชคยังดีที่ดิฉันยังไม่เคยโดนพวกโรคจิตล้วงจับของสงวนในรถไฟ เหมือนที่เคยได้ยินน้องๆคนไทยเขาพูดกัน อันนี้คงต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้มีความเซ็กซี่มากนัก แต่ดิฉันก็เคยเห็นเหตุการณ์ที่เหมือนกับคนญี่ปุ่นกำลังถูกลวนลามบนรถไฟกับตาตัวเองอยู่ครั้งนึง แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรสาวคนนั้นได้มากนัก เพราะเขายังไม่พยายามจะช่วยตัวเองให้รอดออกมาจากสถานการณ์นั้นเลยอ่ะ แล้วก็ไม่แน่ใจด้วย แต่อีตาลุงแก่นั้น ยืนประกบติดก้นสาวคนนั้นแบบแนบชิดในรถไฟที่ไม่ได้แน่นมากขนาดนั้นเนี่ย...โอ้ย แค่นึกก็จะอ้วกแล้ว....

บ่นๆๆๆๆๆๆ

ที่บ่นมาเนี่ยแค่อยากจะบอกว่า....ถ้าเพียงแต่ฉันได้นั่งรถไฟไปทำงาน ฉันคงจะมีความสุขมากกว่านี้......


Create Date : 18 มีนาคม 2550
Last Update : 18 มีนาคม 2550 13:55:31 น. 11 comments
Counter : 1884 Pageviews.

 
สู้ต่อไป ฮ่าๆๆ เราสู้มาแว้ว


โดย: tanoy~ตะนอย วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:14:35:36 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะ...สู้ๆ นะคะ


โดย: the Vicky วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:16:39:46 น.  

 
แอบมาดูชีวิตบนรถไฟที่ญี่ปุ่นค่ะ ที่นี่ไม่ค่อยมีพวกโรคจิต แต่จะมีพวกศิลปินเยอะ ขึ้นมาแหกปาก แหกคอ แล้วก็ขอเงิน (กรูจะนอน..โว้ย)
มาบ่นด้วยคน อิอิ


โดย: Capulet J. วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:18:38:18 น.  

 
อยู่ญี่ปุ่นแต่ยังไม่เคยได้ไปเที่ยวโตเกียวเลย ถ้าจะขึ้นสงสัยคงจะต้องขึ้นรถไฟช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ท่าจะดีกว่า^^
ไว้จะเข้ามาอ่านอีกน่ะค่ะ


โดย: jellybelly (jellybellybutarball ) วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:19:03:20 น.  

 
พยายามนึกภาพเวลารถไฟฟ้าบ้านเราแน่นๆ

แต่ท่าทางที่ญี่ปุ่นนี่ขึ้นชื่อกว่านะคะ

เคยอ่านหนังสือนี่เค้าเล่ามีถึงขนาดมีเจ้าหน้าที่ต้องคอยดันคนในตู้โดยสารให้เข้าไปจนปิดประตูรถไฟได้



โดย: tistoo วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:23:38:44 น.  

 
อืม...แค่คิดก็หยองแล้ว...
ไม่เคยขึ้น..และก็ไม่อยากขึ้น
เคยขึ้นแค่ตอนดึกๆ
ไม่อัดมาก
แต่กลิ่นเหล้า..กลิ่นบุหรี่..กลิ่น
เออ.........จาเป็นลม

ยังไงขอให้ได้นั่งรถไฟสบายๆ บ่อยๆนะคะ
(ถึงตอนนั้น...อาจจะรู้สึกโหวงๆ แปลกๆก็ได้)


โดย: iamname (iamname ) วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:4:33:50 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะ...

ชีวิตในญี่ปุ่นยิ่งช่วงเข้างานเช้าดูยุ่งน่าดูเลยนะคะ...

ขอแอดบล๊อคด้วยคนนะคะ...

อยากมีเพื่อนเก่งๆ แบบคุณน่ะค่ะ


โดย: LilyAi วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:8:47:43 น.  

 
อ่านแล้วเห็นภาพเลยค่ะ
แต่คิดอีกแง่นึงก็ดีเหมือนกันนา
ไม่ว่าจะยากดีมีจน เจ้านายหรือลูกน้องก็ต้องโหนรถไฟไปทำงานเหมือนกัน


โดย: petunia lover วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:12:44:17 น.  

 
เข้ามาทักทายด้วยคนคะ.......

สู้...สู้ นะคะ


โดย: Kana Jan (Kana Jan ) วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:22:43:33 น.  

 
เย้ๆๆๆคุณ peeko อัพบล็อกแล้ว ดีจังเลยรอตั้งนานแน่ะค่ะ


โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:8:50:44 น.  

 
แวะมาทักทายคะ

S u S h i .Tabe te ku dasai.





โดย: Kana Jan (Kana Jan ) วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:20:57:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peeko
Location :
กรุงเทพ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add peeko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.