~* ถึงฟ้า จะไม่ใช่สีฟ้า คนก็ยังเรียก ว่า "ท้องฟ้า" *~
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 

ตอนที่ 10 จุดจบของความเจ็บปวด - yuri (2)


และทันทีที่พี่หนุ่ย โปรดิวเซอร์มือทองให้สัญญาณว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย มินวดีรีบวิ่งปร๋อออกจากห้องอัดเสียงไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาโปรดิวเซอร์หนุ่มส่ายหัวด้วยความเอ็นดู พลางคิดว่า “คงรีบไปบอกพี่อ้ายเป็นแน่” แต่ใครเลยจะรู้ว่า หนุ่ยคิดผิด คนที่อยู่ในใจของมินวดีกลับไม่ใช่ระวันดาอย่างที่ทุกคนคิด ... ใช่แล้วขณะนี้ ที่ที่เธอกำลังมุ่งหน้าไป คือ ออฟฟิศของเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ

“วรรณอยู่มั้ยค่ะพี่” มินวดีเอ่ยถามพี่ใหม่ผู้เป็นเลขาหน้าห้องของเพื่อนคนสนิทของเธอ
“คุณวรรณติดลูกค้าอยู่เลยค่ะน้องมิว พี่ว่าน้องมิวไปรอในห้องคุณวรรณดีกว่า” พี่ใหม่ตอบ
“เดี๋ยวมิวไปรอ ที่ห้องรับรองแขกดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้พี่ใหม่โดนดุ เหมือนเมื่อเช้า” มินวดีพูดอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินไปนั่งรอที่ห้องรับรองด้วยความรู้สึกต่าง ๆ มากมาย
“รับ ชา หรือกาแฟดีคะ เดี๋ยวพี่จัดไปให้” เลขาสาวยังไม่ปล่อยให้มินวดีเดินไปง่าย ๆ เธอถามด้วยความห่วงใย
“ขอเป็นชาร้อนก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ”

วรรณณษาใช้เวลาคุยกับลูกค้านานพอสมควร ทำให้พี่ใหม่ ต้องเดินไปดูมินวดี เป็นระยะ ๆ ว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เธอไม่ค่อยเข้าใจในความสัมพันธ์ของเจ้านายสาวของเธอเท่าไหร่นัก กับท่าทีเมื่อยามเช้า ดังนั้นเมื่อวรรณณษาเสร็จธุระกับลูกค้าเป็นที่เรียบร้อย เลขานุการสาวจึงรีบแจ้งว่า “มินวดีมารออยู่ห้องรับรอง” นั่นทำให้วรรณณษาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย พลางคิด “หรือมิวจะมาเพราะเรื่องเมื่อเช้า?”
“ทำไมไม่ให้มิวมารอวรรณในห้องนี้ล่ะคะ” วรรณณษาอดที่จะถามไม่ได้
“คุณมิวยืนยันจะรอที่ห้องรับรองค่ะ”
“งั้นเดี๋ยววรรณไปหามิวที่ห้องรับรองเองดีกว่าค่ะ นี่ก็เลยเวลาเลิกงานแล้ว พี่ใหม่กลับบ้านเถอะค่ะ” วรรณณษาตอบก่อนจะหยิบกระเป๋า ก่อนจะลุกไปหามินวดี ที่ห้องรับรอง


“ก๊อก ก๊อก” วรรณณษาเคาะประตูให้สัญญาณก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แต่เสียงเคาะประตูนั้น ไม่ได้ทำให้คนที่ด้านในรู้สึกตัวขึ้นมา มินวดีกำลังทอดสายตาเหม่อมองออกไปที่เส้นขอบฟ้า ใช่แล้ว วรรณณษาจำได้ว่า เพื่อนสนิทของเธอชอบมองท้องฟ้าเวลานี้ที่สุด และนั่นทำให้เธอก้าวเข้าไปยืนเคียงข้างมินวดีพลางทอดสายตามองไปที่จุดเดียวกัน เนิ่นนาน จนคนข้าง ๆ รู้สึกตัว

“ทำไมทำงานเยอะจัง เลยเวลาเลิกงานมาตั้งนานแล้ว” มินวดีถามเมื่อรู้สึกตัวว่าไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว
“ฟ้าสวยจัง นานแค่ไหนแล้วนะ ที่วรรณไม่ได้ยืนมองท้องฟ้าแบบนี้” วรรณณษาไม่ได้ตอบในสิ่งที่คนข้างตัวเอ่ยถาม เพราะรู้ว่า คำถามนั้นไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่ถูกพูดขึ้นมาเพราะความห่วงใย แล้วทั้งสองก็ปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ปรับความเข้าใจให้แก่กันและกัน
“จ๊อก จ๊อก” เสียงท้องที่ร้องประท้วงเจ้านายดังขึ้นอย่างต้องการเรียกร้องความสนใจ และถือว่าเจ้าท้องน้อย ๆ นั้นทำหน้าที่ของมันได้สำเร็จ
“ไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เมื่อเช้าใช่มั้ย” มินวดีหันมาถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้น ทำให้คนถูกถามหน้าม่อยลงเล็กน้อย
“ก็ มันคิดอะไรเพลิน ๆ” วรรณณษาตอบเสียงอ่อย
“ไปกันเถอะ ไปทานข้าวกัน” มินวดีตัดสินใจก่อนจะจับจูงมือเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยว.. ปิดออฟฟิศก่อน ให้พี่ใหม่กลับไปแล้ว” วรรณณษาร้องบอก นั่นทำให้มินวดียืนอมยิ้ม เพื่อนของเธอไม่ชอบใช้งานลูกน้องเกินเวลาทำงานปกติ นัก การทำหน้าที่ปิดไฟ ปิดประตู ความเจ้ายศเจ้าอย่างไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเพื่อนของเธอแม้แต่น้อย และช่วงเวลาที่ยืนรอให้วรรณณษาเช็คความเรียบร้อย เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ไปยังใครอีกคน

..
..

“ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูห้องอัดเสียงดังขึ้น ก่อนที่ระวันดาจะเปิดประตูเข้าไป ลูกน้องของเธอยังอยู่กันครบ แต่ทำไมกลับไม่มีคนที่เธอมองหา ... และนั่นทำให้เธออดที่จะถามออกมาไม่ได้
“มิวล่ะ หนุ่ย” ถามออกไปด้วยความสงสัย และนั่นกลับทำให้โปรดิวเซอร์หนุ่มสงสัยกว่า
“ออกไปตั้งนานแล้วนี่ครับพี่อ้าย หนุ่ยคิดว่า เจ้ามิวรีบวิ่งไปอวดพี่อ้ายซะอีก” หนุ่ยตอบ และคำตอบของโปรดิวเซอร์หนุ่มทำให้ระวันอายถึงกับพูดไม่ออก ... มินวดีคงรีบวิ่งไปอวดใครอีกคน ที่อยู่อีกโซนของตึกนี้มากกว่า
“ขอบใจจ๊ะหนุ่ย” ระวันดาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะขอตัวแยกออกมาเงียบ ๆ ท่ามกลางสายตาที่แสดงความอยากรู้อย่างเปิดเผยนั่น
“พี่หนุ่ยว่า .. พี่อ้ายกับเจ้ามิว นี่แปลก ๆ มั้ยพี่” โน๊ตเด็กหนุ่มที่คอยเป็นลูกมือของหนุ่ยถามด้วยความคึกคะนอง
“เช้าถึง กลางวันถึง .. ตอนเย็นไม่ถึง เลยต้องมาตามใช่มั้ยพี่” ฝ้าย เด็กสาวลูกสมุนเจ้าโน๊ตถามด้วยอีกคน
“ไอ้สองตัวนี่ อยากรู้ไปถามเองดิโว๊ย พี่ไม่เอาด้วยหรอกนะ ไม่อยากนั่งเก้าอี้ร้อน” หนุ่ยตอบก่อนจะปรามเด็ก ๆ ที่กำลังอยากรู้อยากเห็น ไปอีกรอบ “มันเรื่องส่วนตัวของเค้า เราไม่เกี่ยว เข้าใจ๊ ?”
“ ไป ไป กลับไปพัก พรุ่งนี้มีอัดอีกเพลง” หนุ่ยออกปาก ซึ่งทำให้เจ้าทะโมนทั้งสองรีบสลายตัวในทันที


....
...

ระวันดาเดินกลับมาที่ห้องทำงานด้วยอารมณ์เศร้านิด ๆ ใช่ว่าเธอจะไม่รู้เสียหน่อย ว่า ใครกันที่มิอิทธิพลต่อความรู้สึกของมิว ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ ... แต่มันไม่ผิดไม่ใช่หรือ ที่เธอจะแอบมีความหวังเล็ก ๆ อย่างใครเขาบ้าง เพียงแค่เธอไม่คิดว่าความผิดหวังมันจะวิ่งแซงขึ้นมาแบบนี้ แต่ก่อนที่เธอจะตัดสินใจว่าจะไปที่ร้านหรือนั่งทำงานต่อดีนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอมองดูชื่อผู้โทรเข้ามาด้วยความแปลกใจ ... ก่อนจะกดปุ่มรับสาย

“เดี๋ยวค่ำ ๆ มิวไปหาที่ร้านนะค่ะ” เสียงใสๆ ลอยมาตามสาย ทำเอาคนรับสายอยู่รับอารมณ์ไม่ทัน
”คะ? คืนนี้ไม่มีคิวนี่น” ระวันดาไม่ตอบรับแต่ถามกลับไป
“ค่ะ ไม่มีคิว แต่จะไปหาพี่อ้าย” เสียงใสตอบกลับมา และพอดีกับที่ อีกเสียงหนึ่งดังลอดเข้ามาให้ได้ยิน “เรียบร้อย ไปกันเถอะ” และนั่นทำให้คนในสายต้องรีบบอกลา
“เดี๋ยวค่ำ ๆ เจอกันนะค่ะ” มินวดีวางสายไป พร้อมกับสร้างความงุนงง สับสนให้แก่หัวใจของอีกฝ่ายไม่ใช่น้อย

..
..

สองสาวคู่ซี้เดินเคียงคู่กันมาจนถึงชั้นล่าง พร้อมกับการตัดสินใจง่าย ๆ ว่าจะไม่ออกไปไหนไกล หาอะไรง่าย ๆ ที่ชั้นล่างทาน เพราะทั้งสอง มีนัดช่วงหัวค่ำด้วยกันทั้งคู่

อาหารมื้อง่าย ๆ จากร้านสไตล์คันทรี่ทำให้ บรรยากาศที่ดูตึงเครียดเมื่อยามเช้าเบาบางลงไปมาก มินวดีเลือกอาหารมื้อหนักให้เพื่อนสนิท ส่วนของตัวเธอนั้น กลับสั่งแค่เพียง โกโก้ร้อน แก้วเดียวเท่านั้น และครั้งนี้มินวดีนั่งมองเพื่อนสาวทานข้าวด้วยหัวใจที่เป็นสุขกว่าทุกครั้ง และรอยยิ้มแบบเดิมที่ทำให้วรรณณษาต้องเอ่ยถาม

“ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อยู่นั่นแหล่ะมิว อารมณ์ดีอะไรมาหรือไง”
“ก็คนมันมีความสุข นี่นา ” มินวดีตอบออกไปพร้อมรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้าอย่างที่ไม่มีปิดบัง
“มีเรื่องอะไรดี ไหนบอกหน่อย ดูดิ๊ อย่างกับคนละคนกับเมื่อตอนเช้าเลยนะ” วรรณณษาอดที่จะพูดออกมาไม่ได้ และประโยคนั้นทำให้มินวดีได้โอกาสที่จะพูดเรื่องราวที่ตั้งใจไว้
“มิวจะบอกวรรณว่า ขอโทษนะ สำหรับทุก ๆ เรื่องเลย” มินวดีพูดเสียงอ่อย ๆ อย่างคนที่รู้สึกผิด ก่อนจะพูดต่อ
“สัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่งี่เง่าแบบนี้อีก และ ...“ เสียงโทรศัพท์มือถือจากคนฝั่งตรงข้ามดังขึ้น ทำให้มินวดีชะงักไปจังหวะหนึ่ง ก่อนที่จะส่งสัญญาณให้ฝ่ายนั้นรับโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงร้องอยู่นั้น ด้วยท่าทีมั่นใจ

“ค่ะ คุณนัน มาถึงแล้วหรือคะ วรรณลงมาแล้วล่ะ ตอนนี้อยู่ร้าน .. กับมิวค่ะ” วรรณณษาบอกชื่อร้านที่นั่งอยู่เวลานี้ให้นันทิยาทราบก่อนจะถาม
“จะตามมาที่ร้านมั้ยคะ .. ถ้าอย่างนั้นคุณนันหาอะไรทำฆ่าเวลาไปก่อนนะค่ะ เสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ วรรณจะโทรไปบอก สวัสดีค่ะ” วรรณณษาวางสายหลังจากที่พูดจบ หันมาสนใจคนตรงหน้า ราวกับรอให้อีกฝ่ายพูดเรื่องที่ตั้งใจให้จบ แต่คนตรงหน้าเธอเวลานี้ กลับนั่งนิ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะพูดต่อ

“ว่ายังไงล่ะมิว” วรรณณษาเรียกให้อีกฝ่ายพูดต่อ
“และ .. ต่อไปนี้ มิวจะเป็นคนใหม่จะเปิดโอกาสตัวเองให้กับคนอื่น ๆ ที่เข้ามาแล้วนะวรรณ พี่นันมาถึงแล้วใช่ป่ะ วรรณไปเถอะ เดี๋ยวมิวจัดการเอง” มินวดีคะยั้นคะยอให้วรรณณษารีบไปพบกับนันทิยา โดยเร็ว
“เอางั้นหรอมิว มิวแทบไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ และเรายังคุยกันไม่จบ” วรรณณษารู้สึกใจหายไม่ใข่น้อย กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเพื่อนรัก
“เอาน่า ให้มิวได้ทำอะไรเพื่อเพื่อนบ้าง” มินวดียิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นไปจัดการบิลที่โต๊ะตัวเอง ก่อนจะหันมาพบว่าเพื่อนของเธอยังคงนั่งนิ่งไม่ไปไหน
“มานี่ มา ..” พูดจบมินวดีฉวยข้อมือของเพื่อนสาวเอาไว้หลวม ๆ พร้อมกับเดินนำหน้าออกไป เธอมั่นใจว่า เวลานี้ นันทิยาคงกำลังรอเพื่อนของเธออยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากพื้นที่นี้เท่าไรนัก และเป็นไปดั่งที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด เธอออกเดินนำอีกครั้งโดยไม่สนใจอาการพยศของเพื่อนสาวแม้แต่น้อย

“สวัสดีค่ะพี่นัน” มินวดีทัก พร้อมส่งยิ้มให้คนตรงหน้า
“มิวพาเพื่อนมาส่ง .. ฝากดูแลหัวใจ ความรู้สึก ความรักของเพื่อนมิวคนนี้ด้วยนะค่ะ มิวเชื่อว่าพี่นันทำได้” มินวดีไม่เพียงแค่พูด เธอหยิบมือของคนตรงหน้าให้มาจับไว้กับมือเพื่อนสาวของเธอ ที่เวลานี้ ได้แต่ยืนนิ่งอย่างไม่รู้ว่า ตัวเองควรจะทำอย่างไรดี
“เอาล่ะ .. มิวว่า มิวไปดีกว่า ไปนะวรรณ” มินวดีโค้งตัว พร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวถอยหลังออกมาช้า ๆ พร้อมหันหลังกลับไป ยิ้มให้ตัวเองอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ... ใช่แล้ว เธอต้องรีบไปหาใครอีกคน ....

..
..


คล้อยหลังจากนั้น นันทิยาและวรรณณษาได้แต่ยืนมองกันทำตาปริบ ๆ พร้อมกับมองมือของตนเองที่เกาะกุมกันอยู่ในเวลานี้ ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่นานนักทั้งสองก็ยิ้มให้กันอย่างเต็มดวงตา ราวกับต้องการจะให้อีกฝ่ายมองทะลุไปถึงประตูหัวใจที่ยามนี้กำลังเปิดกว้างรอให้คนที่อยู่ในแววตาคู่นี้เดินเข้ามาทักทาย ....


(มาต่อให้แล้วนะค่ะ ... จบทื่อๆ อีกแล้ว .. ตอนต่อไป จะมาอาทิตย์หน้านุ้นเลย ตอนนี้ขอไปปั่นอีกเรื่องก่อน น๊า กลายเป็น เขียนไปเขียมา ดองเค็มหมดเลยยย )




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2554
6 comments
Last Update : 1 กันยายน 2554 14:59:20 น.
Counter : 1364 Pageviews.

 

แอบเซ็ง กับบล็อค จริง ๆ เลย

ย่อหน้ามาซะดิบดี พี่แกทำให้มันเป็น ชิดหน้าหมดเกลี้ยง ฮ่วยยย

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 30 สิงหาคม 2554 16:08:42 น.  

 

ยกมาสารภาพว่า เค้าลืมแล้วว่าใครเป็นไง ฮ่า ๆๆๆ จบแล้วเด๋วเค้ามายกเครื่องใหม่หมดเลยดีฝ่า

 

โดย: witch@thedog 30 สิงหาคม 2554 21:39:50 น.  

 

รออ่านแย่แหล่ว

 

โดย: littlepup 31 มกราคม 2555 23:44:35 น.  

 

รออ่านอยู่ค๊า ต้องแสดงตัวเพราะคุณแอร์ไม่ยอมอัพ T T

 

โดย: TT_C IP: 110.49.226.163 4 กุมภาพันธ์ 2555 15:18:19 น.  

 

ตอนจบของเรื่องนี้หาอ่านได้ที่ไหนคะ ใครพอจะทราบช่วยเมลบอกหน่อยนะคะ necll870@hotmail.com
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

 

โดย: necll870 IP: 175.104.180.67 13 มีนาคม 2555 23:26:32 น.  

 

รออ่านอย่างใจจดใจจ่อนะคะ

 

โดย: ใจคนรอ IP: 119.42.79.152 23 พฤษภาคม 2555 23:02:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




login ที่ไม่เข้ากับตัวซักนิด
แต่ถ้าเทียบกับความรู้สึก
โค ตะ ระ เหมือน ตัวจริง เลย

เป็นนักบัญชี ที่ไม่เหมือนนักบัญชีเท่าไหร่
ที่มีงานอดิเรก เป็นการอ่านนิยาย ฟังเพลง
ดูซีรี่ย์เกาหลี เล่นอินเตอร์เน็ต ถ่ายรูป
รวมถึง แต่งนิยาย ...


Color Codes ป้ามด



=========================
ข้อความและภาพถ่ายในสื่อคอมพิวเตอร์
แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด
ได้รับการสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ
ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539

ผู้ฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์
อักษรจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
==========================

นิยายเรื่องใหม่ ที่แอบเขียนไว้ ที่ Dek-d ค่ะ

Puppy in Love - Yuri
Friends' blogs
[Add ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.