มรกตนาคสวาท : แมวๆ พิคเจอร์

ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์เช่นเคยค่ะ
<<
มิถุนายน 2548
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 มิถุนายน 2548
 
 
...เหมือนคบคนคำหวานรำคาญครัน ถ้าพลั้งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล...

...มามะ มาฟังมาหยาคุยๆๆ วันนี้กะจะคุยให้ยาวๆๆ พอๆ กะหลายวันก่อนเลย ฮ่าๆๆ...








ด้วยความขี้หลงขี้ลืม ตามประสาสาวโสดวัยสามสิบอัพ
วันก่อนตั้งใจจะเขียนถึง "บรมครูจอมกวีศรีสยาม" เนื่องในวันเกิดครบรอบสองร้อยกว่าปี ของท่านสุนทรภู่ ก็ไม่ได้เขียน แง้วๆ

เมื่อวานวันเกิดอดีตเพื่อนรัก ก็ว่าจะเขียนบล็อกให้ ก็ไม่ได้เขียนอีก
(เป็นเพื่อนรักเราต้องอดทน (ไปทำไม) กับความขี้หลงขี้ลืมของเราอ้ะนะ)

เอาเป็นว่า วันนี้มาเขียนถึงอะไรหลายๆ เรื่องที่เคยอยากเขียนดีไหมหนอ
(น่าจะดีนะ ถ้ามาหยาเขียนๆ ไปแล้วจะไม่ลืมว่ากำลังจะเขียนอะไรบ้าง)








เรื่องแรก เรื่องท่านสุนทรภู่...
เชื่อไหม สมัยเรียนมัธยมต้น (กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว) เคยชนะเลิศประกวดแต่งกลอนเนื่องในวันสุนทรภู่ของที่โรงเรียนด้วย แต่ไม่ได้รับรางวัล ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน รู้แต่ว่า เพิ่งรู้ว่าตัวเองชนะเลิศ ก็หลังจากนั้นไปแล้วสามสี่เดือน (ก็เขาเอาไปตีพิมพ์ในวารสารของโรงเรียนอ้ะ) ครูที่สอนภาษาไทยก็ไม่บอกสักนิด สงสัยครูจะลืม ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร เก็บความภูมิใจว่าชนะเลิศก็พอแย้ว อิอิ

ชอบกลอนของสุนทรภู่ค่ะ (ทั้งๆ ที่ความจริงลักษณะคำประพันธ์ที่ข้าพเจ้าชอบมากที่สุดคือ โคลงสี่สุภาพ)
ที่ชอบเพราะท่านใช้คำง่ายๆ เอามาเรียงร้อยกันแล้ว สัมผัสแพรวพราวมากๆ
บทประพันธ์ทุกบทของท่านสุนทร สอนให้รู้ว่า ..
ความงดงามทั้งปวง ไม่ได้เกิดจากความซับซ้อนหรือวิลิศมาหราใดๆ
แต่เกิดจากความเรียบง่าย ออกมาจากใจ และต้องการจะสื่อบางอย่างไปสู่ใจของอีกคนในแต่ละช่วงเวลา

(แม้ว่าบางทีท่านจะสื่อถึงหลายๆ คนในหลายช่วงเวลาไปหน่อยก็ตาม ฮา)

ความเรียบง่าย จริงใจ ไม่ซับซ้อนแบบนี้แหละ ที่ทำให้คนเราคบกันได้ยืนยาว รักกันได้นานที่สุด หวังดีต่อกันได้นานที่สุด
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะฝ่ายเดียวกัน หรือฝ่ายตรงกันข้ามก็ตาม







ถ้าถามว่าชอบคำกลอนตอนไหนของสุนทรภู่มากที่สุด จะบอกว่าชอบบทนี้


@ ถึงวังวัดเทียนถวายบ้านใหม่ข้าม
ก็รีบตามเรือที่นั่งมากลางหน
ทุ่งละลิ่วทิวเมฆเป็นหมอกมน
สะพรั่งต้นตาลโตนดอนาถครัน
เจ้าของตาลรักหวานขึ้นปีนต้น
ระวังตนตีนมือระมัดมั่น
เหมือนคบคนคำหวานรำคาญครัน
ถ้าพลั้งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล

เห็นเทพีมีหนามลงราน้ำ
เปรียบเหมือนคำคนพูดไม่อ่อนหวาน
เห็นกิ่งกีดมีดพร้าเข้าราราน
ถึงหนามกรานก็ไม่เหน็บเหมือนเจ็บทรวงฯ
(สุนทรภู่ : นิราศพระบาท)


ไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงชอบ เป็นบทหนึ่งที่ท่องได้ตั้งแต่ตอนเรียนเรื่องนิราศพระบาท สมัยมัธยมปลาย (กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อีกแล้ว)

คงไม่ต้องถอดคำประพันธ์เนาะ เพราะภาษาของท่านสุนทรคือภาษาง่ายๆ อย่างที่บอกอ้ะค่ะ

ใครจะนำคำกลอนนี้ไปใช้เป็นคติเตือนใจ ก็ไม่ว่ากันค่ะ ....

จบเรื่องท่านสุนทรภู่ แค่นี้ล่ะเด้อ แบบว่า ไม่อยากเขียนอะไรยาวๆ กว่านี้อ้ะ ฮี่ๆๆๆ








แว้บมาเรื่องที่สอง เมื่อวานเป็นวันเกิดของอดีตเพื่อนรักคนหนึ่ง
เพื่อนจริงๆ ในทุกความหมายเน้อ ไม่ใช่แฟนแน่ๆ ขอยืนยันจ้า
ใช้คำว่า อดีต เพราะปัจจุบันไม่ได้รักกันแล้ว เอ๊ย ไม่ใช่ ปัจจุบัน เขามีชีวิตที่ดีของเขาแล้ว มีทางไปที่ดีเป็นของตัวเอง

อันทีจริง เพื่อนคนนี้เป็นคนดีมากๆ หากว่าเขารักใครแล้ว เขาจะดูแลเอาใจใส่เพื่อนคนนั้นอย่างดีที่สุด แม้ว่าตัวเขาจะต้องเจ็บปวดหรือเดือดร้อนก็ตาม เชื่อมั่นได้เลย ใครได้เขาไปเป็นแฟนเนี่ย โชคดีสุดๆ เหมือนซื้อหวยแล้วถูกรางวัลที่หนึ่งเลยทีเดียวเชียว (พูดจริงๆ นะ ไม่ได้โม้)

เวลาผ่านไป เนื่องในโอกาสวันเกิดเขา ข้าพเจ้าก็ขอให้มีความสุขมากๆ ขอให้ความรักครั้งนี้ยั่งยืนนาน แต่งงานเมื่อไร ไม่แจกการ์ดมีงอน (เพราะข้าพเจ้ากำลังหาโอกาสใส่เกาะอกไปงานแต่งใครสักคนอยู่ ฮ่าๆๆ)

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังค่ะ น้านนท์ที่รัก







พูดถึงเรื่องเพื่อนแล้ว อดคิดถึงรายการ "ถึงลูกถึงคน" วันนั้นไม่ได้ "รับน้องโคราช ตอน เพื่อนแป้ง -- เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด"

ที่คิดถึง เพราะกำลังคิดว่า ถ้าวันหนึ่งมีคนไปออกสื่อ หรืออยู่ต่อหน้ามวลชน แล้วพูดถึงแต่ข้อเสียหายของเรา หรือพยายามจะโยนความผิดมาให้เรา (เหมือนเพื่อนแป้งกับเพื่อนปาล์มวันนั้น) ให้เราได้ยินเต็มสองหู เราจะรู้สึกยังไงหนอ

ข้าพเจ้าคงไม่เหมือนเพื่อนปาล์มที่ทำใจสงบ แล้วแสดงออกทางสีหน้านิดๆ แค่นั้นแน่ๆ เลย
ค่าที่เป็นคนใจร้อน และโมโหร้ายมาแต่ไหนแต่ไร ฮี่ๆๆ

อ้ะน่ะ ขออย่าให้มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับเราเลย แค่ทุกวันนี้ก็ต้องสวดมนต์แผ่เมตตาให้ตัวเองใจสงบ และพร้อมจะให้อภัยตัวเอง และคนรอบข้างก่อนนอนแย้ว ไปทำไม่ดีต่อหน้าคนเยอะๆ ต่อไปจะมีชีวิตอยู่ลำบากน่อ (อันนี้ท่องไว้ สอนตัวเอง ฮ่าๆ)







มีใครสะดุดใจไหม ทำไมมาหยาใช้คำว่า "ให้อภัยตัวเอง" เพราะจริงๆ ที่คิดไว้น่ะ เวลามีปัญหากับใคร บางทีมันจะโทษว่าคนอื่นผิดทั้งหมด มันก็คงไม่ได้ บางที ถ้าเหตุการณ์ตอนนั้น เรานิ่งเสีย เราหยุดเสีย มันก็คงไม่ลุกลาม และแม้ฝ่ายตรงข้ามจะผิดจริง มวลชนก็คงเห็นและตัดสินได้ด้วยตัวเอง และแม้ในตอนนั้นคนส่วนมากจะเข้าใจว่าคนอื่นผิด แต่เราดันเอาตัวเข้าไปประจัญเต็มที่เพื่อปกป้องตัวเอง ที่สุดแล้ว คนอื่นก็ไม่วายมองว่าเราก็คงผิดมากๆ ไปด้วย ถึงได้ไปร้อนตัวแก้ตัวอย่างนั้น

คิดๆ แล้วก็คิดถึงคำของพี่ชายคนหนึ่ง ที่เคยพูดให้ฟังเอาไว้ว่า "ในที่สุดวันหนึ่ง ความเป็นจริงกว่าจะปรากฏ" เพราะ "ความจริงไม่ย้อท้อต่อการพิสูจน์ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแสนนานเพียงใด"
ฝากเพื่อนๆ ที่ผ่านทางเข้ามาในบล็อกนี้ ให้ลองไปพิจารณาดูด้วยนะคะ เผื่อมีอะไรร้อนๆ ร้ายๆ ในใจ จะได้รู้สึกสบายใจขึ้น







มาเรื่องต่อไป เรื่องเมื่อวาน ที่เขียนถามพี่ "หมอน" ไปว่า พี่หมอนบล็อก msn น้องมาหยาหรือเปล่า
วันนั้นตัดสินใจถามพี่เขาตรงๆ แล้ว ปรากฏว่า พี่เขาไม่ได้บล็อกหรอกค่ะ แต่...

พี่เขาลบเลยอ้ะค่ะ ด้วยสาเหตุที่ว่า การพยายามจะลืมมันยาก ดังนั้นไม่เห็นกันเลยแม้แต่ชื่อน่าจะดีกว่า

ขอบคุณค่ะพี่ที่บอกความจริงกับหนูมา
เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด หนูขอโทษ หนูไม่ดีเอง

อย่างเดียวที่อยากจะบอกพี่ ถ้าพี่บังเอิญผ่านมาทางนี้ก็คือ
ความรู้สึกของหนูแต่ละช่วงเวลา หนูไม่เคยหลอกลวงตัวเอง และไม่เคยหลอกลวงพี่
เพียงแต่บางทีหนูมีเหตุผลส่วนตัว ที่ไม่อาจจะบอกหรือเล่าให้ใครฟังได้

ถ้าเกิดมาชาติหน้าแล้วเราได้เจอกันอีก หนูจะดีกับพี่ให้ถึงที่สุด ชาตินี้เราคงไม่มีวาสนาต่อกันแล้ว เพราะตอนนี้พี่ได้ตัดทุกๆ อย่างขาดไปจากหนูแล้วจริงๆ

ไม่ว่าพี่จะเชื่อหนูหรือไม่ก็ตาม ขอบอกอีกครั้งนะคะ "หนูรักพี่" ค่ะ ไม่ว่าเราจะเป็นแฟนกันหรือไม่ก็ตาม แต่หนูก็รักพี่แล้วก็ยังรักเท่าเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปค่ะ


เฮ่อออออออออออออ ไม่คิดเลยว่า การได้ฟังความจริงบางอย่างจากปากคนที่เรารักมากๆ มันจะทำให้เจ็บปวดได้มากขนาดนี้

แต่มาคิดๆ ดูแล้ว บางทีคนที่พูดกับเราคนนั้น คงต้องใช้ความพยายามและเวลาอีกมาก ที่จะลบความเจ็บปวดในใจ ที่เราเป็นคนก่อให้กับเขาก็เป็นได้

เจ็บจริงหนอ เจ็บในอกจัง







เรื่องต่อไป พูดถึงอะไรดีล่ะ อืมมมมม เรื่องภาพที่โพสต์วันนี้ดีกว่าเนาะ

หลายๆ คนคงสังเกตได้ว่า ลักษณะและขนาด รวมถึงสัดส่วนของภาพ แปลกๆ ตาไป สงสัยจังว่าใช้กล้องตัวไหนถ่ายเนี่ย


อิอิ จำเลยรับสารภาพค่ะ ...
ภาพชุดนี้ ไม่ได้ใช้กล้องของตัวเองถ่าย แต่เป็นการแอบๆ ใช้ DSLR (Canon EOS 300D) ของคนแถวๆ นี้ ร่วมกับเลนส์ 100 macro ที่ใฝ่ฝัน ถ่ายไว้นานแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ หลังสวนจตุจักร ข้างๆ สวนรถไฟ อ้ะค่ะ

ถ้าเห็นภาพคมชัด และหลังเบลอกระจายผิดปรกติ ก็คงหายสงสัยกันแล้วนะคะ

ภาพเนียนใสแบบนี้ เจ้าแสนโก้ กับเจ้าแสนสาม ทำมิได้แน่นอน

เฮ่อออออออออออออ ว่าแล้ว กิเลสที่อยากได้กล้อง DSLR ก็พุ่งพรวดๆ
ชาตินี้จะมีวาสนาได้ครอบครองเป็นเจ้าของกับเขาสักตัวไหมหนอ
ค่าที่เกิดมาไม่ร่ำไม่รวย แถมยังไม่ค่อยมีแรงพยายามจะทำอะไรๆ ให้งอกเงยขึ้นมาสักเท่าไรเลยเนี่ย เรา เฮ่อออออออ







ปัญหาของข้าพเจ้าในการใช้ DSLR โดยเฉพาะกล้องที่ช่อง VF (view finder) หรือช่องมองภาพ มันเล็กๆ ก็คือ ข้าพเจ้าสายตาสั้นและเอียง (ปานกลางถึงค่อนข้างมาก) เมื่อต้องอาศัยการเล็งนานๆ ด้วยช่องมองภาพ ในกล้องของผู้อื่น ที่ยังไม่ได้ set diaoptic adjustment ให้ตรงกับสายตาข้าพเจ้า ทำให้พอเล็งภาพเสร็จ กดชัตเตอร์เสร็จ แล้วถอนสายตาออกมาจากช่องมองภาพ ข้าพเจ้ามีอาการ ตาข้างที่เล็งนั้น โฟกัสสิ่งของต่างๆ รอบๆ ตัวไม่ได้เลย ต้องหลับตาก่อนเป็นครู่ เพื่อให้การมองเป็นปรกติ มิฉะนั้นอาจมีอาการปวดหัว วิงเวียน และล้มลงไปกองกับพื้นได้ (อ่า ไม่ได้สิ เดี๋ยวกล้องพัง)

นี่แหละ เป็นตัวลดกิเลสเป็นอย่างดีเลย เพราะกล้องที่มีช่องมองภาพใหญ่ๆ ตอนนี้ ก็มีแต่ D7-D ของมินอลต้าเท่านั้นมั้ง ฮี่ๆๆ แต่อ้ะน่ะ เรามิมีเงินเกือบๆ หกหมื่น บวกกับเลนส์อีกก็เกือบๆ แสน หรือแสนกว่าๆ สำหรับมาซื้อกล้องดีๆ ใช้หรอก

กล้องที่พอซื้อได้อย่าง 300D ก็ช่องมองภาพกระตึ๋งนึง ฮ่าๆๆๆ

กิเลสลดฮวบๆๆ ทีเดียว

แต่อย่าให้ใครเอากล้องพวกนี้มาให้ลองเล่นนะ ข้าพเจ้าก็ไม่ปล่อยมือเหมือนกัน

แถมกิเลสที่เกือบๆ จะคุมได้ ก็พุ่ง พรวดๆ ทีเดียวเชียว

โอ้ แม้สเตอร์ มายพรี้เชียส มายพรี้เชียส (วิญญาณ กอลลั่ม เข้าสิงแม่มดได้ด้วยแฮะ ฮ่าๆๆ)







เฮ่อออออ เขียนมาถึงตอนนี้แล้ว ใจสั่น มือไม้สั่นจังเลยแฮะ

สงสัยเป็นเพราะอุตริหัดกินกาแฟอีกครั้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองแพ้คาเฟอีน

แต่แปลกแฮะ เวลาผ่านไป จากที่เคยหลับคาหูถ้วยกาแฟ วันนี้ไม่หลับละ เหลือแต่อาการใจสั่นมือสั่นแทน

ก็นั่นแหละเนาะ คนเราจะแพ้อะไรสักอย่างไปตลอดเวลาได้อย่างไร
บางทีมันต้องใช้ความพยายามกันสักหน่อย เผื่อจะมีโอกาสชนะมันบ้างเนาะ

สักเล็กน้อยก็ยังดี


โดยเฉพาะ ชนะใจตัวเอง...


คุณผู้อ่านกำลังคิดเหมือนมาหยาไหมคะเนี่ย







สำหรับหน้านี้ และสำหรับทุกๆ ท่านที่ผ่านมาอ่าน ทั้งที่ลงชื่อไว้และไม่ได้ลงชื่อ

"ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์เช่นเคยค่ะ"











Create Date : 28 มิถุนายน 2548
Last Update : 28 มิถุนายน 2548 17:08:38 น. 37 comments
Counter : 4872 Pageviews.

 
อ่า เรื่องมันยาวจริงๆ วุ้ย ฮ่าๆๆๆ


ใครจะทนอ่านจนจบได้บ้างไหมเนี่ย




โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:15:43:13 น.  

 
ไหนรูปกล้องโดฟอ่ะ....

ไม่เห็นมีเร้ย.....O_o"

วันนี้ป่วยหรือเปล่าเนี่ย บ่นซะ.....

ลป.300D สีแจ่มจริงๆ


โดย: รู้สึกแปลก วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:03:44 น.  

 
ก็งั้น ๆ


โดย: อยากจะโปร IP: 61.90.48.135 วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:04:56 น.  

 
บัว บัว บัว

ชอบจัง


โดย: แพนด้าฯ IP: 203.170.164.20 วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:09:23 น.  

 
ไอ่น้องกานต์

เสแสร้งให้กำลังใจพี่หน่อยสิฟละ ฮ่าๆๆ
เดี๋ยวยึดเลนส์ลอกซะนี่ ฮ่าฮ่าฮ่า

ขอบคุณสำหรับข้อมูลทางเทคนิคที่ข้าพเจ้าเขียนผิดด้วยนะเคอะ

คุณรู้สึกแปลก ๆ กล้องโดฟ ยังไม่ได้ถ่ายภาพไว้เลยอ้ะ

รอพรุ่งนี้นะคะ พรุ่งนี้จะอัพรูปจากโดฟให้ดู อิอิ




โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:09:45 น.  

 
รูปสวยค่ะ

แง้ว อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ให้มันผ่านไปดีกว่าค่ะ

มันยากที่จะลืมใครที่เรารักมากๆ

แต่อยากให้พี่พยายามทำให้ได้อ่ะ

เปิดใจรักคนอื่นบ้างนะคะ
มนุษย์ผู้ชายมีอีกเยอะอ่ะ


โดย: นกซิลล่า IP: 202.44.32.9 วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:22:52 น.  

 
ยาวจัง แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

อ่านจบวุ้ยย อิอิ ^^



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:26:15 น.  

 



หนี่ฯกลับมาแล้วค่ะ

ขอพักเหนื่อย หน่อยน๊ะ
หนี่ฯเชื่อได้เลยว่า ..
ไม่มีทางที่เปนไปได้ ว่าหนี่ฯ
จะถ่ายได้สวยเหมือน(คุณ )มาหยาค่ะ

เดี๋ยวมาใหม่น๊ะ ..
แอบบบบ ..หนี เจ้านายมาเล่นค่ะ


โดย: หนี่หนีหนี้ วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:31:49 น.  

 
ซื้อ DSLR เหอะครับป้าแอนอิอิ


โดย: ตะเกียงลาน วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:32:20 น.  

 
มาคุยด้วยเรื่องแรกครับ
แล้วไอ้ที่ว่า

ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันขโมงนั่นนิราศอะไรอะครับ

จริงๆแล้วชอบของสุนทรู่อันนี้ที่สุด

เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก
เกิดเป็นชายยิ่งยากกว่าหลายเท่า
หญิงต้องเจียมกายามาแต่เยา
ชายต้องเฝ้าอ้อนวอนให้หล่อนรัก

สงสัยมีผิดแน่เลย
คุณแอนแก้ให้ด้วยนะครับ


โดย: me2you วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:16:51:03 น.  

 
อ่านจบครับ

อยากบอกว่า

มีปัญหากับ view finder เหมือนกัน

ยิ่งเล็งยิ่งเบลอ

บางครั้งเล็งๆแล้วก็ต้องพัก

ค่อยเล็งใหม่

เหนื่อย



-_-"


โดย: มันเยี่ยมจริงๆเลยครับจอร์จ วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:17:01:05 น.  

 
เรื่องกง เรื่องกลอน นี่บอกตรงๆ หูไม่กระดิก แต่ถ้าเรื่องการเอาชีวิตให้อยู่รอดจาก ความทุกข์นี่ ถนัดนักล่ะ นับว่าเป็นพรสวรรค์ ที่ฟ้าประทานให้มาเลย (พระเจ้า ...เค้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ...ฮิๆ)

อ่านเรื่องของคนที่ชื่อ หมอน แล้วนับถือใจเค้า นับว่ามีวิธีการแก้ปัญหาที่เด็จขาดดี ชนิดที่ถอนรากถอนโคนเลย


โดย: merf1970 วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:17:14:07 น.  

 
ตลาดขวัญขวัญฉันนี้ขวัญหาย
ใครเขาขายฝันหรือจะซื้อฝัน
แม้ขวัญฟ้าหน้าอ่อนเหมือนท่อนจันทร์
จะรับขวัญเช้าเย็นมิเว้นวาง

* * *

เห็นสวาทจาดทิ้งกิ่งสนัด
เป็นรอยตัดต้นสวาทให้ขาดสาย
สวาทพี่นี้ก็ขาดสวาทวาย
แสนเสียดายสายสวาทที่ขาดลอย

* * *

แต่เรียนรักรักนักก็มักหน่าย
รักละม้ายมิได้ชมสมประสงค์
ยิ่งรักมากพากเพียรยิ่งเวียนวง
มีแต่หลงลมลวงน่าทรวงโทรม
นิราศวัดเจ้าฟ้า

โอ้หนาวอื่นพอขืนอารมณ์ได้
แต่หนาวใจยากแค้นนี้แสนเข็ญ
ทั้งนอนหนาวไกลนุชสุดจะเย็น
ใครปะเป็นเหมือนหนึ่งข้าจะว่าจริง

* * *

พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต
ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง
ว่าจากเรือนเหมือนนกที่จากรัง
คนอยู่หลังจะเฝ้าแลชะแง้คอย

ถึงยามค่ำย่ำฆ้องจะร้องไห้
ร่ำพิไรรัญจวนหวนละห้อย
โอ้ยามดึกดาวก็เคลื่อนเดือนก็คล้อย
น้ำย้อยเย็นฉ่ำที่อำพร

หนาวอารมณ์ลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยชื่น
ระรวยรื่นรินรินกลิ่นเกสร
แสนสงสารบ้านเรือนเพื่อนที่นอน
จะอาวรณ์อ้างว้างอยู่วังเวง

* * *

มานอนในไพรพนมต้องลมว่าว
อนาถหนาวน้ำค้างพร่างพฤกษา
หอมดอกกลอยสร้อยสนสุมณฑา
มะลิลาลมโชยมาโรยริน

ดอกไม้สดรสรื่นชื่นแช่ม
เหมือนกลิ่นแก้มแจ่มนวลชวนถวิล
หอมบุปฝาสารพันลูกจันทร์อิน
ไม่เหมือนกลิ่นนุชเนื้อที่เจือจันทร์

* * *

บางระมาดมาดหมายสายสวาท
ว่าสมมาดเหมือนใจแล้วไม่เหมือน
แสนสวาทมาดหมายมาหลายเดือน
มีแต่เคลื่อนแคล้วคลาดประหลาดใจ

* * *

ดังลอยฟ้ามาให้ชมตามลมปลิว
แล้วลอยลิ่วลับไปเสียไกลตา

* * *

ถึงร้อยรสบุปผาสุมาลัย
จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย

สุนทรภู่

อิอิ ยกโคลง กลอน ของท่านสุนทรภู่มาให้ค่ะ ชอบที่ท่านแต่งเหมือนกัน ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลในอมยิ้ม ของก้าหวายเอง อิอิ ...ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายเดือนแล้ว ...

อ่านจบนะคะ ... สิ่งใดที่ผ่านไปแล้วก็เก็บสิ่งดีๆ ไว้ในความทรงจำเนอะ ที่ทำให้ไม่สบายก็อย่าคิดมากนะคะ... รูปสวยจริงๆค่ะ ... ชอบทุกรูปเลย ...


โดย: ตะกร้าหวายสีขาว วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:17:17:01 น.  

 
สวัสดีค่ะ

คุณแพนด้าฯ
- ดอกบัวที่สวนสิริกิติ์ สีหวานมากๆ เลยค่ะ ชอบๆๆ เหมือนกันค่ะ

คุณนกซิลล่า
- ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกทิ้ง บางทีอาจจะลืมง่ายกว่านี้กระมังคะ แต่นี้ข้าพเจ้าผิดเองค่ะ ยอมรับแต่โดยดี

คุณขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie )
- เย้ๆๆ ที่สุดก็มีคนอ่านงานของเราจนจบแว้ววววววววววว ดีใจๆๆๆ

คุณ หนี่หนีหนี้
- เป็นไปได้สิคะ มันขึ้นกับการปรับตัวกับกล้อง แล้วก็ความใจเย็นและอารมณ์สุนทรีย์ล้วนๆ เลยอ้ะค่ะ

คุณน้าตะเกียงลาน
- แหะๆ น้ามีตังค์ให้แอนใช้ฟรีไหมคะ จะได้ซื้อ แงๆ เกิดมาสวยช่วยไม่ได้ เอ๊ย ไม่ใช่ เกิดมาจน ต้องทนอยากได้อ้ะค่ะ กิเลสพุ่งพรวดๆ

คุณ me2you

ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง
มีคันโพงผูกสายขึ้นปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นหน้าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ
สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย
ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน

บทนี้จากนิราศภูเขาทอง ค่ะ

แต่บทหลังเป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 เรื่อง วิวาหพระสมุทรค่ะ
ไม่ใช่ผลงานของท่านสุนทรแต่อย่างใด

บทเต็มนี่นะคะ

เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก
เป็นผู้ชายยิ่งยากกว่าหลายเท่า
หญิงต้องเจียมกายามาแต่เยาว์
ชายต้องเฝ้าวิงวอนให้หล่อนรัก
หญิงถึงรักต้องแสร้งแกล้งทำเฉย
หวังให้ชายอยากเชยยิ่งขึ้นหนัก
ต่างคนต่างซัดกันน่าขันนัก
ที่แท้ต่างสมัครจะรักกัน
วิสัยหญิงต้องอาย , ยั่วชายชิด
หญิงย่อมดัดจริต , จิตชายสั่น
ถ้าแม้นรักจริงแล้วไม่แคล้วกัน
เสน่ห์พันผูกสนิทชิดชมเอย


คุณ มันเยี่ยมจริงๆเลยครับจอร์จ
เย้ๆ เจอเพื่อนที่มีอาการเดียวกันแย้ว ดีใจๆ
นึกว่ามาหยาเป็นอยู่คนเดียวอ้ะค่ะ



โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:17:19:59 น.  

 
คุณ merf1970
- เพราะเขาเป็นเขาแบบนี้ไงคะ ถึงไม่เคยไม่รักเขาเลย เพียงแต่บางทีชีวิตก็จำเป็นต้องเลือก และเขาไม่ควรต้องมาทุกข์กับเรา ณ จุดนี้ค่ะ

คุณ ตะกร้าหวายสีขาว
- แง้วๆ บทนี้โดนใจจัง มีสวาทๆ เหมือนชื่อ มรกตนาคสวาทล่วยอ้ะ

เห็นสวาทจาดทิ้งกิ่งสนัด
เป็นรอยตัดต้นสวาทให้ขาดสาย
สวาทพี่นี้ก็ขาดสวาทวาย
แสนเสียดายสายสวาทที่ขาดลอย




โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:17:23:29 น.  

 
โอ้ว...ขอบคุณมากครับคุณแอน

ผมก็เข้าใจผิดมานานแล้วสิเนี่ย

นิราศภูเขาทองนี่
ท่านสุนทรภู่แต่งตอนบวชเป็นพระใช่มั้ยครับ
เลยกินเหล้าไม่ได้
แต่เอ...ยังเมารักอยู่ได้ไง
เออ...ตอนบวชเราก็เป็นเหมียนกัน 555


โดย: me2you วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:17:29:18 น.  

 
คุณ me2you คะ
เข้าใจว่า ท่านเพียงแต่รำพึงรำพันถึงสตรี ตามวิสัยกวีที่แต่งนิราศ น่ะค่ะ
นิราศ คือคำประพันธ์ที่แต่งเมื่อมีการจากพราก แต่หากมิได้จากกันจริงๆ ก็สามารถสร้าง "นาง" ในจินตนาการขึ้นมาได้ค่ะ
ซึ่งตรงข้อนี้ ท่านสุนทรภู่ได้เขียนชี้แจงไว้แล้ว ในคำกลอนตอนสุดท้าย ของนิราศภูเขาทอง ดังนี้ค่ะ

(พอดีกำลังอ่านหนังสือคำกลอนสุนทรภู่อยู่พอดีค่ะ)


๏ ประทับท่าหน้าอรุณอารามหลวง
ค่อยสร่างทรวงทรงศีลพระชินสีห์
นิราศเรื่องเมืองเก่าของเรานี้
ไว้เป็นที่โสมนัสทัศนา
ด้วยได้ไปเคารพพระพุทธรูป
ทั้งสถูปบรมธาตุพระศาสนา
เป็นนิสัยไว้เหมือนเตือนศรัทธา
ตามภาษาไม่สบายพอคลายใจ
ใช่จะมีที่รักสมัครมาด
แรมนิราศร้างมิตรพิสมัย
ซึ่งครวญคร่ำทำทีพิรี้พิไร
ตามนิสัยกาพย์กลอนแต่ก่อนมา

เหมือนแม่ครัวคั่วแกงแพนงผัด
สารพัดเพียญชนังเครื่องมังสา
อันพริกไทยใบผักชีเหมือนสีกา
ต้องโรยน่าเสียสักหน่อยอร่อยใจฯ

๏ จงทราบความตามจริงทุกสิ่งสิ้น
อย่านึกนินทาแกล้งแหนงไฉน
นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ
จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอย






โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:18:03:42 น.  

 
ยาวมากๆ แต่ขอบอกว่า อ่านจบนะครับ อยากถ่ายรูปแล้วออกมาดูดีอย่างพี่จัง
คงต้องใช้เวลาศึกษา+กล้องมีราคา ใช่มั้ยอ่ะ
แล้วไอ้คุณ เจ้าแสนโก้ กับเจ้าแสนสาม เนี่ยมันคือใครอ่ะครับ อ่านไป ก็งงไป


โดย: Ultra_Mania วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:18:27:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ Ultra_Mania
ไม่สำคัญว่าต้องเป็นกล้องแพงมากหรอกค่ะ
บางทีมันอยู่ที่การปรับตัวของเราให้เข้ากับกล้องของเราเป็นสำคัญน่ะค่ะ

ภาพชุดนี้เป็นชุดเดียวที่ข้าพเจ้าใช้กล้อง dslr กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ มาถ่ายอ้ะค่ะ
ปรกติใช้กล้องคอมแพคธรรมดา
ตัวหนึ่งคือ แสนโก้ ซึ่งหมายถึงกล้อง Ricoh Caplio G4 Wide
อีกตัวคือ แสนสาม Konica Minolta Dimage Z3 ซึ่งทั้งสองตัวราคาตัวแรกราวๆ หนึ่งหมื่นบาท ตัวที่สองก็ราวๆ หมื่นต้นๆ ค่ะ (ซื้อมือสองมาอ้ะ)

จริงอยู่ภาพจาก DSLR จะค่อนข้างสวย (แต่ภาพชุดนี้ ให้คนที่ถ่ายภาพเก่งๆ ดูแล้ว เขาบอกว่า ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะน่ะค่ะ) แต่หากเรามีกล้องอะไร แล้วเราใช้ให้เต็มที่ บางทีก็อาจจะได้ภาพที่ดีกว่านี้น่ะค่ะ

ภาพสวยอีกประการ ก็ขึ้นกับมุมมองของคนถ่าย แล้วก็มุมกล้องของวัตถุที่ถ่ายด้วยน่ะค่ะ ดังนั้นจินตนาการของคนถ่ายภาพก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ หากเราไม่มีมุมมองเป็นของตัวเอง ภาพที่ถ่ายแม้จะใช้กล้องดีเลิศหรือแพงเป็นแสนอย่างไร ก็อาจจะถ่ายภาพไม่ดีเท่าคนใช้กล้องคอมแพคท์ราคาไม่ถึงหมื่นก็ได้ค่ะ

แต่เห็นด้วยเรื่องที่ต้องใช้เวลาศึกษาและปรับตัวให้เข้ากับกล้องตัวเองค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ วันหลังมาออกทริปถ่ายรูปด้วยกัน เพื่อได้แลกเปลี่ยนมุมมองในการถ่ายภาพกันค่ะ



โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:19:09:10 น.  

 
รู้สึกเหมือนคุณแอนเป็นหนังสือ
ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนไว้
ให้ติดตามอ่านอยู่เสมอนะคะ


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:19:44:57 น.  

 
รู้สึกเหมือนคุณแอนเป็นหนังสือ
ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนไว้
ให้ติดตามอ่านอยู่เสมอ

ขอให้มีความสุข
และเก็บความทรงจำดีๆ ไว้นะคะ


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:19:49:44 น.  

 
... นั่งรอดูรูปอยู่ใน pantip นาน ไม่เห็นเลย หายไปไหนหนอ... แอบมาจับกล้องใหญ่ซ้อมมืออยู่นี่เอง... จะกล้องอะไรก็แจ่มเหมือนเดิม เพราะฝีมืออยู่กะตัวนะครับ...


โดย: Dong (kirdchuchuen ) วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:20:33:12 น.  

 
ว่างๆอยากไปร่วมทริปกะพี่แอนมั่งจัง คงได้ความรู้เรื่องกล้องขึ้นโขเลย


โดย: tenz วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:21:49:49 น.  

 
รูปสวยสุดๆ ...สวยจนไม่รู้จะพูดยังไง

วันนี้มาฟังคุณมาหยาคุย ยาวๆ
อ่านจบนะคะ
อ่านแล้ว รู้สึกดีค่ะ


โดย: แครอทเค้ก วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:21:53:55 น.  

 
นั่นสินะ

ภาพไม่เห็นสวยเลย.......ต้องปรับปรุงอีกเยอะนะ.....


โดย: รู้สึกแปลก วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:22:02:32 น.  

 
ยิ่งถ่ายรูป ยิ่งถ่ายได้สวยขึ้นนะ

อิจฉาๆๆๆๆๆ



โดย: แง้วศักดิ์ IP: 61.91.160.39 วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:22:40:48 น.  

 
ภาพใบไม้มองเห็นใยแมงมุมเลยอะคะ

เคยไปเที่ยวอนุเสาวรีย์สุนทรภู่สมัยเป็นเด็ก ๆ รู้แต่ว่ามันร้อนจริง ๆ เลย
แล้วก็เคยประกวดตกแต่งบอร์ดวันสุนทรภู่ สมัยเรียนตอนมัธยม ได้ที่ 3 มา อิอิ

ไม่มีความรู้เรื่องกล้อง แต่เรากะสามีกะว่าจะซื้อกล้องแพง ๆ ซะตัว ประมาณก่อนกลับเมืองไทย มีรู่นไหนแนะนำไหมเอ่ย

ที่บ้านไม่มีกาแฟแบบไม่มีคาเฟอีนเหรอคะ จะได้ช่วยให้มือไม่สั่นงัย


โดย: Angel Tanya วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:23:13:02 น.  

 
อิอิ มาตอบตอนเลขสวยพอดี 4040
(ปร้าแอนบ้าเลขสวยอ้ะค่ะ ฮี่ๆๆ)

สวัสดีค่ะ ทุกๆ ท่านที่ผ่านเข้ามาคุยกัน

คุณป้าติ๋ว (nature-delight ) คะ
- ขอบพระคุณคุณป้าที่แวะมากระทู้แอนค่ะ ขอให้คุณป้ามีความสุขมากๆ เช่นกันค่ะ

คุณ Dong (kirdchuchuen )
- แง้วๆ ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปถ่ายรูปที่ไหนเลยน่ะค่ะ งานสุมหัวพันตัวยุ่งไปหมด (แต่ก็แอบอู้มาอัพบล็อกบ่อยๆ ฮี่ๆ) เลยต้องเอาภาพเก่าที่เคยถ่ายไว้มาโพสต์แทน ทีนี้เลยไม่กล้าไปโพสต์ที่ห้องกล้องเลยอ้ะค่ะ เดี๋ยวเค้าจำได้ แหะๆ

คุณ tenz
- มาเลยค่ะ ถ้ามีทริปมาร่วมทริปด้วยกันเลย แต่ว่า อาจจะไม่ได้ความรู้เรื่องกล้องเพิ่มขึ้นนะคะ แต่รับรองว่า จะได้เพื่อนใหม่แล้วก็เทคนิคแปลกๆ ของแต่ละคนกลับไปแน่นอนค่ะ อิอิ

คุณแครอทเค้ก
- ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาอ่านบล็อกของมาหยา ดีใจมากๆ เลยค่ะ ที่อ่านแล้วมีความสุข อิอิ

คุณ รู้สึกแปลก
- แน่ะ แน่ะ คนถ่ายรูปเก่ง อิอิ

พี่แง้วศักดิ์
- ขอบคุณมากๆ เลยค่ะพี่ ที่แวะมาเยี่ยมบล็อกแอน คิดถึงๆๆ ค่ะ


อิอิ จะหนีไปนอน หรือจะอัพบล็อกต่อดีเนี่ย แง้วๆ



โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:23:13:57 น.  

 
อ้าว เพิ่งเห็นคุณ Angel Tanya

สวัสดีค่ะ เรื่องกล้องต้องถามว่า มีงบประมาณเท่าไร และอยู่ประเทศไหนอ้ะค่ะ

เพราะบางประเทศ บางทีกล้องก็แพงกว่าบ้านเรา

อีกอย่าง คุณจะซื้อกล้องคอมแพคท์ หรือ DSLR หรือ กล้องแบบไหนอ้ะคะ

แหะๆ จริงๆ คือ ถ้าไปถามที่ห้องกล้อง อาจจะมีคนที่รู้จริงๆ กว่ามาหยามาตอบอ้ะค่ะ

จริงๆ เรื่องอุปกรณ์มาหยาไม่ค่อยรู้อะไรกับเขาเท่าไรเลยค่ะ

เดี๋ยวบอกผิดๆ ไปจะลำบากอ้ะค่ะ

กาแฟที่แอบดื่ม คือกาแฟเป็นกล่องๆ อ้ะค่ะ แหะๆ ไม่ได้ชงเอง ตอนนี้หายใจสั่นแล้วค่ะ ใช้วิธีดื่มน้ำตามลงไปให้เยอะที่สุด แหะๆ แล้วก็ดีขึ้นมาเยอะเลยค่ะ



โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:23:18:44 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาชมภาพสวยๆ พร้อมกับบท
กลอยแสนเพราะ ชอบภาพที่คุณมรกตฯ ถ่ายมากเลย เคยเห็นที่
ห้องกล้องค่ะ เคยไปแอบดูบ่อยๆ
นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: journey (thai_friends ) วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:23:45:34 น.  

 
แวะมาเป็นกำลังใจ ให้นะครับ.....

ยังไงก้อ อย่าลืม กระดาษอีกใบนะครับ

ที่ตั้งใจเอาไว้น่ะ.....



โดย: APEC IP: 210.213.41.162 วันที่: 29 มิถุนายน 2548 เวลา:0:52:29 น.  

 
หวัดดีครับ...ตอนนี้หายดีแล้ว..เลยมีกำลังวังชามานั่งดูรูปสวยๆตามเคย...

เรื่องของเพื่อน...ผมว่าถ้าเพื่อนที่ click กันแล้ว..ต่อให้หายไปนานแค่ไหน..กลับมาคุยกันใหม่ เจอกันอีกที..ยังไงๆ มันก็ยัง ต่อกันติด เหมือนเดิมแหละครับ...แค่พลาดวันเกิดไปวันเดียวหรือกี่วัน...มันก็ไม่เป็นปัญหาร๊อก..เชื่อโผมมมมม....


โดย: กุมภีน วันที่: 29 มิถุนายน 2548 เวลา:9:22:45 น.  

 
ดีใจจังเลย มีรูปป้ามดด้วยละ
เอาเพลงมาฝากไว้ฟังเวลาเหนื่อยๆค่ะ
I Only Have Eyes For You


โดย: ป้ามด วันที่: 29 มิถุนายน 2548 เวลา:9:57:55 น.  

 
แปลกใจมาก ช่วงนี้สงสัยจังว่าทำไม มาหยาจึงใช้ blog ถี่มากกว่าที่เคยเห็น..

มันก็แค่แปลกใจน่ะครับ มันเป็นิสัยที่ติดตัวมากนานแล้ว เห็อะไรผิดปกติก็มักจะทักทวงออกไปตรงๆ (หรือว่าเมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้)


โดย: merf1970 วันที่: 29 มิถุนายน 2548 เวลา:11:54:57 น.  

 
เห็นว่ามีการพาดพิงถึงผม

นั่งคิดอยู่ทั้งวัน ว่าจะตอบหรือไม่ตอบดี

เอาเป็นว่าตอบแล้วกัน
ที่ต้องลบ msn ก็เพราะว่า
ผมกลัวว่า เวลาที่ผมไม่พอใจ หรือน้อยใจขึ้นมา ผมจะ block แล้ว delete ไปด้วยอารมณ์ขณะนั้น
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผมอย่างนั้น น้องแมวคงไม่เห็นผม online อีกเลย
ผมจึงตัดสินใจ delete โดยไม่ block
เพราะอย่างน้อย น้องแมวยังมองเห็นผมอยู่
แล้วทำไมผมต้อง delete น้องแมว
เพราะบางวันที่น้องไม่ online ผมก็คิดไปต่าง ๆ มากมาย
ไม่ว่าจะไปไหน , ไปกับใคร
แล้วผมก็หงุดหงิดเอง ไม่มีสมาธิที่จะทำงาน
มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ผมได้รับรู้โดยตลอดว่า น้องแมวไปไหน , ไปกับใคร
ผมก็ไม่เคยห้าม
จนในช่วงหลัง น้องแมวก็เริ่มปิดบัง

แล้วผมควรจะทำอย่างไร?

ไม่ลงรายละเอียดล่ะครับ น้องแมวคงเข้าใจ
และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเล่าให้ใครฟัง โดยเฉพาะในที่สาธารณะ แบบนี้

น้องแมวครับ
จำวันที่ไปดูหนังแล้วต้องเดินเข้าบ้านคนเดียวได้มั้ยครับ
แล้วหลังจากนั้น เรื่องราวในวันนั้นก็เป็นประเด็นใน web

นี่เรากำลังทำแบบนั้นกันอยู่หรือเปล่า ?

ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่รับการติดต่อจากน้องโดยตลอด ทั้งที่พี่เองก็ลบออกไปตั้งนานแล้ว
น้องโทรมาพี่ก็รับ ถ้าไม่ได้รับพี่ก็โทรกลับเสมอ
ถ้าน้องแมวจะแปลว่า พี่ได้ตัดทุกๆ อย่างขาดไปจากหนูแล้วจริงๆ ก็ตามใจน้องนะครับ
น้องเองก็รู้อยูแล้วว่าพี่มีวิธีคิดที่ไม่เหมือนใคร.

สุดท้าย
ไม่ว่าจะได้คุยกันอีกหรือไม่ก็ตาม อย่าไปข้องเกี่ยวกับ แอลกอฮอล์ อีกนะครับ
และ เหตุที่ต้องมาอยู่ กทม. สำเร็จผลให้ได้นะครับ


โดย: พี่หมอนเอง IP: 61.91.120.69 วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:0:23:00 น.  

 
ไม่มีเวลาอ่านค่ะ เข้ามาหางาน บังเอิญมาเจอบล๊อกของคุณเข้า ชอบมากค่ะ อยากทำความรู้จักแต่ไร้ซึ่งโอกาส
ถ้ามีเวลาก็แอดเมลมาบ้างนะคะ
Infinity_7774@hotmail.com
ยินดีกับมิตรภาพดีดี


โดย: ขลุ่ยไม้ไผ่ IP: 203.113.61.231 วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:0:54:16 น.  

 
นิราศของท่านสุนทรภู่เพราะมากค่ะ


โดย: สกาย IP: 125.26.14.200 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:10:26:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

มรกตนาคสวาท
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




มายาแห่งมาหยา

ยินดีต้อนรับ...

สู่

บล็อกคนชอบถ่ายรูปฝีมือธรรมดาๆ
หน้าตาไม่ดี นิสัยไม่ดี
งานเยอะ ไม่มีเวลาพูดเล่นกับใคร
ไม่ประสงค์จะสนิทสนมกับคนแปลกหน้า




ผีเสื้อ
ชรัส เฟื่องอารมณ์



.....ผีเสื้อตัวน้อยน้อย
บินล่องลอยกลางพนาไพร
โผผินร่อนบินระเริงใจ
คลุกเคล้าดอกไม้ใจชื่นบาน



แสงแดดยามสายสาย
งามพร่างพรายต้องสายธาร
ฉาบทองเมื่อมองแสนตระการ
ผีเสื้อสุขสราญนะเจ้าเอย



***...ท้องฟ้าสีอำพัน
ผีเสื้อสุขสันต์มากเหลือ
เจ้าไม่คิดไม่ต้องหวัง
ดอกไม้ยังกูลเกื้อ
แสงแดดจุนเจือชีวี...



...อยากจะเป็นผีเสื้อตัวน้อย
บินล่องลอยเสรี
สีสันดุจอัญมณี
สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ



***...ท้องฟ้าสีอำพัน
ผีเสื้อสุขสันต์มากเหลือ
เจ้าไม่คิดไม่ต้องหวัง
ดอกไม้ยังกูลเกื้อ
แสงแดดจุนเจือชีวี...



...อยากจะเป็นผีเสื้อตัวน้อย
บินล่องลอยเสรี
สีสันดุจอัญมณี
สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ

... สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ...




เพลงผีเสื้อ




งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มาของข้อความ:เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา







New Comments
[Add มรกตนาคสวาท's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com