Group Blog
 
 
มิถุนายน 2562
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
25 มิถุนายน 2562
 
All Blogs
 
ความอร่อยทั้งหมด ของทริปแรกในปี 2019 ส่วนแรก

     ทริปแรกของปี 2019 ของเราเกิดขึ้นโดยมีระยะเวลาเตรียมตัวไม่ถึงเดือน เป็นทริปที่ต้องไปทำงาน และเที่ยวไปในตัว มีนายทั้ง 3 เป็นผู้สนับสนุนอย่างลับๆ ในบางส่วน 555

     ระยะเวลา 13 วัน 3 เมือง 2 ประเทศ เหมือนจะน้อย แต่ก็เยอะ และเหมือนจะได้เที่ยวอย่างเพียงพอ แต่ก็ไม่... พอคิดอย่างนี้ คำพูดนายก็แว๊บเข้ามาในหัว "ถ้าอยากเที่ยวอีก ก็เก็บเงินเที่ยวเองนะ" เลยเสพสุขจากเวลาที่มีอยู่ให้มากที่สุด และเก็บเกี่ยวความทรงจำมาเขียนลงไดอารี่อาหารของตัวเอง :]
(หมายเหตุ : ช่วงที่เราไป เรทที่แรกเป็น USD 1 = 31.42 และ 1 บาท = 0.027 won ค่ะ)
 
     เริ่มต้นความอร่อยเลยดีกว่า 450


259 06 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : บนเครื่องบิน (BKK-ICN) / เวลา XXX (จำไม่ได้ 555)

     ขณะที่กำลังสลึมสลือได้ที่ คุณแอร์ก็มาถามคนข้างๆว่าจะรับเมนูอะไรดีสำหรับมื้อเช้า ความหิวทำให้เราตาสว่างทันที เสียดายที่เรานั่งท้ายๆลำ เมนูที่เหลือถึงเรา เลยมีแค่ Omelette...
  • ออมเล็ต ไส้เป็นมะเขือเทศสับผัดรวมกับหัวหอม สำหรับเราจะเลี่ยนๆนิดนึง ตัวไข่จืดๆ
  • ไส้กรอก เหมือนไส้กรอกตามบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าโรงแรมเลยยยย กรอบๆ เด้งๆ
  • มันบด ก้อนสี่เหลี่ยมล่างไส้กรอก คือ มันบดค่ะ อันนี้ก็เลี่ยนๆเช่นกัน เลยต้องตัดเลี่ยนด้วย บล็อคโคลี่ลวกและมะเขือเทศสด
  • น้ำส้ม รสชาติเหมือนน้ำส้มกล่องทั่วๆไป แต่ของที่นี่ไม่มีเนื้อส้มใส่มาให้ค่ะ
  • ผลไม้ มีแคนตาลูปสีส้ม มะละกอ แอปเปิ้ล ก็สด หวาน กรอบ ของผลไม้ตามเครื่องบินปกติเลย


259 06 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : บนเครื่องบิน (ICN-NYC) / เวลา XXX (จำไม่ได้เหมือนเคย)

      มื้อนี้เราพลาดทานพร้อมผู้โดยสารคนอื่นบนเครื่อง เพราะช่วงที่เสริฟอาหารเราหลับแบบไม่ไหวแล้ว ถ่างตาไม่ไหวแล้ว พอตื่นมาเลยเจอโน้ตจากคุณแอร์แปะอยู่ ซึ่งตอนนั้นคุณแอร์เคลียร์ถาดอาหารของผู้โดยสารคนอื่นไปแล้ว ทุกคนกำลังพักผ่อนกันต่อ ด้วยความเกรงใจเลยไม่ได้เรียกคุณแอร์ให้นำเครื่องดื่ม หรืออาหารมาเสริฟ แต่... เพอร์เซอร์เดินมาจากไหนไม่รู้ค่ะ พุ่งเข้ามาส่งภาษาเกาหลีรัวๆ จนต้องทำท่าปางห้ามญาติ แล้วถามเค้ากลับเบาๆว่า "Can you speak English" สื่อสารกันได้อย่างราบรื่นแล้ว ก็ได้ของอร่อยมาค่ะ มื้อนี้ปลื้มมากกกกกกก เป็น Ssambap (Ssambap ซัมบัพ เป็นพวกเนื้อ/ผักห่อข้าวค่ะ) ของโปรด!!!

โน้ตที่คุณแอร์มาแปะไว้ให้ ใจความ คือ
"แฮปปี้กับการนอนแล้ว ถ้าอยากแฮปปี้กับมื้ออร่อย ก็เรียกได้เลยน๊าาาา"
เราแปล และมาบอกต่อด้วยอารมณ์งุ้งงิ้งของตัวเองนะคะ 555

  • เริ่มจากฝั่งบนซ้ายมือ... คือ กิมจิค่ะ ที่เราเอามาเทลงชามแล้ว 555 กิมจิเปรี้ยวกำลังดี ไม่เค็มมากค่ะ น้ำน้อยด้วย
  • ถัดมา... ก้อนเหลืองๆ คือ ไข่หวานที่ม้วนมาพร้อมสาหร่าย รสชาติหวานนิดหน่อย เย็นๆ แต่ของอร่อย คือ สิ่งที่อยู่ข้างๆค่ะ!!! สิ่งที่เหมือนน้ำพริกนั้น เราขอเรียกว่า 된장 (เทวนจัง) หรือเต้าเจี้ยวเกาหลีค่ะ อันนี้เหมือนจะปรุงมาเพิ่มแล้วนิดหน่อย รสจะเค็มๆ กลมกล่อมกำลังดี ไม่มีสัมผัสถั่วเป็นเม็ดๆเลย แต่มีกระเทียมสับหยาบแทน คนไม่ทานพวกกระเทียม หอมแบบเรา เสียเวลาเขี่ยนานมากกกก แต่อร่อยจริงๆค่ะ
  • ถัดมาอีกนิด เป็นซุปมิโสะค่ะ รสกำลังดีบอกไม่ถูก ซดแล้วคล่องคอดีค่ะ
  • แถวล่างขวามือ... แน่นอนว่าเป็นพระเอกของเมนูนี้ ข้าวกับหมูผัด (แต่จริงๆน่าจะเป็นเนื้อ เราไม่แน่ใจเหมือนกัน 555) ตัวหมูก็เค็มๆมีหวานปลายๆ กินกับข้าวนุ่มๆ
  • ตรงกลางงงงง ผักสดหลากหลายชนิด มาในชามเบ้อเหิ้ม (จริงๆเค้าแร็พไว้ให้นะคะตอนเสริฟ แล้วมาแกะผักออกเอง) คือ มื้อนี้เราแค่เอาผักมาห่อข้าว ใส่เทวนจัง แปะกิมจิ เข้าปาก ก็อร่อยแล้วแทบไม่ต้องแตะเนื้อเลยค่ะ ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว แต่ผักที่เกาหลีอร่อยจริงจัง อร่อยอย่างหาสาเหตุไม่ได้ 555
  • ถัดจากชามผัก เป็นต๊อกค่ะ ที่เกาหลีมีต๊อกหลายแบบมาก อันนี้เราเรียกเองว่า ต๊อกหวาน เป็นต๊อกหนึบๆ นุ่มๆ หวานๆ ข้างในเป็นถั่วแดงกวนค่ะ จริงๆก็คล้ายโมจินะคะ แต่เราว่าของเกาหลีจะเคลือบน้ำมันรัวๆเลย
  • แต่ถ้าใครไม่รู้ว่าเมนูนี้คืออะไร แล้วทานยังไง ทางสายการบินมีคู่มือมาให้ด้วยค่า (เราหมุนรูปไม่เป็น... ขอโทษด้วยนะคะ)


      หลังจากอิ่มอร่อยกับมื้อหนักแล้ว น่าจะบินต่อไปได้อีก 2 - 3 ชั่วโมง ก็เริ่มเสริฟของว่างค่ะ สารภาพเลยว่าเวลาอยู่บนเครื่องไม่ดูนาฬิกา หรือเวลาบนจอเลย จะดูแค่ระยะทางว่าเหลืออีกกี่ชั่วโมงจะถึง แล้วไปดูเวลาตอนออกจากตม.เอา 555
      เมนูของว่าง เป็นเหมือน Chicken Wrap เป็นแป้งเบอริโต้ห่อไส้ไก่สับผัดผงกะหรี่ มีมันฝรั่งกับหัวหอม ประมาณนี้ค่ะ (คล้ายๆที่เสริฟบนไทยสมายล์/การบินไทย/บางกอก แอร์เวย์ เหมือนกันค่ะ)
มื้อนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะกัปตันไม่ได้เปิดไฟในห้องโดยสาร จะเปิดไฟของตัวเองถ่ายก็เกรงใจคนข้างๆ เลยไม่ได้ถ่ายค่ะ

      ช่วงที่ใกล้ๆจะถึงนิวยอร์ค คุณแอร์ก็มาเสริฟอาหารอีกครั้ง คราวนี้เลือกเป็นข้าวผัดกิมจิค่ะ มาดูหน้าตาของมื้อนี้กัน
 
  • มาค่ะ เรียงจากซ้ายไปขวา แถวบนเหมือนเดิมนะคะ ผลไม้สดมื้อนี้เป็นแอปเปิ้ลล้วนๆค่ะ กรอบๆ หวานๆ รู้สึกไปเองว่ามีเค็มนิดๆ 555
  • ขนมปัง ไม่ได้แกะทาน แต่เดาว่าน่าจะ แข็งๆ เย็นๆ ร่วนๆ เหมือนขนมปังบนเครื่องปกติค่ะ
  • ชาร้อน รู้สึกจะไม่ใช่ชาเนสที 555 แต่หอมๆ เบาๆดีค่ะ
  • แถวล่างซ้าย โยเกิร์ตบลูเบอร์รี ถ้วยนี้ไม่ได้แกะ เลยไม่รู้ว่าอร่อยมั้ย...
  • ฟินาเล่ของเราก็ คือ ข้าวผัดกิมจีที่โปะชีสมานิดหน่อยกับไข่ดาว แบบไข่ดาว 7-11 บ้านเรา สรุปมื้อนี้เราทานไม่หมดค่ะ เพราะข้าวผัดเลี่ยนมาก ยิ่งมาเจอชีสยิ่งไม่ไหว ต้องพยายามความหาตัวกิมจิที่เค้าตัดมาชิ้นเล็กๆเพื่อตัดเลี่ยน แต่ก็หาไม่ค่อยเจอเลย T^T


259 06 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : The Dutch at New York / เวลา 19:30 น. / Link Website : https://www.thedutchnyc.com/

      ในที่สุดก็ถึงนิวยอร์คค่ะ หลังจากทรมานอยู่บนเครื่องมา 14 ชั่วโมงกว่าๆ ทันทีที่เหยียบนิวยอร์ค นายคนนึงของเราก็จัดการโทรจองร้านนี้ทันที พอไปถึงแล้ว ร้านมีกฎข้อ 1 ว่า ถ้าจองไว้ ต้องมาให้ครบจำนวนคนที่จองไว้ ถึงจะไปนั่งที่โต๊ะได้ค่ะ ร้านนี้คนแน่นมาก เพราะเค้ามีบาร์ด้วย แต่บาร์จะแยกไปอยู่ใต้ดิน ใครจะไปโทรจองไว้ก่อนนะคะ
  • นั่งปุ๊ป ยังไม่ทันได้สั่งอะไร ทางร้านก็มาเสริฟน้ำ เสริฟขนมปังค่ะ 
  • เจ้าก้อนๆ หน้าตาเหมือนขนมเค้ก นายเมกันของเราบอกว่า คือ ขนมปังข้าวโพดค่ะ ต้องรีบทานตอนอุ่นๆ แล้วปาดเนยจืดนิดๆ จะติดใจ เราก็ทำตามเลยค่ะ แล้วก็พบว่ามันเหมือนเค้ก มันไม่ใช่ขนมปัง! ใครนึกสัมผัสของเจ้าขนมปังข้าวโพดนี่ไม่ออก ให้นึกถึงตอนกินเค้กแครอทค่ะ แค่เจ้าขนมปังนี่เนื้อร่วนกว่า และมีความหวานจากข้าวโพดมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อร่อยมากกกก แย่งกันกิน ไม่สนใจขนมปังข้างๆเลย 555
  • เมนูแรกที่สั่งมาแล้วค่ะ (รูปไม่หมุนอีกแล้ว TT) จานนี้ คือ Eggplant dip with Savory Cracker (USD 15) จานนี้ตัวแป้งกรอบๆ ได้อารมณ์แบบนาโช่ ที่ไม่ได้ทำจากข้าวโพด เพราะทำจากอะไรเราก็ไม่รู้ 555 แต่เปรี้ยวด้วยเครื่องเทศที่โรยมากับ Savory ซึ่งเมกัน บอสบอกว่า เป็นเครื่องเทศที่ให้รสขมกับเผ็ด แต่กินๆไป คือ ได้แต่เปรี้ยวจริงๆนะคะ เจ้าแป้งเนี่ยจะกลมกล่อมขึ้นถ้าเราจิ้มดิ๊ปมะเขือม่วง ตัวดิปจะหวานๆมันๆขมๆ ติดเผ็ดปลายลิ้นนิดหน่อย ทานได้เรื่อยๆไม่เบื่อค่ะ
  • ออเดิร์ฟ มาเสริฟอีกจานแล้วววว เมนูนี้ ชื่อ American Burrata, Fried Green Tomato, Hot Pepper Jam (USD 24) นี่เป็นชื่อเมนูจริงๆค่ะ
  • ตอนเมนูนี้มาเสริฟ ทุกคนลืมว่าเป็นมะเขือเทศเขียว (เราทึกทักเองว่าเป็นมะเขือเทศดิบ) พอกินเข้าไปแล้วตกใจรสชาติกันไปตามๆกัน 555 คือ ร้านสไลด์มะเขือเทศมาหนากำลังพอดี แล้วคลุกแป้ง คลุกขนมปังป่นละเอียด ทอดกรอบ กัดปุ๊ป  กรอบกร๊วบ แต่ข้างในนิ่มๆ ได้รสเปรี้ยวๆมันๆ กินเดี่ยวๆก็ได้ หรือจะจิ้มซอสก็ได้ค่ะ
  • ซอสมาด้วยเนื้อสัมผัสแบบเจลๆ แยมๆ แต่จริงๆแล้วก็คือ น้ำจิ้มไก่ค่ะ หวานๆเผ็ดนิดหน่อย มีมะกอกมาให้ด้วย
  • มาถึงตัวสุดท้ายในจาน ชีสสสสสสส Burrata สำหรับเรา คือ ชีส ที่มันๆ เปรี้ยวบ้าง แต่หนึบๆ นุ่มๆค่ะ พอทานทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก็เข้ากันแบบแปลกๆดี 555
 



  • เมนูดาวเด่นมาแล้วค่ะ ชื่อเมนูว่า The Prince Platter (USD 145) มาอเมริกา โดยเฉพาะเมืองที่ติดทะเล ไม่สั่งพวกนี้ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวเรามาเรียงกันทีละชั้นเลย
  • ชั้นล่างสุด มีหอยนางรม หอยกาบ(?) กุ้งสด และล็อบสเตอร์ค่ะ มาพร้อมซอส 2 ชนิด ชั้นนี้เรากินไปแค่กุ้งเอง กุ้งตัวใหญ่ๆ เด้งสู้ฟัน ไม่ต้องราดซอสก็อร่อย จะมีความหวานของกุ้งเอง กับเค็มปะแล่มๆ ที่ไม่รู้ว่าเค็มจากน้ำทะเล หรือเกลือที่โรยมาในน้ำแข็ง 555
  • ชั้นกลาง มีหอยนางรม คิงแครบ และซอส 3 ชนิดค่ะ แน่นอนเรากินแต่คิงแครบ 555 โดยส่วนตัวแล้ว ปูที่นี่ยังไม่โดนเท่าไหร่ แต่พอบีบเลมอนใส่แล้วฟินดีค่ะ
  • ชั้นบน มีหอยเชลล์ และไข่หอยเม่น ราดซัลซ่ามา ชั้นนี้ไม่ได้แตะเลยค่ะ
  • สรุป จากคนไม่กินหอยแบบเรา แต่แอบฟัง นายทั้ง 3 คุยกัน ก็ได้ใจความมาว่า เมนูนี้ ที่ร้านให้หอยเชลล์มา 4 ชนิด ความใหญ่ของตัวหอยนั้นเรียกว่าระดับกลางๆ ก็สด แต่ไม่ว๊าว ไปกินที่คอนเนคติคัต หรือบอสตันฟินกว่า... เราก็ตามนั้นค่ะ 555
  • พระเอกของเรามาแล้ววววว นี่คือ Hot Fried Chicken Honey Butter Biscuits and Slaw (USD 33) จริงๆร้านนี้ มีสั่งออเดิร์ฟ เมนูหลัก และของหวานอีกหลายจาน แต่ลืมถ่ายมา เลยไม่ขอพูดถึงนะคะ
  • จานนี้ เป็นการรวมตัวกันของไก่ทอด Mc บิสกิต Texas และ Slaw ตามร้านสเต็ก แต่... ติดเค็มทุกอย่างเลย บิสกิตยังเค็มเลยค่ะ หวานน้ำผึ้งแค่นิดเดียว สลอวมีเผ็ดติดลิ้นมานิดนึง จานนี้มาใหญ่มากด้วย แบ่งกันทาน 5 คน ยังเกือบไม่หมด (ทุกคนโดนเมนูอื่นตัดกำลังไปแล้ว 555) ถ้าใครอยากลองการรวมตัวกันของความเค็ม ก็สั่งมาทานได้ค่ะ
  • ร้านนี้ เค้าคิดทิปที่ 18% ขั้นต่ำนะคะ สำหรับ 4 ท่านขึ้นไป แต่อันนี้นายให้ไป 20% ของค่าอาหารทั้งหมดค่ะ


259 07 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Jack's Wife Freda (West Village Branch) at New York / เวลา 10:00 น. / Link Website : https://jackswifefreda.com/about/
 
      เช้านี้ ไปทานกันที่ร้าน Jack's Wife Freda ค่ะ ร้านนี้มีด้วยกัน 3 สาขา มาถึงต้องรอคิวประมาณ 3-4 คิว เลยได้เข้าไปนั่งช่วง 10 โมงเช้าค่ะ ร้านนี้ทุกคนเป็นมิตร และมีความกระตือรือร้นสูงมากค่ะ ไปดูเมนูที่เราสั่งกัน
  • ชื่อว่า Chicken Prego with Fries (USD 15) จริงเลือกเป็นสลัดก็ได้นะคะ ไม่ต้องเลือกเฟรนช์ฟราย ตัวสลัดจะเป็น Watercress ราดบัลซามิกค่ะ
  • เป็นเบอร์เกอร์อกไก่ ที่อกไก่ไม่แห้งเลย ย่างมาหนึบๆ รู้สึกถึงความฉ่ำนิดๆ ตัวไก่จะเค็มเกลือหน่อยๆ พร้อมหอมแดงกับวอเตอร์เครสค่ะ ราดซอสวูตเตอร์มาให้เพื่อตัดรส จะออกเปรี้ยวๆเค็มๆ โดยรวมเข้ากันดีมาก
  • เฟรนช์ฟราย ชิ้นใหญ่ๆ กรอบนอก นุ่มใน ทานเปล่าๆก็ดี จิ้มซอสมะเขือเทศก็ได้ แต่อันนี้เราไม่ได้กินหมดค่ะ นายเป็นห่วงสุขภาพ เลยให้หยุดกินหลังจากหยิบเข้าปากไป 4-5 ชิ้น T^T


259 07 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : L.A. Burdick Chocolates at New York / เวลา 11:40 น. / Link Website : https://www.burdickchocolate.com/

      จบของคาว เราก็ต้องล้างปากด้วยของหวานกันค่ะ เดินออกมาจากร้านอาหารเช้าสักหน่อย ก็จะเจอร้าน L.A. Burdick Chocolates ค่ะ ร้านนี้จะขายแต่เมนูช็อคโกแล็ตเป็นหลัก เราเลือกสั่งเป็นเครื่องดื่ม และขนมมา ซึ่งดีต่อใจมากๆ
  • เริ่มกันที่เครื่องดื่ม เราสั่งเป็น Spicy Hot Chocolate Small Size (USD 5.50)  มาค่ะ หน้าตาก็จะประมาณนี้ เป็นฟองนมและฟองช็อคโกแล็ต โรยด้วยผงโกโก้และพริกป่น ที่ป่นมาละเอียดมาก คือเป็น Chilli Powder เลยค่ะ
  • กลิ่นก็จะขมๆหอมๆของช็อคโกแล็ต มีกลิ่นพริกพอให้รู้ว่านี่เผ็ดน๊าาาา
  • จิบคำแรก ถึงกับร้อง หื๊ม เลยซดเข้าไปอีกสองอึกใหญ่ๆ เหยยยย คือ ชงมาเข้มข้นมาก ตัวช็อคโกแล็ตจะหนืดๆนิดนึง แต่ไม่หนืดคอนะคะ คือ ดื่มลื่นคอเลย มีความขมของดาร์คช็อค ขมจนแอบเปรี้ยวนิดๆ พอกลืนลงคอก็จะรู้สึกถึงความเผ็ดหน่อยๆในคอ ไม่ได้เผ็ดแบบแสบปาก แสบลิ้นนะคะ แต่เผ็ดในคอให้รู้ว่า "ฉันก็แซ่บนะเธอ" 555
  • ต่อกันด้วยของหวานค่ะ เราสั่ง Chocolate Raspberry Cake (USD 5.75) มา เวลามาประเทศที่เค้าหนาวกว่าเรา จะชอบสั่งพวกขนมที่มีส่วนผสมของผลไม้ตระกูลเบอรร์รี่ทุกทีเลยค่ะ มีความรู้สึกว่าอร่อย ฟิน กว่ากินในไทย (แต่ของที่บ้านเราก็ดีนะคะ ไม่ใช่ไม่ดี)
  • ตัวเค้กจะแบ่งเป็นชั้นๆ แต่แทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง เพราะละลายในปากทุกชั้น แต่จริงๆแล้วตัวเนื้อเค้กจะค่อนข้างแน่น ขมดาร์ค ช็อคโกแล็ต ต่อมาเป็นช็อคโกแล็ตผสมราสเบอร์รี่จะเปรี้ยวๆหวานๆ เนื้อจะเนียนๆ ส่วนบนสุดเหมือนเป็นมูส ผสมฟัดจ์ ผสมหน้านิ่ม แบบบอกไม่ถูก แต่โดยรวม อร่อย ฟิน แบบอยากให้มีอย่างนี้ที่บ้านเราบ้าง 66


259 07 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : TORO at New York / เวลา 19:00 น. / Link Website : https://www.toro-nyc.com/menus

      มื้อเย็น เราไปกินแถวๆริมแม่น้ำฮัดสัน ชื่อร้าน TORO เป็นภาษาสเปน แปลว่า วัว ค่ะ ทางเข้าร้านจะคล้ายๆงวงช้าง เวลาเราขึ้นเครื่องบิน ก็แปลกๆดีค่ะ แต่ร้านคนเยอะมาก ต้องโทรจองล่วงหน้าค่ะ (อีกแล้ว) โดยส่วนตัวเคยลองทานอาหารสเปนที่ร้าน Taburete ตรงศาลาแดง กับเรียนกับเชฟมานิดหน่อย บางอย่างถูกปาก บางอย่างก็ไม่โดนจริงๆค่ะ เดี๋ยวจะมาดูว่าร้านนี้ถูกใจจานไหนบ้าง 69
  • ออเดิร์ฟจานแรก คือ Paleta Iberico de Cinco Jotas (USD 28) เค้าเอาแฮมสไลด์บางๆ รสเค็มๆ ตัดความเค็มด้วยสลัดน้ำขลุกขลิก โรยชีสและบิต เบค่อน เป็นเมนูที่เรียกน้ำย่อยได้ดีมากๆ 
  • ออร์เดิร์ฟที่ 2 ที่ร้านมาเสริฟ เป็นกับแกล้มฮิตของสเปน ชื่อ Pimientos de Padron (USD 10) มีรสเค็มเกลือ หวานจากตัวพริก ไม่เผ็ด แต่เหม็นเขียวพริกนิดหน่อยค่ะ แต่กินเพลินมาก แกล้มเบียร์ แกล้มเหล้าก็ดี คล้ายๆกินถั่วแระญี่ปุ่นต้มโรยเกลือประมาณนั้นเลยค่ะ 
  • ชื่อเมนูยาวมากกกก Burrata with Pickled strawberry couils, Green Apricots, Boquerones & Garlic (USD 13) เป็นชีสค่ะ รสไม่เค็มมาก เสริฟมาคู่กับซอสสตอรเบอร์รี่ (อันสีแดงๆ) และพวกผักต่างๆ จานนี้เราชิมไปแค่ชีสจึ๋งนึง และไม่ได้แตะอีกเลย เลยบอกอะไรมากไม่ค่อยได้ค่ะ 555
  • ออเดิร์ฟ อีกเมนู ที่เป็นเมนูที่เราชื่นชอบมาแล้วค่า จานนี้เป็นตับไก่บด เสริฟมาพร้อมกับหนังไก่กรอบ ชื่อเมนูเรียกยากว่า Higado de Pollo (USD 15) แน่นอนว่าไม่สามารถออกเสียงได้ถูก ก็ใช้วิธีจิ้มไปค่ะ แล้วพนักงานที่เป็นสเปน (รึป่าวไม่แน่ใจ แต่น่าจะเป็นทางฝั่งอเมริกาใต้) จะทวนชื่อเมนูให้เราเองค่ะ 555
  • เมนูนี้ตับไก่บดมาเนียนมากกกกกกกกกก เนื้อเนียนละเอียดเป็นมูสเลยค่ะ ที่สำคัญไม่เหม็นคาว! ได้รสตับเต็มที่เหมือนเค้าปรุงโดยใส่แค่เกลือ พริกไทยเองค่ะ พอทานคู่กับหนังไก่กรอบๆบางๆ ไม่อมน้ำมัน มีรสเครื่องเทศนิดๆแล้วฟินมากกกกก
  • ไม่พอ ถ้าเรารู้สึก เฮ้ เลี่ยนอ่ะ เค็มแล้วนะ ทางร้านเค้าก็มีมะเขือเทศดองเปรี้ยวจี๊ด มาตัดรสให้เราด้วยค่ะ
  • ทานกับขนมปังก็อร่อย ทานกับอะไรก็อร่อยไปหมดเลย ใจจริงอยากห่อกลับไทยมาก แต่ทำไม่ได้ ก็ต้องพึ่งตับไก่บดตามซูเปอร์ไปก่อน...
  • มาถึงเมนูหลักกันแล้วค่ะ กับกุ้งตัวโตๆ ในเมนู Gambas al Ajillo (USD 18)
  • ในจานมีกุ้งมาให้ 6 ตัวค่ะ ก็จะหวานเนื้อกุ้ง เค็มๆซอสที่คลุกเคล้ามา กุ้งจะเด้งๆ กรึบๆ ถ้ามีข้าวสวยร้อนๆให้คงจะฟินกว่านี้ค่ะ 555
  • ใครสายเป็ด มาทางนี้ค่ะ นี่คือ Pato (USD 15) น่องเป็ดรมควันชิ้นใหญ่ๆ ที่เสริฟมาให้ 2 น่องด้วยกัน
  • จานนี้เราชอบตัวซอสที่ราดมา ให้อารมบัฟฟาโล่วิงดีค่ะ 555 เผ็ดๆ เปรี้ยวๆ เค็มๆ แบบบอกไม่ถูก แต่ตัวเนื้อเป็ด เราว่าแข็งไปหน่อย ถ้าคนที่ฟันไม่ดี ไม่เคี้ยวยาก ก็เคี้ยวนานมากเลยค่ะ
  • มาถึงเมนูแบ่งกันกิน ที่ไม่สามารถถ่ายออกมาให้ดูสวย น่ากินได้เลย 75 จานสุดฮิตของสเปน (ฮิตรึป่าวไม่แน่ใจ แต่เมนูนี้จะได้ยินบ่อยมากกกก) Paella Mixta (USD 42) หรือข้าวผัดสเปนค่ะ
  • เม็ดข้าวของเค้าจะออกรีๆ กลมๆ กรุบๆ นิดหน่อย แต่ไม่ใช่ไม่สุกนะคะ ซึ่งเมนูนี้ใช้เวลาในการทำนิดหน่อย เพราะต้องเคี่ยวไปเรื่อยๆจนกว่าน้ำสต็อคจะงวดไปค่ะ
  • ของร้านนี้เค้าจะใส่กุ้ง หอยแมลงภู่ หอยตลับ(?) ไส้กรอกสเปน (ที่รสสัมผัสแบบกุนเชียง แต่ออกรสเปรี้ยวเหมือนแหนม 555)
  • ส่วนตัวไม่เคยถูกจริตกับเมนูนี้เลย ไม่ว่าจะกินกี่ครั้งก็ตาม เพราะรู้สึกว่าเลี่ยนๆ มันๆ เค็มๆ ถ้าไม่ระวังก็จะรู้สึกสำลักความเผ็ด คือ บอกไม่ถูกจริงๆค่ะ ต้องไปลองกันเอง
  • ปิดท้ายด้วยของหวานที่พนักงานสาวสวยของร้านแนะนำมา เป็น คุ้กกี้โด กับ ชูโรสค่ะ (2 จานนี้ เราจำราคาไม่ได้นะคะ ว่ากี่เหรียญ)
  • ตัวชูโรสกรอบอย่างเดียว และให้อารมณ์แบบแป้งร่วนๆ ไม่ประทับใจเลย แอบคาดหวังไว้เยอะ ว่าร้านอาหารสเปน น่าจะทำชูโรสอร่อยน๊าาาาา คนที่ชอบแบบกรอบนอกนุ่มในแบบเรา เลยเศร้าเล็กน้อยที่ไม่เป็นอย่างที่หวังค่ะ
  • ส่วนคุ้กกี้โด เป็นรสช็อคโกแล็ตชิพ เสริฟมาพร้อมไอศกรีมวนิลา เราชอบจานนี้ เพราะเหมือนกินซอฟท์ คุกกี้ แต่จะมีความฉ่ำๆกว่า เพราะยังไม่ได้เข้าอบ จานนี้หวานกำลังดีค่ะ ตักเพลินๆ ก็ อ้าว หมดจานแล้ว 72


259 08 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Penn Station (Amtrak) at New York / เวลา 09:29 น.

      เช้าวันนี้ เราต้องเดินทางข้ามรัฐ จากนิวยอร์คไปแมสชาชูเซตส์ (บอสตัน) เลยซื้ออาหารง่ายในสถานี แล้วขึ้นไปทานบนรถไฟเอาค่ะ แต่จริงๆบนรถไฟก็มีขายนะคะ
(จากนิวยอร์คไปบอสตัน เราเคยไปด้วยวิธีการเดินทางทั้งหมด 3 วิธี ขับรถไป 2 ชั่วโมงกว่า ถ้าไม่แวะเที่ยวนู่นนี่ แต่ใครอยากทานอาหารทะเลสดๆ ริมทะเลแบบเงียบๆ คนน้อยๆ แนะนำให้แวะพักที่รัฐคอนเนคติกัต 1 คืนค่ะ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง / นั่งเครื่องบิน ก็จะบินจากสนามบิน J.F.K ไปลง สนามบิน Logan ใช้เวลา 1 ชั่วโมง / นั่งรถไฟ Amtrak ผ่านรัฐคอนเนคติกัต ใช้เวลา 2 ชั่วโมง พอๆกับขับรถเลยค่ะ แต่จะได้วิวคนละวิวกับขับรถนะคะ เพราะรถไฟจะเลียบไปทางชายฝั่ง จะเห็นอ่าว เห็นท่าเรือ เห็นทะเลระยิบระยับ สวยมากค่ะ)
  • พอมาดูรูปที่ถ่ายไว้อีกครั้ง ก็ได้แต่ขำตัวเอง นี่มันขนมเหมือนที่รอน วีสลีย์ เพื่อนรักของแฮร์รี พอร์ตเตอร์ เตรียมมา ตอนขึ้นรถไฟ ในภาคแรกนี่ 555 อาหารเช้าง่ายๆวันนี้ เป็น ชาราสพ์เบอรี่ บลูเบอร์รี่สโคน และขนมข้าวโพดรสชีสค่ะ หาสารอาหารที่มีประโยชไม่ได้ไม่พอ เต็มไปด้วยแป้ง และแป้ง และน้ำตาล 555 ทั้ง 3 อย่างนี้ ซื้อรวมกันในราคา USD 6.7 ค่ะ (จำราคาแยกของแต่ละอย่างไม่ได้จริงๆ)
  • ชา ไม่หวานมากค่ะ หอม และเปรี้ยวราสพ์เบอรี่ ถือว่าโอเคเลยยี่ห้อนี้
  • บลูเบอร์รี่สโคน แป้งร่วน และแห้งกว่าสโคนทั่วไป มีบลูเบอร์รี่อบแห้งผสมปนเปมานิดหน่อย รสจืดๆ มันๆ แต่หอมเนยมากกกกก
  • ขนมก๊อบแก๊บที่ทำจากข้าวโพดนี้ เหมือนนาโช่ที่เค็มปี๋ เค็มแสบคอ จนไม่สามารถกินได้หมดซอง จนไม่แน่ใจว่า หรือจริงๆแล้วต้องเอาไปดิปอะไรรึป่าวนะ...


259 08 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Le's Restaurant at Boston / เวลา 16:50 น. / Link Website : https://thetexthood.com/order/?org=210555ff-73f2-43ad-8803-d8c6c040178d
 
 
      กินอาหารฝรั่งมาหลายมื้อแล้ว เริ่มคิดถึงอาหารบ้านเรา มื้อเย็นเลยมาทานที่ร้านอาหารเวียดนาม ร้านนี้จะอยู่ใกล้ๆจัตุรัสภูมิพลค่ะ เดินออกมาไม่ถึง 5 นาที เข้าไปปุ๊บพนักงานน่ารักมาก เสริฟน้ำเย็นๆใส่น้ำแข็ง และเครื่องปรุงทั้งพวงมาเสริฟให้ทันที ประมาณว่าหน้าเอเชียแบบนี้ อยากได้รสชาติแซ่บๆละสิ่ 555
  • ได้ข้าวผัดจานโตๆมาค่ะ เป็นข้าวผัดรวมมิตรที่แบ่งทานได้ถึง 2-3 คน แต่เรากินคนเดียวก็เกือบหมดนะ... ชื่อเมนูว่า Le's Fried Rice (USD 10.95)
  • ทางร้านไม่หวงเครื่องเลย ใส่กุ้งหั่นเต๋า ไก่หั่นเต๋า กุนเชียง พริกที่ไม่เผ็ดเลย ผัดรวมกับข้าวมาให้ 
  • ตัวข้าวร่วน มีน้ำมันเคลือบบางๆ แต่ไม่เลี่ยน เราตักน้ำมันพริกราดกับบีบซอสพริกสีราชา (เวียตนาม) ลงไปด้วย น้ำตาจะไหล เหมือนกินข้าวผัดอาม่า ร้านอินเตอร์เลย!!!


259 09 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Gaslight at Boston / เวลา 10:20 น. / Link Website : https://www.gaslight560.com/

      มื้อสายของวันอาทิตย์ได้อเมริกันเจ้าถิ่นพาไปกินค่ะ เลือกนั่งนอกร้านให้ลมเย็นๆพัดผ่านเราไป อาบแดดยามสายที่สาดส่องมากำลังดี ไม่รู้สึกถึงมลพิษทั้งทางเสียง และทางการสัมผัสผ่านจมูก (ไม่รู้สึกถึงไอเสียของควันรถนั่นเอง)
  • ลินดา (อเมริกันเจ้าถิ่น) แนะนำให้เราสั่งอาหารเช้าแบบเป็นเซ็ต Prix Fixe (USD 11.95) เพราะจะคุ้มกว่า เค้าแนะนำมาอย่างนี้ เราก็สั่งตามเค้าเลย โดยเราเลือกเป็น French Toast ค่ะ
  • ในเซ็ตเค้าก็จะเริ่มเสริฟจาก ชา/กาแฟร้อน ที่เติมให้ทันทีทุกครั้งที่หมดแก้ว
  • ตามมาด้วย Shortbred with Raspberry Jam สัมผัสจะเป็นครัมเบิ้ลทั้งบนและล่าง แทรกกลางด้วยแยม/ซอสราสพ์เบอร์รี่ จานนี้เปรี้ยว หวานกำลังดี ไม่เลี่ยนไป และไม่อิ่มเกินค่ะ
  • ตามมาด้วยน้ำส้มเย็นฉ่ำ แบบไม่มีเนื้อส้ม คือยังไงดี เหมือนน้ำส้มในโรงแรมตอนบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าอ่ะค่ะ
  • พระเอกของเรา French Toasttttt ทางร้านทอดขนมปังแผ่นหนานุ่มมาเป็นสีน้ำตาลกำลังดี ปาดเนยหวานๆมาให้ (ใช่ค่ะ สีขาวๆที่ดูเหมือนแหล่งน้ำ คือ เนยละลาย ที่เดือดเป็นฟองฟุดฟิดอยู่บนขนมปัง) โรยไอซิ่งมาให้เพื่อเพิ่มน้ำตาลในยามเช้า ตอนที่สั่งเบคอนหมดแล้ว เลยราดเมเปิ้ล ไซรัป หวานๆฟินๆไปค่ะ
  • แต่พอหมดชิ้นแรก เริ่มเลี่ยนไม่ไหวละ เลยนิสัยไม่ดี ไปแย่งเครปของคนอื่นกิน ซึ่งเครปอร่อยมากกกก จนอยากแลกจาน 555
  • อวดเมนูเครปของคนอื่นค่ะ แป้งเครปฝรั่งเศสบางๆ สอดไส้ด้วยแฮม โฮมเมดชิ้นโตๆ โปะด้วยไข่ดาว sunny side up คือ เป็นความอร่อยที่ลงตัว แบบไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะ
      พออิ่มกับมื้อเช้า ก็มาเดินย่อยที่ตลาดวันอาทิตย์กันต่อ ลินดา เจ้าเดิมพาไปร้านเมเปิ้ล ไซรัป และได้ติดไม้ติดมือกลับมา 1 แกลลอนโตๆ คือ ร้านขายแบบโหลเล็กๆ ไปจนถึงแกลลอน และมีระดับความเข้มข้นตั้งแต่ Light - Dark ซึ่งดาร์คเนี่ยเค้าเคลมว่าเข้มข้นน้องๆช็อคโกแล็ตเลยนะ ถ้าไม่เชื่อ เค้าก็เทใส่แก้วพลาสติกเล็ก ให้เราดม และชิมกันตรงนั้นเลย ทำให้เราได้รู้ว่าหวานแสบคอมันเป็นแบบนี้นี่เอง คือ พอซดเข้าไปเปล่าๆแล้วหวานมากจริงๆ แต่รสชาติต่างจากเมเปิ้ลในขวดที่เราซื้อตามซูเปอร์เลยนะคะ กลิ่นก็หอมกว่า นี่ถ้าไม่ติดว่ากระเป๋าหนักมาก จะซื้อกลับมาสัก 2-3 แกลลอน
  • หน้าร้านของร้านเมเปิ้ล ไซรัปค่ะ เค้าอธิบายว่าทำมาจากยางของต้นเมเปิ้ล แต่พวกเขาเรียกกันง่ายๆว่า เลือด แล้วผสมน้ำตาลกับสูตรลับของเค้านั่นแหล่ะ จนได้มาขายอย่างนี้ค่ะ


259 09 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Trillium Beer Garden at Boston / เวลา 14:30 น. / Link Website : https://www.trilliumbrewing.com/greenwaygarden

      ใช่แล้ว มาเมกา เราต้องแฮงเอาท์กันแต่หัววันค่ะ (เร็วสุดที่เราเคยกินตอนมาเมกา คือ 11 โมง พร้อมชิคเก้นวิง ในบาร์แถวบอสตัน 555) พอดีพาน้องไปเดินเล่น Boston Tea Party แล้วก็เลย ไหนๆมาเดินเลียบน้ำละ ไปเบียร์การ์เด้นกันเหอะ เลยพาน้องไปเปิดโลกค่ะ 555
      เป็นเบียร์การเด้นของยี่ห้อ Trillium ที่ได้ยินมาว่าเป็นยี่ห้อท้องถิ่นชื่อดัง ที่มีโรงหมักเบียร์ของตัวเอง แต่เค้ายังไม่พร้อมส่งออกนอกประเทศนะคะ แต่ถ้าอยากซื้อกลับเค้ามีหน้าร้านที่ขายแบบขวดและกระป๋องโดยเฉพาะ และก็ทำเป็นเบียร์การ์เด้นด้วยค่ะ
  • ป้ายทางเข้าหน้าร้านค่ะ ก็จะเป็นร้านเล็กๆ ดูง่ายๆ สบายๆ
  • ทางเข้าร้านค่ะ ร้านก็จะมืดๆ แสงน้อยๆ ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับการรักษาเบียร์รึป่าวนะคะ แต่น่าจะเกี่ยวแน่ๆ ไม่งั้นรสจะเปลี่ยน (ถามเองตอบเองทำไมเนี่ย)
  • เข้าไปก็จะมีป้ายบอกเบียร์ที่ขาย ราคา ไซส์ต่างๆ แล้วก็มีเบียร์วางเรียงยาว ข้างหลังจะเป็นโรงเบียร์ที่เค้าผลิตกันอยู่ เราสามารถสอบถาม และขอชิมก่อนซื้อได้ค่ะ พนักงานเค้าน่ารัก และกระตือรือร้นมาก
  • ป้ายทางเข้าค่ะ ก็จะเขียนถึงความเป็นมาต่างๆ และข้อมูลเว็บไซต์
  • ทางเข้า เค้าก็จะตรวจบัตรประชาชน เราเป็นนักท่องเที่ยวก็โชว์พาสปอร์ตค่ะ พอตรวจเสร็จเค้าก็จะสแตมป์ตราให้ที่ข้อมือเรา ไม่มีค่าเข้าค่ะ เพราะที่เราจะเสีย คือ ค่าเบียร์ล้วนๆ ส่วนอาหารเราสามารถสั่งฟู้ดทรัคที่มาจอดอยู่ข้างๆทานได้ แต่เราเอาแก้วออกจากเขตของเค้าไม่ได้น๊าาาา
  • (เป็นรูปที่ถ่ายมาเมื่อปีที่แล้วนะคะรูปนี้) เราสามารถมาดูเมนู และสั่งเบียร์จากแทบได้ตรงนี้เลยค่ะ ถ้าไม่แน่ใจว่าเบียร์รสชาติยังไง ก็สอบถามพนักงาน และขอชิมได้นะคะ หรือจะแอ๊วพนักงานเค้าก็ไม่ว่า 555
  • (รูปที่ถ่ายเมื่อปีที่แล้วเหมือนกันค่ะ) บรรยากาศจะนั่งตากแดด ตากลม ใครใคร่นั่งก็นั่ง ใครใคร่ยืนก็ยืน มีทั้งมาเดี่ยว มาคู่ มากลุ่ม บางคนจูงน้องหมามานั่งจิบเบียร์ด้วยก็มีค่ะ หรือบางบ้านก็พาลูกใส่รถเข็นมา
  • เราเป็นคนชอบเบียร์เปรี้ยว (Sour Ale) เบียร์ผลไม้ค่ะ พอกวาดตามองเมนูแล้วเจอ คำว่า Ale & Plum ก็เดาว่าต้องเบียร์เปรี้ยว และได้เจ้าแก้วนี้มา น้องชื่อว่า Double Seesaw Plum (American Gose Ale - 5.3%) (USD 9)
  • น้องมีสีชมพูออกแดงๆ เป็นเบียร์ใสๆ ที่มีกลิ่นเปรี้ยวของบ๊วยชัดมาก พอจิบไปอึกนึง ตื่นเลยค่ะ เปรี้ยวมากกกกกกกก ถูกใจคนชอบเบียร์ผลไม้ / เบียร์เปรี้ยวที่สุด รสชาตินี่เหมือนน้ำบ๊วยเลย แต่จะออกขมนิดๆตอนกลืน สามารถดื่มได้เพลิน รู้ตัวอีกทีตอนเมาเลยล่ะค่ะ 555
  • แก้วนี้น้องที่พามาสั่งค่ะ ชื่อว่า Galaxy Fort Point (Pale Ale - 6.6%) (USD 7) สีอ่อน และดูใสๆ กลิ่นหอมจางๆ
  • รสชาติจะขมเบาๆ หอมๆ ทานง่าย คือสมเป็นเพลเอลเลย
  • ในแต่ละปี แต่ละช่วงรสเบียร์จะเปลี่ยนไปนะคะ คือ เค้าทำเบียร์ออกมารสไม่ซ้ำอ่ะค่ะ ใครสนใจก็มาลองดูนะคะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ


259 09 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Kaze Shabu Shabu at Boston / เวลา 18:30 น. / Link Website : https://kazeshabu.com/

      เย็นนี้ก็จัดชาบูซักนิด คลายความหนาว และคลายความคิดถึงบ้านไปได้บ้างค่ะ เข้ามาในร้านก็เจอแต่พนักงาน รวมถึงเจ้าของร้านที่เป็นจีนจ๋า แต่ทุกคนสื่อสารภาษาอังกฤษกันได้ดี และน่ารักมากๆ
  • เราเลือกน้ำซุปเป็น ซุปเสฉวน (szechuan Spicy) กับซุปยาจีน (Chinese Herbal) มาค่ะ ตัวเสฉวนก็ฉุมหม่าล่ามาแต่ไกล ส่วนซุปยาจีนก็หอมหวานๆ เก๋ากี้เม็ดใหญ่ให้มาแบบไม่หวงเลย
  • เราสั่งเต้าหู้มาก่อนเลยค่ะ เป็นเมนูแนะนำของร้านเลย ชื่อ Hommade Organic Soybean Roll (ก้อนๆสีเหลืองนวลๆ ในชามขาว ฝั่งล่างซ้ายค่ะ)
  • ทางร้านแนะนำให้เราคีบเจ้าเต้าหู้เนี่ย ไปแกว่งๆในน้ำซุปสัก 3 - 4 วินาที ก็เอาขึ้นได้เลย แล้วจะได้คล้ายๆฟองเต้าหู้นุ่มๆ ชุ่มน้ำซุปหวานๆ หอมถั่วเหลือง และหอมน้ำซุปที่เราเอาไปจุ่มค่ะ (แนะนำว่าไม่แกว่ง ไม่จุ่มในซุปเสฉวน หรือซุปที่มีความเค็มจะดีกว่านะคะ ไม่งั้นเค็มมาก เค็มเป็น 2 เท่าเลย TT)
  • แล้วก็สั่งผักรวม สั่งผักกาดจีน สั่งผักขม สั่งเห็ดมา จนพนักงานตกใจ คิดว่าเราเป็นมังสวิรัติ 555
    (จริงๆ เราค่อนข้างเลี่ยงแป้ง เลี่ยงของมันๆ เลี่ยงพวกนม เนย ชีส เพราะเวลานั่งเครื่องนานๆ แล้วท้องอืด ครืดคราด มีแต่ลม เลยเน้นอะไรที่ย่อยง่ายๆมาทาน แต่ก็เลี่ยงไม่ค่อยได้หรอกค่ะ 555)
  • มาถึงพวกเนื้อ ก็เป็นซีฟู้ด คุโรบุตะสไลด์ทั่วๆไปเลย โดยรวมน้ำซุปอร่อย นอกนั้นก็เหมือนๆบ้านเราเลยค่ะ
  • เราสั่งผัดหัวใจไก่มาด้วยค่ะ ทางร้านก็ใจดีแถมข้าวสวยมาให้ 1 ถ้วย ไม่รู้ให้กินกับหัวใจไก่ หรือกินกับชาบู 555
  • หัวใจไก่ไม่เหม็นคาว ร้านผัดมากับขิงสับหยาบและต้นหอม รสจะเผ็ดร้อนของขิง และออกมันๆ เค็มน้อย เห็นแบบนี้น้ำมันไม่เยอะเลยค่ะ กินเล่นเปล่าๆก็อร่อยดี คลุกเข้าก็ฟิน 


259 10 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : MIT Sloan Canteen / Cafeteria / Dinning Room at Boston / เวลา 11:50 น.

      เริ่มงานวันแรก ตื่นเต้นมากเลยไม่ได้หม่ำมื้อเช้า มาหม่ำอีกที คือ มื้อกลางวันแล้วค่ะ ช่วงที่ทำงานก็ไม่ค่อยอยากออกไปไหน เลยหาอะไรทานง่ายๆในแคนทีนเอา (แต่บางคนก็เรียก คาเฟทีเรีย บางคนเรียก ไดน์นิ่งรูม แล้วแต่จะเรียกกันเลยค่ะ) ก็จะมีอาหารหลากหลาย ราคาย่อมเยา รสชาติไม่แย่ ให้เราเลือกกันได้ตามสะดวก











  • ที่เอามาลง คือ บางส่วนก็ยังเปิดไลน์อาหารไม่หมดนะคะ ช่วงเช้าๆก็จะมีประมาณนี้ ส่วนช่วงเที่ยงเนี่ย โซนของร้อนจะฮิตมาก พวกเบอร์เกอร์ แซนวิช สเต๊ก ของทอด (ฟรายส์ / หัวหอมทอด / แฮชบราวน์ เป็นต้น)
  • พวกสลัด / ผลไม้ / โยเกิร์ต / ซุป เราสามารถตัก ตามที่ตัวเองชอบ และกินหมด แล้วตอนไปจ่ายเงินที่เคาต์เตอร์ พนักงานก็จะชั่งน้ำหนัก แล้วคิดราคาค่ะ (เค้าคิดน้ำหนักเป็นออนซ์ค่ะ)
  • เครื่องดื่มต่างๆ ก็จะมีราคาแปะไว้ให้ดู ที่ฝั่งซ้ายของตู้ ส่วนเครื่องดื่มร้อนๆต่างๆ ก็ไปสั่งตรงเคาต์เตอร์จ่ายเงินได้ค่ะ จะเป็นสตาร์บัคเล็กๆ
  • กลางวันนี้ เราฝากท้องไว้กับโรลค่ะ เค้าจะทำไว้แล้ว แล้วนำมาวางไว้ในตู้แช่ แล้วกล่องใหญ่มาก ส่วนใหญ่คนไทยจะแบ่งกันทาน 2 คนขึ้นไปซะส่วนใหญ่ แต่ตามวิถีของเรา ก็ทานคนเดียวค่ะ อิ่มดี
  • ข้าวจะเย็นเล็กน้อย เป็นซูชิโรลที่ใส่อโวคาโด และโรยเกล็ดเทมปุระมาให้ รสชาติไม่แย่ะค่ะ แต่จะไปเทียบกับพวกซูชิสด ตามร้านดังๆก็ไม่ได้


259 10 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Fenway Park (Boston Red Sox) at Boston / เวลา 19:00 น.

      มื้อเย็นเรามาหาของกินที่สนามเบสบอลค่ะ ด้วยความที่ตั้งเป้าไว้ว่า มาเมกา ต้องทำกิจกรรมพวกนี้ให้สำเร็จให้ได้ จะได้รู้สึกฟิน หลังจากติ่งผ่านสื่อต่างๆมานาน เป้าหมายเราก็มี ไปสวนสนุกแบบที่ไม่ใช่พวกยูนิเวอร์แซล ดิสนีย์ / ไปดูอเมริกันฟุตบอล / ไปดู NBA / ไปดูเบสบอล / ไปดู Ice Hockey / ไปดูบรอดเวย์ / ไปสวนสัตว์ / ไปอความเรียม / ไปพิพิธภัณฑ์
      รอบนี้มีพี่ และน้องที่สนใจเบสบอล เลยมีคนไปเป็นเพื่อนค่ะ รอบที่ไปดูแข่ง เป็นคู่ของเจ้าบ้านอย่าง Boston Red Sox แก๊งถุงเท้าแดง เจอกับทีมเยือนอย่าง Texas Rangers ค่ะ บรรยากาศ คึกคักมาก ทุกคนฮึกเหิมสุดๆ เราจะเห็นแฟนคลับใส่เสื้อ ที่มีชื่อ Betts ถึง 90% เลย คือ เป็นดาวดังในตอนนี้เลยจริงๆค่ะ เวลาลงสนามทีก็เสียงเชียร์ดังลั่นสนาม สร้างความฮึกเหิมมากกกก
      ส่วนอาหาร ส่วนมากจะเป็นฮอทดอก เบอร์ไก่ ของทอด ป๊อปคอร์น ไอศกรีม น้ำอัดลม เบียร์ พอเข้าสนามแล้ว ก็จะมีคนเอาของกินมาขายหลากหลายประเภทมาก พิซซ่า ฮอทดอก ขนมสายไหม ถั่ว ปอร์ปคอร์น น้ำเลมอน เบียร์ น้ำเปล่า เป็นต้น และนี่คือสิ่งที่เราเลือก และถือเข้าสนามค่ะ
  • Chicken Tender and Fries (USD 12.50) เป็นไก่ไร้กระดูกชิ้นโตๆ ทอดร้อนๆ แอบสีคล้ำเล็กน้อย แต่ไม่อมน้ำมันเลย ฟรายส์ก็ทอดมากรอบนอกนุ่มใน กินฟินๆ ราดมัสตาร์ดเยอะๆ คือ ดีงาม แต่พอทานไปเยอะๆเข้า ก็ต้องตัดสินใจทิ้งทั้งที่ยังไม่หมดค่ะ เพราะลิ้นชาแบบ ชาไม่ไหวแล้ว ทั้งๆที่ไม่ได้เค็มมากนะคะ แต่น่าจะเพราะเกลือ กับพวกกรดที่อยู่ในซอส (มั้ง) แอบเสียดาย...

  • บรรยากาศในสนามค่ะ จริงๆมีอีก แต่เราหารูปไม่เจอ T^T
  • และผลสุดท้ายจากที่ถุงเท้าแดงนำมาแบบวางใจละว่าชนะแน่เลย สุดท้ายพ่อหนุ่มเรนเจอร์เรามาพลิกเกมส์ และเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 4 - 3 ค่า


259 11 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : MIT Sloan Canteen / Cafeteria / Dinning Room at Boston / เวลา 08:20 น.

      มื้อเช้านี้ในแคนทีน เราเลือกทำเองด้วยการทำวาฟเฟิลลลลลล เค้าจะเตรียมแป้งวาฟเฟิลใส่กระปุกไว้ให้ เราก็มาฉีด Cooking Oil Spray ใส่เครื่องทำวาฟเฟิล แล้วก็เทพรวดลงไปเลยค่ะ พอปิดฝาปุ๊ป เครื่องก็จะจับเวลาประมาณ 1 นาทีครึ่ง แล้วเราก็พลิกมาอีกด้าน ก็จะใช้เวลาเท่าเดิม เครื่องจะส่งเสียงติ๊ง เราก็เปิดฝาออกมา กลิ่นวาฟเฟิลจะหอมอบอวลมากกกกกกกกกกกก
  • ในโซนทำวาฟเฟิล ก็จะประกอบไปด้วย (เรียงจากซ้ายไปขวา) เครื่องทำวาฟเฟิล > เมเปิ้ลไซรัป > คุ้กกิ้ง ออยล์ สเปรย์ > จานกระดาษ > กระปุกแป้งวาฟเฟิลสำเร็จรูป (ที่เค้าผสมไว้ให้แล้ว แช่อยู่ในน้ำแข็ง) > ช้อนพลาสติก ไว้ตักแป้ง > เครื่องเทศต่างๆ มี Nutmeg / Cinnamon > น้ำตาลไอซิ่ง ส่วนในป้ายก็จะอธิบายวิธีทำวาฟเฟิลค่ะ
  • เรากินวาฟเฟิลคู่กับโยเกิร์ตพาเฟ่ต์ (USD 7.11) ตัววาฟเฟิลเค้าก็ชั่งน้ำหนักเป็นออนซ์เหมือนกันนะคะ
  • ตัววาฟเฟิลก็จะหอมๆ นุ่มๆ กรอบๆ เราไม่ได้โปะเนย หรือราดไซรัปอะไรมา ก็กินแป้งเปล่าๆ หวานตัวแป้งกับนมกับไข่ที่เค้าผสมมาค่ะ
  • โยเกิร์ตพาเฟ่ต์ จะเนื้อข้นๆ หวานน้อย โรยกาโนล่ากับมิกซ์เบอร์รี่มา พอตักมาราดวาฟเฟิลก็ได้ของหวานมากกว่าอาหารเช้า 555


259 11 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Au Bon Pain at Boston / เวลา 12:10 น.

      เที่ยงนี้ฝากท้องไว้ที่โอ ปอง แปง พอเข้ามาในร้านแล้วตกใจมากเพราะเต็มไปด้วยคนงานก่อสร้าง ที่พักกลางวันเหมือนกัน ผิดกับที่เมืองไทยลิบลับ ที่พอเข้าร้านมาจะเจอคนทำงาน แต่งตัวดีๆ พร้อมแมคบุ๊คนั่งทำงาน หรือพูดคุยกัน แต่ที่นี่จะเป็นเหมือนฟาสต์ฟู้ดเลยค่ะ คือ เข้ามาสั่งๆ หรือเลือกแบบ Grab & Go แล้วไป แต่ไหนๆมาแล้วเราก็ต้องลองสักหน่อย เสียดายที่คิวเบเกิ้ลเยอะมาก เลยอดไปค่ะ
  • เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ เป็น Bon to Go Smoked Salmon (USD 5.69) และ Mac n Cheese Medium Size (USD 4.29) ทั้ง 2 อย่างนี้ อยู่ในโซนหยิบ จ่าย ไปค่ะ
  • แซลมอนรมควัน ซื้อมาด้วยหวังใจว่าจะเอามาตัดเลี่ยนแมคแอนด์ชีส ในกล่องจะมีบลูชีส ขนมปัง ผักสลัดเล็กน้อย และแซลมอนรมควันสไลด์บางมาให้ค่ะ ซึ่งสุดท้ายแล้วกินไปแค่แซลมอนกับผักค่ะ ขนมปังกับบลูชีสกินต่อไม่ไหวจริงๆเลี่ยนมากเลย
  • แมคแอนด์ชีส ชีสล้นๆท่วมๆเป็นซุปข้นมาเลย แน่นอนว่ามีแค่มักกะโรนีกับชีสค่ะ พอไม่ได้เหยาะพวกเกลือ พริกไทยลงไป ยิ่งเลี่ยน สุดท้ายก็กินไม่หมดค่ะ ในใจตอนนั้นนึกขอโทษทางร้านมากที่ตักมาเยอะแต่ทานไม่หมด และอีกใจก็คิดถึงไวไว หมูสับต้มยำแล้ว T0T


259 11 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Royal East Restaurant at Boston / เวลา 19:00 น. / Link Website : https://royaleast.com/

      ร้านนี้นายเคยพามากินเมื่อปีก่อน เป็นร้านอาหารจีน ที่เจ้าของเป็นคนจีนในมาเลย์แล้วย้ายมาอยู่ที่นี่ค่ะ เมนูก็จะเป็นอาหารจีนเป็นหลัก แทรกไปด้วยอาหารมาเลย์ และอาหารสิงคโปร์ แต่งวดนี้มีพี่คนไทยที่ทำงานในบอสตันมาสั่งอาหารให้อย่างคล่องแคล่ว (ออกตัวว่ามื้อนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป และถ่ายออกมาได้ไม่ค่อยดีนะคะ เพราะทุกคนหิวกันมาก อาหารวางปุ๊ป พุ่งไปตักกันเลย)
  • เมนูแรกสั่งเป็นโถ แล้วมาตักแบ่งกันเป็นซุป Hot n Sour ร้านนี้ทำไว้ดีจริงๆค่ะ รสเปรี้ยว เผ็ด ตัดกันได้ลงตัว ใส่เต้าหู้ เห็ดหอม ไข่ หน่อไม้จีน ซดแล้วชุ่มคอดีมากๆค่ะ
  • จานที่สอง Fried Silky Tofu Topped with Minched Shrimp เต้าหู้ทอดสอดไส้กุ้งสับ เต้าหู้นิ่มๆทอดมาไม่กรอบมาก กับไส้กุ้งเด้งๆ หวานๆ ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อย จิ้มน้ำจิ้มก็ชูรสขึ้นมาได้ดีค่ะ
  • ข้าวสวยกับผัดโต้วเหมี่ยน (Pea Tendeils) เราชอบผัดผักของพวกร้านอาหารจีนนะคะ เหมือนเค้าไม่ได้ปรุงอะไรเยอะ แค่ผักสดๆผัดกับน้ำมันโรยเกลือ จบ. แต่อร่อยมากกกกกกก ได้รสหวานของผัก มีความเค็มจากเกลือแบบกลมกล่อม ให้ไม่จืด และที่สำคัญไม่มันเยิ้มน้ำมันเลย เวลามาร้านอาหารจีนทีไร ต้องสั่งโต้วเหมี่ยนทุกทีเลยค่ะ
  • จานต่อมาเป็น Salt Pepper Squid (หมึกชุบแป้งทอดผัดพริกเกลือ) ได้อารมณ์กับแกล้ม แกล้มเหล้าจีน หรือเบียร์ชิงเต่าดีค่ะ 555

  • เรียงจากใกล้ตัวสุดแล้วกันนะคะ ปลานึ่งซีอิ๊ว (ไม่รู้ว่าปลาอะไรเหมือนกันค่ะ เค้าบอกแค่ว่า Bass แต่มันมีแบ่งย่อยไปอีกนี่สิ่...) รสชาติก็กลมกล่อมดีค่ะ หวานเนื้อปลา เพราะปลาสดมาก เนื้อดึ๋งๆเลย หอมขิงกับกุ้ยช่ายขาว ตัวซีอิ๊วเค็มๆ หวานๆ ลงตัว
  • ลึกเข้าไปหน่อย ที่เหมือนมีคนชี้ เป็น Sirloin Stake Black Pepper สเต๊กเนื้อหั่นเต๋าชิ้นโต เสริฟมาในกระทะร้อนเสียงฉู่ฉ่า กลิ่นหอมยั่วมาก แต่ไม่ได้ทานค่ะ เสียดายมากๆ
  • ถัดไปเป็น Eggplant Garlic Sauce มะเขือม่วงผัดซอส ซอสจะเค็มๆ หวานเล็กน้อย เหนียวๆ ข้นๆ ไม่ได้กลิ่นกระเทียมเลย ส่วนตัวมะเขือนิ่มๆ หวานๆ จานนี้เราฟาดไปเยอะมาก รองจากโต้วเหมี่ยน
  • จานสุดท้ายอยู่ฝั่งขวามือ ที่มีมือบังไปครึ่งจาน 66 Pork Long Horn Pepper ด้วยความที่พี่คนสั่งเค้ารู้ว่าพวกเราเนี่ยติดรสเผ็ดกัน เลยถามทางร้านว่าเมนูไหนเผ็ดสุด พนักงานเลยแนะนำจานนี้มา แล้วเราก็สั่งเผ็ดขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เผ็ดมากอ่ะค่ะ เป็นหมูทอดผัดคล้ายๆ ผัดพริกเผา แล้วมีพริกแห้งหั่นชิ้นโตๆมาด้วย แล้วก็มีมะม่วงหิมพานต์ รสก็เผ็ด หวานเลยค่ะ เราเลยตักพริกแห้งกินเล่น ให้เผ็ดโดดขึ้นมาหน่อย 555
  • ปิดท้ายมื้อด้วยคุ้กกี้เสี่ยงทายยยยยยยยยยย เป็นคุ้กกี้ที่หวานๆ กรอบๆ บางๆ ไม่อร่อย แต่ทุกคนชอบที่จะบิ เอาคำทำนายออกมา คำทำนายก็ตามนั้นค่ะ 555 บางทีเจอคำคมก็มี ขำๆกันไปค่ะ
  • มื้อนี้ รวม vat รวมทิปแล้วอยู่ที่ USD 267.95 ค่ะ (ทิปคิดเป็น 15% จากค่าอาหารทั้งหมดค่ะ)


259 12 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : MIT Sloan Canteen / Cafeteria / Dinning Room at Boston / เวลา 08:00 น.

      การฝากท้องไว้ที่แคนทีน เป็นอะไรที่ง่าย และถูกจริงๆค่ะ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม เช้านี้ก็ฝากท้องไว้ที่นี่อีกตามเคย

  • น้ำผลไม้ Naked Red Machine (USD 2.25) ที่เป็นถ้วยๆ คือ Strawberry Basil Trifle (USD 2.50) และในห่อฟอล์ยเป็น Bacon, Egg & Cheese Sandwich (USD 4.25)
  • น้ำผลไม้ เค้าเคลมว่าไม่ใส่สี ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่กลิ่น ไม่มีกลูเตน เป็นอาหารมังฯ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเพื่อสุขภาพเกินไป เป็นน้ำผลไม้ที่เข้มข้นมาก เข้มข้นแบบเหนียวๆ หนืดๆ แต่ได้รสเปรี้ยว รสหวานไม่ค่อยมี ใครชอบก็ต้องไปลองค่ะ
  • ขนมหวาน เป็นเค้กนุ่มๆที่ละลายในปาก ครีมหวานมากกกกกก แต่มีสตรอเบอร์รี่สดมาตัดรสให้ ก็อร่อยดีค่ะ คล้ายๆสตรอเบอร์รี่พาเฟ่ต์อยู่
  • แซนด์วิช ที่เหมือนแมคมัฟฟิน ใครเคยทานเมนูอาหารเช้าของแมคโดนัลด์ น่าจะต้องเคยลองแมคมัฟฟิน ใช่เลย แป้งแบบเดียวกันค่ะ แล้วโปะเบคอน ไข่ ชีสมาเหมือนกัน 555


259 12 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Clover Lab Kendall Branch at Boston / เวลา 12:00 น. / Link Website : https://www.cloverfoodlab.com/

      เที่ยงวันนี้ ลินดา พามากินฟาส์ฟู้ดสายสุขภาพ และไม่มีเนื้อสัตว์เลย โปรตีนก็จะใช้เป็นเต้าหู้ และเห็ดซะส่วนใหญ่ค่ะ ร้านนี้มีหลายสาขา อยากให้ลองจริงๆค่ะ คือ ที่เราบอกว่าร้านโอ ปอง แปง คนงานก่อสร้างเข้าเยอะมาก ข้ามถนนมาเป็นร้านนี้ ซึ่งร้านนี้มีแต่นักศึกษา อาจารย์ และพนักงานออฟฟิศเลย ต่างกันมากจริงๆ
  • มาถึง เราต้องมาดูเมนูที่จอตรงนี้ค่ะ แล้วจะมีพนักงานยืนถือ iPad อยู่ เราก็สั่งกับเค้าแล้วจ่ายเงินตรงนั้นเลย จ่ายได้ทั้งรูดบัตร และเงินสดนะคะ
  • พอพนักงาน (คนมุมขวา) รับออเดอร์เราแล้ว เราก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ หรือยืนรอตรงเคาต์เตอร์ก็ได้ค่ะ เค้าก็จะประกาศเรียกชื่อเรา เราค่อยไปเอา
  • ที่นี่ไม่มีถุงให้นะคะ คือ แทบทุกร้านเลย ไม่ว่าจะร้านอาหาร หรือซูเปอร์ หรือห้างต่างๆ ถ้าจะเอาถุงต้องจ่ายเงิน หรือถ้ามีถุงให้จะเป็นถุงกระดาษสีน้ำตาลบางๆค่ะ
  • พวกจาน ช้อน ส้อม มีด ของที่นี่ก็เป็นแบบ eco และมีถังขยะแยกให้เราเทอาหารทิ้งไปช่องนึงก่อน แล้วค่อยแยก จาน ช้อน /ส้อม / มีด แก้ว กระดาษทิชชู่
  • เมนูแรกที่ได้ค่ะ Fries with Rosemary เป็นมันฝรั่งที่เหมือนทอดในหม้อลมร้อน เพราะไม่รู้สึกถึงน้ำมันสักเท่าไหร่ค่ะ เค้าไม่ได้โรยเกลือมาให้ แต่มีโรสแมรี่มาเป็นช่อเลยค่ะ ลองชิมแล้วโรสแมรี่รสเหมือนข่าเลย แต่อร่อยดีค่ะ
  • เครื่องดื่มเป็นเมนูถัดมาที่ได้ เป็น Ginger Soda น้ำอัดลมของร้านนี้ค่ะ น้ำอัดลมที่นี่จะเป็นพวกผักผลไม้คั้นสดๆเข้มข้นแบบมีกากมาเลย แล้วเทโซดาลงไป ไม่เพิ่มน้ำเชื่อมใดๆทั้งสิ้นค่ะ
  • เราก็จะสดชื่นกับโซดาเย็นๆ ผสมความเผ็ดร้อนของขิง มีเนื้อขิงผสมมาเล็กน้อย แก้วนี้รู้สึกระบายความอึดอัดในท้องได้ดีเลย
  • แต่ถ้าใครไม่อยากสั่งน้ำ ทางร้านก็มีน้ำเปล่าบริการค่ะ แต่ต้องใช้ความรู้เคมีสมัยเรียนม.ต้น ม.ปลายกันหน่อย เป็นอะไรที่เก๋ดีนะคะ

  • ตัวละครหลักมาแล้วค่ะ ด้วยความที่ไม่ได้ใส่แว่นไป แล้วมองอะไรไม่เห็นสักเท่าไหร่ เลยฝากความหวังไว้ที่ลินดา ให้เค้าอ่านแล้วก็สั่งให้ แล้วดันใจตรงกัน เลยได้เมนูทุกอย่างมา 2 ชุด เพราะชอบเหมือนกันหมด ตัวนี้ชื่อว่า Baja Mushroom (ทั้งหมดนี้ราคา USD 35.75)
  • พอพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพ ส่วนตัวเราเอง จะยี้มาก มันไม่อร่อยหรอก มีแต่ผักอ่ะ ต้องจืดชืดแน่ แต่ร้านนี้ทำได้ดีทุกอย่างค่ะ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จนอยากให้มาเปิดในไทยบ้างเลยค่ะ
  • ตัวแป้ง เป็นแป้งพิตต้าที่เค้าบอกว่าทำจากเต้าหู้ แล้วเค้าผ่ากลางเป็นพ็อคเก็ต แล้วยัดไส้ลงไป ตัวไส้เป็นเห็ดอบกรอบกับสลอว สลอวใส่แครอทซอย เรด แรดิชซอย กะหล่ำซอย มายองเนสที่กินแล้วคิดว่าน่าจะเป็นแบบไขมันต่ำ เพราะไม่หวาน และไม่มัน ไม่เปรี้ยวมาก ราดทับด้วย Hot Sauce ที่เป็นสูตรของร้าน
  • ทุกอย่างลงกันพอดิบพอดี เห็ดกรอบ หนึบ ฟินมาก ถ้าใครเคยกินเห็ดทอด ร้านผักหวาน ที่อยุธยา ก็เป็นแบบนั้นเลยค่ะ แต่จะไม่รู้สึกความมีน้ำมันเลย อยากให้ได้ลองกันจริงๆ
  • นอกจากนี้ ทางร้านก็มีสินค้าออแกนิคขายด้วยนะคะ สามารถหยิบ แล้วไปจ่ายเงินกับพนักงาน ที่เราสั่งอาหารได้เลย


259 ปีที่แล้ว / สถานที่ : Spyce at Boston / เวลา XXX น. / Link Website : https://www.spyce.com/
 
      ไหนๆก็มาสายสุขภาพแล้ว ขอแนะนำอีกร้านค่ะ เมื่อปีที่แล้วไปทานมา (ปีนี้ก็ไปนะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เลยเอารูปของปีที่แล้วมาลง) ร้านนี้มีต้นกำเนิดจากนักศึกษาของ MIT เค้ามีความรู้สึกว่าที่แคนทีนของเค้าไม่มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เลยรวมตัวกันสร้างร้านนี้ขึ้นมา และที่เก๋คือ ร้านนี้ใช้ Robot ในการทำอาหารค่ะ เพราะเป็นเด็กวิศวะ เลยใช้ความรู้ของตัวเอง มาพัฒนาให้ใช้คนน้อยทีสุด และเป็นร้านที่เราต้องบริการตัวเองนะคะ
  • มาถึงเราต้องมาสั่งอาหารที่จอนี้ค่ะ เราจะเลือกได้ว่าเอาแบบจานเดี่ยวหรือเป็นเซ็ท ถ้าแบบเป็นเซ็ทก็จะมีน้ำด้วย ร้านนี้จ่ายผ่านบัตรเท่านั้นนะคะ เค้าไม่รับเงินสดค่ะ


  • หรือเราสามารถดูเมนู และรายละเอียดของเมนูเพิ่มเติมได้ที่กระดาษ ซึ่งเค้าจะเสียบไว้หน้าทางเข้าร้านค่ะ

  • หลังเราทำการสั่งซื้อเสร็จแล้ว รายการจะถูกส่งไปที่ครัว แล้วบอทก็จะดำเนินการสับ หั่น วัตถุดิบ มาเท่ใส่หม้อสีดำๆ แล้วหม้อที่มีความร้อนก็จะหมุนไปเรื่อยๆ จนได้ที่ ก็จะเทใส่ชามที่ไหลมาตามสายพานเหมือนรู้เวลา
  • พนักงานก็จะทำหน้าที่ โปะหน้าที่เราเลือกไว้ เช่น ไข่ต้ม ผักต่างๆ เป็นต้น และปิดฝาที่มีสติ๊กเกอร์ชื่อเราติดไว้ เราก็มีหน้าที่เดินมาหยิบชามของตัวเองไปค่ะ
  • ถ้าเราสั่งเป็นเซ็ต พนักงานก็จะให้แก้วเรามาด้วย เราก็มากดน้ำตรงนี้ค่ะ จะเป็นน้ำเพื่อสุขภาพ น้ำชาไม่ใส่น้ำตาล น้ำเชื่อมใดๆ น้ำผลไม้ น้ำผัก อะไรพวกนี้ค่ะ
  • พอเราได้ชามแล้ว ก็มาหยิบช้อน ทิชชู่ หรือใส่เครื่องปรุงตรงมุมนี้ค่ะ
  • อันนี้ เป็นหน้าตาของอาหารค่ะ จำไม่ได้ว่าปีที่แล้วสั่งอะไรไป แต่เมนูส่วนใหญ่ที่ได้มา ก็จะประมาณอาหารแขกแบบบอกไม่ถูก คือ เหมือนอาหารตอนไปดูไบเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร แต่มีเครื่องเทศไม่ฉุนนะคะ ใครชอบอาหารพวกนี้ก็ไปลองดูได้ค่ะ


259 13 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : MIT Sloan Canteen / Cafeteria / Dinning Room at Boston / เวลา 08:00 น.

      ยังคงฝากท้องไว้กับแคนทีนเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่เริ่มเบื่อแล้ว คิดอะไรไม่ออกก็หยิบซีเรียลมา ง่าย ถูก อร่อย และอิ่มดีค่ะ 69
  • ชุดนี้จับมารวมๆกันได้ที่ราคา USD 11.90 ผลไม้รวมพนักงานเค้าชั่งน้ำหนักตามเดิมค่ะ แต่ผลไม้ที่นี่สดมาก และรสชาติดีสุดๆ ดีแบบ ดีมาก ก.ไก่ล้านตัว
  • ซีเรียล เป็นรส Honey Nut Cheerios เปิดฝาปุ๊ป กลิ่นถั่ว กลิ่นซินนามอนพุ่งเลย ไม่มีกลิ่นน้ำผึ้งแม้แต่นิดเดียว เราทานกับน้ำส้มค่ะ เอาน้ำส้มเทราดลงไป รอนิ่มๆ ค่อยตักกิน อร่อย สบายท้องสุดๆ


259 13 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : MIT Sloan Canteen / Cafeteria / Dinning Room at Boston / เวลา 12:00 น.

      มื้อกลางวัน ก็ฝากท้องที่แคนทีนเช่นเคย คิดอะไรไม่ออก ให้มาแคนทีน เค้าเปิดตลอดเวลาค่ะ
  • เมนูที่เราเลือกมาก็มี Crunchy Crab Roll (USD 9.90) / Grilled Shrimp Dumpling (USD 4.90) / Onion Ring (USD 2.50) / Vitamin Water Fire Spicy Watermelon-Lime (USD 2.75)
  • เริ่มที่ซูชิโรล ไม่รู้วันนี้เป็นอะไร หยิบมา ไม่อร่อยสักอย่าง ข้าวแข็ง เย็น ซอสรสแปลกๆ ส่วนเกี๊ยวซ่ากุ้ง ข้างในเหมือนกินมันผสมอโวคาโดบดมากกว่า ที่พอกินได้ก็มีหอมทอดค่ะ
  • ส่วนน้ำ... บอกตามตรงว่าซื้อเพราะเห็นโฆษณาในซับเวย์ แล้วความสงสัยว่า คือ น้ำอะไร รสชาติแตงโมแต่เผ็ด จนหัวระเบิดเป็นยังไง เลยหยิบติดมือมาโดยไม่ไตร่ตรอง...
  • เป็นน้ำวิตามิน ที่มีรสแปร่งๆ ทั้งหวานแบบสังเคราะห์ (เหมือนสารให้ความหวานอ่ะค่ะ) เปรี้ยวแปลกๆ และเผ็ดลงคอแบบ... โอเค ไม่ใช่หัวระเบิดละ นี่คอระเบิด 555 จิบไปได้อึกเดียว ก็ส่งให้น้องชิม คือ หน้าเบ้ทุกคนที่ชิม เลยจบลงที่ถังขยะ... แต่สิ่งที่ได้ คือ ตาสว่างค่ะ!!! ตื่นตาแตกมาก


259 13 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Pho House at Boston / เวลา 12:00 น. / Link Website : https://www.phohousema.com/

      ตกเย็นมาเรารู้สึกว่าไม่ได้ละ... เราต้องการอาหารไทย... แล้วเราก็ได้ไปร้านนี้ค่ะ เป็นร้านอาหารเวียตนาม แถวๆนอกเมือง แต่ต้องมีอาหารไทยแน่ๆ เพราะชื่อร้านบอกว่าไทย เวียตนาม มาถึงก็สั่งด้วยความมั่นใจมากว่ามีเมนูแน่ๆ ไม่ต้องดูเมนูก็สั่งได้ "กะเพราไก่ with fired egg pls." ไม่รู้สำเนียงชัดไปรึยังไง ถึงได้รับการสวนกลับว่า "คนไทยหรอคะ" 555 เลยได้กะเพราจานใหญ่ๆมา พร้อมต้มยำกุ้ง 1 ถ้วย

  • ทุกคนคะ กะเพรามาจานใหญ่มากจริงๆ ในราคาแค่ USD 12.95 แต่เชื่อว่าถ้าร้านนี้มาเปิดที่บ้านเรา คงโดนบ่นเละ เพราะอุดมไปด้วยถั่วฝักยาว พริกหวาน หอมใหญ่ หวานนำ เค็มน้ำมันหอม แต่โดยรวมก็โอเคค่ะ แต่ไม่เผ็ดสักเท่าไหร่ เลยราดพริกป่นเพิ่ม
  • ต้มยำกุ้งถ้วยน้อยนี้ ราคา USD 5.25 เป็นต้มยำที่เน้นหวาน เปรี้ยวน้อย เค็มเล็กน้อย แต่กลิ่นน้ำปลาพุ่งแรงมาก


259 14 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : MIT Sloan Canteen / Cafeteria / Dinning Room at Boston / เวลา 08:30 น.

      มื้อเช้ามื้อสุดท้าย ที่จะฝากท้องไว้ที่แคนทีนนี้ค่ะ แอบดีใจเบาๆ 555 จะได้ไปกินอะไรที่คุ้นเคย คุ้นปากแล้ว
  • มื้อเช้าต้องกินเบาๆ และราคาเบาๆที่ USD 9.30 มี Chocolate Milk (Lactose Free) / Sausage, Egg and Cheese Sandwich / Banana Tea Bread
  • ตัวนมช็อคโกแล็ต นี่หอมช็อคโกแล็ตมากค่ะ และหวานเบาๆ พอให้รู้ว่านี่เป็นนมหวานนะ
  • แซนด์วิช ที่เราเรียกแมคมัฟฟิน เพราะเหมือนแมคมัฟฟินจริงๆค่ะ ยิ่งชิ้นนี้ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่เลย
  • ใครชอบเค้กกล้วยหอม น่าจะชอบชิ้นนี้เหมือนเราค่ะ อันนี้ซื้อในร้านสตาร์บัค จะหอมกลิ่นชาเบาๆ รสหวานกำลังดี ไม่เลี่ยน ไม่แสบคอ เนื้อแน่นๆ แต่ไม่ร่วน ฉ่ำกำลังดี แนะนำมากๆค่ะชิ้นนี้ 102


259 14 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : MIT Sloan Canteen / Cafeteria / Dinning Room at Boston / เวลา 12:00 น.

      ด้วยยังอิ่มจากมื้อเช้าอยู่ มื้อกลางวันเลยซื้ออะไรเบาๆมากินจุบจิบค่ะ เน้นของกินเล่นซะส่วนใหญ่

  • เรียงจากล่างสุด Pitachio Medeleine / Soft Chocolate Chip Cookie / Mix Fruits / Raspberry Rose Water Sparkling คนที่บอกว่าจะลดแป้งหายไปแล้วค่ะนาทีนี้ 555
  • มาดแลน หวานกำลังดี เนื้อร่วนนิดหน่อย เสียดายที่ไม่มีกลิ่นพิตาชิโอ
  • คุ้กกี้นี่สายซอฟท์เราชอบมากกกกก อันนี้ก็อร่อยตัวชิบละลายเยิ้ม ถ้าอุ่นพร้อมมาร์ชเมลโล่ต้องฟินมากแน่ๆ
  • ส่วนผลไม้รวม เราเอาสปาร์คกลิ้งมาเทลงไปค่ะ ก็กินซ่าๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ฟินๆ สดชื่นมาก แต่หลายคนไม่ชอบกินแบบนี้ เพราะรู้สึกแหยะๆ 555


259 14 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Pho House at Boston / เวลา 20:40 น. / Link Website : https://www.brownsugarcafe.com/

      เย็นวันสุดท้ายแล้ว ปิดจ๊อบด้วยอาหารไทยเลยค่ะ ร้านนี้จะอยู่แถวๆ Boston University เป็นร้านใหญ่อยู่นะคะ ติดกันจะเป็นร้านอาหารจีน ชื่อ Victoria Seafood เดินต่อไปอีกนิดเป็นซูเปอร์ใหญ่ ชื่อ Star เวลามาชอบมาซื้อขนมกลับไปค่ะ ถูกดี
  • เมนูแรกเป็นยำวุ้นเส้นค่ะ แม่ครัวใส่ผักมายำรวมเยอะมาก แต่หมึก กุ้ง หอยก็ให้มาไม่น้อยเลย คือ ไม่หวงเครื่องค่ะ ใส่มาโบ้มๆ แต่ติดหวานไปนิดนึง และอ่อนเผ็ดไปหน่อย
  • จานต่อมา คะน้าหมูกรอบ หมูกรอบชิ้นโตๆ เป็นหมูกรอบที่เป็นหมูกรอบจริงๆ มันน้อย กรอบกร๊วบ คะน้าคัดส่วนมาดี ไม่เหนียว รสเข้มข้น แปปเดียวหมดจานค่ะ
  • ไข่เจียวหมูสับ ไข่หนานุ่ม ใส่หมูสับร่วนๆ เค็มพอดี น้ำตาจะไหล เหมือนได้กินไข่เจียวที่บ้านเลย 68

  • ต้มยำกุ้ง ใส่กุ้งตัวโตๆ เก็บเห็ดฟางแบบกวาดไปทางไหน ก็สบายใจได้ว่าเห็ดจะไม่ละลายหายไปกับน้ำต้มยำ ไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ ซดลื่นคอ แต่กินไปกินมา แอบรู้สึกว่ามันคล้ายแกงส้มมากกว่าต้มยำซะงั้น 555
  • แต่พนักงานร้านนี้น่ารักมากค่ะ พอรู้ว่าเราเป็นคนไทย ก็ขนพริกน้ำปลา พริก เครื่องปรุงต่างๆมาให้แบบไม่หวงเลย มื้อนี้หมดไป USD 100 ค่ะ (ค่าอาหาร USD 83.25)


259 15 มิถุนายน 2562 / สถานที่ : Central Diner at J.F.K Airport / เวลา 10:30 น.

     มื้อสุดท้ายกลับมาที่นิวยอร์ค และถือเป็นมื้อสุดท้ายในทริปเมกาด้วย เราต้องมาสนามบินแต่เช้าเพื่อมาลงนิวยอร์ค (Logan to J.F.K) และต่อจากนิวยอร์คไปโซล เช็คอินแล้ว เวลายังเหลือ ก็ออกมาหาของกินค่ะ เดินไปเดินมา ร้านนี้แหล่ะ น่าจะลงตัวสุด
  • ได้แมคแอนด์ชีสมาอีกแล้ววววววว Buffalo Chicken Mac n Cheese add Crispy Bacon & Iced Tea (USD 21.32) 
  • เป็นแมคแอนด์ชีสที่ดีมากกกกกก ไม่เลี่ยน เพราะซอสบัฟฟาโร่วิง ที่เผ็ดๆนำเนี่ยแหล่ะค่ะ เลยได้รส เผ็ด เค็ม มัน เปรี้ยวนิดนึง ส่วนเบคอนที่สั่งเพิ่มเค็มแสบคอ เค้าให้มากล่องใหญ่มากค่ะ และมีน่าจะบลูชีสนะ มาด้วย อันนี้แตะไปนิดนึงเพราะเค็มจัด เลยไม่ได้แตะอีก กินแต่มักกะโรนีกับไก่อย่างเดียวเลย ส่วนชาก็หวานเจี๊ยบ แบบชาขวดในบ้านเราเลย ถึงอย่างนั้นก็ตัดรสกับแมคแอนด์ชีสได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
      ปิดทริป 1 ประเทศ 2 เมืองแล้ว จริงๆมาบอสตันต้องกินล็อบสเตอร์ กินอาหารทะเลนะคะ แต่ปีนี้ไม่ได้ไปเลยสักร้าน 555 ไว้จะลงในไดอารี่ตอนต่อๆไป ไว้ย้ำความทรงจำดีกว่า
      ตอนต่อไป จะเป็นตอนต่อของทริปนี้ค่ะ แต่จะเป็นประเทศที่ 2 กับอีก 1 เมือง


Create Date : 25 มิถุนายน 2562
Last Update : 9 กรกฎาคม 2562 16:51:19 น. 0 comments
Counter : 1573 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4091112
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




- เป็นผู้หญิงตัวกลมๆ ที่กินอะไรก็อร่อย แต่ช่วงหลังๆกินจุได้ไม่เท่าเดิม
- เป็นคนที่พยายามมองโลกในแง่ดี อยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ จะได้ยิ้มเยอะๆ คิ้วผูกเป็นโบว์น้อยๆ
- ชอบหาของอร่อย แต่ก็ขี้เกียจออกไปไหน นานๆทีเลยจะมีทริปที 555
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 4091112's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.