Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
หลากคำถามเรื่องตา ที่หลายคนคาใจ

 
lozocat lozocat

 
คำถามเกี่ยวกับตาที่คาใจ (หมอชาวบ้าน)
 
       มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของ "ดวงตา" อีกหลายเรื่องที่หลายคนคาใจ วันนี้ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ โครงการศูนย์ตาธรรมศาสตร์ เพื่อสุภาพตาประชาชน หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะมาขออธิบายให้รับรู้กัน
 
1. ตาแดงติดต่อกันอย่างไร
 
       โรคตาแดง ติดต่อโดยตามีการสัมผัสกับเชื้อโรค ซึ่งอาจเกิดจากมือไปสัมผัสกับเชื้อโรคแล้วมาสัมผัสโดนตา จึงติดเชื้อตาแดง โดยเชื้อโรคอาจอยู่ตามที่ต่าง ๆ ที่สกปรก ตามโต๊ะ เก้าอี้ หรือของใช้ร่วมกันที่คนเป็นตาแดงใช้มือที่สัมผัสตาแดงของตนแล้วยังไม่ได้ล้างมือไปจับไว้ตามสิ่งของต่าง ๆ ไม่ได้ติดต่อกันโดยยืนอยู่ใกล้กันหรือมองตากัน
 
2. เป็นตากุ้งยิงบ่อย เกิดจากอะไร
 
       "ตากุ้งยิง" เกิดจากมีการอุดตันของต่อมน้ำตาหรือต่อมไขมันที่หนังตา อาจจากเจอฝุ่น หรือขยี้ตา ถ้าอดนอนด้วยจะทำให้เป็นง่ายขึ้น
 
3. เด็กตาเข เกิดจากอะไร จากนอนอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ใกล้หรือเปล่า
 
       ตาเข เกิดจากเป็นเองแต่กำเนิด หรือจากมีสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ตามัว ต่อมาตาข้างนั้นไม่ได้ใช้งานจึงเข หรือจากเส้นประสาทสมองที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อตาเสื่อม ซึ่งอาจมีหรือไม่มีอาการทางสมองอื่นร่วมด้วย นอกจากนั้นอาจเกิดจากภาวะสายตาผิดปกติ เช่น สายตา สั้น ยาว เอียง แต่ไม่ได้เกิดจากการนอนอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ใกล้ ๆ
 
 
4. มียาหรือวิตามินกินบำรุงสายตาหรือไม่
 
       การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลายก็เพียงพอแล้ว แต่การขาดวิตามินเอจะทำให้ตาบอดตอนกลางคืนและตาแห้งได้ แต่มักจะพบในคนที่ขาดอาหารอย่างรุนแรง ซึ่งก็จะขาดสารอาหารประเภทอื่นด้วย เช่น โปรตีน หรือวิตามิน เกลือแร่อื่น ๆ ไม่ใช่พบในคนที่กินอาหารในชีวิตตามปกติ
 
       ในปัจจุบันโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุมีการพูดถึงกันมากขึ้นในแง่สารอาหาร เช่น ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthine) ซึ่งพบได้ที่จอประสาทตา ได้มีบรรจุอยู่ในยาบำรุงหลายชนิด อาจให้ผลป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมนี้ได้ แต่ยังไม่มีผลจากงานวิจัยขนาดใหญ่รับรองชัดเจน
 
       สำหรับในคนอายุเกิน 55 ปี ที่มีจอประสาทตาเสื่อมปานกลางบ้างแล้ว มีการศึกษาขนาดใหญ่ของ AREDS พบว่าการกินยาต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) และธาตุสังกะสี จะลดความรุนแรงของโรคได้บางส่วน แต่คนที่ยังไม่เป็นโรคนี้หรือเป็นน้อย ๆ ไม่มีประโยชน์จากการกินยานี้
 
5. ตาแห้งทำให้ตาบอดได้หรือเปล่า
 
       "ตาแห้ง" ทำให้ตาบอดได้ ปกติกระจกตาดำจะมีน้ำตาเคลือบผิวอยู่ตลอดเวลา ภาวะตาแห้งก็คือน้ำตาที่เคลือบผิวกระจกตาลดน้อยลง ผิวกระจกตาดำก็จะแห้งมีอาการแสบ เคืองตา ตามัว เซลล์ชั้นผิวก็จะเสียหลุดลอกไป เกิดการอักเสบแม้กระทั่งการติดเชื้อแทรกซ้อน สุดท้ายกระจกตาก็จะบางลงจนถึงทะลุได้ ทำให้ตาเสียหรือถ้าไม่ทะลุแต่มีการอักเสบมาก แม้รักษาหายแล้วกระจกตาดำก็จะขุ่นมัว ทำให้มองเห็นไม่ชัดได้
 
       ดังนั้น ตาแห้งอาจต้องรักษาให้เหมาะสม กำจัดสาเหตุ ให้น้ำตาเทียมทดแทนในบางราย ก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้ในรายที่เป็นมาก ผู้ป่วยตาแห้งส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นรุนแรงจนถึงขั้นตาบอด
 
6. ตาแห้งเกิดจากใช้คอมพิวเตอร์ใช่หรือไม่ จากลมพัดเข้าตาด้วยหรือเปล่า
 
       เวลาใช้คอมพิวเตอร์ สมาธิเราจะอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์จนทำให้กระพริบตาลดลง ทำให้น้ำตาที่จะมาเคลือบตาลดลง เกิดอาการตาแห้งได้ ดังนั้น ควรกระพริบตาบ่อยขึ้นหรือหลับตาเพื่อให้น้ำตามาเคลือบผิวตา
 
       ปกติคนเราจะกระพริบตา 10 ครั้งต่อนาที การกระพริบตาจะช่วยให้น้ำตามาเคลือบผิวตาได้ดี ส่วนลมพัดเข้าตาก็ทำให้น้ำตาระเหยไปได้ง่ายทำให้มีปัญหาตาแห้ง
 
       สาเหตุของตาแห้งนั้นมีหลายอย่าง จากการสร้างน้ำตาลดลงน้ำตาระเหยง่าย หรือความผิดปกติในประสิทธิภาพของการกระพริบตาหรือการหลับตา เป็นต้น
 

ข้อมูลและภาพประกอบจาก kapook.com

lozocat lozocat

 



Create Date : 05 ธันวาคม 2556
Last Update : 5 ธันวาคม 2556 22:39:55 น. 0 comments
Counter : 586 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.