เพิ่มพลังด้วย 6 วิธีจูงใจให้ไม่พลาด อาหารเช้า 1. เริ่มต้น อาหารเช้ากับ อาหารเบาๆ ปริมาณน้อยๆ ฝึกรับประทานอาหารมื้อเช้าด้วยเมนูอาหารที่ย่อยง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร และไม่ควรบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป สำหรับการเริ่มต้น เช่น ลองรับประทานเครื่องดื่มโปรตีนเชคกับผลไม้ หรือไข่ต้มสักลูกตบท้ายด้วยผลไม้ซัก 2 3 ชิ้น แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นในการรับประทานอาหารเช้าที่ดีและมีคุณค่าแล้ว 2. โปรตีน สารอาหารสำคัญสำหรับมื้อแรก! จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างพบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารเช้าโดยบริโภคโปรตีนในปริมาณสูง มีแนวโน้มที่จะลดแคลอรี่จากการบริโภคอาหารมื้อเย็ได้ต่ำกว่าผู้ที่รับประทานอาหารมื้อเช้าแบบปกติถึง 200 กิโลแคลอรี่ เนื่องจาก โปรตีน เป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับมื้อเช้า เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายรู้สึก อิ่ม ได้นานแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายและจิตใจตื่นตัวไปตลอดทั้งวันอีกด้วย
ว้าว
3. เปลี่ยน อาหารมื้อหนัก เป็น ของว่าง ที่กินได้เรื่อยๆ สำหรับการฝึก รับประทานอาหารเช้า ให้เป็นนิสัยนั้น จริงๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารทั้งมื้อให้หมดภายในครั้งเดียว แต่สามารถใช้เวลาไปกับอาหารมื้อนั้นๆ ด้วยการละเลียดอาหารแต่ละอย่าง หรือเว้นช่วงการรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างอาหารคาว อาหารหวาน เป็นต้น 4. ตื่นก่อนเวลาปกติ 15 นาที 15 นาที ที่เพิ่มขึ้นจากการที่คุณตื่นก่อนเวลาปกติอย่างที่เคย นอกจากคุณจะได้ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันในยามเช้าแบบไม่ต้องเร่งรีบแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นระบบต่างๆ ภายในในร่างกาย ให้ค่อยๆ ตื่นตัวจากการนอนหลับและพร้อมที่จะผจญภัยกับภารกิจหนักต่างๆ ในช่วงวันอีกด้วย 5. เมนูไหนๆ ก็เป็นอาหารเช้าได้เสมอ ไม่เคยมีกฎตายตัวหรือข้อบังคับว่า เมนูอาหารชนิดใดบ้างที่ควรหรือไม่ควรเป็น อาหารมื้อเช้า เพราะเราเน้นที่คุณค่าของสารอาหารที่บริโภคเป็นหลัก ดังนั้น ไม่ว่าอาหารมื้อเช้าของคุณจะเป็นอาหารเหลือจากมื้อเย็นที่รับประทานไม่หมดของเมื่อวาน หรืออาหารปรุงสำเร็จที่เราซื้อไว้นานแสนนานอยู่ในช่องแข็ง ทุกเมนูอาหารสามารถเป็นอาหารมื้อเช้า ได้เสมอ 6.มั่นใจแค่ไหนกับ กาแฟและมัฟฟิน มื้ออาหารเช้า มีอีกหลายคนที่ไม่ยอมรับประทานอาหารเช้า เพราะเชื่อว่า แค่ดื่มกาแฟคู่กับมัฟฟิน หรือเบเกอรี่อื่นๆ สักชิ้นสองชิ้นก็อิ่มท้อง เทียบเท่ากับอาหารมื้อเช้าที่มีคุณค่าได้แล้ว แต่ในความเป็นจริง แค่กาแฟกับมัฟฟิน กลับให้พลังงานที่สูงกว่า 700 กิโลแคลอรี่ รวมทั้งมีไขมันไม่ดีที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของคุณถึง 6 ช้อนชา การเริ่มต้นกิน อาหารเช้า แบบไม่ฝืนความรู้สึก ทำได้ไม่ยากใช่มั้ยคะ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีในอนาคต
ลองปรับพฤติกรรมการกินของคุณ โดยหันมาให้ความสำคัญกับ การรับประทานอาหารมื้อเช้า ซึ่งถือว่าเป็นอาหารมื้อแรกของวัน
เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้
แล้วคุณจะพบการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นสะท้อนให้เห็นจากร่างกายของคุณเอง
ที่มาจาก โภชนากรซูซาน โบเวอร์แมน
|