Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
สูตรลดน้ำหนักแอตกินส์ ลดอ้วนจริง แต่เสี่ยงมะเร็งลำไส้

 

 


     นักวิจัยชี้สูตรลดน้ำหนักแบบโลว์คาร์บ อาทิ สูตรแอตกินส์ อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ หลังพบการลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมีส่วนสัมพันธ์กับการที่แบคทีเรียที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็งลดจำนวนลง

    นักวิจัยจากสถาบันวิจัยโรเวตต์ของอะเบอร์ดีน สกอตแลนด์ ศึกษาผู้ชายน้ำหนักเกิน 19 คนที่ได้โจทก์ให้ลดน้ำหนักด้วยสูตร 3 แบบที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตในระดับต่ำ ปานกลาง และสูง โดยกลุ่มแรกกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเพียง 24 กรัมต่อวัน เท่ากับสูตรลดน้ำหนักแบบแอตกินส์ ขณะที่กลุ่มหลังสุดกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต 400 กรัม

    จากการศึกษา นักวิจัยพบความเชื่อมโยงระหว่างการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตกับการผลิตกรดไขมันในลำไส้ที่ช่วยปกป้องมะเร็งลำไส้ใหญ่

    กรดดังกล่าวคือ กรดบิวทิเลต ผลิตโดยแบคทีเรียและช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง

    นักวิจัยพบว่า กลุ่มที่กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำที่สุด มีปริมาณแบคทีเรียต้านมะเร็งลดลงถึง 4 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีรายงานการศึกษาเกี่ยวกับโภชนาการของมนุษย์

    ศาสตราจารย์แฮร์รี ฟลินต์ ผู้นำการวิจัยเตือนว่า ในระยะยาวอาจเป็นไปได้ที่การกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำนำไปสู่โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

    “โรคนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ มีหลักฐานว่า การกินอาหารที่ผิดหลักโภชนาการทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น”

     ฟลินต์สำทับว่าการวิจัยนี้อาจได้ผลแบบเดียวกันกับผู้หญิง

     ทั้งนี้ สูตรลดน้ำหนักแบบแอตกินส์ช่วยให้ดาราสาวมากมาย อาทิ เจนนิเฟอร์ แอนนิสตัน, แคเทอรีน ซีตาโจนส์ และเรอเน เซลเวเกอร์ มีหุ่นกระชับได้สัดส่วน

     สูตรนี้กำหนดให้ลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ซึ่งรวมถึงมันฝรั่ง นมเนย และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายใน 2 วัน และส่วนใหญ่สามารถลดน้ำหนักได้จริง หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต

     ทว่า ฟลินต์ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ลดน้ำหนักบางคนพยายามรักษาระดับการควบคุมคาร์โบไฮเดรตต่อไป ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

     ศาสตราจารย์แอนนี แอนเดอร์สัน ที่ปรึกษาด้านโภชนาการของเบาเวล แคนเซอร์ ยูเค กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเปรียบเทียบกับสูตรลดน้ำหนักไขมันต่ำอื่นๆ จะเห็นว่าการเน้นลดคาร์โบไฮเดรตช่วยลดน้ำหนักได้เท่านั้น แต่ในระยะยาวไม่คุ้มกัน ดังเช่นที่ระบุไว้ในรายงานของนักวิจัยจากอะเบอร์ดีน

      ทั้งนี้ กระแสโลว์คาร์บเริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายทศวรรษ 1990 เมื่อ ดร.โรเบิร์ต แอตกินส์ ออกหนังสือ ‘ดร.แอตกินส์ นิว ไดเอ็ต เรฟโวลูชัน’ โดยสูตรแอตกินส์อิงกับทฤษฎีที่ว่า การลดคาร์โบไฮเดรตจะเป็นการปรับสวิตช์สารเคมีในร่างกาย เพื่อเปลี่ยนจากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตมาเผาผลาญไขมันแทน

     แม้มีผู้สนับสนุนมากมายว่าสูตรโลว์คาร์บลดน้ำหนักเห็นผล แต่ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงวิจารณ์ว่า สูตรลดน้ำหนักนี้เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคกระดูกพรุนในผู้หญิง และมีค่าใช้จ่ายสูง

     ผลศึกษาชิ้นหนึ่งกล่าวหาว่า สูตรแอตกินส์เป็นต้นเหตุของอาการท้องผูก ซึ่งนำไปสู่โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

     บ้างว่า การลดน้ำหนักตามแบบนี้เป็นต้นเหตุให้คนลาป่วย ทำให้แรงขับดันทางเพศลดลง

     ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งสำทับว่า ความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นเมื่อคนเรากินไขมันจากสัตว์ในปริมาณมาก ซึ่งทำให้อาหารเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ช้าลง นอกจากนั้น อาหารที่ถูกหลักโภชนาการยังหมายถึงการกินอาหารที่มีเส้นใยมากกว่าที่แอตกินส์อนุญาตให้กินได้

     ดร.เอ็มมา ไนต์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลวิทยาศาสตร์ของแคนเซอร์ รีเสิร์ช ยูเค ปิดท้ายด้วยการแนะนำให้กินอาหารอย่างสมดุล โดยประกอบด้วยอาหารที่มีเส้นใยสูง ผักและผลไม้ ลดการกินเนื้อแดงและเนื้อที่ผ่านการแปรรูป นอกจากนั้น การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมยังช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกทาง


ที่มา : manager 
  




Create Date : 20 กันยายน 2556
Last Update : 20 กันยายน 2556 11:06:44 น. 0 comments
Counter : 577 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.