Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
โครงสร้างร่างกายมีผลต่อการปวดประจำเดือน

 

 


 

ในหนึ่งเดือนของผู้หญิงวัยเจริญพันธ์จะมีช่วงที่ร่างกายและจิตใจเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก นั่นคือ ช่วงที่มีประจำเดือน ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายมากพอสมควร เพราะภูมิต้านทานต่ำมากกว่าปกติ ระบบข้อต่อ กระดูก กล้ามเนื้อมีการคลายตัวมากเกินไป ทำให้ข้อต่อ กล้ามเนื้อหลวม ซึ่งหากแข็งแรงไม่พอจะทำให้ร่างกายไม่สามารถต้านอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อมีภาวะนี้

เพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัด สถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ กล่าาวว่า ในช่วงมีประจำเดือนระบบกระดูกกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกราน หน้าท้อง ขา แข็งแรงหรือมีความทนทานไม่มากพอจะถูกยืดยาวออก หลวมตัวมากไป ทั้งข้อต่อและกล้ามเนื้อ ไม่เพียงพอที่จะพยุงร่างกายให้ต้านกับแรงโน้มถ่วงหรือไม่ทนทานต่อการใช้กล้ามเนื้อในการทำกิจวัตรประจำวันในช่วงนั้นของเดือนได้ เมื่อเจอภาวะเช่นนี้ร่างกายจะมีกลไกบอกความเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้น นั่นคืออาการเจ็บปวดต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันออกไปแล้วแต่สภาวะแต่ละส่วนของร่างกาย ความไม่ทนทานหรือความไม่แข็งแรงของกระดูกกล้ามเนื้อนี้จัดได้ว่าเป็นส่วนของโครงสร้างร่างกายที่ไม่สมดุลด้วย


สุขภาพ, ปวดท้อง, เมนส์, ประจำเดือน
ระบบกระดูกกล้ามเนื้อคือระบบโครงสร้างร่างกาย มีความสำคัญเสมือนเสาหลักของร่างกาย เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาท ระบบหลอดเลือด ระบบน้ำเหลือง เหล่านี้เป็นส่วนที่ประกอบขึ้นมาให้ร่างกายอยู่ได้ หลังช่วงล่างเป็นทางออกของรากประสาทที่มาควบคุมอวัยวะภายในช่องท้องทั้งหมด รวมถึงมดลูกด้วย

ฉะนั้น หากกล้ามเนื้อหน้าท้อง อุ้งเชิงกราน สะโพกและขาไม่แข็งแรงพอทั้งจากการไม่ได้ออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายไม่ถูกต้องหรือเกิดจากการสะสมของไขมันมากเกินไป จะส่งผลให้หลังแอ่นและมีผลให้การควบคุมการทำงานของอวัยวะในช่องท้องลดลง


การดูแลเบื้องต้นนักกายภาพ บำบัดแนะนำว่า

1.สิ่งที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะท่าบริหารหน้าท้องและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานง่ายๆ คือแขม่วท้องขมิบก้นให้เป็นกิจวัตรจนเคยชิน ก็ถือเป็นการบริหารที่ดีมากแล้ว แต่ต้องทำจนเคยชิน


2.ในช่วงที่เป็นและมีอาการ สิ่งที่จะช่วยได้คือเอาความร้อนประคบ เช่น แผ่นร้อนไฟฟ้า ถุงน้ำร้อน วางบนหน้าท้องหรือบริเวณที่มีอาการ เช่น หลัง ก้น ต้นขา แต่ก่อนวางต้องมีผ้าเช็ดตัววางก่อนถึงผิวสัก 1-2 ชั้น แล้วค่อยวางเพื่อให้ความร้อนค่อยๆ ซึมเข้าด้านใน และจะได้ไม่แสบผิว

3.การกินอาหาร ในช่วงที่เป็นควรเลือกอาหารอ่อน เน้นผักผลไม้ เพราะแป้งและเนื้อสัตว์จะส่งผลให้การทำงานของอวัยวะในช่องท้องยิ่งบีบตัว อาจทำให้มีอาการปวดมากขึ้น อาหารบางอย่างก็ไม่ควรกิน เช่น น้ำมะพร้าว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลืองเพราะอาหารดังกล่าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จะไปสกัดกั้นการขับระดู

4.ในช่วงที่เป็นควรหลีกเลี่ยงภาวะที่ต้องยืนหรือเดินนานๆ ให้หาที่นั่งจะดีกว่า

5.งดการใส่ส้นสูงในช่วงที่เป็น เพราะการใส่ส้นสูงจะทำให้ข้อต่อที่หลัง สะโพก เข่า และข้อเท้าต้องเสียดสีกันมากขึ้น เพราะในช่วงนี้ร่างกายและข้อต่อจะหลวมมากกว่าปกติ

6.หากเป็นไปได้ควรหาซัพพอร์ตหลัง หรือกางเกงที่ช่วยพยุงกล้ามเนื้อสะโพกและขา แต่ต้องเป็นกางเกงที่พยุงได้จริงนถึงจะช่วยบรรเทาอาการได้จริง

7. สิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้คือทำจิตใจให้สบาย ช่วงนี้จะหงุดหงิดมากกว่าธรรมดา ทุกครั้งที่หงิดหงุดก็หามุมสักมุมให้ตัวเองนั่งเอนหลังหลับตาหายใจเข้าลึกๆ เอาจิตอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกสัก 4-5 นาที






Create Date : 22 สิงหาคม 2555
Last Update : 22 สิงหาคม 2555 9:34:53 น. 0 comments
Counter : 914 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.