Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
15 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
กินปลาประจำลดเสี่ยงมะเร็ง 2 ชนิด

 

 

 

 


กินปลาประจำลดเสี่ยงมะเร็ง 2 ชนิด

หลายคนชอบกินปลาเพราะย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ โดยล่าสุดยังมีผลวิจัยออกมาสนับสนุนให้กินปลา เนื่องจากสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้

ทาง จี เหลียง ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินอาหารจากซีอานในประเทศจีน เผยผลการวิเคราะห์ข้อมูลจาก 41 ประเทศทั่วโลก
 
อาทิ อเมริกา นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ญี่ปุ่น เกี่ยวกับการวัดปริมาณการกินปลาและการติดตามโรคมะเร็ง พบว่า การกินปลาเป็นประจำ โดยภาพรวมช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งทวารหนัก ได้ร้อยละ 12 แต่คนที่เน้นกินปลาเยอะกว่าเนื้อสัตว์อื่น พบว่า มีส่วนช่วยลดการเกิดมะเร็งทวารหนักได้ร้อยละ 21 ส่วนมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดได้ร้อยละ 4

แต่ทั้งนี้ จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย อย่าง อายุ, พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์, ปริมาณการกินเนื้อสัตว์เนื้อแดง, และประวัติการป่วยมะเร็งของคนในครอบครัว

ด้านศาสตราจารย์ไมเคิล กอชฟิลด์ จากโรงเรียนแพทย์นิวเจอร์ซีย์ โรเบิร์ต วูด จอห์นสัน มีความเห็นเช่นเดียวกัน แถมระบุเพิ่มว่า คนที่นานๆ จะกินปลาสักครั้ง ยังเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคหัวใจ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยของคุณเหลียงจากแดนมังกรนี้ เป็นการวิจัยเบื้องต้นจากการกินเนื้อปลา ที่มิใช่ปลาแปรรูป น้ำมันปลา หรืออาหารเสริมจากปลา ทั้งยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดว่า ต้องกินปลาชนิดใดเป็นพิเศษหรือไม่ และปลาลดความเสี่ยงมะเร็งดังกล่าวได้เพราะเหตุใด แต่ข้อสงสัยสำคัญนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาต่อไปอีก

ถึงตอนนี้จะส่งเสริมให้กินปลา แต่วิธีปรุงอาหารก็ไม่ควรทำให้ผ่านความร้อนนาน หรืออุณหภูมิสูง เช่น ปิ้ง ย่าง เผา เพราะเชื่อว่าวิธีดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงป่วยมะเร็งได้.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




Create Date : 15 พฤษภาคม 2555
Last Update : 15 พฤษภาคม 2555 9:58:16 น. 0 comments
Counter : 824 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.