วิถีชีวิตของคนในสังคมเมืองทุกวันนี้ที่มีแต่ความเร่งรีบ ส่งผลให้พฤติกรรมสุขภาพของเราเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนวัยทำงานอย่างเราๆ ตั้งแต่ตื่นนอนก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ไปทำงานก็รีบขับรถ การนั่งทำงานตลอดทั้งวัน รับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ และไม่เป็นเวลา ทักทายพูดคุยกันสั้น ๆ ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวคือ "ไม่มีเวลา" และนั่นยังส่งผลถึงความเครียดที่สะสม และก่อตัวขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งความเครียดนั้นไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพจิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลไปถึงร่างกายด้วย ไม่ว่าจะเป็นไมเกรน ตาพร่า ต้อหิน ปวดหลัง เบื่ออาหาร หรือโรคยอดฮิตอย่างอาการท้องอืด
อาการปวดท้องที่เกิดจากความเครียดนั้น ถือว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับคนทำงานออฟฟิศมากที่สุด ที่เรียกกันว่า "เครียดลงกระเพาะ" ความเครียดจะทำให้ระบบลำไส้แปรปรวน ส่งผลให้มีอาการแสบท้อง แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ปวดท้องบ่อย ๆ หิวก็ปวด อิ่มก็ปวด จุกเสียด และเกิดแผลในกระเพาะอาหารในที่สุด สาเหตุก็เป็นเพราะ ความเครียดจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนจากต่อมหมวกไตมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา และทำให้กรดในกระเพาะหลั่งมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของโรคกระเพาะนั่นเอง
แล้วเราควรจะทำยังไงหากเจ้าโรคนี้เข้ามาทักทายเรา วิธีปฏิบัติตัวสำหรับคุณที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ อันเกิดจากความเครียด ก็คือ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่าย รสไม่จัด และรับประทานอาหารให้เป็นเวลา หรือเลือกซื้อยาที่มีตัวยาไซเมทิโคน (Simethicone) อย่าง Air-X ซึ่งจะมีสรรพคุณช่วยขับแก๊สหรือลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง โดยในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมในรูปแบบของเม็ดเคี้ยว เพราะสะดวกในการรับประทาน เพียงเคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนเลยโดยไม่ต้องดื่มน้ำตาม แถมยังพกพาง่าย และให้ประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้ยาน้ำ ซึ่งเหมาะกับชีวิตประจำวันที่เร่งรีบแบบคนออฟฟิศอย่างเรา แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นเป็นระยะเวลานาน ก็ควรไปพบแพทย์จะดีกว่า เพราะอาจมีโรคร้ายซ่อนอยู่ในอาการท้องอืดก็ได้
แต่วิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกให้พ้นจากโรคยอดฮิตนี้ ไม่ใช่แค่การรักษาแต่เป็นการป้องกัน นั่นคือหันมาให้เวลากับตัวเองบ้าง ถึงชีวิตคนเมืองอย่างเรา จะถูกบีบบังคับให้แทบจะไม่มีเวลา แต่เรื่องสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้หน้าที่การงาน หากต้องทุ่มเททำงานหาเงินโดยไม่ดูแลสุขภาพ ก็เท่ากับว่าเรากำลังทำงานเพื่อหาเงินมารักษาเยียวยาตัวเองในอนาคตนั่นเอง