Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
4 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
ไมเกรน ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด



นาทีนี้ ถ้าพูดถึงโรคไมเกรน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะในปัจจุบัน ได้กลายเป็นโรคยอดฮิต ที่มีจำนวนผู้ป่วยไม่น้อยกว่าโรคอื่นๆ อีกทั้งยังเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย ทุกอาชีพ แต่รู้หรือไม่ว่าโรคไมเกรนไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด ทางโรงพยาบาลธนบุรี มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้มาฝากกัน

Photobucket - Video and Image Hosting     โรคไมเกรน (MIGRAINE) คือ โรคที่เกิดจากการบีบตัวและคลายตัวของหลอดเลือดแดงในสมองมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว พร้อมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ในบางรายอาจมีอาการตาพร่ามัวหรือเห็นแสงระยิบระยับร่วมด้วย

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า อาการปวดศีรษะนั้น เป็นอาการที่พบบ่อยในประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ มากมาย ซึ่งในทางการแพทย์แบ่งอาการปวดศีรษะออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่


Photobucket - Video and Image Hosting    1. อาการปวดศีรษะชนิดเฉียบพลัน ซึ่งมักจะมีสาเหตุจากการอักเสบ หรือติดเชื้อในบริเวณโพรง   จมูก, คอ, ปาก, หู และตา 
        2. อาการปวดศีรษะเรื้อรัง ซึ่งมักมีสาเหตุใหญ่ๆ เพียง 2 ชนิดคือ
        2.1. โรคไมเกรน
        2.2. โรคปวดศีรษะจากความเครียด

ส่วนภาวะเนื้องอกในสมอง หรือการตกเลือดในสมองนั้น พบได้น้อยมากไม่ถึง 0.01% ของผู้ที่มีอาการปวดศีรษะทั้งหมด ดังนั้น ถ้าใครปวดศีรษะและกังวลว่าตนเองจะมีเนื้องอกในสมอง หรือมีเลือดออกในสมองนั้น มีโอกาสเป็นจริงน้อยมาก แต่มักจะปวดศีรษะจากความเครียด หรือโรคไมเกรนมากกว่า

โรคไมเกรน ความจริงไม่น่าจะจัดว่าเป็นโรคแต่อย่างใด เพราะเป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงในสมองบีบตัวและคลายตัวมากกว่าปกติ ในคนปกติหลอดเลือดแดงเหล่านี้ซึ่งมีอยู่มากมายในสมองก็จะมีการบีบตัวและคลาย ตัวอยู่เป็นประจำ แต่ไม่มากจึงไม่รู้สึกปวดศีรษะ

ในผู้ป่วยโรคไมเกรน จะไม่พบพยาธิสภาพใดๆ ในหลอดเลือดแดงของสมอง จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอัมพาตหรือพิการแต่อย่างใด

อาการของโรคไมเกรน ประกอบด้วยลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้   Photobucket - Video and Image Hosting


1. ปวดศีรษะครึ่งซีก อาจเป็นบริเวณขมับหรือท้ายทอย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสองข้างพร้อมกัน หรือเป็นสลับข้างกันได้


2. ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากจะปวดตุ๊บๆ นานครั้งหนึ่งๆ เกิน 20 นาที (ยกเว้นจะได้รับประทานยา) แต่บางครั้งถ้าเป็นรุนแรงอาจปวดนานเป็นวันๆ หรือสัปดาห์ก็ได้ผู้ป่วยบางรายอาจมีปวดตื้อๆ ในสมองก็ได้


3. อาการปวดศีรษะมักเป็นรุนแรง และส่วนมากจะมีคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วยเสมอโดยอาจเป็นขณะปวดศีรษะ ก่อนหรือหลังปวดศีรษะก็ได้ บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากจนรับประทานอะไรไม่ได้


4. อาการนำจะเป็นอาการทางสายตา โดยจะมีอาการนำมาก่อนปวดศีรษะราว 10-20 นาที เช่น เห็นแสงเป็นเส้นๆ ระยิบระยับแสงจ้าสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยวนำหน้ามาก่อน

โรคไมเกรน นี้พบบ่อยในผู้หญิงวัยสาว ระหว่าง 20 – 40 ปี ในเด็ก และผู้สูงอายุพบน้อย ผู้ชายพบว่าเป็นไมเกรนน้อยกว่าผู้หญิง 3-4 เท่าตัว แต่ถ้าผู้ชายเป็นมักจะมีอาการรุนแรงกว่า โดยมีอาการปวดตาข้างใดข้างหนึ่ง น้ำตาไหล ตาแดง ปวดรุนแรงมากติดต่อกันเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ และอาจเป็นซ้ำ บ่อยๆ ทุก 6-12 เดือน โรคไมเกรน นี้ มักพบบ่อยกับสมาชิกอื่นๆ ในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง เช่น แม่, น้องสาว, น้า, ป้า เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการของโรคไมเกรนมากขึ้น ได้แก่  Photobucket - Video and Image Hosting


1. ภาวะเครียด


2. การอดนอน


3. การขาดการพักผ่อน หรือทำงานมากเกินไป


4. ขณะมีระดู หรือรับประทานยาคุมกำเนิด


5. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า, เบียร์, ไวน์


6. อาหารบางชนิด เช่น กล้วยหอม เนยแข็ง และช็อคโกแลต

ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไมเกรน จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงภาวะต่างๆ เหล่านี้ ผู้ป่วยทุกคนต้องสังเกตตนเองว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นการเกิดโรคไมเกรนในตนเอง เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงและแก้ไขได้ตรงจุด

โรคไมเกรน ก่อให้เกิดภาวะปวดศีรษะเรื้อรังนานเป็นปีๆ บางรายอาจนานเป็นสิบๆปี จึงมักทำให้ผู้ป่วยเกิดความกังวลว่า ทำไมตนเองจึงไม่ยอมหายจากภาวะปวดศีรษะนั้น และวิตกว่าจะมีความผิดปกติในสมองต่างๆ เช่น เนื้องอกหรือเลือดคั่งในสมอง หรือเกรงว่าจะเกิดอัมพาตหรือพิการตามมาภายหลัง ในกรณีนี้จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะจากภาวะเครียดเพิ่มขึ้นมาทับถมอีก การปวดศีรษะจากภาวะเครียดนั้น จะมีอาการปวดแบบตื้อๆ หนักศีรษะทั่วทั้งศีรษะ บางรายจะบอกว่าปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดโดยรอบหัว อาการนี้จะเป็นมากตอนบ่ายๆ หรือสายๆ ช่วงเช้าไม่ค่อยปวด หลังนอนพักอาการจะดีขึ้น ทั้งนี้ เพราะเกิดจากการบีบเกร็งตัวของกล้ามเนื้อรอบศีรษะและบริเวณคอ

โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคไมเกรน จะไม่มีอันตรายใดๆ ที่จะก่อให้เกิดการพิการหรือทุพพลภาพตามมาแต่อย่างใด อาการปวดศีรษะชนิดไมเกรนนี้จะลดความรุนแรงลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเลยวัยหมดระดูไปแล้ว จะพบผู้ป่วยไมเกรนน้อยมาก

โรคไมเกรน เป็นโรคที่วินิจฉัยได้ โดยการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยละเอียด ไม่มีวิธีการวินิจฉัยทางอื่นใด ดังนั้น การเจาะเลือด เอ็กซเรย์ หรือการตรวจคอมพิวเตอร์สมองจึงไม่มีความจำเป็นต่อการวินิจฉัยโรค

การปวดศีรษะจากโรคไมเกรนนี้ มักรักษาไม่หายด้วยยาแก้ปวดพาราเซตามอลธรรมดา ยาที่ได้ผลดีคือยาแก้ปวดแอสไพริน ขนาด 2 เม็ด ในขณะปวด แต่ข้อระวังห้ามรับประทานแอสไพรินในขณะท้องว่าง และผู้ป่วยโรคแผลในกระเพาะอาหารห้ามรับประทานแอสไพรินเด็ดขาด เพราะอาจเกิดเลือดออกในกระเพาะได้มากๆ และอาจทำให้ถึงแก่กรรมได้ ในผู้ป่วยที่ไม่แน่ใจว่าจะมีโรคกระเพาะหรือไม่ให้รับประทานยาเคลือบกระเพาะ อาหารหรือนมร่วมด้วย ก็จะป้องกันการระคายเคืองของแอสไพรินต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารได้


 


ที่มา : bknowledge.org







Create Date : 04 มีนาคม 2555
Last Update : 4 มีนาคม 2555 21:28:03 น. 0 comments
Counter : 776 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.