เมืองบางเมือง แค่ครั้งเดียวก็เกินพอ แต่สำหรับบางเมือง แค่ครั้งเดียวก็เ้ฝ้าโหยหา อยากกลับไปนั่งพ่นลมหายใจใส่เมืองนั้นอีกสักครั้ง “ดูบรอฟนิค” (Dubrovnik) โครเอเชีย (Croatia) เป็นเมืองจำพวกนั้น เที่ยวซ้ำไปซ้ำมาได้ไม่รู้เบื่อ.. ก่อนจะไปเที่ยวเมืองสวยเมืองนี้ travel.mthai ชวนอ่านข้อมูลน่าสนใจเล็กๆ น้อย  เมื่อราวปี 1991 เป็นช่วงที่โครเอเชีย ต้องการแบ่งแยกดินแดน กองทัพ ยูโกสลาเวีย กองทัพของพวกเชิร์บและมอนเตเนโกร ได้เข้าโจมตีดูบรอฟนิค อาคารบ้านเรือน โบสถ์ และสถานที่สำคัญหลายอย่างถูกเผาทำลายเสียหายไปทั้งเมือง เสียงระเบิดตูมตามข้ามไปจนถึงปี 1992 กว่าศึกจะสงบ กำแพงเมืองก็เต็มไปด้วยรอยกระสุนหมดแล้ว.. ถึงวันนี้ แม้สถานการณ์จะเป็นปกติ แต่นี่คือแผลเป็นที่ชาวโครเอเชียไม่เคยลืม Streets of Dubrovnik | Croatia (by villerose4431) เมืองเก่าที่เห็นตรงหน้า จึงเป็นผลจากการบูรณะขึ้นใหม่ แต่ก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ จึงเป็นระยะการเดินที่น่าสนใจไปทุกรายละเอียด เพราะนอกจากจะได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองแล้ว ยังได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ของเมืองเก่า และของกินทะเลอะเดรียติคอย่างเต็มอิ่ม มองจากกำแพงเมืองลงมา จะเห็นว่าในชายคาเมืองเก่า มียอดโดมของโบสถ์อยู่สองถึงสามแห่ง มีทั้งโบสถ์ เซต์ซาเวียร์ (St.Saviour) อันแสนสวย โบสถ์เซนต์มอร์ริเชียส (St.Maritius) ที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม และมหาวิหารอัสสัมชัน (Cathedral of the Assumption of the Virgin) ที่อวดสถาปัตยกรรมแบบบาโร้ค Dubrovnik | Croatia (by catchlightsa) สิ่งที่ควรทำ : ไม่มีอะไรดีไปกว่า เที่ยวบเดินเนิบนาบสูดอากาศดีๆ ยลความสวยงามเมืองเก่า ในดูบรอฟนิค หาร้านกาแฟ คาเฟ่เหมาะๆ ริมพลาคาแล้วนั่งละเลียดจิบคาปูชิโน ชิลล์แบบนี้ มีความสุขสุดๆ แล้ว Dubrovnik – The Main Street | Croatia  (by John & Tina Reid | via sweetannasour) นอกจากโบสถ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าออกชมความงามกันได้ทั้งวันแล้ว ตรงแลนด์มาร์คของเมือง ยังมีอาคาศาลาว่าการประจำเมือง (City Hall) หอระฆัง (Bell Tower) โรแลนด์ คอลัมน์ (Roland’s Column) และมีลานน้ำพุมินิโอโนฟริโอ รวมถึงมีพระราชวังอีกสองแห่งที่ตั้งอยู่ นั่นคือ พระราชวัง สปอนซา (Sponza Palace) และ พระราชวังเรคเตอร์ส (Rector’s Palace) Dubrovnik | Croatia (by tambaco | via c-hicane) โดยมากที่พักในเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนจะถูกแปลงให้เป็นอาพาร์เมนต์แบบแบ่งเช่า จะมาหาโรงแรมห้าดาวในเมืองเก่านั้น ไม่มีแน่.. อยากพักหรูๆ ต้องกระเถิบออกไปหน่อย ซึ่งที่พักในเมืองเก่าๆ แบบนี้นี่แหละ ที่เราจะได้วิวแบบห้าดาว ที่รายล้อมไปด้วยหลังคาสีส้มๆ ตัวอาคารบ้านเรือนสีขาวๆ มีเสน่ห์ชวนมองไปอีกแบบ ซึ่งใครอยากไปพักที่นี่แนะนำว่าให้พักในเมืองเก่านะคะ เพราะจะได้เดินสำรวจค่ำคืนแสนโรแมนติกของที่นี่ได้ด้วย (คลิกค้นหา ที่พัก ในเมืองเก่าได้จากเว็บไซต์ อโกดา (www.agoda.com) From the Massive Walls Of Dubrovnik | Croatia (by saxonfenken) บราฮัม เศรษฐีชาวรัสเซีย ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ดูบรอฟนิค เป็นเมืองที่เขามาแทบทุกปี เพราะเขาชอบที่นี่ เพราะไม่มีปาปารัสซีคอยตามรังควาน เป็นเมืองที่มีมุมสบายๆ ให้นอนผึ่งพุงอาบแดด มีเมืองเก่าให้พาสาวๆ มาเดินเล่น” เขาจึงมักจะล่องเรือยอชท์ส่วนตัวราคาหลายร้อยล้าน มาจอดเทียบท่า แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ดูบรอฟนิคอยู่เรื่อยๆ ใช่ว่าจะมีแค่ทอดสายตาชมเมืองสวย เดินเล่นริมกำแพงเก่า ที่นี่ยังมีอีกหลายสิ่งให้ทำ ทั้งล่องเรือออกไปชมความงามของท้องทะเลสีน้ำเงินครามแห่งอะเดรียติค หรืออยากนอนเกลือกกลิ้งปิ้งตัวอยู่ชายหาด ก็มีหาดใกล้ๆ เมืองเก่าให้นอนผึ่งแดดกัน หรืออยากจะขึ้นเคเบิ้ลไปชมดูบรอฟนิคในมุมสูงก็ทำได้อีกเหมือนกัน เชื่อแน่ว่า เมือง ดูบอรฟนิค ที่เราเอามานำเสนอนี้ อาจจะเป็น สถานีปลายทางในฝัน ที่ใครหลายคนอาจใฝ่ฝันไปเยี่ยมชมสักครั้งหนึ่งก็เป็นได้ .. แม้อยากจะไปนั่งชิล์ทอดหุ่ยสูดอากาศดีๆ แต่วิวทิวทัศน์ของเมืองนี้ ก็คงทำได้ลั่นชัตเตอร์ใส่มันอย่างสนุกมือแน่นอน Travel Memo - ดูบรอฟนิค (Dubrovnik) อยู่ในประเทศโครเอเชีย (Croatia) - เมืองหลวง ของ โครเอเชีย คือ ซาเกร็บ - ตอนนี้ใครมี วีซ่าเชงเก้น ประดับพาสปอร์ต สามารถเข้าโครเอเชียได้เลยนะคะ - สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ มีเที่ยวบินไปดูบรอฟนิคทุกวัน แวะเปลี่ยนเครื่องที่ อิสตันบูล แล้วบินไปที่ดูบรอฟนิค ใครอยากแวะที่อิสตันบลูก่อนก็ยังได้ เพราะเมืองนี้ก็สวยน่าชมอยู่เหมือนกัน และตรุกีเพิ่งอนุญาตให้คนไทยเข้าเที่ยวได้โดยไม่ต้องทำวีซ่า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-231-0300 – 7 หรือเข้าเว็บไซต์ สายการบิน เตอร์กิชแอร์ไลน์ //www.turkishairlines.com - หากมาจากเมืองหลวงของโครเอเชีย อย่าง ซาเกร็บ มีรถบัสวิ่งวันละหลายเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง  หรือจะนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามประเทศมาจากเมือง Bari ฝั่งอิตาลี ก็มีเรือออกแทบทุกคืน (ออกประมาณ 4 ทุ่ม ถึง ดูบรอฟนิค 7 โมงเช้า) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร Grazia / Thai Edition เรียบเรียงโดย travel.mthai, ภาพจาก tumblr