พฤษภาคม 2560

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ขอบฟ้านั้นอยู่หนใด เอ๊ะนั่นไงที่ "ลียง"




รีวิวตอน 1. แชร์ประสบการณ์ตกเครื่อง กระเป๋าหาย แถมรีวิวพร้อมที่พัก 1 คืน ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย

*** รีวิวนี้ ผมเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายและบริการเองทั้งหมด และเพื่อเป็นแนวทางในการเดินทางของหลายๆท่าน ผมเลยนำประสบการณ์ที่ผมได้รับมา รีวิว ครับ สำหรับรีวิวเต็มๆ ผมจะค่อยๆทยอยเขียนรีวิวให้ชมกันครับ

หากท่านต้องการสอบถาม พูดคุย กับผมมีอีกช่องทางนึงครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog inbox message มาคุยกับผมได้เลยครับ

หลังจากเจอกับประสบการณ์การตกเครื่อง และกระเป่าหายไปพร้อมๆกันในตอนที่แล้ว แล้วนะครับทำให้ Plan ที่เตรียมไว้ของผมเสียไป 1 วันเนื่องจากว่า "ไม่มีอารมณ์ ตัวเหนียวเหนอะหนะ ใส่เสื้อผ้าตัวเดิม" Plan วันแรกเลยเป็นการง่วนอยู่กับ การหาเสื้อผ้าและของกิน และก็อยู่โรงแรมเพื่อนั่งลุ้นว่าทางทีมงานค้นหากระเป๋าของพวกเรา 4 คนเจอมั้ย

ผมเข้าพักที่ Novotel Lyon part Dieu อย่างที่บอกในรีวิวตอน 1 พนักงานบริการดีมากๆ และ น่ารักควรคุยเรื่องกระเป๋าให้เราตลอด Recommend เลยครับ และโรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Gare de Lyon มากๆครับ เดินลากกระเป๋าไม่ถึง 3 นาทีครับน่าจะซัก 100 เมตรได้แหละครับ ตรงข้ามสถานีรถไฟก็จะมีห้างคาร์ฟู ซึ่งมีทั้ง Super Market และ ในส่วนของตัวห้างครับ หลักๆก็ต้อง H&M ครับเพราะว่าถูกที่สุดแล้วสำหรับเสื้อและกางเกง ผมซื้อกางเกงยีนส์ตัวละ 10 e กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่อยยังชั่วครับ แต่ก็ยังไม่อยากไปเที่ยวไหนอยู่ดี เพราะยังอยากจะรู้สถานะของกระเป๋าของพวกเราก่อนครับ วันแรกเลยใช้ชีวิตแค่ โรงแรม สถานีรถไฟ และ ห้างคาร์ฟูร์ ครับ


พอวันที่สองได้รับแจ้งจากทางสายการบินว่ากระเป๋าพวกเราจะมาตอนบ่ายๆ เราเลยรื้อ plan ที่เราเตรียมไว้เที่ยวให้ได้ภายใน 1 วันเพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องไปเจนีวาต่อครับ

การเดินทางในลียงหลักๆมีทั้ง Metro, Tram และ Bus ครับ ถ้าคุณซื้อ One day pass ที่รถไฟใต้ดินจะใช้บริการได้ทั้งหมดนะครับแต่เหมือนตู้กด One day pass ที่ลงบันไดเลื่อนหน้า Gare de Lyon จะให้ใช้บัตรเครดิตเท่านั้นครับ ผมซื้อมาในราคา 5.5 e ครับยังไงก็คุ้มครับ ตั๋วนี้ยังสามารถใช้ขึ้นรถรางไป Fourviere ก็ได้ครับ


ที่แรกที่ผมจะพาทุกท่านไปคือ Place Bellecour เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (ถ้าจำไม่ผิด) ประวัติศาสตร์ข้ามไปนะครับ ไม่สันทัดฮ่าๆๆ


การเดินทางไม่ยากครับ ขึ้น Metro มาลงที่สถานี Bellecour เลยครับ


จาก Place Bellecour ผมจะเดินทางไป Fourvière ครับ จริงๆก็นั่ง Metro ไปลงสถานี Vieux Lyon ซึ่งก็แค่ 1 สถานีผมเลยตัดสินใจเดินชมเมืองดีกว่าครับ จาก Place Bellecour ถ้าหันหน้าไปทางเดียวกับพระเจ้าหลุยส์ ทางขวาจะเป็นทางเข้าซอยแหล่งช๊อปปิ้ง และ แม่น้ำโรน ทางซ้ายจะเป็นแม่น้ำ Saône ตั้งชื่อตามเทพธิดาเซลติกโบราณ เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในฝรั่งเศสครับ ซึ่งมีความยาวถึง 480 กิโลเมตรกันเลยทีเดียวครับ (ไปลอก Wikipedia มาครับ)


เดินข้ามแม่น้ำ Saône มาก็จะเข้าเขตเมืองเก่าลียงครับ ซึ่งเราจะขึ้นไปที่ "La Basilique Notre Dame de Fourvière" กันครับ


พอมาถึงรถรางจะมี 2 เส้นทางครับ ทางซ้ายรถจะไป "Musée Gallo-Romain de Lyon" ทางขวารถจะไป "La Basilique Notre Dame de Fourvière" ครับ แต่เนื่องจากว่าในช่วงที่ผมไป รถรางทางขวาปิดซ่อมบำรุงครับ (ไหนๆพูดเรื่องปิดซ่อมบำรุงแล้ว จัดซักหน่อย ผมคิดว่าช่วง ปลายเมษา - ถึงเดือนไหนก็ไม่รู้ล่ะ จะเป็นช่วงที่ยุโรปจะปิดซ่อมแซมสถานที่ต่างๆ ปิดซ่อมแซมเยอะมากบอกเลย) มาต่อกันครับ ผมขึ้นรถรางทางซ้ายเพื่อไปลงสถานีสุดท้าย และเราจะต้องต่อรถ Bus ไปที่ La Basilique Notre Dame de Fourvière ครับ แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นลงป้าย Minimes (ป้ายที่ 2) ก่อนนะครับผมจะพาทุกท่านไปชม Musée Gallo-Romain de Lyon กันก่อนครับ มันก็คือโรงละครโรมันนั่นแหละครับ ให้ Feeling Gladiator กันเลยทีเดียวครับ


ดูอลังการยิ่งใหญ่และหึกเหิมกันบ้างมั้ยครับ


ด้านหลังของฉากโรงละครจะเป็นสวนขนาดย่อม ดูมีเอกลักษณ์ดีครับ


ว่าแล้วก็ขึ้นรถรางไปสถานีที่ 3 ซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย แล้วไปต่อรถบัสสายอะไรจำไม่ได้ล่ะครับ จำได้ว่ารอป้ายแรกเลย ที่ป้ายจะเขียนบอกครับว่าไป La Basilique Notre Dame de Fourvière ครับ


ที่ La Basilique Notre Dame de Fourvière นี้จะเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่อยู่คู่เมืองลียงมานานโค-ตรๆ และยังเป็นจุดชมวิวสุดปลายฟ้า 180 องศาเลยครับ


ภายในตัวโบสถ์มี 2 ชั้นครับ นี่คือภาพบรรยากาศชั้นบนของโบสถ์ครับ


นี่คือภาพบรรยากาศชั้นล่างของโบสถ์ครับ


และนี่คือวิวเมืองลียงที่มองเห็นด้านบน La Basilique Notre Dame de Fourvière ครับ


หิวกันรึยังครับ ป่ะ กินข้าวกัน.... ผมเดินทางลงมาด้านล่าง ร้านนี้เป็นร้านประจำของผมเลยครับมาเมื่อไหร่ก็กินครับ ราคาไม่แพงเท่าไหร่พอรับได้ ราคาอยู่ระหว่าง 12 - 18 e ครับ มี French fried ให้กินฟรีด้วยครับ แต่อาหารค่อนข้างรอนานครับ แต่อร่อยนะครับ ื่อร้านนี้ชื่อ Leon de B ครับลอง search Google Map ดูเดินไม่ไกลจากรถรางเลยครับ


อิ่มหนำสำราญกันแล้วผมก็ลัดเลาะเข้าตรอกซอกซอยในนั้นแหละครับ มันจะมาโผล่ที่แหล่งช๊อปปิ้งกันเลยครับ


เดินเป็นทางยาวไปสุดจะถึงสถานี Hôtel de Ville ที่นั่นเป็นที่ตั้งของโรงละคร Opera ครับ


หันหน้าออกจากโรงละคร Opera เดินตรงไป 100 เมตรก็จะเจอ Place Des Terreaux แต่ช่วงที่ผมไปเค้าปิดซ่อมครับ ผมเลยเอารูปเก่าที่ผมไปครั้งที่แล้วมาให้ดูครับ


ประติมากรรมอลังการมากครับ


สุดท้ายนี้ หากข้อมูลใดผิดพลาด ผมต้องขออภัยไว้ก่อนด้วยนะครับ หากสนใจหรือสอบถามอะไร สอบถามผมได้เลยครับ inbox หรือ like Fan Page ผมมาคุยกันได้ครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog ครับ





Create Date : 23 พฤษภาคม 2560
Last Update : 23 พฤษภาคม 2560 21:32:55 น.
Counter : 1535 Pageviews.

2 comments
  
สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆ และสุขภาพแข็งแรงนะคะ

น่าไปเที่ยวจังเลยค่ะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 5 มิถุนายน 2560 เวลา:17:14:48 น.
  
^^ ขอบคุณมากๆเลยครับ มีความสุขเช่นกันนะครับ
โดย: เป็ดน้อยในดงหมอก วันที่: 16 มิถุนายน 2560 เวลา:21:40:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I am a Runner
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]