ธันวาคม 2553

 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
(36) 38W 6D: แล้วเราก็ได้พบกัน (ประสบการณ์ผ่าคลอด)



Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


<<วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2553>>
อายุครรภ์ 38 weeks 6 days
~ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง ~
.
.
.

วันนี้ ตื่นตั้งแต่ตี 5
เพื่อเตรียมตัวไปผ่าคลอดที่โรงพยาบาล

... แอบเสียดายนิดหน่อย ...
ที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกของคนเจ็บท้อง ใกล้คลอด

เท่าที่ตรวจเมื่อวาน
คุณหมอบอกว่าถ้าจะรอเจ็บท้องคลอดเอง อยู่ได้อีกเป็นอาทิตย์เลยค่ะ
เพราะลูกยังไม่เคลื่อนตัวต่ำลงเลย

ออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด
วันนี้อากาศเย็นนิดๆ ... ท้องฟ้าก็สวยใสเชียว
Smile

เผื่อเวลาก่อนนัดเล็กน้อย
เพราะตั้งใจไหว้เจ้าที่เจ้าทางที่บ้าน ไหว้ศาลพระภูมิ และศาลตา-ยาย
บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าจะไปรับลูกกลับเข้ามาที่บ้าน

ตอนไหว้ท่าน มีลมแรงพัดวูบมา
พ่อหมีบอกว่ารู้สึกดีมากเลย ... เพราะแสดงว่าท่านรับรู้แล้ว



ยังพอมีเวลาว่างอีกหน่อย
เลยถือโอกาสแวะไปใส่บาตรต่อ ก่อนไปรพ.อีกล่ะ

วันนี้ วันดี ... ขออิ่มอกอิ่มใจ
ตั้งแต่เช้าเลยละกัน

^^



** ประสบการณ์ผ่าตัดและผ่าคลอด ครั้งแรกในชีวิต **

0700 น. ไปถึงโรงพยาบาลตามเวลานัด
พยาบาลวัดความดัน และให้ชั่งน้ำหนักก่อนคลอด เป็นครั้งสุดท้าย
สิริรวมแล้ว น้ำหนักขึ้นมาจากตอนก่อนท้อง 15.5 กก.

โชคดีว่าห้องพักที่ต้องการว่างพอดี (ไม่งั้นต้องรอคิวห้องอื่น)
เขาเลยพาไปเตรียมตัวก่อนผ่าคลอดในห้องพักเลย




เริ่มจากเสียบสายน้ำเกลือ ที่มือซ้าย
ประมาณ 0800 น. ทำการโกนขน และสวนลำไส้
ต้องทน จนให้เขาใส่น้ำจนหมดถุงนั่นแหละ
จากนั้น ก็ไปถ่ายท้องออกซะให้หมด
T^T


เรียบร้อยแล้ว ... กลับมานอนที่เตียง
เข้า”เครื่องตรวจรัดการบีบตัวของมดลูก”ต่อ

ตอนนี้แหละ
!! ที่เริ่มมีอาการปวดท้องนิดๆ
ตอนหลังเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ

เลยบอกให้พ่อหมีช่วยดูเส้นกราฟที่เครื่องให้
ผลคือ ขึ้นเป็นลูกภูเขา ... ซึ่งหมายถึงมดลูกมีการบีบรัด เจ็บท้องจะคลอด
((ตอนหลังคุณหมอบอกว่า เกิดจากการถูกกระตุ้น โดยการสวนลำไส้))



เตรียมตัวเขาสู่ห้องผ่าตัด
โดยมีพยาบาลตัดถุงมือยางมาพันแหวนที่นิ้วให้
เพราะเราถอดไม่ออกจริงๆ ... หลังจากพยายามมาหลายครั้งแล้ว
T.T

((สุดท้ายแล้ว ก็ไม่เป็นไร))


++ กำลังถูกพาไปยังห้องผ่าตัด ++

เวลา 0850 น. ... ถูกเข็นไปยังห้องผ่าตัด
วิสัญญีแพทย์ทำการฉีดยาบล๊อกหลังให้ เข้าช่องน้ำไขสันหลัง
โดยให้เรางอตัวให้มากที่สุด ให้สันหลังโก่ง
มีพยาบาลอีกคนคอยช่วยจับให้

ถึงตอนนี้เริ่มอึดอัดทรมาน ... เพราะงอมากๆแล้วเจ็บท้อง
พอโดนปักเข็มที่หลัง เผลอสะดุ้งจนแอ่นหลัง
โดนว่าเลยอ่า
T^T


แป๊ปเดียวก็ชา ... ช่วงล่างไม่มีความรู้สึก
โดนสวนท่อปัสสาวะต่อทันที
รู้สึกนิดๆ แต่ไม่ได้เจ็บมากมาย (เห็นบางคนบอกว่าเจ็บมาก)

ต่อด้วยเสียบท่อออกซิเจนที่จมูก
แล้วถูกจับแขนทั้ง 2 ข้างกางออก ตรึงไว้กับเตียง

ถึงตอนนี้ ... ไม่รู้แล้วว่าคุณหมอทำอะไรกับเราบ้าง
เพราะมีฉากกั้นไว้ มองไม่เห็น และช่วงล่างไม่รู้สึกอะไรแล้ว
รู้สึกแค่มีคนเขย่าตัวเราอยู่ตลอดเวลา

แล้วพ่อหมีก็เข้ามาที่หัวเตียง
มือซ้ายจับแก้มเราไว้ ... มือขวาก็จับไหล่เรา
เขาบอกว่าจุ๊บหน้าผากเราหลายทีมาก (แต่โดนผ้าปิดไว้ เราเลยไม่รู้ตัว)

ถึงจะมีฉากกั้น ... แต่พ่อหมีแอบดูอยู่ตลอด
(คนนี้ เคยเข้าคอร์สนิติเวชค่ะ เลยไม่กลัวกับเรื่องแบบนี้)

พ่อหมีเล่าว่า เห็นเขาใช้
laser เปิดแผลแค่นิดเดียว
แต่แหวกออกมาใหญ่มาก

เจ้าหน้าที่คนนึงบอกเราว่า จะดันเอาลูกออก
กดตรงลิ้นปี่เราอยู่ 2-3 ที ... รู้สึกเจ็บ+แน่นนิดหน่อย
แต่สักพักได้ยินเสียงลูกร้องไห้จ้าเลย

** วินาทีนั้น ... น้ำตาไหลพรากทันที **
ทั้งๆที่ยังไม่เห็นหน้าเขาเลย
พ่อหมีก็เอาทิชชู่มาคอยซับน้ำตาให้

เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า “ได้ลูกชาย” แล้วพาเขาไปทำความสะอาด
นำ
tag
ติดข้อเท้า มาให้คุณพ่อยืนยันความถูกต้อง
ก่อนจะติดที่ข้อเท้าลูก

ส่วนพ่อหมีน่ะเหรอ
วินาทีแรกที่เห็นลูก ... และคำแรกที่พูดบอกเราคือ
“ไข่ดำปี๋เลย”
- -*

... เวง ...
สักพักถึงบอกเราว่า “ลูกครบ 32 ประการนะ”

ลูกร้องเก่ง และเสียงดังมาก
จนเจ้าหน้าที่ทักเลย

ส่วนเสียงคุณหมอ ได้ยินแต่ว่า “น้ำคร่ำเยอะมาก”
ซึ่งเขาเกรงว่า จะทำให้เด็กหายใจเร็ว เพราะมีน้ำคร่ำในปอดเยอะ

เจ้าหน้าที่ขานเวลาเกิด *0927 น.*
ก่อนจะอุ้มลูกมาให้เราดู โดยให้ดูที่
tag
ติดข้อเท้า ว่าถูกต้องหรือไม่
แล้วอ้าขาลูกให้ดู เพื่อยืนยันว่าผู้ชาย
((อืมมม ... ดำจริงๆแฮะ))

จากนั้น เขาอุ้มลูก มาให้เราหอมแก้ม
ตอนนั้นตัวเขายังม่วงๆ ยังมีไขเกาะตัวอยู่บ้างเลย
ที่ผ้าก็มีคราบเลือดติด ... แต่ตัวเขาไม่มีกลิ่นคาวเลือดเลยสักนิด

ตอนแรกคุณหมอบอกว่า จะมีถ่ายภาพครอบครัวในห้องคลอดให้ 1 ภาพ
แต่เอาเข้าจริง เวลานั้นชุลมุนกันมาก ไม่เห็นมีใครถ่ายให้เลย
เสียดายมากๆ
T.T

จากนั้น เขาบอกให้คุณพ่อตามลูกไปที่ห้องเนิร์ส
ส่วนเรา ต้องเย็บแผลต่อ



คุณหมอสูฯที่ทำการผ่าคลอดให้เรา ชะโงกหน้ามาถามว่า “อยากหลับมั๊ย
??”
เราว่าก็ดีค่ะ ... เข้าใจว่าเขาคงจะฉีดยาสลบให้
แต่เอาเข้าจริงก็ไม่หลับ แค่สลึมสลือ

แล้วคุณหมอก็บอกว่า น้ำหนักตัวลูก
3,720 กรัมนะ
เยอะอย่างที่คาดไว้ ... ถ้ารอเจ็บคลอดเอง มีสิทธิ์หนักถึง 4
,000 กรัม
((เพราะเขายังไม่เคลื่อนตัวลงเลย อยู่ได้อีกเป็นอามิตย์))

** เหตุผลที่ต้องผ่าคลอด เพราะลูกหนักเกิน 3,500 กรัมค่ะ
คุณหมอเกรงว่าจะเบ่งคลอดเองไม่ไหว **

เย็บแผลเสร็จแล้ว
ถูกเข็นไปนอนในห้องพักฟื้น อีกประมาณ 2 ชม.
เพื่อรอดูอาการแทรกซ้อน หลังการผ่า

ตอนนี้เริ่มรู้สึกหนาว ... ตัวสั่นไม่หยุดเลย
ทั้งๆที่เขาห่มผ้าหนาๆให้ตั้งหลายชั้น

นอนไปได้พักใหญ่ เริ่มมีอาการคันหน้ายิบๆ
((ผลข้างเคียงของการฉีดมอร์ฟีน))

นอนรอเปล ไปส่งที่ห้องพักนานมาก
((ได้ยินว่าเปลเปื้อนเลือด เขาเลยต้องไปหาเปลใหม่มาให้))

เกือบ 1230 น. ถึงเพิ่งจะได้ขึ้นห้อง
เขาพาเข็นไปดูลูกที่อยู่ในตู้ปรับอุณหภูมิ ก่อนจะพาเข้าห้องพัก



ทันทีที่นอนลงบนเตียง
พยาบาลมาคลึงมดลูกให้ เพื่อไม่ให้ตกเลือด

เป็นอะไรที่เจ็บมากกกก
แต่รู้สึกเลยว่า น้ำคาวปลาทะลักออกมาเยอะมาก
T^T


ต้องนอนราบ ... ห้ามยกหัวสูง เพราะบล๊อกหลัง
มิฉะนั้นช่องน้ำในกระดูกสันหลังจะไม่ปิด

รวมถึงต้องงดอาหารทั้งวัน ... จะทานได้ ก็พรุ่งนี้เช้า
(ซึ่งทานได้แต่อาหารเหลว พวกน้ำข้าวหรือซุป)
ส่วนน้ำ ให้เริ่มจิบได้ตอน 1 ทุ่มไปแล้ว

ส่วนอาการข้างเคียงของการฉีดมอร์ฟีน
คือ คลื่นไส้-อาเจียน / วิงเวียน / คัน
ซึ่งเราโชคดี ... ที่มีเพียงแค่อาการคันเท่านั้น

แต่พอบ่าย อาการคันเริ่มหนักขึ้น
จากเดิมแค่คันที่บริเวณหน้า ... เริ่มคันตามแขน ตามตัว
จนพยาบาลต้องมาฉีดยาแก้แพ้ ผ่านสายน้ำเกลือให้

ทำอะไรไม่ได้เลย ... ต้องนอนพักเฉยๆ
แต่ต้องพยายามขยับตัว ตะแคงซ้าย-ตะแคงขวาบ้าง
เพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว

แขนซ้ายเสียบน้ำเกลือ จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น หมดไป 3 ขวด
((คุณหมอบอกว่า ในน้ำเกลือใส่ยาทำให้มดลูกหดตัวไว้ด้วย))

ส่วนแขนขวา ติดเครื่องวัดความดันและชีพจร
พยายามจะพัก แต่ไม่หลับ ได้แต่เคลิ้มๆ



เย็น ... พยาบาลมาเช็ดตัวให้ แล้วพาลูกมาหาเราที่ห้อง
เขาอุ้มลูกลงมาวางบนเตียงใกล้ๆเรา

วันแรกที่เจอกัน ... และได้เห็นหน้าเขาชัดๆ
แต่ไม่สามารถจะอุ้ม หรือโอบกอดเขาไว้ในอ้อมอกได้เลย
ได้แต่เอามือสัมผัสเขา
T.T


++ ได้โอบกอดลูกครั้งแรก ++



เราหอมแก้มลูก เขาก็นอนนิ่งเฉย
แต่พอพ่อหมีหอมแก้มเขาบ้าง เขากลับลืมตาเลิ่กลั่ก แล้วมองหา
แต่ก็ไม่ร้องเลย


++ 2nd kiss ... จุ๊บแรก ในห้องผ่าตัดคลอดไงครับ ++

ถึงเวลา 1 ทุ่ม ... พยาบาลเอาหมอนมาให้หนุนหัว
กับเริ่มให้จิบน้ำได้

แต่คืนแรกที่โรงพยาบาล ... แทบไม่ได้พักเลย
เพราะพยาบาลจะเดินเข้ามาดูเป็นพักๆ

ตี 4 ฉีดยาอีกครั้ง
6 โมงเช้า ... ถอดสายน้ำเกลือ และสายปัสสาวะ

และทั้งหมดนี้
คือ ประสบการณ์ผ่าคลอด “ครั้งหนึ่งในชีวิต”
ที่อยากขอบันทึกไว้ เป็นความทรงจำ




++ ลูกหมีน้อยของแม่ ++

272 วันที่รอคอย กับชีวิตน้อยๆ
ที่เติมเต็มความหมาย ของคำว่า “ครอบครัว”



** 29 ตุลาคม 2553
: แล้วเราก็พบกัน **





Fri., 29 Oct.'10
# 606 @ โรงพยาบาลวิภาราม




Create Date : 03 ธันวาคม 2553
Last Update : 18 กันยายน 2557 13:31:44 น.
Counter : 14365 Pageviews.

9 comments
  
ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่น้องน่ารักน่าชังจังเลยค่ะ
โดย: lookmoodeaw วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:8:55:23 น.
  
ยินดีด้วยนะค่ะ

น้องน่ารักมาก ๆ เลย

อ่านประสบการณ์ผ่าคลอดแล้วรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะค่ะเนี้ยะ ถึงตาตัวเองไม่รู้จะเป็นยังไง
โดย: lelhibaby วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:9:32:41 น.
  
กำลังจะต้องผ่าคลอดที่วิภารามเหมือนกันค่ะ เพราะน้องไม่กลับเอาหัวลง กลัวๆยังไงไม่รู้
โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:17:17:34 น.
  
ตอนนี้ก็ครบเดือนแล้วสิค่ะ ทานนมแม่ล้วน ๆ เลยหรือปล่าวค่ะ
โดย: ladiesorange วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:0:01:00 น.
  
ยินดีด้วยน่ะค่ะ น่ารักมากๆ เลย
โดย: Jub_ka_Jib วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:21:53:12 น.
  
ยินดีด้วยค่ะ...น้องตัวโตมากเลย..
ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่และตัวเล็กค่ะ...
โดย: shogun (baby_shogun ) วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:15:03:30 น.
  
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย .. ตามมาจาก facebook จร้า ^_^ นู๋บุญมีค่ะ

น้องโตแล้วโน๊ะ เห็นในภาพวิ่งจับแกะแระ
โดย: nuboonme วันที่: 4 กันยายน 2555 เวลา:21:05:56 น.
  
It's spooky how celevr some ppl are. Thanks!
โดย: Khirod IP: 212.68.90.12 วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:4:04:56 น.
  
tJBYpW , [url=//mdfpgpxkougs.com/]mdfpgpxkougs[/url], [link=//deylecpudvbb.com/]deylecpudvbb[/link], //opyonuyqjibm.com/
โดย: dxhfnsyb IP: 81.64.73.19 วันที่: 22 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:05:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I-am-Nina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เรื่องราวของคนเดินทาง ที่ชอบสะพายกล้อง ท่องเที่ยว ไปทั่ว ... กับคนรู้ใจ

** สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพและ/หรือข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด **