. . . . . . . . .


 ~* สัมผัสของขุนเขา และสายหมอก @ ภูใจใส *~

ความประทับใจแรก ... เริ่มต้นขึ้น
จากน้ำเสียงปลายทางของผู้รับสาย ที่แสดงถึงความเต็มใจในการให้บริการ และเชื้อเชิญให้มาเข้าพัก

ทำให้ตัดสินใจจองที่พักแห่งนี้อย่างไม่รีรอ
โดยยังไม่ทันจะโทรไปยังที่พักอื่น ในลิสต์ที่จดไว้ ... ใจง่ายซะจริงเรา
:)



การเดินทางเริ่มต้นอีกครั้ง ในช่วงฤดูฝน ที่ใครๆต่างคิดว่า ไม่มีอะไรน่าเที่ยว
แต่ลองแวะมาดูสิ สีสันของไม้ดอก-ไม้ใบ ที่ฉ่ำชื่นไปด้วยละอองฝน
ต่างแย้มผลิบานทักทายผู้มาเยือน สวยงามไม่แพ้ฤดูไหนเลย

แรกรู้จักกับ "ภูใจใส เม้าเท่นท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา"
แอบตกใจ กับ"ทางเข้า" ที่เป็นถนนดินลูกรังขึ้นเขา 
แล้วไหนจะเป็นฤดูฝนอีก ถนนเลยดูเฉอะแฉะ ลำบากลำบนกับหนทางเล็กน้อย



แต่ท้ายที่สุด ณ ปลายทาง บนขุนเขา
แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่า จะมีที่พักสวยๆ แฝงตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา ได้อย่างกลมกลืน

ต้นไม้ร่มรื่นย์ จนดูแทบไม่รู้ว่า เมื่อ 2 ปีก่อน
ที่แห่งนี้ เคยถูกไฟไหม้ป่า สร้างความเสียหายพอสมควร

"Executive Suite Cottage" ที่พำนักของเรายามค่ำคืนนี้
ถือเป็นห้องพัก ระดับกลาง จากทั้งหมดจำนวน 5 ระดับ ที่เขามีอยู่
เริ่มจาก Superior / Deluxe / Executive Suite / Honeymoon Suite และ Pool Villa



ห้องพักไล่ระดับตามไหล่เขา หันหน้าสู่ขุนเขาทอดแนวยาว เบื้องหน้า

ด้านบนตึกพักเป็นดาดฟ้า ลานโล่งเปิดรับลม ชมวิวสวยๆ แบบ panorama
(ตึกที่มีดาดฟ้าแบบนี้ จะเป็นตึกที่สร้างขึ้นใหม่ หลังจากถูกไฟไหม้ค่ะ)



ภายในห้องพัก ตกแต่งแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยการใช้ไม้ไผ่และปูนแดง
ซึ่งข้อเสียของการใช้ไม้ไผ่ คือ "เก็บเสียงไม่ได้"
ดังนั้นจึงไม่มีทีวี และตู้เย็น

หากมองในแง่ดี
นี่คือ การพักผ่อนแบบอิงแอบธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ยึดติดกับวัตถุใดๆ
คุณไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของใคร และคนอื่นก็ไม่สามารถรบกวนคุณได้เช่นกัน

แต่ถ้าสิ่งเหล่านั้น คือ ความต้องการของแขก ทางรีสอร์ทก็ยินดีที่จะตอบสนองความต้องการให้
... ตู้เย็น สามารถจัดหาให้ เมื่อแจ้งขอ ...

แต่ถ้าต้องการจะดูทีวี ต้องไปที่ Library ค่ะ
เขาจะมีบริการทีวีส่วนกลางให้ ไม่มีเวลาเปิด-ปิด ถ้าต้องการใช้บริการ ก็แจ้งพนักงานได้ทันที



ห้องน้ำใหญ่โตโอ่โถง แบ่งเป็นสัดส่วนได้อย่างลงตัวและชัดเจน 
ไม่ว่าจะเป็นส่วนเปียก-ส่วนแห้ง ... ห้องอาบน้ำแบบฝักบัว และอ่างอาบน้ำ 



แต่ที่ชอบเป็นพิเศษ คือ Bathroom Amenities
ที่มีทั้ง Bath Oil / Bath Foam / Bath Salt

ทันทีที่เห็น เลยเกิดความคิดจะลองทำ "Aromatherapy" ด้วยตัวเอง
ติเพียงเรื่องเดียว น้ำในอ่างสีออกขุ่นๆแดงๆ อาจเพราะช่วงที่ไปฝนตกบ่อย



ออกมาจากห้องน้ำ จะพบกับโต๊ะทำงานอยู่มุมห้อง พร้อมกับนิตยสารอ่านเล่น วางไว้ให้ 1 ชุด
โซฟา อยู่ปลายเตียง หันหน้าออกระเบียง ไว้นั่งๆนอนๆ ชมวิวทิวทัศน์ด้านนอก



เตียงนอนที่นี่ เป็นเตียงสีเสา กางด้วยมุ้งขาว เข้ากับบรรยากาศสบายๆ ของเรือนไม้ไผ่
ผ้าห่ม ทั้งนิ่ม ทั้งอุ่น เล่นเอานอนหลับสบายทั้งคืน จนไม่อยากลุกไปไหน

ข้างเตียง มีหนังสือธรรมะของศาสนาพุทธวางไว้
ซึ่งผิดกับโรงแรมอื่นๆ ที่มักจะเจอแต่คัมภีร์ไบเบิ้ล
นับว่า เป็นความชอบส่วนตัวอีกอย่าง ที่ทำให้รู้สึกว่า ที่นี่แตกต่างไม่เหมือนใคร



สำหรับบริการอื่นๆ ของ"ภูใจใส"
- Bamboo Spa บริการแบบครบวงจร ทั้งนวด สปา และร้านทำผม



- สระว่ายน้ำ อยู่ติดกันกับสปา ...
เป็นสระน้ำล้น ที่มุมหนึ่งเปิดกว้าง ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด



- ทางรีสอร์ท มีรถ shuttle bus ไปส่งที่ Night Bazaar ในเมืองทุกวัน
เวลาประมาณ 1800 น.

- คอร์สสอนทำเครื่องปั้นดินเผา
เพราะอุปกรณ์เครื่องปั้นดินเผา ที่ใช้ในห้องพัก อย่างเช่น แก้วน้ำ
ทางรีสอร์ททำเองทั้งหมด และมีคอร์สสำหรับผู้ที่สนใจ



- "Library" เป็นบริการส่วนกลาง ไม่มีเวลาเปิด-ปิด ...
นอกจากทีวี และหนังสือ ห้องนี้ยังเปรียบเสมือน gallery ขนาดย่อม
มีทั้งรูป ข่าว และข้อมูลความเป็นมาของรีสอร์ท
รวมถึง"บันทึกความทรงจำ" จากผู้ที่เคยมาเยือน แปะไว้อยู่เต็มกำแพงห้อง



... ยามเช้า ที่ภูใจใส ...
เพียงเปิดประตูห้องพักออกสู่ระเบียงด้านนอก ก็รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดของสายหมอก และขุนเขา ที่โอบล้อมอยู่รอบข้าง

day bed ตัวยาวตรงระเบียง ที่เหมือนจะจงใจ ไว้ให้นั่งเล่นชื่นชมธรรมชาติเบื้องหน้า
นั่งอยู่ได้นานแสนนาน อย่างไม่รู้เบื่อ

บรรยากาศเป็นใจ จึงลุกเดินไปชงชาร้อนๆ
ที่ทางรีสอร์ทเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้พร้อม ภายในห้องพัก

ถือแก้วใบนั้น มานั่งจิบชาร้อนๆ อยู่ริมระเบียง
พลางชมวิวยามเช้า เฝ้ารอพระอาทิตย์ดวงโต โผล่ขึ้นมาส่องแสงทักทาย

นานแค่ไหนแล้ว ที่ไม่ได้ทำตัวเรี่อยเปื่อยแบบนี้
ชีวิตปกติประจำวัน ต้องตื่นแต่เช้ารีบออกจากบ้าน เพื่อไปทำงาน
โดยไม่เคยสนใจมองสิ่งต่างๆรอบกาย



ครั้งนี้ ตื่นแต่เช้า เหมือนเคย
แต่ขอลืมชีวิตแบบเดิมๆ ในเมืองกรุงสักวัน
เติมพลังให้ชีวิต ... แบบนี้นานๆที
:)