~* DAY 2 *~
บ้านแม่กลางหลวง – แม่แจ่ม –
นภพลภูมิสิริ/นภเมทนีดล @ ดอยอินทนนท์ -
น้ำตกวชิรธาร – น้ำตกแม่กลาง - Imm Hotel ท่าแพ – ร้าน VT แหนมเนือง
.
.
.

@ แม่กลางหลวง

เช้าวันนี้ ... ตื่นมารับแสงอรุณแต่เช้า
ก่อนจะออกไปเดินเล่น ชมพระอาทิตย์ทักทาย ณ ขอบฟ้า
และรับไอแดดอุ่นๆ


++ น้ำค้าง ยามเช้า ++

”น้ำค้าง” บนยอดข้าว ยามต้องแสงอาทิตย์
แลดูสดชื่น ... สวยงามจริงๆ

จนอยากได้เลนส์ macro เพิ่มอีกสักตัว
เอาไว้ส่องอณูเล็กๆ
เพื่อเก็บภาพแทนความประทับใจ ให้ได้ชัดเจนมากขึ้น
((ไอ้ที่มีอยู่ทุกวันนี้ ก็ได้แต่แบก แต่ไม่ชอบเปลี่ยน))
^^”


++ พร่าวพราว รับแสงแดด ++


++ บ่อดิน เลี้ยงปลาแบบธรมชาติ @ อินทนนท์ คีรีมายา ++

เดินชมหมู่บ้าน และทักทาย ”ชาวเขา เผ่าปกาเกอะญอ”
ชนพื้นบ้าน ของแม่กลางหลวง
แต่งตัวออกจากบ้าน เพื่อไปทำงาน ตามชีวิตประจำวัน

เด็กน้อยนุ่งชุดขาว สะพายกระเป๋า
เดินทางไปโรงเรียน


++ ชาวเขา เผ่าปกาเกอะญอ กับชีวิตประจำวัน ++

บางครั้ง ... การท่องเที่ยว ไม่ได้หยุดอยู่แค่ธรรมชาติ
แต่การเฝ้าดู ชีวิตประจำวันของผู้คนต่างถิ่น
นับเป็นอีกมุมมองหนึ่งการท่องเที่ยว ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

เห็นแล้ว ... พลานนึกถึง “บ้านรักไทย” จ. แม่ฮ่องสอน
ที่เพิ่งได้ไปเยือน เมื่อต้นปี

ที่ยังคงดำรงเอกลักษณ์ และกลิ่นอายของวิถีชีวิตเดิมๆ
โดยไม่จำเป็นต้องหมุนเปลี่ยน ตามกาลเวลา


++ เดินเล่น รับแสงแดดอุ่นๆ ++


++ มองไปทางไหน ก็มีแต่สีเขียวสบายตา-สบายใจ ++

อากาศสบายๆ ยามเช้า
แต่อาจจะหนาวเกินไป สำหรับใครบางคน

เลยมีภาพเจ้าแมวตัวอ้วน
นอนจุมปุ๊ก อาบแสงแดดอุ่นๆยามเช้า อย่างสบายใจ
v
v


หรืออาจจะยังเช้ามากอยู่
เจ้าหมาน้อยขี้เซา เลยออกอาการง่วงนอน
แต่ก็ยังขอตามมาเดินป้วนเปี้ยนไม่ยอมห่าง ตั้งแต่เช้า
v
v


แม่หมา ... ที่นอนป้อนนมลูกๆ อยู่ใกล้ๆ
พลางหยอกล้อเล่นกัน
v
v


ทุกสิ่ง ... ล้วนดำเนินไปตามวิถีชีวิตประจำวันของเขา
แต่ดึงดูดใจ เราได้ไม่น้อยเลยล่ะ
:)

”ลุงคับ !! แป๋งร้านเข้าอยู่ก๋า”
เสียงหมีอ้วน อู้กำเมืองถามคุณลุงชาวบ้านที่กำลังไสไม้
ในพื้นที่ก่อสร้าง ริมถนนหมู่บ้าน

”คับ ... บ่เกิ๋นสิบวัน ... หน้าหนาวคนแอ่วนักขนาด”

ทำไมนะ??
ใครๆ ชอบมาท่องเที่ยวกันหน้าหนาว

ทั้งๆที่ฤดูกาลนี้ ... ก็มีเสน่ห์-สวยงามไปอีกแบบ
ทุ่งข้าวสีเขียวๆ และสายน้ำตก ที่แสนชุ่มฉ่ำ


++ ทุ่งข้าวขั้นบันได บริเวณร้านอาหารที่กำลังก่อสร้างอยู่ ++


++ บริเวณกางเต๊นท์ ริมลำธาร ++

แต่หลายๆสถานที่ ใน”บ้านแม่กลางหลวง” กำลังเปลี่ยนไป
เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยว

ซึ่งเราเอง ก็ไม่รู้
ว่า มันเป็น”สิ่งดี”หรือไม่??

เพราะสำหรับเราแล้ว เสน่ห์ของแม่กลางหลวงอีกอย่างหนึ่ง
คือ วิถีชีวิตเดิมๆ ที่ควรคงอยู่ไว้


++ บ้านริมฝาย ++

ได้แต่คิดว่า ... หากเรามีโอกาสได้กลับมาที่นี่ อีกสักครั้งหนึ่ง
เราจะได้พบเห็นภาพต่างๆเหล่านี้อีกครั้ง

”มาๆๆๆ ... แวะทานกาแฟก่อน”
เสียงพี่สมศักดิ์ คนดูแลที่พักของเราเอ่ยปากชวน

เม็ดกาแฟสดๆ คั่วใหม่ๆ ... ก่อนนำมาต้ม
ดูจะเข้มข้นมากเกินไป สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟแบบเรา

แต่ก็นับว่า เป็นภาพที่น่าสนใจ
เมื่อเห็นเตาอั้งโล่ หม้อต้มกาแฟ ในแบบที่ดูไม่คุ้นตาเอาซะเลย


++ กาแฟกาลาโต้ ++
;P

พี่สมศักดิ์เล่าเรื่องราวความเป็นมา ของที่พักแห่งนี้ให้ฟัง
และแนวคิดในการสร้างแหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ
- ณ บ้านแม่กลางหลวง -



ก่อนอำลา ... ขอไปเดินเล่นในทุ่งข้าว เก็บภาพสวยๆอีกครั้ง
- ให้เต็มอิ่มหัวใจ -


เพราะท้องฟ้าวันนี้ สวยใสเป็นใจเหลือเกิน


;) ~~


++ หลงรักเข้าแล้วสิ ++
:)



@ แม่ปาน - แม่แจ่ม

10 โมงเช้า ... ออกเดินทาง ”ขึ้นดอย” กันต่อ
ถึงกม. ที่ 38 จะพบด่านตรวจอีกแห่ง
ใช้บัตรผ่านใบเดิม ให้เจ้าหน้าที่

จากนั้น ไปตามทางแยกซ้าย
มุ่งหน้า สู่”อ. แม่แจ่ม” ระยะทางอีก 23 กม.

ถนนเส้นนี้ คนข้างเล็กและแคบมาก
โค้งหักศอก และเป็นทางลงเขา ยาวตลอด

จะว่าไปแล้ว ยิ่งกว่าเส้นทางไปอ.ปายซะอีก
ถนนไปปาย ยังกว้างกว่านี้เลย


++ เส้นทางจากอินทนนท์ สู่แม่แจ่ม ++

ขับรถด้วยความระมัดระวัง
เพราะช่วงโค้งจะไปสามารถมองเห็นรถที่สวนทางมาได้
เลยต้องพยายามใช้แตร ช่วยตลอด

และแล้ว ... เราก็มาถึง ”แม่ปาน” ค่ะ
อยู่ห่างจากตัวอ.แม่แจ่ม ประมาณ 7 กม.

ได้ข้อมูลมาว่า ที่นี่ มีทุ่งนาข้าวขั้นบันไดสวยๆเช่นกัน
แต่เท่าที่เห็น อยู่ในระยะไกลพอสมควร
เลยได้แค่เก็บภาพมานิดหน่อย

จากนั้น แวะเข้าสู่ “อ.แม่แจ่ม”
จุดแรก ที่แวะคือ “แม่แจ่มโพสต์” ของคุณวี
ร้านขายโปสการ์ด และจุดแวะพัก สำหรับนักท่องเที่ยว


++ แม่แจ่มโพสต์ ++

นอกจากขายโปสการ์ด
คุณวี ยินดีให้คำแนะนำข้อมูลท่องเที่ยวเมืองแม่แจ่ม
โดย print แผนที่ที่ทำขึ้นเอง ให้ไว้ติดไม้ติดมือ
พร้อมกับคำแนะนำ ว่าควรจะแวะจุดไหนบ้าง

ได้ข้อมูลที่ต้องการมาหมดแล้ว
ถือโอกาสแวะทานอาหาร ร้านที่คุณวีแนะนำ



ก่อนจะเดินทางต่อ ไปยัง “วัดกองกาน”
ซึ่งแถวๆนั้น จะมีมุมถ่ายภาพสวยๆ ของทุ่งนาแบบขั้นบันได

ซึ่งเราก็ได้ภาพสวยๆ กลับมาสมใจ
จากคำแนะนำของเขา
^^

เสียดาย ... สะพานสลิงแถวนั้น พังไปแล้ว
เลยได้แค่อุดหนุนโปสการ์ดรูปสะพาน กลับมาแทน




++ ทุ่งข้าวขั้นบันได @ กองกาน ++

จากนั้นแวะไหว้พระ ที่”วัดพุทธเอ้น”
ที่นี่ มี “โบสถ์กลางน้ำ” อายุกว่า 200 ปี
ที่ขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานกับกรมศิลปากร

รวมถึง มีน้ำศักดิ์สิทธิ์
ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ และนิยมตักกลับไปใช้


++ โบสถ์กลางน้ำ @ วัดพุทธเอ้น ++

- อ. แม่แจ่ม -
ถึงจะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่มีวัดวาอารามเก่าแก่เยอะแยะ
ซึ่งเราได้แวะเพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้น เพราะเวลาไม่อำนวย

ตอนแรก ... ตั้งใจจะแวะไปจุดชมวิว เมืองแม่แจ่มต่อ
แต่เกิดหลงทางซะก่อน หาทางเข้าไม่เจอ

เลยตัดสินใจ กลับไปทาง“แม่ปาน”อีกครั้ง
ก่อนจะใช้เส้นทางเดิม เดินทางสู่ดอยอินทนนท์

จริงๆแล้ว ... เท่าที่สอบถามข้อมูล มาจากคุณวี
เขาบอกว่า สามารถเดินทางมาแม่แจ่ม ได้อีกเส้นทาง
คือ แม่แจ่ม à ฮอด à จอมทอง
ระยะทางรวม ประมาณ 90 กม.
(จอมทอง เข้าตัวเมืองอีกประมาณ 50 กม.)

ถนนดีกว่า ไม่แคบ
แต่จะอ้อมกว่าเส้นทางที่เรามา ประมาณ 30 กม.
ชาวบ้านเลยนิยมใช้เส้นทางสู่ดอยอินทนนท์ เป็นเส้นทางหลัก

สำหรับเรา ... เราตั้งใจจะเก็บตก ตามทางที่ผ่านมาด้วย
เลยเลือกที่จะใช้เส้นทางเดิม



@ ดอยอินทนนท์

จุดหมายถัดมา “พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ” และ “นภเมทนีดล”
ที่กองทัพอากาศ สร้างเพื่อทูลเกล้าถวาย

อากาศช่วงบ่าย อยู่ที่ 10-15 องศาเซลเซียส
กำลังสบายเลยทีเดียว
แต่แสงแดดจ้ามาก จนลืมตาไม่ขึ้น
T^T



ช่วงนี้ ถนนขึ้นยอดดอยอินทนนท์ทรุด-ทางขาด
เลยสอบถามจากคนขับรถตู้ ที่เพิ่งพานักท่องเที่ยวมาถึง

เขาบอกว่า ต้องจอดข้างทาง
แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 600 เมตร
(ขาไป เดินขึ้นเขาด้วยค่ะ)

แถมรถจอดเยอะ กลับรถก็ลำบาก ... ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
เราสองคนเลยตัดสินใจ ขับลงเขาค่ะ
(เพราะเคยมาดอยอินทนนท์กันแล้ว แบบต่างคนต่างมา)



@ น้ำตกวชิรธาร

ถึงกม. ที่ 21 แวะเที่ยว “น้ำตกวชิรธาร”
น้ำตกที่นี่ใกล้ลานจอดรถมาก ไม่ต้องเดินไกล

น้ำตกสูง 80 เมตร ไหลแรงมาก
จนเกิดละอองน้ำกระเซ็นเปียกไปหมด


++ น้ำตกวชิรธาร ++

แต่มุมมองที่สวย
ต้องเดินขึ้นไปด้านข้าง แล้วหันกลับมองลงมา
จะเห็นรุ้งกินน้ำทอสีสวย ยามละอองน้ำกระทบแสงแดด
^^





@ น้ำตกแม่กลาง

จากนั้น ลงเขาต่อ แวะไปที่ “น้ำตกแม่กลาง” อีกที่
เดินเท้าเข้าไปอีก ประมาณ 200 เมตร

แต่ส่วนตัวแล้ว
เราชอบบรรยากาศ นั่งทานอาหารริมน้ำตกของที่นี่ค่ะ
มีเสื่อ มีแคร่ ปูนั่งทานริมน้ำได้เลย


++ มุมสบาย @ น้ำตกแม่กลาง ++

แถมพ่อค้าที่นี่ ก็อัธยาศัยดีจังค่ะ
เขาเดินเข้ามาเชิญชวนซื้อของที่รถ แต่เราไม่ซื้อ
เขาก็บอกว่า ขึ้นไปดอยอินทนนท์มาหรือยัง??

”อย่าลืมเอาบัตรไปด้วยนะครับ”
เพราะมีด่านตรวจอีกแห่ง ก่อนเดินไปชมน้ำตกด้านใน
(ถ้าไม่บอก เราก็คงลืมไว้ในรถนั่นแหละ)

อืมม ...
ถึงแม้เรา จะไม่ได้ซื้อของกับเขา แต่เขาก็ยังหวังดีกับเรา
รู้สึกชื่นชมค่ะ ว่าเขาไม่ได้หวังแค่ผลประโยชน์ จากนักท่องเที่ยว
^^


++ น้ำตกแม่กลาง ++

ตอนแรก พ่อหมีสนใจอยากไป ”ทะเลสาบดอยเต่า” ต่อ
เพราะเห็นมีป้ายบอกทาง แถวๆนี้

แต่พอถามแม่ค้าแถวนั้น เขาบอกว่าไกลมาก
ไปต่ออีก 50 กว่ากม.ได้ (ต้องผ่านอ.ฮอด ออกไปอีก)
แล้วเขาก็หันไปถามแม่ค้าอีกคน เพื่อเป็นการยืนยัน

สรุป ไกลเกิน ... เลยพับโครงการนี้ไป
T^T



@ Imm Hotel ท่าแพ

ได้เวลาขับรถ กลับเข้าเมืองค่ะ
ระหว่างทาง ที่พักคืนนี้ เขาโทรมาถามเรื่องเวลาเข้าพัก
เพราะเราเพิ่งโทรไปจองเมื่อบ่ายนี้เอง

เขากลัวเราเบี้ยวเขามั๊ง
เพราะไม่ได้ทำ credit guarantee หรือมีหลักฐานยืนยันอะไร
เลยแวะเข้าที่พักก่อน ไปจัดการ check-in ให้เรียบร้อย

** Imm Hotel ท่าแพ **
เป็นโรงแรมเปิดใหม่ เพิ่งเปิดเมื่อเดือนมถุนายน 2009
อยู่ตรงข้ามลานเอนกประสงค์ ประตูท่าแพเลย

ทำเลถือว่าดีมากๆ
ใกล้ถนนคนเดินวันอาทิตย์ เพียงแค่เดินข้ามถนน


++ ออกจากหน้าโรงแรม ก็เจอประตูท่าแพเลย ++

แถมช่วงนี้ มีราคาโปรโมชั่นเปิดตัว
ราคาแค่คืนละ 777.- บาทเน็ท (รวมอาหารเช้า) เท่านั้นเอง
แต่เดือนหน้าจะปรับเป็น 1250 บาทแล้ว

โรงแรมนี้ ถือเป็น Budget Hotel ค่ะ
ไม่มีลิฟต์ (ตึก 3 ชั้น) ... Lobby ไม่มีแอร์

ห้องเกรดต่ำสุด ภายในห้องพักจะไม่มีตู้เย็น
แต่มี Wi-Fi Internet ให้ใช้ฟรีค่ะ

ทีวีจอเล็กหน่อย แต่มีให้เลือกดูหลายช่องมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน ถือว่าโอเคสำหรับเราค่ะ



พ่อหมีเอง ก็ชอบมาก เพราะห้องพักค่อนข้างใหม่
แถมราคาคุ้มค่าจริงๆ

เดินออกมาหน้าโรงแรม เลี้ยวขวา
พ่อหมีชวนไปทานอาหารไทย ที่”ร้านถนอม”

ร้านนี้ พ่อหมีพูดถึงหลายครั้งแล้ว
แต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที เพราะจอดรถลำบาก

พอดีวันนี้ สามารถเดินไปได้ เลยว่าจะลองดู
แต่ไปถึงก็ต้องผิดหวังค่ะ

ทางร้านติดป้ายบอกว่า งดบริการขายอาหารเย็นชั่วคราว
เปิดแต่มื้อกลางวันเท่านั้น
T.T



@ ร้าน VT แหนมเนือง

เลยตัดสินใจ ขับรถออกไปบนถนนเจริญราษฎร์ เลียบลำน้ำปิง
เพราะเส้นนี้ มีร้านอาหารเยอะหน่อย อาทิเช่น
คำดารา / River Side / Good View
ฯลฯ

แต่สุดท้าย ... เลือก “ร้าน VT แหนมเนือง”
เป็นร้านอาหารเวียดนามค่ะ

เป็นลูกค้าประจำ ที่อุดรธานี
ไปทีไร จะต้องซื้อแหนมเนืองติดมือ กลับมาทานที่บ้าน

วันนี้ ... เลยว่าจะขอลองนั่งทานที่ร้านเขาดูบ้าง
พนักงานบอกว่า ร้านที่นั่งแบบนี้ได้
จะมีแค่ที่อุดรธานี / หนองคาย / เชียงใหม่ เท่านั้น

มีคนบอกว่า กรุงเทพฯก็มี
แต่เราสอบถามพนักงานเขาบอกว่าไม่มีอ่ะ ... งงเลย
^^"

เมนูมีให้เลือกไม่เยอะ
แต่ขอชมว่า เขาจัดตกแต่งจาน ทำ presentation ได้ดี ดูน่าทาน


++ dinner @ ร้าน V T แหนมเนือง ++

ไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่
เลยไม่สามารถเขียนไดอารี่แยกได้
ขอฝากรายละเอียดคร่าวๆ ไว้ตรงนี้ละกันนะคะ
^^

ที่นี ... ถ้าเลือกนั่งในห้องแอร์ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
โต๊ะเล็ก 30 บาท / โต๊ะใหญ่ 50 บาท ต่อโต๊ะ

ถ้าไม่นั่งทาน
ก็มีหน้าร้าน สำหรับแวะซื้อกลับบ้าน

อิ่มอร่อยแล้ว ... ก็กลับที่พัก
นอนกรนคร่อกกก หลังจากตะลอนมาจนเหนื่อยทั้งวัน
ZZzzZZzzzZZ
.
.
.


++ เจ้าหมาน้อย กำลังรอคอยแขกคนใหม่ แวะไปทักทาย ++
ณ บ้านแม่กลางหลวง






Now Playing :: Experience Thailand Once in a Life Time


- Since August 12, 2005 -