เดิมที ... เคลียร์ตารางงาน เพราะตั้งใจจะไป”เกาะพีพี”
ด้วยรางวัลที่เพิ่งได้มา เมื่อปลายเดือนก่อน

แต่โทรไปถามแล้ว เขาบอกว่าเต็ม
จนถึง 20 สิงหาคมโน่นเลย
T.T

Low Season เนี่ยนะ
แถมไปที่ไหน ก็มีแต่คนบ่นว่า แขกน้อย

เนื่องจากไปเบียดเบียนเพื่อนๆ ขอวันหยุดมาแล้ว
แต่ “ผิดแผน”

ด้วยความเสียดายวันหยุด ที่ได้มา
นิสัยอย่างเรา มันก็ต้องหาเรื่องเที่ยวจนได้สิน่า
^^”

ตอนแรก อยากไป ”บาหลี” ค่ะ
เพราะช่วงนี้ เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของเขา
และเรามีบัตรพักฟรี อีก 1 คืนของ Accor ใช้ที่บาหลีได้ด้วย

แต่ด้วยระยะเวลากระชั้นชิด ยังไม่ได้หาข้อมูลอะไร
ประกอบกับต้องประหยัดๆ
เพื่อ”ทริปใหญ่”ปลายปี ที่กำลังเตรียมการทุกอย่างไว้อยู่
((เตรียมไว้ดีกว่า ทริปนี้ซะอีก))
^^”

สุดท้าย ก็เลยมาลงเอย “ในบ้านเรา”
ตอบสนองนโยบายททท. “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก”
 

ปีนี้ มุ่งลงไปทางใต้ เก็บมา 4 จังหวัดรวดแล้ว
(และอาจจะต้องไปอีกรอบ เพราะรางวัลเกาะพีพี ถ้าจองได้)

ไปหัวหินมา 2 รอบ ... ไปพัทยามาอีกรอบ
ไปเหนือ เก็บไปแล้ว 2 จังหวัด
เลยตัดสินใจ “ไปแอ่วเหนือ” อีกสักรอบละกัน
^^”

มาลงเอย ที่ “เชียงราย”
หลังจาก สนใจอยากไปพักที่ไร่แสงอรุณ ตั้งแต่ปีก่อน

แต่ตอนนั้น เปลี่ยนใจไปพักที่ “ภูใจใส” แทน
เพราะได้ข้อเสนอที่ดีกว่า (guarantee upgrade ห้องพักให้ค่ะ)

ส่วนไร่แสงอรุณ รู้มาเมื่อเดือนพฤษภาคม
ว่าเขามีโปรโมชั่น pk 3 วัน 2 คืน ราคา 3,750 บาท

แต่โทรไปถาม ...
เขาดันบอกว่า ห้องที่เราสนใจเข้าพัก ไม่ได้ร่วมโปรฯ
อ้าววววว !!

เราก็งงสิ เพราะอ่านเจอใน pantip.com
เขาบอกว่า ห้องนี้เคยมีโปรฯ
ทำไมเขามาถอดโปรฯออกตอนหลังหว่า
!?!?

แต่จอมตะลอนเที่ยวอย่างเรา ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกค่ะ
เลยไปสอยห้องที่ว่ามาได้
ในราคาเพียงคืนละ 1,575 บาทเท่านั้น !!

โดยให้ local travel agency ที่รู้จักกัน ทำเรื่องจองให้
โฮ๊ะ ~ โฮ๊ะ ถูกกว่าโปรฯของทางรีสอร์ทเองซะอีก
^^

แต่แอบงอน ที่นี่ ...
เลยขอลองไปนอนแค่คืนเดียวพอ



** JOURNEY BEGINS **

ทริปนี้ ... แอบนอกใจ “หางแดง” ที่แสนคุ้นเคย
เลือกบินกับ “สายการบิน คุณคะ” แทน

ไป check-in ตั้งแต่ไก่โห่
พนักงานบอกว่า จะอัพเกรดให้ไปนั่ง Business Class
กรี๊ดดดดด !!!! ดีใจๆๆๆๆ

”ไม่ทราบว่า มีกางเกางขายาวมาเปลี่ยนหรือป่าวคะ??”
พนักงานสาว หันไปถามไอ้หมีอ้วน
ที่นุ่งกางเกงขาสั้น

”ไม่มีครับ …. ”

สรุปว่า ... อดอัพเกรดไปนั่ง Busines Class ค่ะ
ฮือๆๆๆๆๆ

เพราะไอ้หมีอ้วนดันนุ่งกางเกงขาสั้นไป
แต่งตัวไม่เรียบร้อย เขาเลยไม่ให้อ่ะ
T.T

อย่างว่านะ ...
ก็ไม่คาดคิดว่า เขาจะมาอัพเกรดให้นี่นา


++ Waiting at boarding gate #A1 ++

TG130 BKK/CEI 0820/0940
A300-600 ทะเบียน HS-TAM … นาม “เชียงใหม่”
Seat no. 62B/62D

เที่ยวบินนี้ ล่าช้าไป 30 นาที โดยไม่มีเหตุผล
นั่งรออยู่บนเครื่องนานพอควรเลยค่ะ
กว่าจะปิดประตูเครื่อง

ไปถึง ... ติดต่อรับรถเช่า Budget เจ้าประจำ
เที่ยวนี้ได้ Honda City โฉมใหม่

จากนั้น แวะไปที่บริษัททัวร์ ใกล้ๆสนามบิน
เพื่อรับเอกสารการเข้าพัก (เพราะให้เขาช่วยจองให้)

มุ่งหน้าตาม’ทางหลวงหมายเลข 1’ ขึ้นสู่ทางเหนือจนสุดทาง
และแล้ว เราก็มาถึง “แม่สาย” ตอนเที่ยง
ตั้งใจแวะมา shopping โดยเฉพาะ
หุ หุ

แต่วันนี้วันอาทิตย์ คนเยอะหน่อย
แถมห้อง ตรงตึกแถวใกล้ๆด่าน ที่รับทำบัตรผ่านก็ปิดค่ะ

ขับชิดซ้าย ... จนสุดถนน เลี้ยวเข้าไปในตรอก
จะมีบริการลานจอดรถ หลายเจ้าเลย
รับฝากครั้งละ 40 บาท

เดินออกมาปากทาง เข้าลานจอดรถ
เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนึง (ร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย) คนนั่งกันเต็ม
เลยตัดสินใจ ฝากท้องมื้อกลางวันไว้ที่ร้านนี้
อร่อย แล้วก็ราคาไม่แพงด้วย
^^

ตอนที่สั่งอาหาร เลยสอบถามข้อมูล
ว่า จะไปทำบัตรผ่านได้ที่ไหน เพราะที่เคยทำมันปิด

เขาบอกว่า ต้องไปติดต่อ ที่”ว่าการอำเภอ”
แต่ไกลอยู่ ต้องขับรถออกไปอีก
หรือไม่ก็ต้องเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไป

คุยไป-คุยมา ทางร้านบอกว่า รับทำให้ได้
แต่ขอค่าบริการ คนละ 20 บาท

ค่าทำบัตรปกติ คนละ 30 บาท + ค่าบริการ 20 บาท
รวมเป็นคนละ 50 บาท
เราก็โอเคค่ะ ... ไม่มีปัญหา สะดวกดี

ทานอาหารเสร็จ
เอกสารผ่านด่านเข้าประเทศพม่า ก็ส่งตรงถึงโต๊ะ
^^

ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเอง
(ไหนจะต้องไปต่อคิว ถ่ายเอกสารอีก)

เดินเท้า ... ก้าวเข้าสู่ “จ.ท่าขี้เหล็ก” ประเทศพม่า
จ่ายค่าผ่านด่านฝั่งพม่า อีกคนละ 10 บาท

พ้นด่านไป ...
 พวกนำเที่ยวก็จะเข้ามารุมตามระเบียบ
ชวนไปดู “เจดีย์ชเวดากอง” ในราคา 50 บาท

สนใจไปอยู่นะ ... แต่ไม่กล้าไปค่ะ
เพราะเคยอ่านเจอว่า ขากลับจะโดนฟันหัวแบะ

ไป 50 บาท แต่ขากลับคิด 150 บาท
เขารู้ว่ายังไง เราก็ต้องกลับมา เลยหาโอกาสขูดรีดกันภายหลัง

ผ่านกลุ่มแรกไปได้
จะโดนกลุ่มที่ 2 รุม คือ “พวกตระกร้าหาบเร่”
จะเข้ามาตื้อ ให้ซื้อบุหรี่

ไอ้หมีอ้วนปฎิเสธ
“ไม่เอาครับ ... ผมไม่สูบบุหรี่”

หม่องพม่า ผิวคล้ำถามต่อ
”เอาไวอากร้ามั๊ย มีนะ”

หันไปมองหน้าหมีอ้วนเลย ...
ถ้ามันซื้อนะ มีอยู่ 2 อย่าง  คือ ถ้าหมีอ้วนไม่หัวใจวายตาย
เราก็คงคางเหลือง ... กรั่กๆๆๆๆๆๆ
;P

เดิน shopping ของ brand name (เทียม)
แต่เป้าหมายจริงๆ อยู่ที่ DVD ค่ะ

หลังจากครั้งก่อน ไม่กล้าซื้อเยอะ เพราะกลัวมีปัญหาภายหลัง
เที่ยวนี้เลยซื้อเยอะหน่อย เพราะถูก แล้วโอเค
แผ่นไม่ค่อยมีปัญหา

หมีอ้วนอยากได้พวก DVD concert ค่ะ
ส่วนเรา ตั้งใจมาซื้อ MV ของ Michael Jackson เก็บไว้เป็นที่ระลึก

ตอนสมัยเรียนม.ปลาย
MJ มาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทย

จำได้ดีว่า ตอนนั้น โดดเรียนไปดูคอนเสิร์ตเขาด้วยล่ะ
บัตรยืน ราคา 2,500 บาท

ตอนนั้น ก็มีอัลบั๊มเพลง ... มี MV เก็บไว้บ้าง
แต่มันเป็นเทปคาสเซ็ท กับ VDO

ซึ่งยุคปัจจุบัน เราไม่มีเครื่องเล่นพวกนี้แล้ว
เลยอยากได้ที่เป็น VCD หรือ DVD เก็บไว้ เป็นที่ระลึก
ซึ่งก็สมใจอยากค่ะ ได้มาหลายแผ่นเลยล่ะ
^^

เบ็ดเสร็จ รวมแล้วทั้งหนัง/MV/คอนเสิร์ตต่างประเทศ
ได้มา 41 แผ่น ในราคา 800 บาท

1524 น. ... ออกเดินทางจากแม่สาย
มุ่งหน้าไปตามเส้นทาง #1290 “เลียบลำน้ำโขง”


++ แวะพัก @ สามเหลี่ยมทองคำ ++

ประมาณ 1 ชม.
เราก็มาถึง “สามเหลี่ยมทองคำ” จุดเชื่อมพรมแดนไทย-ลาว-พม่า
เลยแวะลงไปถ่ายรูปเล่นประมาณ 10-15 นาที

ไม่ได้แวะมานานมากแล้ว
เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย

เดินทางกันต่อ ผ่าน”เชียงแสน”
ถนนเส้นนี้ จะเป็นถนนเล็กๆ 2 เลน ให้รถวิ่งสวนกัน
แถมทางบางช่วงไม่ค่อยดี ถนนพัง เป็นหลุม

เลยทำเวลาไม่ค่อยได้มากนัก
แต่สองข้างทาง ดูร่มรื่นย์ เป็นธรรมชาติมาก


++ ความรื่นรมย์ สองข้างทาง ++


++ สีเขียว สบายตา ++

ทุ่งข้าวเขียวขจี ... ทอดแนวยาว ไกลสุดตา
และนี่คือเหตุผลหลัก ที่เราตัดสินใจเลือกมาเที่ยว
”เชียงราย หน้าฝน”




@ ไร่แสงอรุณ

1720 น. ... เราก็มาเกือบถึง”เชียงของ”ค่ะ
ณ ไร่แสงอรุณ

ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชม.จากแม่สาย มากกว่าที่กะไว้เยอะเลย
แต่ยังดี ที่ทันเวลาพระอาทิตย์ตกดิน





++ Reception Area ++

เพราะเราเลือกจองห้อง “ริมโขง” ไว้
เพื่อนอนชมพระอาทิตย์ยามเย็น ตรงระเบียงนี่แหละค่ะ

ห้องพัก”ริมโขง 3”
อยู่ด้านในสุด ค่อนข้างเป็นส่วนตัวที่เดียว
ระเบียงเปิดกว้าง รับลมชมวิวลุ่มน้ำโขง แบบพาโนราม่า







ขุนเขาของ ”ประเทศลาว” สงบนิ่งอยู่เบื้องหน้า
เพียงแค่ลำน้ำกั้นกลาง

บ้านพักไม้ ...
ออกแบบได้ลงตัว กลมกลืนกับธรรมชาติ
ห้องน้ำกึ่ง open air ให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น





นั่งเล่นอยู่ริมระเบียง ...
เฝ้ารอเวลาเคลื่อนผ่านช้าๆ พร้อมๆกับพระอาทิตย์คล้อยต่ำ
ทอแสงสีทองสะท้อนผืนน้ำ เป็นประกายสวยงาม

นกน้อย บินผ่านมาทักทาย
เอนกายฟังเสียง”ลำน้ำโขง” บอกเล่าเรื่องราวต่างๆจากธรรมชาติ
ได้อย่างไม่รู้เบื่อ





”ทำตัวเรื่อยเปื่อย” 
ใช่ ... พูดแบบนี้ ก็คงไม่ผิดหรอก

เหนื่อยๆแบบนี้
อะไรจะดีมากไปกว่า การหลบหนีความวุ่นวายต่างๆ ที่พานพบ
ได้นอนอิงแอบธรรมชาติ ที่ใกล้ ... เพียงแค่ลืมตามอง

และเปิดใจ  
สัมผัสกับธรรมชาติ ที่แสนสวยงาม

พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า
ได้เวลาอาหารมื้อเย็น ที่เลือกเมนูไว้ ตั้งแต่ตอน check-in

เพราะรอบๆที่นี่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใดเลย
มีเพียงสายน้ำ ขุนเขา ... และทุ่งข้าว
ไว้พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น
 



อาหารทุกมื้อ จึงจำเป็นต้องฝากท้องไว้กับทางที่พัก
ซึ่งราคาอาหาร ไม่แพงอย่างที่คิด
เป็นราคามาตรฐานตามร้านอาหารทั่วไป ไม่ใช่แบบโรงแรม

และที่พิเศษ คือ ผักและข้าวที่นี่
เป็นผลิตภัณฑ์ ที่ทางรีสอร์ทปลูกขึ้นเอง

นับแต่ย่างก้าว ที่ได้เข้ามา ณ ไร่แสงอรุณแห่งนี้
ไม่ต้องแปลกใจ ... หากจะพบ แปลงพืชผักสวนครัว
ปลูกไว้ขนาบทางเดิน สู่บ้านพัก

ข้าวที่นี่ ... เขาทำการสีเอง
เลยอาจจะดูไม่สวยงาม ขาวผ่อง อย่างที่คุ้นเคย
แต่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ



สั่งอาหารมา 4 อย่าง
และไม่ลืม ที่จะขอลองชิม “ผัดผัก”
ด้วยความอยากลองชิมผักสดๆ ปลูกเองของทางไร่

เมนู ”ปลาบึก” ก็ต้องไม่พลาด
เพื่อสัมผัสและลิ้มรสชาติของลำน้ำโขง ให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น


เมนู “ม้าฮ้อ”
ที่พ่อหมีบอกว่าไม่เคยเห็นเมนูนี้ จากร้านอาหารที่ไหนมาก่อน
เพราะทำค่อนข้างยาก เคยทานแต่ฝีมือคุณย่าเท่านั้น

โดยพนักงานที่นำมาเสิร์ฟ ไม่ลืมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
ตอนที่ยกมาเสริ์ฟ แล้ววางจานนี้ลงบนโต๊ะ
เขาบอกว่า “ลองชิมดูนะครับ ว่าสู้ฝีมือคุณย่าได้มั๊ย?”

นับว่า ... ประทับใจ กับความใส่ใจค่ะ
^^

เมนูสุดท้าย ... ง่ายๆ “ผัดคะน้า ปลาเค็ม”
ทั้งหมดนี้ รวมเครื่องดื่มและข้าว 2 จาน เพียง 505 บาทเท่านั้น
.
.
.

 

ค่ำคืนหนึ่ง ริมสายน้ำ
ติเพียงว่า แมลงเยอะไปหน่อย
จนไม่สามารถมานอนชมดาว ตรงระเบียง อย่างที่ตั้งใจไว้ได้



เสียงจั๊กจั่นขับร้อง กล่อมสู่นิทรา
ยามราตรี ที่มีเพียงเรา

พรุ่งนี้ ... จะขอไปสัมผัสธรรมชาติ ให้ใกล้ชิดมากกว่านี้
อีกนิดนึง
^^



((to be continued ….))






Now Playing :: โลกใบโปรด // เบิร์ด - ธงไชย

1 ในเพลงที่เปิดฟัง ระหว่างเส้นทางการขับรถสู่เชียงของค่ะ
รู้สึกเข้าว่า เพลงนี้กับบรรยากาศดีจัง
^^

 
- Since August 12, 2005 -