ตื่นเช้ามา  ... ที่ Boat Lagoon

ก็ต้องเผชิญความวุ่นวาย (อีกครั้ง)
กับ Buffet Breakfast ที่เจอกรุ๊ปทัวร์จีนลง หุ หุ

ทำจายยยยค่ะ ... ลืมไปว่า ช่วงนึ้คนจีนชอบเที่ยวภูเก็ต
”โจ๋วสั่น” กันลั่นห้องอาหารเลย
(ภาษาจีนกวางตุ้ง แปลว่า สวัสดียามเช้าค่ะ)

เพราะที่โน่นปิดเทอม
และค่าใช้จ่ายที่ภูเก็ต ถูกกว่าช่วง High Season

check-out เสร็จ ก็ไปถ่ายรูปเล่นรอบๆท่าเรือยอร์ช
ก่อนจะเดินทางไป”ท่าเรืออ่าวฉลอง”

แง่มมมมม ... ฝนตกตั้งกะเมื่อคืน
อุตส่าห์แอบลุ้นว่า เช้านี้ น่าจะอากาศดี “แบบฟ้าหลังฝน”

ที่ไหนได้ ... ยังแอบตกเปาะแปะๆๆๆๆๆ
แอบเซ็งจิตเลยอ่ะ
.
.
.

ไปถึงบริเวณ Reception ของ *The Racha*
ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง

... ความประทับใจครั้งแรก  ...
เมื่อพนักงานผู้ชาย มาเปิดประตูต้อนรับ
แล้วทักเราว่า “สวัสดีครับ คุณ ..... ใช่มั๊ยครับ??”
(อุ๊ยตาย !! เรียกชื่อเราถูกด้วย รู้ได้ไงเนี่ย)

”รอมา ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ”
... แป่ววววววว ...

ก่อนขึ้นเรือ เราจะทำการ Pre Check-in ที่นี่ค่ะ
พนักงานจะนำเอกสารต่างๆมาให้เซ็นต์
พร้อม Confirm รายละเอียดต่างๆ รวมถึงแจ้งหมายเลขห้องพัก

มีผ้าเย็น และ Complimentary Welcome Drink ให้ด้วย
ชอบตรงที่ เขามีเมนูมาให้เราเลือกได้
และหลากหลายมากๆ

เช่น กาแฟ
 มีทั้งลาตเต้, คาปูชิโน่, เอสเพรสโซ่ ฯลฯ

อย่างชาร้อน
 ก็มีเอิร์ลเกรย์, ดาร์จิริ่ง, คาร์โมมายด์, ชามะนาว ฯลฯ

น้ำผลไม้ ก็หลากหลาย
ถูกใจน้ำมะพร้าวอ่อน ... ที่มีเนื้อใส่แก้วมาให้ด้วย
หอมหวาน สดชื่นมากๆ

นอกจากนี้ ก็มีอินเตอร์เน็ท และหนังสือบริการระหว่างรอ
แต่เราน่ะ ... สนุกกับการเดินถือกล้อง
หามุมถ่ายรูปมากกว่าค่ะ หุ หุ

... นั่งเล่นได้สักพัก ...
พนักงาน ก็นำ”กลิ่นสบู่”มาให้เลือกค่ะ
มี Jasmine, Lavender และ Lemongrass

โห .... เริ่ดดดดดค่ะ !!
มีให้เลือกกลิ่นได้ด้วยอ่ะ ไม่เคยเจอที่อื่นมาก่อนเลย

ได้เวลาประมาณ 10 โมง  
พนักงานก็เรียกไปลงเรือ Speed Boat ค่ะ
โดยมีรถคล้ายๆ tram car ไปส่งถึงเรือ ที่จอดเทียบท่ารออยู่

มีผู้โดยสารแค่ 3 คนเอง ... สบายเลย

เรือดีกว่า ที่คิดไว้อีกค่ะ
เป็นเรือใหญ่ 2 เครื่องยนต์ มีระบบ GPS ด้วย

ฝนก็ยังตกเปาะแปะอยู่
แต่เห็นแบบนี้ ค่อยใจชิ้นหน่อย

แถมมีผ้าพลาสติกคลุมด้านหน้า และรอบๆไว้หมด
ไม่ต้องกลัวเปียกจากคลื่นสาด และสายฝน

เจ้าหน้าที่บอกว่า ... ถ้ามาช่วงหน้า High Season
คลื่นจะนิ่งมาก นั่งเรือแค่ 30 นาทีก็ถึง"เกาะราชาใหญ่"แล้ว

มา”ทะเลหน้าฝน” ก็ทำใจไว้แล้วว่า คลื่นคงแรง
(แถมต้องลงเรือ ตอนยังมีฝนตกด้วย)

แต่ก็ยังดีกว่า ตอนมาภูเก็ตครั้งก่อน
ที่เกือบตาย ตอนนั่ง speed boat ไปเกาะพีพี

คลื่นแรงๆวันนี้ ... เลยไม่ทำให้สะทกสะท้านสักเท่าไหร่
เพราะประสบการณ์ครั้งก่อน น่ากลัวกว่าเยอะ หุ หุ

ลุยคลื่นไปประมาณ 45 นาที
เราก็มาถึง”อ่าวทือ” ที่อยู่ทางด้านหลังของเกาะราชา

เนื่องจาก “หาดปฏก” (อ่านว่า ปะ-ตก)
ที่เป็นสถานที่ตั้งของรีสอร์ท

คลื่น-ลมแรงมาก
จนไม่สามารถนำเรือเข้าจอดได้

เรือเข้าจอดเทียบท่า”ทุ่นลอย”
โห  ... คลื่นแรงๆนี่ เดินลำบากเอามากๆ


++ ทุ่นลอย ที่อ่าวทือ เกาะราชาใหญ่ ++

สองคนผัว-เมีย เดินถ่างๆ เป็นนกเพนกวินตามตูดกันไป
กลัวจะร่วงลงน้ำจริงๆ

แต่ทุ่นลอยแบบนี้ ดีกับสิ่งแวดล้อมค่ะ
เพราะไม่ทำลายระบบนิเวศน์บริเวณรอบๆ

และพอเข้าช่วง High Season คลื่นลมสงบ
ทางรีสอร์ทก็จะนำทุ่นนี้ ย้ายไปหน้าหาดปฏกเลยค่ะ

เราต่อรถสองแถวของรีสอร์ทไปอีกนิด
”ความงดงามของ The Racha”
ก็ปรากฏให้เห็นเป็นภาพที่เด่นชัด ... อยู่ตรงหน้า


++ The Racha @ หาดปฎก - เกาะราชาใหญ่ ++

รีสอร์ทสีขาว แต่งแต้มด้วยบ้านพักแบบ villa
ไล่ระดับไปตามเนินเขา

ทอดไปตามแนวยาว  อยู่ชิดติดหาด ”อ่าวปฏก”
... ของเกาะราชาใหญ่ ...

ช่วงนี้ คลื่นแรง ไม่สามารถลงเล่นน้ำที่หาดได้
ทำให้หาดแห่งนี้ ... ไร้ผู้คนวุ่นวาย
 ไร้เรือนักท่องเที่ยวมาจอดลอยลำ

ราวกับเป็น”หาดส่วนตัว”ของรีสอร์ทแห่งนี้ทีเดียว

... ลงจากรถได้ ...
ยืนอยู่ตรง Lobby หันซ้าย-หันขวาอย่างตื่นตาตื่นใจ
ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จาก Mr. K
(ขออนุญาตใช้นามแฝงนะคะ)

ผู้เชิญชวนเราสองคน มาเยี่ยมเยียนเกาะแห่งนี้
ด้วย”สิทธิพิเศษ”กระชากใจมากมาย

... กล่าวทักทายกันเสร็จ ...
พนักงานก็เดินกางร่ม ไปส่งที่ห้องพัก
พร้อมแนะนำส่วนต่างๆของรีสอร์ทอย่างดี

~* Deluxe Villa Seaview # 208 *~
ห้องพักของสองเรา ในค่ำคืนนี้


++ ห้องพักแบบ Deluxe Villa Seaview ของเราค่ะ ++

วินาทีแรกที่เปิดประตูเข้าไป
แอร์เย็นฉ่ำ พร้อมกลิ่นน้ำมันหอม จากตะเกียงอโรม่า
และเสียงเพลงบรรเลงเพราะๆ ที่ดังกระหึ่มทั่วห้องพัก

... ทำให้รู้สึกดีเอามากๆ ...

พนักงานแนะนำส่วนต่างๆ ภายในห้องพัก
ที่มีทั้งเครื่องเล่น DVD + เครื่องเสียง
+ In-room Internet Facility, etc.
(แต่ดันไม่ได้หิ้วโน๊ตบุ๊กมาอ่ะ )

เมื่อเปิดประตูระเบียง ที่ปลายเตียง
ก็เห็นชายหาด และทะเลสีสวย อยู่ตรงหน้า

จนแทบอยากจะเปิดประตูระเบียง
นอนฟังเสียงคลื่นซัดสาด ... ยามนิทราคืนนี้

ห้องน้ำก็สวยงาม ไม่แพ้ห้องนอน
เมื่ออ่างอาบน้ำ วางตระหง่านอยู่ตรงหน้าประตู
โอบล้อมด้วยกระจกใส ราวกับแช่น้ำ อยู่ในสวนหย่อมเล็กๆ


++ ภายในห้องน้ำ แบบกึ่ง outdoor ++

ภายนอกกระจก ยังมี Outdoor Shower
ไว้ให้บริการด้วย (ห้องอาบน้ำแบบ indoor ก็มีค่ะ)

และที่แน่ๆ “สบู่กลิ่น Lemongrass” ที่เราเลือกไว้
ถูกนำมาจัดเตรียมไว้ในห้องพัก อย่างเรียบร้อย


++ Bathroom Amenity Set ++

รู้สึกประทับใจ ในสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เขาใส่ใจค่ะ
แม้แต่ Travel Adaptor หรือสายต่อเน็ท ก็มีเตรียมให้พร้อม
(ถ้าเป็นที่อื่น อาจจะต้องติดต่อขอยืมจาก Reception)

Welcome Letter ถูกจัดเตรียม
ไว้ข้างตะเกียงน้ำมันหอม และ welcome fruit plate

เราสนุกสนาน กับการเดินถือกล้องไปรอบๆห้อง
แล้วเก็บภาพแทบทุกซอกทุกมุม

สักพัก Mr. K ก็โทรมาถามว่า ถูกใจห้องพักมั๊ย??

โหย ... ตื้นตันจนพูดไม่ออกเลยค่ะ
ยิ่งกว่าถูกใจซะอีก ไม่รู้จะสรรหาคำขอบคุณยังไงดี

เพราะนอกจากจะได้ราคาพิเศษแล้ว
ยังกรุณา upgrade ห้องพัก ให้เราอีกด้วย


++ ภายในห้องนอนค่ะ (ภาพนี้ ถ่ายตอนกลางคืน) ++

ห้องนี้ ราคาขายสำหรับ Low Season ก็อยู่ที่ 9500++ บาทค่ะ
(คิดแล้วก็ตกประมาณ 11,000 บาทเน็ทต่อคืนค่ะ)

- เป็นบุญวาสนาเหลือเกินค่ะ -
เพราะถ้ารอมาช่วง High Season ก็คงไม่มีโอกาสแบบนี้
(ราคาก็แพงกว่านี้อีกค่ะ )

แถม surprise เราอีกอย่าง
ไม่คิดค่าเรือเราด้วยค่ะ ... โอ๊ย !! ทำไมใจดีจัง
(ตอนแรกมาหลอกเรา บอกไม่คิดเพราะจะให้ว่ายน้ำไปเอง อิ อิ)

สนุกสนานในห้องอยู่สักพัก
ฝนก็หยุดตกค่ะ ... ฟ้าเป็นใจแล้ว

เย้ !!!!!!! ได้เวลาเดินเล่น เก็บภาพรอบๆรีสอร์ทแล้วค่ะ
ไม่รอช้า สะพายกล้องคู่ใจ ออกตะลุยทันที

 ฟ้าวันนี้ เมฆเยอะมาก ... ไม่มีแดด
ถ่ายรูปออกมาคงไม่สวยเท่าไหร่

... แต่ก็ยังดี ที่ฝนหยุดตกแล้ว ...
ทำให้เก็บภาพความประทับใจมาได้บ้าง

พนักงานที่นี่ อัธยาศัยดีมาก
เดินผ่านใคร ก็หันมายิ้มให้ แล้วทักทายเรา
ไม่เว้นแม้แต่คนสวน

เราเริ่มต้นเก็บภาพที่ Main Building
 ที่เป็นส่วนของ Library Room และสระว่ายน้ำ
... เห็นวิวทะเลชัดแจ๋วเลย ..


++ มุมหนึ่งของ The Racha ++

ก่อนจะเดินต่อไปยัง “หาดปฏก” ด้านหน้ารีสอร์ท
ที่วันนี้ ติดธงแดง ... แสดงว่า ไม่ให้เล่นน้ำที่หาดค่ะ

ข้างๆกันจะมีเรือคายัก และป้ายบอกกิจกรรมต่างๆของรีสอร์ท
เช่น snorkeling, mountain bike, etc.


++ ภายใน Anumba Spa ++

ถัดมาใกล้ๆกัน จะเป็น “Anumba Spa”
ที่มีทั้งห้อง sauna, ห้อง fitness และห้องโยคะ

เดินเล่นกันต่อ ไปยังสนามเทนนิสทางด้านหลัง
เราก็ได้พบ Mr. K โดยบังเอิญอีกครั้ง

เลยมีโอกาสได้ไปชม"ห้องพัก แบบ Pool Villa”
ที่เป็นห้องพักราคาแพงที่สุด ของที่นี่ตอนนี้

ห้อง 104 ... ตอนนี้ ถูกปิดไม่ได้ขาย เพราะมีการก่อสร้าง
2-bedroom suite ที่เรียกว่า “Light House” อยู่ใกล้ๆ
(คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในเดือนกันยายนนี้ค่ะ)

... ห้องพักแบบ Pool Villa ...
จะมีสระว่ายน้ำ อยู่ที่ระเบียงหน้าห้องพัก
และสามารถเดินลงได้จากทางห้องน้ำ หรือจากระเบียงหน้าบ้านพัก

ภายในห้องพักจัดเป็นสัดส่วน
นอนแช่อ่าง Jacuzzi ที่กั้นเพียงกระจกใส ติดสระน้ำ


++ ห้องพักแบบ Pool Villa (แสงไม่สวยนะคะ เพราะไม่ได้เปิดไฟ) ++

ห้องพักแบบนี้ ... มีเพียง 4 ห้องค่ะ
ใครสนใจมาช่วง High Season ต้องจองกันข้ามปีเลย
(Mr. K แนะนำว่า ห้อง 102 จะเห็นวิวสวยที่สุดค่ะ )

จากนั้นเราเดินเล่นเลาะริมหาด ไปยังทางด้านข้าง
พร้อมกับชมความงามของ
”หาดปฏก และ The Racha” ไปพร้อมๆกัน


++ หาดปฏก ที่มี The Racha อยู่ด้านหลัง ++

... คลื่นลมแรงทีเดียว ...
แต่ความสวยงามอยู่ตรงที่ ได้เห็นแนวคลื่นสีขาวเด่นชัด
แผ่กระเซ็น แตกออก ... กระจายไปทั่วหาด

- ทะเลหน้าฝน -
ถึงจะดูโหดร้าย ก็ยังมีความสวยงามแอบซ่อนอยู่

ทรายที่นี่ ละเอียดเหมือนฝุ่นแป้ง
และรู้สึกได้ ทุกย่างก้าวที่เดินผ่าน

กลับมาพักที่ห้อง กันสักพัก
เพื่อพักผ่อนชาร์จแบตฯกล้อง ที่เริ่ม low battery เพราะถ่ายดะ


แบตฯยังไม่ทันจะเต็มดี ก็คว้ากล้องอีกรอบ
ออกมาเก็บรูปรอบๆ ด้านนอกห้องพัก

ตกเย็น ...  ก็ชวนไปเล่น Pool กันต่อค่ะ

ครั้งแรก ที่ได้เล่น pool ด้วยกัน กับพ่อหมีอ้วนเลยนะเนี่ย
... นับแต้มแข่งกันสนุกเลย อิ อิ ...


++ บนโต๊ะ Pool ++

.. จบไป 2 เกมส์  ...
ไปเดินเล่น ยังสระน้ำทางด้านหลังอีกแห่ง

ที่นี่ จะมี 2 สระ และพิเศษตรงที่ใช้”โอโซน” ในการบำบัดน้ำ
ไม่ได้ใช้คลอรีนเหมือนสระทั่วไป

สุดท้าย ... ไม่คาดคิด
ว่าจะได้เห็น”แสงอาทิตย์ลาลับที่ขอบฟ้า”
หลังจากเห็นแต่ก้อนเมฆดำ ... ขมุกขมัวเต็มท้องฟ้า มาทั้งวัน

แสงอาทิตย์สะท้อนผืนน้ำ และหาดทรายเป็นประกาย
... สวยงามทีเดียว ...



เมื่อความมืดมิดเริ่มเข้าปกคลุม
ความสวยงามจากแสงไฟ ก็เข้ามาทดแทน

แสงไฟสีเขียวใต้น้ำ ที่ Main Building สวยมากๆ
เราจึงเลือกทานมื้อเย็น ที่ "Earth Café" ด้านล่างของตึก ใกล้ๆกัน

บรรยากาศอาหารมื้อเย็น ริมหาด ... ใต้แสงเทียน
โรแมนติกทีเดียว

พร้อมเสียงดนตรีไพเราะบรรเลงขับกล่อม  อยู่ใกล้ๆ
จากกลุ่มนักดนตรีชาวฟิลิปปินส์

ที่มาให้ความเพลิดเพลินถึงข้างโต๊ะ
(แต่เรารู้สึกเขินมากกว่าอ่ะ ... ไม่ชินเลย แบบนี้)


++ Romantic Candle Light Dinner with Live Band Music++

กลับมาที่ห้องพักของเรา
แสงไฟ lighting ในห้อง ... ก็สวยไม่แพ้กัน
ทำให้ที่แห่งนี้ ดูโรแมนติกมากมายทีเดียว

... ค่ำคืนนี้ ...
เราจูงมือ ออกไปนั่งดื่มด้วยกันที่ *Ice Bar*
ด้วย complimentary card สำหรับแลก drink ได้ฟรี
ไม่ว่าจะเป็น wine, beer, spirit, cocktail หรือ soft drink ต่างๆ

ไม่น่าเชื่อว่า ... จะมีอะไรพิเศษ เยอะแยะขนาดนี้
(รู้งี้ ไม่หอบ Gold Label ของเรามาเองหรอก หุ หุ )


++ Anumba Spa ยามค่ำคืน ++

ก่อนนอนคืนนี้ ... ชนแก้วกับพ่อหมีอ้วน
ด้วย Mojito และ Racha Island Iced Tea

ดาวระยิบระยับสวยงามบนท้องฟ้า

... แต่ที่พิเศษยิ่งกว่านั้น ...
คือ”พระจันทร์ทรงกลด”ท่ามกลางเมฆหนา
ที่ไม่คาดคิดว่า จะได้เห็นในค่ำคืนนี้


++พระจันทร์ทรงกลด ++

ค่ำคืนพิเศษ กับคนพิเศษ
กับช่วงเวลาดีๆ ... และความรู้สึกดีๆ
 - เหมือนฝันเลยค่ะ -


++ภาพทิ้งท้าย สำหรับค่ำคืนนี้ ที่ The Racha ++

- Since August 12, 2005 -