~* DAY 2 *~
เกาะหินซ้อน – เกาะไผ่ – หาดกำนัน –
เกาะรอกลอย (รอกลวย) - หาดทรายขาว เกาะราวี – เกาะหินงาม
– ร่องน้ำจาบัง  - เกาะอาดัง
.
.
.

วันนี้ โปรแกรมดำน้ำตื้นเต็มวันค่ะ
ออกเดินทางกันด้วยเรือหางยาว เวลา 0930 น.
คลื่นลมสงบ เป็นใจเอามากๆ


นั่งเรือประมาณ 50 นาที
ลมทะเลเย็นๆ ปะทะใบหน้า ทำเอาแทบจะเคลิ้มหลับ


++ เกาะหินซ้อน ++

... จุดแรก ...
เขาแวะจอดให้ถ่ายรูป ที่ (1) “เกาะหินซ้อน” มหัศจรรย์ธรรมชาติ
ที่หินขนาดยักษ์วางซ้อนอยู่บนหินอีกก้อน ได้อย่างลงตัวพอดี

น้องตั้มไกด์ใจดี อาสาถ่ายรูปคู่ให้
ทำให้พอจะมีรูปคู่จากทริปนี้บ้าง
เพราะอุตส่าห์แบกขาตั้งกล้องมา แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้เลย

ล่องเรือกันต่ออีกนิด
แวะลงน้ำกันจุดแรก ... ใกล้ๆกัน (2) บริเวณหมู่เกาะดง
เขามีทุ่นลอยผูกเชือกกั้นบริเวณ-ขอบเขตไว้

ตอนแรก เข้าใจว่าเป็น marking ให้รู้ว่าตรงนี้ เป็นจุดดำน้ำ
ที่ไหนได้ พอลงไปถึงได้รู้ ว่า”กระแสน้ำแรงมาก”
ถึงแม้คลื่นลมจะสงบ ก็ตามที

เป็นครั้งแรก ที่ต้อง snorkel แบบเกาะเชือก
เผลอหลุดมือไปนี่ ว่ายมาเกาะเชือกซะเหนื่อยเลย

ตรงนี้ ... ปะการังหลากสีสันสวยงามมากๆ


++ จุดแรก ของการดำ snorkel ++

(3) “เกาะไม้ไผ่”
ตรงนี้กระแสน้ำนิ่ง ทำให้ดำน้ำได้สบายๆ แบบไม่เหนื่อย
ปะการังเขากวาง และปะการังอ่อนเยอะมากๆ

มีทั้งปลาการ์ตูน (นีโม่)
และที่รู้สึกทึ่ง คือ ”หอยมือเสือ” เยอะมาก
แถมสีสันม่วงเข้ม สวยเชียวล่ะ




++ ปะการังอ่อนเพียบ ++

(4) “หาดกำนัน”
(ไม่แน่ใจนัก ว่าสะกดแบบนี้รึป่าว??)

ไกด์พาแวะมาให้นั่งพักเล่น บนชายหาดสวยๆ
หาดทรายขาว น้ำทะเลใส สวยเอามากๆ
แต่ไม่มีจุดดำ snorkel ค่ะ


++ Relax on the Beach ++

คนอื่นๆ เขาหม่ำ Lunch Box on the Beach กัน
แต่เราสนุกสนานกับการวิ่งเล่นลงน้ำ
แล้วนอนเกลือกกลิ้ง บนผืนทรายขาวๆ

ชอบหาดนี้ ... เป็นการส่วนตัว
ดูสวยงามและเงียบสงบดี

มีความสุข กับการได้สัมผัสธรรมชาติสวยๆ
ของทะเลบ้านเรา
 




++ อำลา หาดกำนัน ++

(5) “เกาะรอกลอย หรือ เกาะรอ-กลวย”
ไกด์พาแวะมาให้นั่งพักเล่น-ชมวิวอีกรอบ

น้ำทะเลตรงจุดนี้ใสมากๆ
แต่ลงเล่นไม่ได้ เพราะมี”เม่นทะเล”เยอะ


++ เกาะรอกลอย หรือเกาะรอกลวย ++

ใช้เวลาเดินทางต่ออีกนาน
เลยใช้เวลาว่างนั่งทานมื้อกลางวัน lunch on the boat
ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

และแล้ว เราก็มาถึงเกาะใหญ่อีกเกาะหนึ่ง คือ
(6) “หาดทรายขาว เกาะราวี”


++ ใกล้ถึงเกาะราวี เจอเมฆฝนดำทะมึน แต่ไม่เจอฝนค่ะ ++

เกาะนี้ มีน้ำตกธรรมชาติ
เลยมีน้ำจืดให้ล้างตัว พร้อมมีห้องน้ำให้บริการ

จุดดำ snorkel ของเกาะนี้
เพียงแค่เดินลงทางหน้าหาด แล้วว่ายไปตามขอบทุ่นที่เขากั้นไว้

แต่ละจุด เขาจะมีหมายเลขกำกับ บอกไว้ใต้น้ำ
ทั้งหมด 9 จุดด้วยกัน


++ หาดทรายขาว @ เกาะราวี ++

ที่นี่ เรามีโอกาสได้พบเห็น “ปลาสิงโตทะเล” เป็นครั้งแรก
ดำ snorkel มาก็หลายที่
ขอบอกว่า เพิ่งเคยเห็นปลาสิงโตทะเลชัดๆ ก็วันนี้นี่เอง

รวมถึง”ปลาธงเข็ม”ตัวยาว
ที่ว่ายวนเวียน มาทักทายเรื่อยๆ


++ ปลาสิงโตทะเล ++


++ ปลาธงเข็ม ++


++ ปลาปักเป้าหน้าหมา ++

ปะการังอ่อนที่นี่ มี”ปลาการ์ตูน” สีขาวคาดส้ม
หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “นีโม”
ค่อนข้างเยอะทีเดียว

ดำน้ำ snorkel มาหลายที่
มีที่นี่นี่แหละ ที่ได้เห็นปลาการ์ตูนได้ง่าย และมากพอสมควร

ว่ายกันไปจนสุดทาง ก็เดินเลาะชายหาด
กลับมาขึ้นเรือ




++ ปลาการ์ตูนเจ้าถิ่น @ หาดทรายขาว เกาะราวี ++

นั่งเรือกันต่อ ไปยัง
(7) “เกาะหินงาม” ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง

เพราะเกาะแห่งนี้ ไม่มีหาดทรายขาว อย่างที่คุ้นตา
แต่เต็มไปด้วยก้อนหินสีดำ กลมมน- มันวาว
ก้อนเล็กๆ เรียงรายเต็มเกาะ

ซึ่งชายหาดที่ไม่ใช่ทราย และเป็นหินกลมมนแบบนี้
มีเพียงเกาะนี้ เพียงเกาะเดียวในประเทศไทย


++ หินที่นี่ กลมมน มันวาวขนาดไหน ดูกันให้จะจะ ++

ไกด์คนเก่ง ตะโกนบอกให้นำรองเท้าลงไปด้วย
เพราะหินค่อนข้างร้อน

เรามองดูแล้ว
คล้ายๆหินที่เขาเอามานวด hot stone massage ยังไงยังงั้น
^^"

แต่หินที่นี่ เขามีความเชื่อเรื่อง “คำสาปเจ้าพ่อตะรุเตา”
ห้ามนำกลับไป !!
มิฉะนั้นจะต้องพบกับความโชคร้ายต่างๆนาๆ

"ผู้ใดบังอาจเก็บหินจากเกาะนี้ไป 
ผู้นั้นจะพบซึ่งความหายนะนานานัปการ 
จะกลับไม่ถึงบ้าน จะประสบอุบัติเหตุ
จะหลุดพ้นจากหน้าที่การงาน จะพบภัยพิบัติไม่มีที่สิ้นสุด"


++ เกาะหินงาม ++

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อ
ถ้านำหินมาเรียงซ้อนกัน ให้ได้ 12 ก้อน แล้วอธิษฐาน
ก็จะสมหวังดังคำขอ

... เราก็ลองดู ...
แต่ยากกว่าที่คิดค่ะ ทำไม่สำเร็จด้วยล่ะ
ได้อย่างมาก แค่ 5 ชั้นเอง
^^"

ส่วนหมีอ้วน นั่งแช่ในน้ำ ประหนึ่งสปาชั้นดี

เอาหินร้อนๆ มาจุ่มน้ำ แล้วนวดๆคลึงๆตามตัว
บรรเทาอาการเมื่อยล้า


++ Beach Spa ++

ใกล้ๆกัน ... เราลงดำน้ำรอบสุดท้าย ที่
(8) “ร่องน้ำจาบัง”
ตรงนี้ มีปะการัง 7 สี อยู่ 2 กลุ่มใหญ่ๆ

ตอนแรก ไม่ได้เอากล้องใต้น้ำลงไปด้วย
เพราะแบตเตอรี่หมด
แต่ความสวยงามใต้น้ำ ทำให้ต้องวกกลับมาเอากล้องบนเรือ
แล้วลองเสี่ยงดวงถ่ายภาพมาดู

โชคดี ... ว่าถ่ายมาได้อีก 1 ภาพสุดท้าย
ถึงแม้จะไม่ค่อยสวยนักก็ตาม
เพราะสภาพน้ำขุ่น


++ ปะการังสี @ ร่องน้ำจาบัง ++

ถ้าวันไหน โชคดี ... เจอแดดดีๆ
เขาบอกว่า จะมองเห็นสีสันได้สวยงามนักเชียว

ส่งท้ายกันที่ (9) “เกาะอาดัง”
เกาะที่อยู่ตรงข้ามเกาะหลีเป๊ะ แต่เป็นเกาะที่มีภูเขาสูงใหญ่
และมีน้ำจืด ใช้ตลอดปี

ส่วนตัวแล้ว ... เราว่าหาดที่เกาะอาดังไม่ค่อยสวย
เพราะมีฝุ่นสีดำๆ ปนอยู่กับทรายสีขาว


++ เกาะอาดัง ++
.
.
.

เรือหางยาว พาเรานั่งชมวิวยามเย็น
ของชายฝั่ง “หาดชาวเล” เป็นการส่งท้าย
ก่อนจะอ้อมกลับมาส่งที่ “หาดพัทยา”

Note : เกาะหลีเป๊ะ ประกอบด้วย 3 หาด
1) อ่าวพัทยา (หาดบันดาหยา) - เป็นลักษณะเวิ้งจันทร์เสี้ยว
2) หาดชาวเล (Sunrise Beach)
3) หาดประมง (Sunset Beach)

มาถึงฝั่งก็ 1800 น.ไปแล้ว
รีบอาบน้ำแต่งตัว มาเก็บภาพบรรยากาศยามเย็น
แต่ก็ไม่ทันการณ์ซะล่ะ
T^T



นั่งทานมื้อเย็น ที่ทางรีสอร์ทเตรียมให้
ก่อนจะไปเดินเล่น หม่ำโรตีที่ร้านเดิม
แล้วแวะไปดูกุ้งลายเสือที่หมายตาไว้ ตั้งแต่เมื่อวาน

เมื่อวาน ว่าตัวใหญ่แล้ว
วันนี้ ใหญ่บึ้มยิ่งกว่าเดิม เจอกุ้ง'ตัวละ 4 ขีด'
กก.ละ 1,500 บาท


++ กุ้งลายเสือ ... แค่หัวกุ้ง ก็เท่าฝ่ามือแล้ว ++

อยากลองใจจะขาด
แต่ยัดไม่ลงแล้วจริงๆ อิ่มมากๆ
(ก็นะ ... ทั้งอาหารเย็น ผลไม้ ตามด้วยโรตี)

เดินเล่นริมหาด ... ชมประติมากรรมบนผืนทราย
ที่ Beach Bar แถวนั้น ปั้นทรายเป็นลวดลาย
แล้วจุดเทียน สร้างบรรยากาศ

ให้ความรู้สึกสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ดีจริงๆ
^^


++ ประติมากรรม บนผืนทราย ++

คืนส่งท้าย @ เกาะหลีเป๊ะ
รู้สึกว่า “คิดผิด” ที่ลางานมาเที่ยวแค่เพียง 3 วัน 2 คืน

อยากต่อเวลาออกไป
เพื่อให้เต็มอิ่ม กับธรรมชาติที่แสนงดงาม
มากกว่านี้ ... อีกสักนิดหนึ่ง
^^


ปล. สำหรับรายละเอียด pk และข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ
จะมาเขียนในวันที่ 3 ตอนจบนะคะ
:)

อย่าอยู่อย่างอยาก -

 
- Since August 12, 2005 -