Amsterdam 2013....Journey of Inspiration
แรงบันดาลใจในการเดินทางของเพื่อนๆคืออะไรคะ สำหรับหนึ่ง เกือบ 100% คือเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งทุกครั้งที่ได้เดินทางท่องเที่ยวจะเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆขึ้นเสมอจากสิ่งที่ได้พบเห็นและได้สัมผัส วันนี้มีอีกหนึ่งการเดินทางที่สนุกและประทับใจมาฝาก นั่นคือ... ทริป Amsterdam เมืองหลวงของ Netherlands เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยและโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป
ต้องขอขอบคุณ KLM สายการบินแห่งชาติเนเธอร์แลนด์สำหรับการสนับสนุนเรื่องการเดินทางครั้งนี้
Amsterdam 2013 เป็นปีพิเศษเนื่องจากมีการครบรอบของสถานที่สำคัญและเก่าแก่หลายๆแห่ง เช่น ครบ 400 ปีคลอง และ reopening ของ Rijksmuseum ที่ปิดปรับปรุงมากกว่า 10 ปี ในแต่ละเดือนตลอดทั้งปีนี้จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย จึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างคึกคัก ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของการเดินทางด้วยสายการบิน KLM ซึ่งห่างจากครั้งแรก 4 ปี แต่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัม มาครั้งนี้การให้บริการของสายการบินสะดวกสบายขึ้นมาก ด้วยการเพิ่มช่องทางการเช็คอินที่นอกจากจะเช็คอินผ่านเว็บไซต์ได้แล้วยังสามารถทำผ่านสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย โดยมี Application ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้ทั้งในระบบ iOS และ Android นับว่าสะดวกและตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
หนึ่งลองเช็คอินผ่าน application ดู สะดวกดีค่ะ สามารถเช็คอินก่อนเดินทาง 30 ชม. หนึ่งใช้ Android เข้าไปหา KLM ใน Apps store ได้เลยแล้ว download มา
เข้าไปเช็คอินโดยเข้าไปใน my booking โดยจะใส่ Ticket number หรือ booking code ก็ได้
มาถึงขั้นตอนเลือกที่นั่ง สามารถเปลี่ยนที่นั่งได้
เสร็จแล้วค่ะ ใช้เวลาทั้งหมดไม่นานเลย ส่วน Boarding pass สามารถรับที่สนามบินหรือเลือกให้ App ส่งมาทางอีเมล์แล้วปรินท์เองก็ได้ หนึ่งเลือกอย่างแรกค่ะ Application นี้นอกจากจะเช็คอินได้แล้วยังสามารถเปลี่ยนที่นั่ง ดู flight status หรือดูโปรโมชั่นพิเศษได้ ที่สำคัญ download ได้ฟรีค่ะ
ได้เวลา Boarding แล้ว บินตรงจาก กทม.ถึงอัมสเตอร์ดัมด้วยเครื่อง Boeing 777-200 ลำใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 11:35 ชม
หนึ่งมีโอกาสได้นั่งที่นั่ง economy comfort ซึ่งสะดวกสบายกว่า economy แบบธรรมดามาก พื้นที่กว้างกว่า เอนเบาะได้มากกว่า สามารถพับหมอนรองศรีษะเพื่อไม่ให้คอพับได้ แถมอยู่ใกล้ห้องน้ำอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับการบริการอาหารและเครื่องดื่มเป็นคิวแรกๆเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มจากชั้นประหยัดคือ 150 ยูโรหรือประมาณ 6,000 บาทนิดๆ หนึ่งว่าคุ้มเพราะ ทำให้การเดินทาง 11 ชม.กว่าๆ ไม่เหนื่อยเลย
Personal entertainment มีความบันเทิงทุกรูปแบบทั้งดนตรี เกมส์ ภาพยนตร์ ที่มีให้เลือกมากมายทั้งอัพเดทล่าสุด คลาสสิคตลอดกาล หรือหนังนานาชาติ เนื่องจากหนึ่งไม่ค่อยได้ไปดูหนังในโรงนัก เลยจัดไป 3 เรื่อง แทบไม่ได้นอนเลยค่ะ
มาดูด้านอาหารการกินบ้าง ปกติเวลาเดินทางหนึ่งไม่ค่อยคาดหวังเรื่องอาหารและขนมบนเครื่องนัก เพราะส่วนใหญ่จะไม่ค่อยถูกปาก แต่ของสายการบินนี้หนึ่งสามารถพูดได้เลยว่าอาหารและขนมถูกปากถูกใจมากที่สุด อาหารเสิร์ฟ 2 มื้อรสไม่จัดแต่อร่อย ส่วนขนมอร่อยม๊ากกกก ขาไปเสิร์ฟเค้กมีกล้วยสอดไส้ ขากลับได้ Choux cream เสิร์ฟพร้อมวิปปิ้งครีม ส่วนเครื่องดื่มสามารถขอจากโฮสเตสได้ตลอด โฮสเตทเค้าจะเน้นการให้บริการที่ฉับไว
ก่อนจะลงรายละเอียด มาดูภาพรวมของอัมสเตอร์ดัมในมุมมองของหนึ่ง... 3 คำง่ายๆ คลอง บ้านน่ารักๆ และจักรยาน ไม่ว่าเดินไปทางไหนจะเห็น 1 ใน 3 สิ่งนี้เสมอ
1. คลอง ถือเป็นไอคอนของเมือง เดินไปทางไหนจะเห็นแต่คลองเพราะตัวเมืองมีคลองต่างๆล้อมรอบเป็นลักษณะครึ่งวงกลม นับเป็นการวางผังเมืองและการบริหารจัดการน้ำที่ยอดเยี่ยมเพราะพื้นที่เมืองส่วนใหญ่อยู่ต่ำกว่าหรือในระดับน้ำทะเล โดยมีคลองหลักๆอยู่ 3 คลองคือ Herengracht, Prinsengracht, และ Keizersgracht ซึ่งถูกขุดขึ้นในศตวรรษที่ 17 เราจึงเห็นสถานที่สำคัญๆ และบ้านเรือนเก่าแก่อยู่ตามริมคลอง จนถึงปีนี้ ปี 2013 คลองดังกล่าวอายุครบ 400 ปีแล้ว
2. บ้านเก่าสไตล์ดัตช์ เป็นอีกสิ่งทีเห็นควบคู่ไปกับคลองรวมทั้งในย่านเมืองเก่าที่ไม่ติดคลองด้วย บ้านเหล่านี้มีลักษณะพิเศษคือหน้าแคบแต่ลึก ตัวบ้านแต่ละหลังอาจจะดูคล้ายๆเอนหน้าเอนหลังไม่เท่ากัน และแต่ละหลังหน้าตาต่างกันไป นับเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบ บางคนถึงกับบอกว่า มาอัมสเตอร์ดัมถ่ายแต่รูปคลองและบ้าน ซึ่งเห็นด้วยค่ะ ;)
ช่วงกลางวันคลองดูมีชีวิตชีวา แต่ยามค่ำคืนแสงไฟที่กระทบผิวน้ำดูโรแมนติกจริงๆ
การเที่ยวคลองในอัมสเตอร์ดัมทำได้หลายวิธี อาจจะเที่ยวกับทัวร์หรือเที่ยวเองเลยก็ได้ มีข้อดีแตกต่างกัน มีทั้งรูปแบบการเดิน ปั่นจักรยานหรือล่องเรือ ถ้าไปกับทัวร์ข้อดีคือได้ไปจุดไฮไลท์และมีประวัติให้พร้อม หนึ่งลองเที่ยว 2 แบบคือเดินเที่ยวเองและล่องเรือ ซึ่งได้คนละอารณ์ที่แตกต่างกันเลยค่ะ เดินเที่ยวเองมีหลงบ้างแต่สนุกดี ถ้าล่องเรือ เรือพาไปบางจุดที่ถ้าเดินเที่ยวเองอาจจะมองข้ามไปเช่น บ้านที่แคบที่สุด
3. จักรยาน เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่เป็นมิตรกับผู้ใช้จักรยาน มีเลนจักรยานรวมทั้งคอนโดจักรยานโดยเฉพาะ ในอัมสเตอร์ดัมมีผู้ใช้จักรยานเป็นยานพาหนะเป็นจำนวนมากรวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย เวลาเดินเที่ยวอย่าเผลอไปเดินบนเลนจักรยานนะคะ
จุดเริ่มต้นการท่องเที่ยว คือที่นี่ค่ะ Centraal station อยู่ห่างจากสนามบิน Schiphol 18 กม นั่งรถไฟประมาณ 20 นาที เป็นสถานีหลักในการเดินทางไปเมืองอื่นๆรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านโดยรถไฟ ด้านหน้าเป็นป้ายรถรางหลายสายที่วิ่งในเมืองอัมสเตอร์ดัม ด้านหน้า centraal station มี Tourist information สามารถเข้าไปสอบถามได้
ตัวเมืองอัมสเตอร์ดัมไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าจะเที่ยวให้ทั่วแบบสบายๆแถมเมืองรอบๆด้วยคิดว่าประมาณ 5 วันกำลังดีค่ะ การเที่ยวในเมืองทำได้หลายวิธี จะเที่ยวเองโดยเช่าจักรยานปั่น เดินบ้างขึ้นรถรางบ้าง(แบบที่หนึ่งเลือก) หรือถ้ามีเวลาไม่มากแต่อยากเที่ยวให้ทั่วก็สามารถใช้บริการ Hop-on Hop-off Tour Bus ซึ่งจะไปจุดท่องเที่ยวสำคัญครบทุกจุดภายในเวลา 2 ชม. โดยประมาณถ้าไม่ลงจากรถเลยนะคะ แต่สามารถลงจากรถแวะจุดที่สนใจได้ ราคาทัวร์มีทั้งแบบ 24 หรือ 48 ชม
ครั้งนี่หนึ่งเน้นเที่ยวในตัวเมืองเป็นหลัก จริงๆตั้งใจไปนอกเมืองด้วย แต่ต้องเปลี่ยนแผนเพราะอากาศไม่อำนวย การเที่ยวของหนึ่งเน้นการเดินและขึ้นรถรางเป็นหลักค่ะ Dam Square อยู่ห่างจาก Centraal station แค่ 750 เมตร เดินเพลินๆก็ถึงแล้ว ภายในจตุรัสมีสถานที่เก่าแก่ สำคัญเช่น Royal Palace, Nieuwe Kerk โบสถ์สไตล์โกธิค และ National Monument เสาสีขาวที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 รอบๆจตุรัสเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมรวมทั้ง China town และ RLD จุดนี้ยังเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวคับคั่งทั้งกลางวันและกลางคืน
Red Light District (RLD) เป็นสถานที่ที่เชื่อว่านักท่องเที่ยวทุกคนอยากมาเดิน เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับธุรกิจทางเพศ ย่าน RLD ถูกกำหนดขึ้นอย่างถูกต้องตามกฏหมาย จริงๆแล้วในอัมสเตอร์ดัมมี 3 ย่าน แต่ย่านที่คับคั่งที่สุดคือ De Wallen (ระหว่าง Centraal Station และ Nieuwenmarkt) เพราะนอกจากจะมี sex shops, adult theaters คาเฟท์ หญิงสาวในหน้าต่างแล้ว ย่านนี้ยังถือเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ทั้งตึกอาคาร บ้านเรือนแบบโบราณและคลองเล็กๆ
ในความเห็นส่วนตัวแล้วที่นี่มีทั้งความคลาสสิคและความสนุกแฝงอยู่ จึงไม่แปลกใจเลยที่เป็นจุดที่อัดแน่นด้วยนักท่องเที่ยวในยามค่ำคืนมากที่สุดจุดหนึ่งของอัมสเตอร์ดัม เดินดูแล้วตื่นตาตื่นใจ สนุกดีค่ะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้
**การมาเที่ยว RLD อย่าพยายามถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอหญิงสาวในหน้าต่างหรือผู้มารับบริการนะคะ** มุมสนุกๆในย่าน RLD ที่เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้จริงๆค่ะ ^_^
Chinatown อยู่บนถนน Zeedijk ขอบด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ RLD เป็นเหมือนศูยน์รวมเอเซียในอัมสเตอร์ดัม มีร้านอาหารจีน ไทย มาเลเซีย ร้านอาหารจีนขึ้นชื่อทั้ง Nam Kee และ New King อยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีมีวัดจีนขนาดใหญ่คือ Guang Shan He Hua Temple ตึกในย่านนี้จะบอกเป็น 2 ภาษาคือ ภาษาดัตช์และจีน
Nieuwmarkt เป็นจัตุรัสในย่าน Chinatown มีจุดเด่นคือ De Waag ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1488 เพื่อเป็นประตูเมือง แต่ปัจจุบันเป็นร้านอาหาร พื้นที่หน้า De Waag เป็นตลาดเล็กๆที่มีของมาขายทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นผัก ผลไม้ หนึงเจอตลาดขายของวินเทจพวกถ้วยชา นาฬิกาในวันอาทิตย์ด้วยค่ะ เรียกว่าไม่เคยว่างเว้นเลย พื้นที่โดยรอบมี ร้านอาหาร โรงแรม และอยู่ติดกับ RLD จึงนับเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญจุดหนึ่ง
Bloemenmarkt หรือ Floating flower market ตลาดดอกไม้ในย่าน Singel ร้านจะลอยอยู่บนทุ่นริมคลอง ขายดอกไม้ เมล็ด หน่อ และเครื่องไม้เครื่องมือในการปลูก มีของที่ระลึกด้วย หนึ่งไปหน้าร้อนไม่มีทิวลิปเป็นๆขายแล้ว แต่มีดอกไม้อื่นๆให้ชม ถ้าใครชอบดอกไม้หรือชอบปลูกต้นไม้ลองแวะไปชมนะคะ ตลาดเปิดทุกวัน
Albert Cuypmarkt อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่มีตลาดเยอะจริงๆ ถูกใจคนชอบเดินตลาดอย่างหนึ่งยิ่งนัก ที่ชอบมากๆคือที่นี่ค่ะ เป็น street market ที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ เรียกได้ว่าขายทุกสิ่งตั้งแต่ผลไม้ ผักสด ดอกไม้ ต้นไม้ อาหารทะเลสดๆ ผ้าน่ารักๆ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในครัว ตัวตลาดไม่ใหญ่เกินที่จะเดินจนทั่ว ของที่ขายไม่ค่อยซ้ำกัน ดูเพลินเลยค่ะ ราคาสินค้าไม่แพง และมีขนมทำเเสร็จใหม่ๆร้อนๆอร่อยๆด้วย ตลาดเปิด 9:00-17:00 จันทร์-เสาร์
Museum Quarter หรือ Museum District มีพิพิธภัณฑ์หลักๆของเมือง 3 แห่งคือ Rijksmuseum, Stedelijk Museum of Modern Art และ the Van Gogh Museum ถ้าใครที่เป็นแฟนพิพิธภัณฑ์ต้องชอบที่นี่แน่นอน อยู่ใกล้ๆกันไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง แต่อยู่ห่างจากย่านเมืองเก่านิดหน่อย นั่งรถรางมาได้ค่ะ ถ้าจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ให้ครบอาจจะต้องวางแผนนิดนึงค่ะ เพราะแต่ละที่ขนาดใหญ่มาก Amsterdam 2013 ร่วมฉลองการการ reopening ของ Rijksmuseum ซึ่งเป็นปรับปรุงนานกว่า 10 ปี และครบรอบ 40 ปี Van Gogh Museum ด้วย เป็น 2 พิพิธภัณฑ์ที่แนะนำให้เข้าชมค่ะ
สัญลักษณ์ I amsterdam หน้า Rijksmuseum กลายเป็นจุดที่ทุกคนอยากมาถ่ายรูป ;)
Vondel Park เป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจหรือเป็นจุดปิคนิคของชาวอัมสเตอร์ดัม อยู่ใกล้ๆ Museum Quarter หากมีเวลาหลังจากการชมพิพิธภัณฑ์สามารถมาเดินเล่น นั่งเล่นที่สวนได้ หน้าร้อนหญ้าเขียวๆ สระน้ำใสๆ ดูแล้วสดชื่นจริงค่ะ
มาดูมุมสนุกๆแต่แฝงความรู้ไปด้วย House of Bols หรือ Bols Museum อยู่ใกล้ Rijksmuseum เป็น interactive museum ที่ให้ทั้งความรู้และความสนุก
Bols เป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เก่าแก่และดังระดับโลกของเนเธอแลนด์ มีโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ลองเข้าไปชมเรื่องราวที่น่าสนใจของ Bols ไปทดสอบการดมกลิ่นที่มีถึง 36 กลิ่น ตอนท้ายสามารถเลือกชิมคอกเทล 1 แก้วและ Genever หรือ Dutch gin ได้ 3 รส สนุกค่ะ ^_^
ภายใน Bols Museum มีเรื่องราวของ KLM สายการบินแห่งชาติ, Bols และ Delfware ด้วย คือสายการบิน KLM มีของขวัญพิเศษสำหรับลูกค้าในชั้นบิน First Class และ Business Class เป็นบ้านดัตช์โบราณจำลอง (Delft Blue Houses) ซึ่งเป็นเซรามิคผลิตในเมือง Delft สร้างเลียนแบบบ้านเก่าแก่หรือสถานที่สำคัญๆในอัมสเตอร์ดัม ภายในบรรจุ Dutch gin ของ Bols โดยเริ่มแจกครั้งแรกในปี 1952 จนถึงปัจจุบัน ในแต่ละปีแบบบ้านจำลองจะเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆ ปัจจุบัน Delft Blue Houses กลายเป็นของสะสมของนักสะสม เห็นมีการซื้อขายใน eBay ด้วยค่ะ
มาเที่ยวเมืองเค้าแล้ว มาลองชิมอาหารที่ไม่ควรพลาดกันค่ะ
1. Herring/Haring Broodjes เป็นปลาดิบแบบฉบับดัตช์ รูปซ้ายมือด้านบน สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในอัมสเตอร์ดัม แต่หนึ่งชิมที่ตลาด Albert Cuyp ปลาดิบที่คุณพ่อค้าบั้งให้โรยด้วยหัวหอมหั่นและแตงดอง อร่อยเกินคาดจริงๆ ไม่ใช่ปลาสดๆนะคะ เหมือนกับดองเกลือหรือน้ำมันมาแล้ว รสชาติออกเค็มหน่อย ตัดกับความหวานของหัวหอม และหวานอมเปรียวของแตงดอง กินหมดอย่างรวดเร็วเลยค่ะ ถาดนี้ 2.5 ยูโรเท่านั้น
2. Pancakes มี 2 แบบคือ
- Poffertjes แพนเค้กขนาดจิ๋ว เสิร์ฟกับเนย น้ำตาลไอซิ่ง ทานตอนทำเสร็จใหม่ๆอร่อยมากๆค่ะ เนยดัตช์ร่อยจริงจัง ตัวขนมนุ่มๆ กินหมดอย่างรวดเร็วเช่นกัน ;)
- pannekoeken มาแบบขนาดใหญ่ เป็นได้ทั้งอาหารคาวและหวาน ร้านอร่อยแนะนำที่ The Pancake Bakery อยู่ในย่าน Jordaan ในร้านมี Pancakes หน้าพิเศษแบบต่างๆให้เลือก ถ้าหิวมากแนะนำแบบนี้เลยค่ะ เพราะจานใหญ่จริง
3. Stroopwafel วอฟเฟิลแบบฉบับดัชท์ เปลือกบางกรอบ 2 ชิ้นประกบกันโดยมีคาราเมลสอดไส้ กินตอนร้อนๆอร่อยที่สุดเลยค่า ชิ้นนี้ซื้อที่ Albert Cuyp อีกแล้ว
พอเป็นไอเดียสำหรับการเที่ยวอัมสเตอร์ดัมนะคะ หนึ่งไปช่วง สค ฤดูร้อนของเค้า ช่วงกลางวันยาว แต่พอตกเย็นๆค่ำๆ หนึ่งชอบไปเดินเล่นแถวๆคลองเพราะดูสวย โรแมนติก คลองรอบนอกหน่อยจะค่อนข้างสงบแต่ยังมีสีสันให้ได้ชื่นชม
ครั้งนี้หนึ่งเที่ยวได้ไม่ครบตามแผนรู้สึกเสียดาย แต่ไม่เป็นไรค่ะ จะกลับมาซ่อมอีกแน่นอน
Amsterdam เมืองที่มีทั้งความสนุกและความโแมนติก หากได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง คงหลงรักเมืองนี้ได้ไม่ยากค่ะ
Create Date : 11 กันยายน 2556 |
Last Update : 22 มกราคม 2558 12:14:39 น. |
|
56 comments
|
Counter : 8843 Pageviews. |
|
|