a whispering star
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




คุณแม่น้องเจเจ-จ๊ะจ๋าค่ะ ^^
Group Blog
 
 
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
14 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add a whispering star's blog to your web]
Links
 

 
เปลี่ยนงานใหม่ --ง่ายกว่ามั้ยเธอ ? ... ^^"...(2)

ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่หางานถูกใจได้แล้ว -- ก็ควรจะเป็นการกรอกใบสมัคร สินะ .. ^^... อันนี้หลาย ๆ ที่แค่กรอกใบสมัครตามที่เขาว่าก็พอ ... อันที่จริงตอนที่เราไปกรอกใบสมัครไว้ตามที่ต่าง ๆ นั้น -- ส่วนใหญ่แล้วเราก็ทำแค่นี้ ... แต่เห็นหลาย ๆ คน -- เช่นบรรดาเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่เป็นลูกค้าแปลงาน - edit งานภาษาอังกฤษของเรา -- จะทำมากกว่านั้น -- คือ มี Cover Letter และ Resume หรือ CV แนบไปด้วย ... - สำ ห รั บ ค น ที่ อ า จ จ ะ ไ ม่ รู้ - .. CV ย่อมาจาก Curriculum Vitae และแปลว่า A summary of your academic and work history -- โดยส่วนตัวแล้วเราไม่เห็นว่ามันจะแตกต่างจาก Resume อะไรมากมายตรงไหน นอกจาก CV ดูเป็นทางการมากกว่า มีพวกตัวเลขอะไรต่าง ๆ ชัดเจนกว่า Resume ที่ค่อนข้างจะดูเป็น narrative คือเขียนบรรยายนั่นนี่มากกว่า -- เหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ หรือผู้มีคุณวุฒิ - คุณสมบัติไม่กี่อย่าง ... ไม่งั้นแล้วมันจะเกิน 1-2 หน้า .... เออใช่ ... เราได้รับการสั่งสอนมาว่า ไม่ว่าจะเป็น Cover Letter หรือ CV หรือ Resume มันก็ไม่ควรจะเกิน 1 หน้า หรือ 2 หน้า -- พิมพ์หน้าหลัง ( -- ก็คือต้องเป็นกระดาษใบเดียวนั่นแหละ) นะคะ ... ยาวมากไปเขามักจะไม่อ่านเอาดื้อ ๆ เพราะอย่าลืมว่าบริษัทที่รับสมัครงานนั้นต้องอ่านของผู้สมัครทั้งหมดง่ะ ... แล้วมันสามารถจะเยอะมาก ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ... โดยเฉพาะสำหรับ บ. ใหญ่ ๆ ... - เ พ ร า ะ งั้ น - ... ใครคุณสมบัติเยอะ ๆ หรือประวัติการทำงานยาวเหยียด .. เลือกเป็นแบบ CV ก็จะเหมาะกว่าค่ะ ... ^^...





ส่วน Cover Letter นั้นก็คือจดหมายปะหน้าสมัครงาน -- ซึ่งจะว่าไปก็ไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่าบอกเขาว่าใบสมัคร และ CV ที่เราส่งมานั้นมันเพื่ออะไร -- แค่นั้น ... แต่คณะที่เราเรียนตอน ป. ตรี เขาก็สอนเขียนง่ะ -- สอนทั้งภาษาไทย - อังกฤษเลย .... ในขณะที่เราพบว่าหลาย ๆ คณะเขาไม่ได้สอน -- ทั้ง ๆ ที่เด็กจบมาก็ย่อมต้องหางานด้วยกันทั้งนั้น ... - ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าคณะเหล่านั้นหางานได้ง่ายกว่าคณะเราก็เป็นได้ ... ^^"... - เ อ า เ ป็ น ว่ า - ... เราเอามาเผยแพร่เป็นวิทยาทานแล้วกัน -- ว่าเขาสอนอะไรเรามา ... และ Cover Letter นั้นควรจะประกอบด้วยอะไรบ้าง ... หลักการ และองค์ประกอบของการเขียน Cover letter ภาษาไทยและภาษาอังกฤษคล้าย ๆ กัน -- แต่เราหารูปประกอบจาก Web ได้แต่ภาษาอังกฤษอะ ... ดูรูปภาษาอังกฤษแล้วกัน



ตัวอย่าง Cover Letter ทั้งฉบับ -- หน้าตาเหมือนจดหมายทั่วไป ... การจัดวางวันที่ ชื่อ - ตำแหน่ง และที่อยู่ผู้รับ คำขึ้นต้น และเนื้อหาจนถึงคำลงท้ายไว้ชิดขวาทั้งหมดแบบนี้เรียกว่าการจัดแบบ Full Block เท่าที่เราจำได้ -- เป็นวิธีการจัดหน้าจดหมายที่ง่ายและชัวร์สุดแล้ว ... คือไม่ต้องจำว่าอะไรจะต้องย่อหน้าเท่าไหร่ ตรงกับอะไร blah blah blah จึงเป็นที่นิยมกันมาก -- แต่น่าเสียดายที่มันเอามาใช้กับจดหมายราชการไม่ได้หรอก ... ^^"...



มาดูเนื้อหาของ Cover Letter กันบ้าง -- ย่ อ ห น้ า แ ร ก - ... เข้าเรื่องไปเลยไม่ต้องอ้อมค้อมมาก -- บอกไปตรง ๆ ได้เลยว่าเราต้องการจะสมัครงานตำแหน่งอะไรเลยก็ไม่เสียหาย .. แต่ถ้าใครไม่มั่นขนาดนั้น (... ส่วนใหญ่เขาก็เป็นเช่นนั้นกันอะ .. ^^"..) ประโยคแรกมักจะเป็นการบอกก่อนว่าเราอ่านเจอประกาศรับสมัครงานนี้ที่ไหน และเพราะอะไรเราถึงได้สนใจ & คิดว่าตัวเราเองน่าจะเหมาะสมกับตำแหน่งนี้



- ย่ อ ห น้ า ที่ 2 ข อ ง Cover Letter - จะเป็นการพูดถึงคุณสมบัติเริ่ด ๆ ของตัวเราที่ทำให้เราเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ - มาก ๆ .... ควรจะพูดเฉพาะที่เกี่ยวกับงานเท่านั้น .. ไม่ใช่พูดถึงคุณสมบัติทุกอย่างที่เรามี - เพราะไม่งั้นมันจะยาวมากแล้วเขาจะพาลไม่อ่านเอา ... ควรจะเขียนให้จบในย่อหน้าเดียวเท่านั้นค่ะ ... อยากใส่รายละเอียดเยอะ ๆ เอาไปไว้ใน resume แล้วกัน ...




- ย่ อ ห น้ า ที่ 3 - .. บอกเขาว่าทำไมเราจึงเลือกที่จะมาทำงานที่นี่ -- ตามตำราเขาว่า ให้ชม ๆ ยอ ๆ บริษัท / หน่วยงานเขาเข้าไว้ ... คือถ้าหากเขาไม่มีจุดเด่นหรือข้อดีอะไรเลย เราก็คงไม่อยากเข้ามาทำงานที่นี่หรอก -- จริงมั้ย ? .. - ถ้ า ไ ม่ รู้ จ ะ เ ขี ย น อ ะ ไ ร จ ริ ง ๆ - .. ก็ลองเปิดดูใน website ก็ได้ค่ะ -- ว่าบริษัทนี้มีดีตรงไหนที่โดดเด่น - แตกต่างจาก บ. อื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน .. คนอ่านใบสมัครเขาจะได้ประทับใจว่าเรารู้จักหาข้อมูล ... แสดงว่าใส่ใจ & อยากมาทำงานด้วยกันจริง ... ส่วนย่อหน้าสุดท้าย -- ก่อนคำลงท้าย ก็ควรบอกว่าเราจะยินดีอย่างยิ่งถ้าเขาจะติดต่อมาเพื่อเรียกเราไปสัมภาษณ์ค่ะ ... ^^...



มาถึง Resume/ CV กันบ้าง -- ตามปกติแล้ว Resume และ CV ของคน -- จะมีชื่อตัวโต ๆ อยู่ด้านบน -- จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร ... ส่วนที่อยู่ และเบอร์ติดต่อนั้นควรจะเอาไว้ในที่ ๆ เห็นได้สะดวก ๆ เช่น ใต้ชื่อไปเลย ... หรืออยู่บนหัวกระดาษ แต่ตามตัวอย่างที่เราเอามานี่เขาไว้ด้านข้างค่ะ ... ก็เก๋ดีนะ ... ^^...




ส่ ว น บ น สุ ด ข อ ง R e s u m e / C V -... จะมี หรือไม่มีก็ได้ -- คือส่วนของ summary หรือ objective ที่จะบอกว่าเราต้องการมาทำงานตำแหน่งอะไร -- เราจะเห็นมีแต่ใน Resume/CV ที่จะใช้สมัครงานเท่านั้นนะ CV โดยทั่ว ๆ ไปที่มีไว้ใช้ทำอย่างอื่น - ไม่ใช่สมัครงาน ไม่เห็นค่อยมีกัน -- ถ้าเป็น CV ของอาจารย์ ส่วนใหญ่จะเห็นเขียน Research interest กัน ... - ส่ ว น ถั ด ม า -... จะเป็นข้อมูลส่วนตัว -- สามารถใส่ได้ตั้งแต่วันเกิด สถานภาพ ประวัติการศึกษา etc etc.... ตราบใดที่ข้อมูลยังไม่เกิน 1 หน้า และเราคิดว่ามันเกี่ยวก็จงใส่มันเข้าไปเถอะ....




ส่วนที่สำคัญของ Resume/CV -- คือประวัติการทำงานของเรามากกว่า -- ใ น ก ร ณี ที่ มี ห ล า ย ที่ - .. ควรจะเรียงจากที่ล่าลุดลงมาเรื่อย ๆ และถ้าจะให้ดีก็ควรบอกด้วยว่าเรามีหน้าที่ทำอะไร ทำอะไรได้บ้าง ... - น อ ก จ า ก นั้ น - ..ก็คือพวกประสบการณ์พิเศษ ทักษะและความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น ภาษาต่างประเทศ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ได้ และงานอดิเรกที่เกี่ยวข้องหรือคาดว่าจะมีประโยชน์กับงานที่เราจะทำค่ะ .. ^^...






ป อ ล อ -- แนะนำ website ที่มีตัวอย่างจดหมายสมัครงาน (ภาษาอังกฤษ) ของอาชีพแนวต่าง ๆ ให้เลือกเยอะแยะ ที่นี่เลย ^^

//www.bestcoverletters.com/



แนะนำ website ที่มีตัวอย่าง Cover Letter และ CV สวย ๆ ...

//www.readyresumes.com/convince-them-with-a-cover-letter.ph








Create Date : 14 เมษายน 2553
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:12:17 น. 2 comments
Counter : 3218 Pageviews.

 


โดย: kimori วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:22:35:12 น.  

 
ขอบคุณสำหรับ ตัวอย่าง resume ดีๆครับ


โดย: คุณ โตน วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:15:37:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.