พระตำหนักภูพิงค์ ราชนิเวศน์ วันที่สองที่เดินทางไปทอดกฐิน ณ วัดต้นแก้ว อ.สันป่าตอง ลำพูน วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2553 สวัสดีค่ะ วันนี้คณะของเราตื่นกันตั้งแต่เช้า รีบอาบน้ำแต่งตัว ตั้งแต่เวลา 05.30 น. แล้วลงไปรับประทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารของโรงแรมอย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะรถของเราจะออกเดินทางไปกราบนมัสการครูบาศรีวิชัยที่ทางขึ้นดอยสุเทพ ตั้งแต่ 07.30 น. รถบัสทั้ง 2 คันมาจอดที่บริเวณจอดรถของศูนย์ศิลปาชีพ พวกเราต่างก็ลงไปทำธุระส่วนตัวกันตามประสา สว. เพื่อรอคอยรถรับส่ง 2 คัน ที่ทางพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ส่งมารับคณะเราขึ้นไปชมตัวพระตำหนักฯ นั่นเอง เมื่อรถมาถึงต่างก็แยกย้ายกันขึ้นไปนั่งบนรถตามอัธยาศัย จุดแรกที่รถทุกคันต้องจอดคือ ต้องลงไปกราบครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง เมื่อกราบครูบาศรีวิชัยแล้ว ต้องมีการถ่ายภาพกันไว้เป็นที่ระลึก บางคนก็ไปเสาะหาซื้อของกัน และยืนคอยเพื่อที่จะขึ้นรถเดินทางไปเที่ยวยังจุดต่อไป ซึ่งจุดจอดรถที่ 2 คือ พระธาตุดอยสุเทพ ให้เวลาทางคณะได้ขึ้นกระเช้าไปกราบพระธาตุ 30 นาที เนื่องจากที่นี่ป้าแอ๊ดมาเกือบ 10 ครั้งแล้ว จึงขอไม่ขึ้นไป แต่เดินดูของฝากแถวๆ ที่จอดรถเท่านั้น จุดหมายสำคัญที่คณะของเรามาครั้งนี้คือ เข้าไปเที่ยวชมพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ (อ่านรายละเอียดของพระตำหนักฯ ได้ที่นี่) ในการเข้าไปชมครั้งนี้ คณะเรามีเจ้าหน้าที่ของพระตำหนักฯ มานำชมและอธิบายรายละเอียดให้ตลอดเวลา ตำหนักหลังนี้เป็นพระตำหนักปีกไม้ ขององค์จุฬาภรณ์ จุดแรกที่ชมคือแปลงปลูกกุหลาบต่างๆ ซึ่งเจ้าพนักงานบอกว่าคณะเรามากันเร็วเกินไป กุหลาบยังออกดอกไม่เต็มที่ ต้องเป็นเดือนธันวาคม หรือมกรา ปีหน้า ดอกไม้ในพระตำหนักจะบานรับนักท่องเที่ยวสวยงามมากกว่านี้ ถึงอย่างไร ก็ยังพอมีดอกกุหลาบสวยๆ ให้ถ่ายภาพมาให้ชมกันบ้าง แม้จะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก กุหลาบสีม่วงต้นนี้สวยมาก มีดอกเพียงไม่กี่ดอกเท่านั้นเอง กิ่งนี้เป็นกิ่งกุหลาบ ที่เรียกว่า กุหลาบไร้หนาม ไร้หนามจริงๆ ค่ะ ในส่วนที่ปลูกต้นไม้ดอกไม้ มีดอกไม้สวยๆ ทั้งนั้น ถ่ายภาพกันมือเป็นระวิงเลยค่ะ ดอกไม้นี้สวยมาก ไม่ต้องถามนะคะว่าชื่อดอกอะไร เพราะขนาดที่ถามคนดูแลที่นั่นยังบอกว่าจำชื่อไม่หมดเลย ดอกไม้สีน้ำเงิน ระหว่างทางที่เดินไปพระตำหนักหลังใหญ่ งามแปลกตามาก ดอกไฮเรนเยียสวยๆ ดอกใหญ่ๆ มีให้ชมตลอดทาง สำหรับท่านที่เดินไม่ไหว จะมีรถกอล์ฟให้บริการถึงจุดหมายปลายทางที่ไม่ต้องขึ้นบันได ทางขวามือนั่นคือพระตำหนักเรือนรับรอง ผ่านตำหนักเรือนรับรองมา เป็นลานกว้างเข้าสู่พระตำหนักที่ประทับหลังใหญ่ ระหว่างทาง มีบ่อปลาคราฟ ซึ่งพนักงานหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนเรียกปลามาแหวกว่ายให้ชม เขาบอกเราว่า ผมเป็นคนเดียวที่มาเล่นกับปลา จนปลาจำเสียงได้ เรียกเมื่อไหร่ปลาจะรีบว่ายมาทันที จริงของเขาค่ะ ปลาจะแหวกว่ายมากันทีละตัว สองตัว จนเต็มหน้าท้องน้ำที่เรายืนอยู่ น่ารักมาก หน้าพระตำหนักหลังใหญ่ ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาประทับที่นี่ ภาพตากล้องประจำตัวป้าแอ๊ด พยายามถ่ายภาพให้เห็นพระตำหนักอย่างชัดเจนแล้วนะคะ วันนี้ท้องฟ้าเหนือพระตำหนัก สดใสมากๆ แดดแรงดีจัง ถ่ายรูปหมู่เท่าที่รวบรวมได้ เพราะบางท่านยังมาไม่ถึง หรือบางท่านไปเดินอยู่ที่อื่นๆ ช่างภาพที่ถ่ายภาพมีอยู่ 5 ท่าน พุ่มดอกไม้สีม่วงหน้าพระตำหนักหลังใหญ่ ไม่ทราบว่าใช่ไวโอเลตหรือเปล่า ผึ้งกำลังดมดอมดอกรักเร่ ในสวนหน้าพระตำหนักหลังใหญ่ จากพระตำหนักใหญ่ เราจะเดินเท้าขึ้นไปชมอ่างเก็บนำและพระตำหนักบนภู ที่สูงขึ้นไป กุหลาบแดงใกล้ๆ ป้ายบอกทาง ขนาดยังตูมๆ ก็โดนหนอนเจาะเสียแล้ว ทางเดินเท้า เป็นเส้นทางบันไดเล็กๆ ขึ้นไปบนยอดภู สองข้างทางอากาศเย็นชื้น มีต้นไม้ปกคลุมทั่วไป ขั้นบันไดที่ปูด้วยหิน มีใบไม้สีแดงตกอยู่กับความฉ่ำชื้นของพื้นที่ แล้วเราก็ขึ้นมาถึงพลับพลาผาหมอน และสวนเฟิร์น พลับพลาแห่งนี้เป็นที่ประทับเสวยพระกระยาหารกลางวันของในหลวงและองค์ราชีนี เป็นพลับพลาเล็กๆ มีโต๊ะทรงเสวยอยู่ภายในเพียงตัวเดียว ข้าราชบริพารอยู่ที่ลานด้านนอกตัวพลับพลา ใกล้ๆ พลับพลา มีตู้กระจกใส่จิ้งจกน้ำไว้ 1 ใบ ถ่ายภาพไม่ค่อยชัด เพราะตัวจิ้งจกจะกลืนไปกับต้นไม้และก้อนหิน เท่าที่นับได้ มีอยู่ประมาณ 4-5 ตัวเท่านั้น แล้วคณะของเราก็บุกป่าฝ่าดงต่อไป เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ เพื่อขึ้นไปให้ถึงอ่างเก็บน้ำบนยอดดอยค่ะ อ๊ะ..ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำใบนี้นะคะ อิ อิ ระหว่างทางจะมีกำแพงมอสที่แสดงว่าอากาศที่นี่ชุ่มชื้นมากๆ ป้ายนี้ก่อนที่จะถึงทางขึ้นไปอีก 1 ระยะ สว.หลายคนยอมแพ้ ไม่ยอมเดินขึ้นไป นั่งรถกอล์ฟไปอีกทางดีกว่า เดินขึ้นไปอีกนิด ใกล้จะถึงอ่างเก็บน้ำแล้วค่ะ สว. เห็นแล้วต้องหยุดพักแล้วสูดลมหายใจยาวๆ ถึงแล้วค่ะ อ่างเก็บน้ำและน้ำพุทิพย์ธาราแห่งปวงชน มีตำหนักสิริส่องภูพิงค์เห็นอยู่ไกลๆ คณะเราเดินอ้อมอ่างเก็บน้ำมา พบกับร้านอาหาร ต่างก็เข้าไปซื้ออาหารและน้ำดื่มกันเกือบทุกคน เพราะอาหารเช้าที่รับประทานมานั้นหมดไปกับการเดินชมพระตำหนักภูพิงค์แล้วค่ะ เมื่อคณะของเราซื้อของที่ระลึกแล้วก็ขึ้นรถของทางพระตำหนักฯ กลับลงมานั่งรถบัสที่จอดรออยู่ด้านล่าง เพื่อมารับประทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวซอยลำดวน สว. เข้าไปทำธุระที่ห้อง "แม่ญิง" นี้ค่ะ ห้อง "ป้อจาย" ไม่ได้แวะเข้าไปดู เพราะอยู่อีกฟากหนึ่ง บรรยากาศน่านั่ง เงียบสงบเป็นส่วนตัว อยู่ชั้นบนของร้านเป็นพิเศษ มาแล้ว ข้าวซอย น่ารับประทานที่สุด และมีอาหารให้สั่งได้อีกหลายอย่างแล้วแต่ความพอใจ โต๊ะเรานั่ง 8 คน อาหารเต็มโต๊ะ เหลือเป็นหลักฐานแค่นี้แหละค่ะ เมื่อเรารับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินทางไปทอดกฐินที่วัดต้นแก้วกันในตอนบ่ายค่ะ รอชมบรรยากาศในการทอดกฐินวันพรุ่งนี้นะคะ   Create Date : 08 พฤศจิกายน 2553 12 comments Last Update : 4 มีนาคม 2554 12:49:20 น. Counter : 4132 Pageviews. Share Tweet

เล่าได้สนุกมากๆครับป้าแอ๊ด ราวกับผมได้มีโอกาสไปเที่ยวด้วย ป้าแอ๊ดถ่ายรูปละเอียด แบบที่คนอื่นมักจะมองข้าม ทำให้เห็นทุกๆรายละเอียด เห็นรูปพี่นัสแล้ว ทั้งสมาร์ททั้งแข็งแรงเช่นเคยครับ เดาเอาว่า พี่นัสคงจะเป็นที่รัก ติดใจของคนในกลุ่มที่ไป เพราะพี่นัสมีบุคลิกดี สนุกสนานมากๆ   โดย: yyswim 8 พฤศจิกายน 2553 20:25:52 น.

อรุณสวัสดิ์ครับป้าแอ็ด ข้าวซอยลำดวนผมเองไมไ่ด้ไปมานานหลายปีแล้วครับ แต่ข้าวซอยในเชียงใหม่หาทานง่ายครับ รสชาติไม่แตกต่างกันมากนักครับ พระตำหนักภูพิงค์ฯ ผมคิดเอาไว้ว่าจะไปช่วงกุมภาครับ น่าจะเป็นช่วงที่ดอกไม้สวยที่สุดคัรบ   โดย: กะว่าก๋า 9 พฤศจิกายน 2553 6:10:42 น.

ตเมว วาจํ ภาเสยย ยายตฺตานํ น ตาปเย ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน มีความสุขในชีวิต ด้วยการคิดดี พูดดี และทำดี ตลอดไป..นะคะ โมทนาบุญด้วย..ค่ะ ป้าแอ๊ด...   โดย: พรหมญาณี 9 พฤศจิกายน 2553 10:57:48 น.

แวะมาชมพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์และร่วมอนุโมทนาบุญกับป้าแอ๊ดค่ะ   โดย: ณ ปลายฉัตร 9 พฤศจิกายน 2553 11:55:22 น.

ขอบคุณป้าแอ๊ดที่ไปตรวจการบ้านค่ะ จริงๆแล้วด้านในหูกระเป๋ายังไม่ค่อยเรียบร้อยค่ะป้ามีสะดุดหลายจุด ต้องใช้ความพยายามมากค่ะ นิ้วแทบพรุน แต่พอทำเกือบเสร็จ ชักรู้ทาง จบพอดีค่ะอิอิ ป้าแอ๊ดช่างเก็บภาพได้มากมายแถมจำได้และสามารถอธิบายภาพแต่ละภาพได้ละเอียดละออแม่ซองฯไม่สามารถค่ะ กลับจากเที่ยวภาพถ่ายเยอะๆ จำไม่ค่อยได้ สมองมันแก่ค่ะ ขอบคุณที่ป้าแอ๊ดนำบุญไปฝากด้วยค่ะอนุโมทนาบุญร่วมกันค่ะ   โดย: ซองขาวเบอร์ 9 9 พฤศจิกายน 2553 15:42:43 น.

ขอบคุณภาพบรรยากาศสวยๆค่ะ แม่หมูไม่ได้ไปนานร่วม 10 ปีแล้ว   โดย: แม่หมู (jamaica ) 9 พฤศจิกายน 2553 15:52:43 น.

ถูกครับคุณป้าแอ้ดครับ อาจจะต้องพกป้ายแล้วล่ะครับ ฮ่าๆ   โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) 9 พฤศจิกายน 2553 17:17:50 น.

หนาวแล้ว ออกไปเที่ยวกัน   โดย: VET53 9 พฤศจิกายน 2553 19:29:27 น.

อ้าว ภาคแรกมีไปแล้วเหรอคะ งั้นเด๋วค่อยไปดู ดูภาคสองก่อน เที่ยวนี้ ป้าแอ๊ดได้กุหลาบงามๆมาฝากหลายดอก สีม่วงนั้นสวยจริงๆค่ะ ป.ล. รอภาพสถานีรถไฟด้วยใจจดจ่อ อัพเมื่อไหร่ รบกวนป้าแอ๊ดวิ่งไปตามด่วนจี๋เลยนะคะ อยากเห็นมากค่ะว่าสถานีอะไร   โดย: นักล่าน้ำตก 9 พฤศจิกายน 2553 20:48:06 น.

ทักทายสวัสดีกับป้าแอ๊ด ยามเย็นๆ หลังเลิกงานครับ ปีนี้ก็ตั้งใจว่าหนาวๆ เย็นๆ ในช่วงหน้าหนาวนี้ จะขึ้นไปเที่ยวชมพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์อยู่เหมือนกันครับ ได้ชมดอกไม้สวยๆ แล้วก็อยากตามขึ้นไปในเร็ววันเช่นกันครับ   โดย: ถปรร 10 พฤศจิกายน 2553 17:02:03 น.

ยืนยัยว่าเข้ามาอ่าน มาดูมุข สว. อ่างเก็บน้ำ   โดย: หมูหวานน้อย 18 พฤศจิกายน 2553 21:38:40 น.

ขึ้นภูพิงค์หลังสุดก็แค่สามสิบปีเองค่ะป้าแอ๊ด เปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ   โดย: tuk-tuk@korat 19 พฤศจิกายน 2553 13:17:40 น.