เที่ยวหลวงพระบาง - ที่พัก Lotus Villa

สะบายดี! 

หลังจากจดๆ จ้องๆ มาหลายปี แต่กลับถูกที่อื่นปาดหน้าตลอด

สุดท้ายเราก็ตุเลง ตุเลง ไป "หลวงพระบาง" กันตอนตรุษจีน ปี 2013 กันจนได้

จะหายได้คาใจกันซะที ฮี่ๆๆ 

การเดินทาง

จากเมืองไทย สามารถเดินทางไปหลวงพระบางได้หลายทาง

จะนั่งเครื่องจากสนามบิน ด้วยสายการบิน "Bangkok Airways" หรือ "Lao Airlines" ก็ได้ 

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.

ครั้งนี้เอ๋เลือก BA เพราะลืมนึกถึง LA  -"- ค่าตั๋วแอบแพงเบาๆ 

ประมาณว่าแพงกว่าค่าตั๋วที่เราเดินทาง สิงคโปร์ - กทม. อีก 

ความสนุกคือได้นั่งเครื่องบินใบพัดไป ลำเล็กจิ๋วเดียวเอง 

เจ้าบูขึ้นไปยืนหัวก็ติดเพดานแล้ว คิดดูฝรั่งมังค่าที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกับเราสิ 

นั่งทีเต็มเบาะเลยทีเดียว จำได้ว่าตอนขาไป เราหิวมาก และนั่งเบาะหลังสุด

ได้แต่หันไปมองตู้เก็บอาหารตาเป็นมัน ท้องไส้ร้องโครกคราก

นึกอยากเอือ้มมือไปเปิดมากินก่อนให้รู้แล้วรู้รอดไป 

กลับเข้าเรื่อง... อีกทีหนึ่งคือการนั่งรถไปหนองคาย ข้ามด่านไปเวียงจันทร์

แล้วค่อยนั่งรถจากที่นั่งขึ้นเหนือไปหลวงพระบางอีกที (บางคนอาจจะนั่งเรือไปหลวงพระบางได้ 

ได้ยินมาหลายทางเหมือนกัน แต่นั่นอาจจะก่อนที่หลวงพระบางมีสนามบิน)

วิธีนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ที่สำคัญมีคนบอกว่าทรมานมาก เพราะถนนค่อนข้างคดเคี้ยว

และไม่ได้ราบเรียบสักเท่าไหร่ บางช่วงเส้นเล็กมากขนาดทำให้ใจหวิวไหวได้ 

ขนาดมองจากเครื่องบินยังกลืนน้ำลายเอื้อก เพราะมีแต่เขา เขา และเขา (ไม่มีเราเลยให้ตาย ตึ่งโป๊ะ!)

ใครอยากอ่านประสบการณ์ไปเที่ยวลาว แบบแบกเป้ลุยๆ 

ต้องอ่านของแซลลี่ ที่ลิงก์นี้จ้ะ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=lazypiggy&month=23-08-2008&group=1&gblog=1

ที่พัก

ด้วยความที่หลวงพระบางถูกประกาศให้เป็น "มรดกโลก" 

ดังนั้นที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มขั้น ตอนหาที่พัก พบว่ามีเกสต์เฮาส์มากมายเต็มไปหมด

ที่น่าแปลกคือ...ไม่รู้จะพักที่ไหนดี (อ้าว...) 

เราเลือกกันอยู่นานมาก บางที่ชอบ...แต่ดันไม่ว่าง

บางที่ชอบน้อยลงมา...แต่ว่างไม่ครบจำนวนวันที่จะพัก

สุดท้ายตัดสินใจพัก 2 ที่ ทั้งที่ขี้เกียจเก็บกระเป๋าย้ายโรงแรมเป็นที่สุด

คือพักโรงแรมที่หมายตาไว้ 2 คืน แล้วหาโรงแรมราคาถูกลงมาอีก 1 คืน ประหยัดไปในตัว แฮ่...

 Lotus Villa

จากสนามบิน ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีก็ถึงที่พัก 

ค่ารถ 200 บาทไทย มานี่เราแทบไม่ต้องแลกเงินกีบ เพราะเค้ารับเงินไทย / USD อยู่แล้ว 

จะบอกว่าประทับใจมากก็คงได้ เพราะดูรูปจาก Agoda แล้วก็แอบกลัวอยู่

แต่มาถึงแล้วพบว่าที่นี่สะอาดสะอ้าน เปิดมา 5 ปีแล้วไม่มีกลิ่นอับ

"เราปรับปรุงตลอด เจออะไรเสียก็รีบซ่อม" พนักงานเค้าว่าอย่างนั้น 

จุดเด่นของที่นี่คือ พนักงานน่ารักเป็นกันเอง

เต็มใจให้บริการ ดีกว่าโรงแรมหลายๆๆ ดาว บางแห่ง จนเราปลาบปลื้ม 

อาหารเช้าก็จัดว่าได้มาตรฐาน ที่สำคัญที่ลานตรงกลาง 

ปลูกต้นไม้ไว้เขียวครึ้ม มีโต๊ะเก้าอี้เตรียมไว้ให้นั่งหลายชุด 

ตัววิลล่าตั้งอยู่ในเมือง เดินออกไปทางขวาก็จะเจอสปาขนาดใหญ่ 

เดินต่อไปอีกนิดก็จะเจอ "วัดเชียงทอง" ในระยะไม่เกิน 10 นาที

ในห้องแยกห้องน้ำ (แบบเปิดโล่งโจ้ง) และห้องสุขาออกจากกัน

ด้วยความที่พัก 2 โรงแรม จึงรู้ว่า ที่นี่จะแยกห้องน้ำและห้องสุขาเป็นปกติ

สิ่งที่เตรียมให้คือน้ำดื่ม 1.5L สำหรับสาวๆ ถ้าต้องการใช้ไดร์เป่าผม 

ก็ไปยืมได้ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า มีคู่มือบอกวิธีการใส่บาตรข้าวเหนียวให้พร้อมสรรพ

ใส่บาตรข้าวเหนียว (หรือตักบาตร?)

พระจะเดินผ่านหน้าวิลล่า ดังนั้นเราไม่ต้องไปไหนไกล มีเวลานอนมากขึ้นอีกนิสสส

ที่นี่จะเตรียมข้าวเหนียวให้ หากเราสั่งล่วงหน้า

ราคากระติ๊บละ 100 บาท หากจะใส่ให้ครบทุกองค์ ก็ควรสั่งคนละ 2 กระติ๊บค่ะ

ในคู่มือจะเขียนบอกไว้ว่า เราไม่ควรซื้อข้าวเหนียวจากหาบเร่ข้างถนน

เพราะคนเหล่านั้นอาจเอาของไม่ดีเท่าไหร่มาขาย พระเจ้าก็จะได้ของไม่ดีไปด้วย

ซึ่งเอ๋ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ 

1. ข้าวเหนียวที่ทางวิลล่าเตรียมให้ "หอมผุดๆ!" เปิดมาได้กลิ่นฉุยแล้วอยากหม่ำเอง (บาปไหมนี่!!)

2. ข้าวเหนียวนี้ สั่งมาจากชาวบ้านที่อยู่ติดกัน เอ๋เห็นน้องพนักงานเดินไปเอามา ถือเป็นการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นเล็กๆ

3. ทางวิลล่าปูเสื่อปูสาด เอาข้าวเหนียววาง พร้อมเบาะรองเข่าไว้ให้เราเสร็จสรรพ

ขอเพียงเธอไปนั่งใส่ เหนือสิ่งอื่นใดคือ "ถ่ายรูปให้ไหมครับ" 

โห...เอาใจไปเลยสิบสองดวง น่ารักน่าลุ้นจริงๆ 

ถึงเราจะซักซ้อมการปั้นข้าวเหนียวเตรียมไว้

แต่การใส่บาตร ไม่ได้รวดเร็วอย่างที่คิด

พระจะชะลอ และ รอ ขอแค่เราไม่ลนจนเอามือไปโดนบาตรทะนั้น

เวลาที่ควรลงมาคือตอน 6 โมงเช้า ... เท่ากับว่าต้องตื่นประมาณ ตี 5.45 

นึกสภาพตอนนั้น กว่าจะแงะร่างออกจากเตียงได้ - -"

สรุป 

เป็นวิลล่า เล็กๆ ที่ไม่มีอะไรหวือหวา แต่น่าประทับใจ 

แนะนำสำหรับคนที่กำลังหาที่พักไปหลวงพระบาง

ตอนเอ๋ไปจองผ่าน Agoda ราคาประมาณ 2000 นิดๆ (บาท)

พนักงานคนหนึ่งทำงานในมูลนิธิเพื่อเด็ก 

นอกจากให้ทิป กับความน่ารักใส่ใจของพวกเค้าแล้ว 

เราสามารถสมทบทุนบริจาคเงินให้กับมูลนิธิ ผ่านทางวิลล่าได้เลยนะคะ 

ช่วงไฮของหลวงพระบาง คือ กันยายน - กุมภาพันธ์

นอกเหนือจากนั้นอากาศจะค่อนข้างร้อนจัด 

เอ๋ไปคราวนี้ไม่ได้เตรียมล่วงหน้า ว่าวันไหนจะทำอะไร

เพราะหลวงพระบางเป็นเมืองที่จังหวะค่อนข้างช้า

เหมาะสำหรับการทำตัวอืดดดดดดดด ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตัวเมืองมีขนาดเล็ก เดินวันสองวันก็รอบแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องพาหนะการเดินทาง

หลวงพระบางเป็นเมืองปลอดภัย

 เดินกลับวิลล่ามืดๆ ค่ำๆ ไม่รู้สึกกลัวเลย

และอ่านจากหลายๆ แห่ง ก็ไม่เคยเห็นใครเตือนให้ระวังมิจฉาชีพ 

(แต่ระวังตัวไว้สักนิดก็ดี) 

ว่าแล้วก็จบตรงนี้เลยแล้วกัน : )

ใครสนใจค้นหาชื่อได้จาก Agoda

หรือเว็บของวิลล่าเองก็คืออันนี้ค่ะ  

www.lotusvillalaos.com

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2556		5 comments
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2556 10:17:11 น.
Counter : 13458 Pageviews.
Share Tweet